การที่ สสร.ไม่บรรจุพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไทยนั้น เนื่องจากว่า กลัวว่าจะกระทบกับสิทธิเสรีภาพ กลัวว่าจะทำให้บ้านเมืองแตกแยก กลัวว่าจะทำให้ศาสนาอืี่นไม่พอใจ หรืออาจกลัว คมช.ก็เป็นไปได้
- อันนี้คุณเดาและมั่วเอาเอง ไม่เป็นไปตามหลักกาลามสูตร ที่ให้ยึดเหตุผลในการพิจารณาเลย
แต่หลักความจริงนั้น การบรรจุพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไทยนั้น มิได้หมายให้มีการใช้บังคับกับศาสนาอื่นให้มาปฏิบัติดังเช่นพุทธ หรือจะบังคับให้คนในสังคมต้องปฏิบัติตามศีล 5 ก็หาไม่ ซึ่งหากแต่เป็นการประกาศให้โลกรู้ว่าประเทศไทยมีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ
- การประกาศให้โลกรู้ว่า เรามีอะไรเป็นของประจำชาติของเรานั้น ไม่จำเป็นต้องประกาศไว้ในรัฐธรรมนูญ เรามีสัตว์ประจำชาติ ดอกไม้ประจำชาติ เพลงชาติ ฯลฯ ไม่เห็นได้เคยประกาศไว้ในรัฐธรรมนูญที่ไหน ดังนั้นการจะบรรจุถ้อยคำระบุว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติลงในรัฐธรรมนูญ ไม่ได้เป็นหลักความจริงที่จะประกาศให้โลกรู้แต่อย่างใด
หากใครที่จะเข้ามาในประเทศก็ต้องมีการศึกษาวัฒนธรรมประเพณี หรือกฎ ข้อห้ามให้ดี เพื่อมิให้เกิดความผิดพลาดเหมือนเราเดินทางไปตะวันออกกลาง ก็ต้องศึกษาวัฒนธรรมให้ถูกต้อง
- ถึงจะประกาศไว้ในรัฐธรรมนูญแล้ว ฝรั่งขี้ยา จีนแก๊งค์ลูกหมู แขกแก๊งค์ลูกแพะ ก็คงไม่ศึกษาวัฒนธรรมประเพณีอะไรหรอกค่ะ พัฒน์พงษ์ นานา ข้าวสาร พัทยา ก็คงไม่ถือศีลข้อไหนๆหรอกค่ะ ส่วนเรื่องจะเดินทางไปตะวันออกกลางน้น ถ้าไปกับทัวร์ เขาก็จะบอกให้ว่าห้ามนำอะไรเข้าไปบ้าง ขืนนำเข้าไปก็โดนดีเองนั่นแหละค่ะ
แต่หากจะเอาความผิดที่คนกระทำความผิดก็คงไม่ต้องกลัวว่าจะผิดหลักศาสนาพุทธ เพราะความผิดทางศาสนาเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น เป็นเพียงแต่นามธรรม
- อ้าว แล้วเราบรรจุพุทธศาสนาไว้ในรัฐธรรมนูญแบบนามธรรมไม่ได้เหรอ ทำไมต้องเขียนให้เป้นรูปธรรมด้วย รูจักนามธรรมกับรูปธรรม ก็น่าจะแยกแยะได้นี่
แต่สิ่งที่จะเอาความผิดได้ก็คือ กฎหมายของประเทศ เท่านั้น ซึ่งต้องมีการบังคับใช้อย่างเคร่งครัด และไม่เกี่ยวว่าจะมีศาสนาพุทธเข้ามาทำการพิจารณาโทษด้วย
- เออ รู้เหมือนกันแฮะ
ฉะนั้นการบรรจุพุทธศาสนา จึงมิใช่จะมาขลาดเขลากับสิ่งเหล่านี้ เพียงแต่เป็นนามธรรมที่เห็นได้เท่านั้นเฉพาะผู้ปฏิบัติ ซึ่งเป็นความสงบสุขเฉพาะตัว
- ตกลงว่า บรรจุให้เฉพาะตัว ในนามธรรม รับทราบเฉพาะตัวแล้ว อย่าก่อกวนความสงบของส่วนรวม