เอาบทความเก่าๆ มาให้อ่าน
หมอมิ้งไม่ใช่คนเดือนตุลาฯ นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช คนสนิทของพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย แสร้งทำเป็นออกมาเรียกร้องความสงบสุขให้สังคมพร้อมทั้งแสดงละครประกอบฉากด้วยการทำเป็นน้ำตาคลอหน่วยตาระหว่างการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม
นายพรหมินทร์ ยังแสดงตัวเป็นผู้รักความสงบอย่างสุดชีวิตด้วยการร้องขอให้ทุกฝ่ายยุติการกระทำใดๆที่ก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคม แต่ไม่ยักเห็นนายพรหมินทร์ขอร้องให้สมุนของรัฐบาลยุติการใช้กำลังและความรุนแรงกระทำกับประชาชน
นายพรหมินทร์มักจะแอบอ้างความเป็นคนเดือนตุลาฯเพื่อสร้างคะแนนนิยมให้กับตนเองเสมอมา ทั้งที่สังคมรู้ดีว่านายพรหมินทร์นั้นมีพฤติกรรมไม่ต่างไปจากทาสความคิดของคุณทักษิณ
จริงๆแล้วสังคมไทย โดยเฉพาะสื่อมวลชนที่มีสติปัญญาควรยุติการยกย่องนายพรหมินทร์ว่าเป็นนายแพทย์ แม้ท่านจะจบการศึกษาแพทยศาสตรบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยมหิดลมาก็ตาม แต่เมื่อไม่ได้ประกอบอาชีพแพทย์ สังคมก็ไม่จำเป็นต้องยกย่องให้เป็นคุณหมอ
จริงๆแล้วนายพรหมินทร์นั้นทำงานรับใช้หรืออาจจะเรียกตรงๆว่าเป็นข้าทาสบริวารของคุณทักษิณมานานแล้ว ซึ่งก็คือการรับใช้ทุนนิยมที่อาศัยอำนาจรัฐเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงเพื่อให้ธุรกิจเฟื่องฟูนั่นเอง แต่นายพรหมินทร์ก็ยังไม่ยอมบอกความจริงกับสังคมว่าตัวตนที่แท้จริงของตนคืออะไร แต่ยังพอใจที่จะใช้ความเป็นคนเดือนตุลาฯ มาสร้างเป็นภาพมายาหรือฉากภายนอกฉาบทาบทาทับตัวตนแท้จริง เพี่อให้คนที่ไม่รู้เบื้องลึกของเขายังคงนับถือและยกย่องว่าเขานั้นคือนักต่อสู้แห่งเดือนตุลาฯ
นักสู้ตัวจริงแห่งเดือนตุลาฯหลายคน รวมถึงพ้องเพื่อนในมหิดล บอกตรงกันว่า มิ้ง (พรหมินทร์) เปลี่ยนไปแล้ว และเขาไม่ใช่คนจริงแห่งเดือนตุลา เขาไม่ยึดมั่นในหลักการณ์เดือนตุลาฯ แต่มิ้งคือผู้ที่อาศัยศพเพื่อนเดือนตุลาฯเป็นฐานให้ตนเองเหยียบขึ้นไปสู่อำนาจและผลประโยชน์
คนเดือนตุลาฯตัวจริงบอกว่า หากอยากทราบความเปลี่ยนไปของมิ้งหรืออยากเข้าใจภาพจริงของมิ้งคงตัวไปดูที่ตัวภริยาของมิ้งเป็นสิ่งประกอบ แล้วจะรู้ว่ามิ้งตัวจริงคืออะไร
คนมหิดลรุ่นใกล้กับมิ้งบอกว่า มิ้งคือคนที่อาศัยความไว้วางใจของพ้องเพื่อนเป็นฐานสำหรับเหยียบย่ำแล้วพาตัวเองขึ้นไปสู่ความมั่งคั่ง และสำทับว่ามิ้งยังคงหลอกลวงเพื่อนๆมหิดลว่า ยังเป็นมิ้งคนเดิม แต่เพื่อนมหิดลทราบดีว่า นั่นก็เพียงแค่คำลวงจากมิ้งเท่านั้น
คนเดือนตุลาฯที่ยังยึดมั่นในอุดมการณ์เพื่อมวลชน ร้องขอให้มิ้งเลิกหากินกับศพเพื่อนเดือนตุลาฯเสียที และบอกว่าไม่ถือสาหากมิ้งจะยังหลอกตัวเองว่ายังคงเป็นคนเดือนตุลาฯ แต่สำหรับคนตุลาฯจริงๆและวิญญาณของเพื่อนเดือนตุลาฯ รู้ดีว่ามิ้งกำลังหลอกลวงสังคมและที่สำคัญคือมิ้งกำลังหลอกตัวเอง
