แต่ไอ้นี้ข่มขืน.. แต่ไม่ทำงาน..
เลขาฯ ส.ส.ไทยรักไทย เมืองสกลนคร อุ้มท้อง 5 เดือนร้องกองปราบฯ
ถูกเจ้านายข่มขืนจนท้องโย้ แล้วบังคับให้ทำแท้ง ซ้ำขู่ไม่ให้ปากโป้ง
โวยตำรวจท้องที่เมินรับคดี ขณะที่อีกฝ่ายแถลงโต้ในสภาอ้างสาวสมยอม ปฏิเสธควงปืนขู่รีดลูกทิ้งเหตุสาวอุ้มท้องบุกร้องกองปราบปรามว่า ถูกนักการเมืองสังกัดพรรคไทยรักไทยข่มขืนจนตั้งท้องแล้วบังคับให้ทำแท้งรายนี้
ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 มีนาคม น.ส.อ. (ดีเจคลื่น 97 ชุมชนสว่างแดนดิน) อายุ 26 ปี ซึ่งตั้งครรภ์ได้ 5 เดือน
พร้อมด้วยบิดามารดา เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ดำรงสิทธิ์ โมราฤทธิ์ รอง ผกก.4 ป. และ พ.ต.ต.ธวัชชัย สงวนสุข สว.ผ.4 กก.4 ป.
โดยอ้างว่า
ถูกนายพงษ์ศักดิ์ บุญศล อายุ 42 ปี ส.ส.สกลนคร เขต 5 พรรคไทยรักไทย ข่มขู่คุกคาม หลังมีความสัมพันธ์กันจนตั้งครรภ์ได้ 5 เดือน แล้วบังคับให้ไปทำแท้ง แต่ตนไม่ทำ และขอกำลังตำรวจคุ้มครองด้วยเพราะเกรงอิทธิพลมืด ขนาดตำรวจท้องที่ อ.สว่างแดนดินก็ยังไม่รับแจ้งเพราะเกรงกลัวอิทธิพล
ดีเจ.อ. เปิดเผยว่า ตนอาศัยอยู่กับพ่อแม่ที่ จ.หนองคาย รู้จักกับนายพงษ์ศักดิ์เมื่อกลางเดือนมกราคม 2547
โดยมีผู้ใหญ่ฝากให้ไปทำงานที่โรงเรียนเทคโนโลยีแห่งหนึ่งในจังหวัด ซึ่งนายพงษ์ศักดิ์เป็นเจ้าของและผู้จัดการโรงเรียน แต่กลับถูกเสนอให้ไปสอนที่โรงเรียนใน จ.สกลนคร
ควบคู่กับการจัดรายการวิทยุไปด้วย โดยให้พักในเรือนรับรองบริเวณบ้านของนายพงษ์ศักดิ์ที่ จ.สกลนคร เมื่อถึงเดือนเมษายน 2547
ตนขอลาออกกลับไปอยู่บ้าน แต่ถูกขอร้องแกมบังคับให้ไปช่วยงานที่สำนักงานเพื่อช่วยหาเสียงเลือกตั้ง แล้วให้ตนเป็นเลขานุการสำนักงาน ตนจึงอยู่ต่อ
ดีเจ.อ. กล่าวต่อว่า ระหว่างนั้นตนถูกนายพงษ์ศักดิ์บังคับข่มขืนในห้องกลางดึกคืนหนึ่ง แล้วขู่จะฆ่าทิ้งหากบอกใคร ด้วยความกลัวจึงต้องทนถูกข่มขืนเรื่อยมา
หากขัดขืนจะถูกด่าอย่างหยาบคาย พอขอลาออกก็ถูกปืนจี้หน้าอก มีครั้งหนึ่งที่ตนป่วยถูกส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลใน จ.อุดรธานี
นายพงษ์ศักดิ์ก็ไปรับออกมา แล้วบังคับขืนใจทั้งที่เพิ่งถอดสายน้ำเกลือ พอทุกข์ใจมากตนจึงกินยาแก้ปวดหัวไป 1 กำมือหวังฆ่าตัวตาย แต่เพื่อนไปพบและนำส่งโรงพยาบาลทัน
สาวท้องรายนี้ กล่าวอีกว่า ต่อมาเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ตนทราบว่าตั้งครรภ์จึงแจ้งทนายพงษ์ศักดิ์ แต่กลับถูกด่าและไล่ออกจากห้องทำงาน
ตนจึงหนีกลับบ้านที่ จ.หนองคาย แล้วไม่กลับไปอีกเลย เมื่อทางบ้านทราบเรื่อง ทั้งหมดก็ได้เจรจา จนทนายพงษ์ศักดิ์ยืนยันจะให้เงิน 3 แสนบาทเป็นค่าทำขวัญ
แล้วให้ค่าเลี้ยงดูบุตรเดือนละ 10,000 บาท โดยรายละเอียดจะคุยหลังการเลือกตั้ง ตนจึงตกลงเพราะไม่หวังอะไรมากกว่านี้ แต่ปรากฏว่าได้รับเงินแค่ 2 แสนบาท
ดีเจ.อ. กล่าวด้วยว่า ภายหลังกลับถูกนายพงษ์ศักดิ์และลูกน้องร่วมกันข่มขู่ถึงบ้านให้ทำแท้งหลายครั้ง โดยแจ้งว่าเงิน 2 แสนบาทมอบให้เพื่อนำไปทำแท้ง
และมีผู้เจรจาจะเพิ่มเงินให้อีก 3 แสนบาทเพื่อทำแท้ง แต่ตนกับพ่อแม่ปฏิเสธ เพราะต้องการลูก ไม่ต้องการเงิน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา ส.ส.พงษ์ศักดิ์ยังโทรไปขู่เร่งให้ทำแท้ง ทำให้เกรงว่าตัวเองและทางบ้านจะไม่ปลอดภัย
จึงแจ้งตำรวจท้องที่ แต่เขาก็ไม่กล้าเข้ามาเกี่ยวข้อง ต้องมาที่กองปราบปรามแทน
ด้านบิดาของ น.ส.อ. ซึ่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.หนองคาย
ยืนยันว่า ครอบครัวตนถูกหาเรื่อง ถูกข่มขู่ไม่เลิก ไม่รู้จะทำอย่างไรกับคู่กรณีที่เป็นนักการเมือง อยากให้เรื่องนี้จบเสีย เพราะเป็นห่วงสวัสดิภาพของครอบครัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายไว้แล้ว
ทราบว่าต้องการให้ดำเนินคดีกับนายพงษ์ศักดิ์กับพวก ฐานร่วมกันข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการหนึ่งการใดเพียงข้อหาเดียว
สำหรับกรณีที่อ้างว่าถูกข่มขืนและกระทำการอนาจารนั้นขาดอายุความไปแล้ว แต่อาจขอความเป็นธรรมจากศาลได้
ด้าน นายพงษ์ศักดิ์ได้เปิดแถลงข่าวที่รัฐสภา ยอมรับว่า มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับ น.ส.อ. จริง แต่ไม่ได้ข่มขืน เป็นการสมยอม
โดยตนสวมถุงยางอนามัยป้องกันทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ แล้วตนไม่เคยขู่บังคับให้ไปทำแท้ง และหากพิสูจน์แล้วว่าลูกในครรภ์เป็นลูกก็พร้อมจะยอมรับ
ซึ่งไม่เข้าใจว่าฝ่ายหญิงทำแบบนี้ทำไม เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีเรื่องโกรธกันมาก่อน เพิ่งรู้ว่าไปฟ้องกองปราบปราม
ู่