ต่างชาติโยกเงินลุยหุ้นไทยดันดัชนีพุ่ง21จุด บาทแข็งรอบ10ปี
3 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 10:52:00
(Update) ตลาดหุ้นไทยพุ่งแรงปิดบวก 21 จุด วอลุ่มทะลัก 2.5 หมื่นล้านบาท หลังต่างชาติโหมลุยตลาดภูมิภาคเอเชีย ดันค่าเงินบาทแข็งสุดในรอบเกือบ 10 ปี
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นและตลาดเงินวันนี้ค่อนข้างคึกคัก เนื่องจากมีเงินทุนต่างชาติไหลเข้าลงทุนในตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชีย ส่งผลให้ค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าในรอบเกือบ 10 ปี
โดยล่าสุดเมื่อประมาณ 12.00 น.ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวที่ 34.35/36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในภาคเช้าปิดที่ 813.71 จุด บวก 21.00 จุด หรือ 2.65% มูลค่าการซื้อขาย 25,424.79 ล้านบาท
หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรกประกอบด้วย PTT อยู่ที่ 288.00 บาท บวก 10.00 บาท หรือ 3.60% BBL อยู่ที่ 126.00 บาท บวก 6.00 บาท หรือ 5.00% TOP อยู่ที่ 74.50 บาท บวก 3.00 บาท หรือ 4.20% KTB อยู่ที่ 12.70 บาท บวก 0.60 บาท หรือ 4.96% และ PTTEP อยู่ที่ 115.00 บาท บวก 5.00 บาท หรือ 4.55%
นักค้าเงินให้ความเห็นว่า เช้าวันนี้ปรับตัวแข็งค่าขึ้นอยู่ที่ระดับ 34.38-34.39 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นระดับที่แข็งค่าที่สุดในรอบเกือบ 10 ปี หลังจากมีการลอยตัวค่าเงินบาทในปี 2539 เนื่องจากเงินสกุลย่านเอเชียต่างก็แข็งค่าขึ้นทั่วหน้า เพราะมีเงินทุนจากต่างชาติไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นย่านเอเชียรวมทั้งตลาดหุ้นไทยเป็นจำนวนมาก ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวสร้างสถิติสูงสุดในรอบ 4 ปี อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของเงินบาทตั้งแต่ต้นปี 2550 ซึ่งแข็งค่าขึ้น 4.5% ยังอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับเงินสกุลต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย โดยเงินริงกิตของมาเลเซียแข็งค่าประมาณ 4% รูเปียห์ อินโดนีเซีย แข็งค่าขึ้น 3% ขณะที่เงินเปโซ ฟิลิปปินส์ แข็งค่าที่สุด 8% โดยในวันนี้ เงินเปโซ ทำสถิติแข็งค่าทะลุ 9,000 เปโซต่อดอลลาร์สหรัฐฯ มาอยู่ที่ 8,980 เปโซต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
นักค้าเงินกล่าวว่า การแข็งค่าของเงินบาทไม่น่ากังวล เนื่องจากเป็นไปตามกลไกตลาดรวม เพราะมีกระแสเงินทุนไหลเข้ามาลงทุนจริง ซึ่งหากเม็ดเงินของต่างชาติยังเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เงินบาทก็มีโอกาสแข็งค่าขึ้นอีก
โบรกฯชี้เงินต่างชาติยังไหลเข้าซื้อหุ้นทั้งภูมิภาค
"เม็ดเงินจากต่างประเทศไหลเข้ามาสู่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเซีย ซึ่งส่วนหนึ่งก็ไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยด้วย จะเห็นได้ว่าตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น"นายอดิศักดิ์ คำมูล ผู้อำนวยการส่วนวิจัยและกลยุทธ์การลงทุน บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าว
นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า เงินทุนต่างประเทศที่เข้ามา ช่วยกลบปัจจัยลบด้านการเมืองในขณะนี้ลงได้ อย่างไรก็ตามการที่ดัชนีปรับตัวขึ้นมาแรงติดต่อกัน 2 วันก็จะต้องติดตามว่า เงินทุนจากต่างประเทศจะไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องหรือไม่
นายอดิศักดิ์กล่าวว่า กลยุทธ์การลงทุนในระยะสั้น ถ้ามีกำไรสามารถขายออกไปได้ แต่ถ้าเป็นนักลงทุนระยะกลางถึงยาวนั้น ควรที่จะเลือกลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี และคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2/50 จะออกมาดี โดยหาจังหวะเข้าไปซื้อ
http://www.bangkokbiznews.com/2007/07/03/WW10_WW10_news.php?newsid=82102

.. ระเบิดลงอังกฤษ น้ำมันขึ้น หุ้นเอเชียขึ้น ..