คนเดือนตุลาฯ คนหนี่งฝากถามว่า มิ้งเสียใจกับเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มสนับสนุนกับกลุ่มต่อต้านทักษิณจริงหรือ หรือทำเพราะต้องการสร้างคะแนนนิยมให้ตัวเอง และกำลังสงสัยว่าในส่วนลึกของใจมิ้งนั้น ต้องการให้เกิดความสงบหรือต้องการให้คนไทยที่รักความถูกต้องตายกันแน่
เราลองไปศึกษาคำกล่าวอ้างของนายพรหมินทร์กันสักหน่อย นายพรหมินทร์อ้างว่า
วันนี้ถ้าเราเริ่มต้นจากความรัก ไม่ใช่เรียกร้องให้คนเริ่มต้นจากความเกลียดชัง ถ้าเป็นอย่างนี้มันจะบานปลาย ผมขอพูดในฐานะคนเดือนตุลาฯ คนที่อยู่ในเหตุการณ์ 6 ตุลาฯเจ็บปวดมากกับการที่มีคนส่งเสริมให้ใช้ความเกลียดชังมาฆ่าคนไทยด้วยกันเอง เพราะฉะนั้นคนที่เป็นคนเดือนตุลา ที่อยู่ในทุกฝ่ายก็ขอให้หยุดเสียทีกับการส่งเสริม และพาคนไปสร้างความเกลียดชังไปทำลายกัน การแสดงความเป็นประชาธิปไตย ซึ่งปีนี้ครบ 30 ปี ของเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ ก็น่าจะเตือนคนที่อายุ 45-50 กว่าที่ร่วมในเหตุการณ์ และวันนี้มีบทบาทต่างๆ ในสังคมก็น่าจะถึงเวลาที่รำลึกถึงเพื่อนๆ ของตัวเอง ที่เสียสละชีวิต เพราะมีการปลุกเร้าให้คนออกมาและทำลายกัน การที่เขาเสียสละชีวิตไปน่าจะทำให้มีการเสนอความคิดและแสดงออกอย่างมีประชาธิปไตย มีเสรีภาพ ไม่ใช่ว่าผลักดันให้ต่างความคิดแล้วเป็นอีกพวกหนึ่ง ต่างความคิดผิดถึงตายก็มีมาแล้วขอให้หยุดเสียที นายพรหมินทร์ กล่าวประโยคข้างบนพร้อมแสดงอารมณ์ประกอบด้วยเสียงอันสั่นเครือและน้ำตาคลอเบ้า
แต่ขอโทษเถอะ แม้หลายคนอาจจะหลงเชื่อคารมและการแสดงออกของมิ้ง แต่ผู้มีปัญญาและมีเกราะกำบังความมดเท็จของนักการเมืองรู้ดีว่านายพรหมินทร์แสดงอาการเช่นนั้นเพราะอะไร
หากนายพรหมินทร์รักความสงบจริง ทำไมไม่บอกคุณทักษิณให้ทบทวนการกระทำของตัวเอง ทำไมนายพรหมินทร์ซึ่งอ้างว่าตนเองมีสติปัญญาสูง ไม่หันกลับไปทบทวนเหตุการณ์ยุค 6 ตุลาฯ ที่กำลังจะวนมาบรรจบครบ 30 ปีในเร็วๆนี้ ว่ามีเหตุปัจจัยอะไร และเหตุการณ์ภายใต้ยุคเผด็จการทักษิณมีอะไรเหมือนกับเหตุการณ์ในอดีตบ้าง ทำไมมิ้งไม่พอใจการกระทำของรัฐบาลทรราชย์ถนอม ประภาส ณรงค์ จนถึงกับออกมาต่อต้าน แล้วทำไมมิ้งพอใจกับการกระทำของรัฐบาลทรราชย์ทักษิณ จนถึงกับออกมาปกป้องรัฐบาลทรราชย์ยุคปัจจุบัน นั่นเป็นเพราะมิ้งได้ประโยชน์และมีอำนาจในรัฐบาลทรราชย์ทักษิณใช่ไหม
หากในยุค 30 ปีก่อน มิ้งมีผลประโยชน์และอำนาจ มิ้งคงไม่ต่อต้านคณาธิปไตย ถนอม ประภาส ณรงค์ ใช่ไหม
คุณพรหมินทร์ อย่าปกปิดความจริงอีกต่อไปเลย ยุติพฤติกรรมมดเท็จเสียเถิด อย่าคิดว่าสุนัขจิ้งจอกที่ขโมยหลังราชสีห์มาห่อหุ้มแล้วจะเป็นสิงโตเจ้าป่าผู้น่าเกรงขามไปได้ เพราะคนไทยเห็นแล้วว่าภายใต้หนังราชสีห์ มีขนสุนัขผสมกับขนมิ้ง และน้ำตาที่อุตส่าห์แกล้งบีบออกมานั้น ไม่สามารถทำให้คนที่มีสมองและสติปัญญาเข้าใจผิดคิดว่า คุณคือมนุษย์ที่มีใจสุดแสนจะอารีย์ เพราะทุกคนเข้าใจดีว่า คุณกับทักษิณ คือเงาของกันและกัน
http://www.seree.net/index.php?option=com_content&task=view&id=566