วันอังคาร ที่ 19 มิถุนายน 2550
ประเทศชาติติดหล่ม...ต้องเริ่มใหม่โดยไม่มีทักษิณ-คมช.ในสมการการเมืองPosted by สุทธิชัย หยุ่น
การปรากฏตัวของ "พลังเงียบ" ในช่วงการเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มคนที่อยู่ข้างทักษิณ ชินวัตร กับ คมช. นี้ อาจจะไม่ได้เป็นกลุ่มเป็นก้อนที่ชัดเจนหรือมีพลังอย่างเป็นหลักเป็นฐานนัก แต่ก็สะท้อนว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยที่พร้อมจะแสดงออกด้วยการประกาศจุดยืนของ ตัวเองเพื่อให้ประเทศชาติสามารถลุกขึ้นเดินหน้าต่อไป...ไม่หมกมุ่นและลุ่ม หลงอยู่กับความวอกแวกและหวั่นไหวในปัจจุบัน
"พลังเงียบ" ที่เริ่มจะเห็นว่าประเทศไทยของเราจะเข้าสู่ภาวะตีบตันต่อเนื่องยาวนานแน่ หากยังปล่อยให้คนไม่กี่กลุ่มที่ผูกติดอยู่กับผลประโยชน์เฉพาะตนหรือกลุ่ม ของตนเผชิญหน้ากันอยู่อย่างนี้โดยมุ่งหวังจะใช้เสียงดัง วาจาดุดัน และกลยุทธ์ปลุกปั่นมวลชนมาข่มขู่ และคุกคามสังคมส่วนรวมอย่างที่เห็นกันอยู่
กลุ่มคนที่ไม่ต้องการเอาตัวเองเข้าไปผูกพันกับกลุ่มใดที่กำลังเผชิญหน้ากันอยู่ในขณะนี้ ต้องการให้เขาเหล่านั้นเคารพและเกรงอกเกรงใจ "ความเงียบของคนส่วนใหญ่" ขณะนี้ ที่ปล่อยให้ "เล่นเกม" กันอยู่ เพราะคิดว่าพวกเขาคงจะมีสติสัมปชัญญะและความสำนึกเพียงพอที่จะไม่เล่นกันจน บ้านเมืองพังย่อยยับเสียก่อน
"พลังเงียบ" ที่ว่านี้คือคนไทยอย่างคุณและผมที่บอกได้วันนี้เลยว่า ทั้งทักษิณ และ คมช. ต่างควรจะรู้ว่าทั้งสองฝั่งนั้นมิอาจจะมีบทบาททางการเมืองอย่างชอบธรรมได้ อีก...และต้องให้กระบวนการสังคมที่กำลังพร้อมที่จะเกิดความเคลื่อนไหวของ ประชาชนในรูปแบบต่างๆ ที่จะไม่ "ถือหาง" ข้างใด แต่ต้องการเริ่มบทการเมืองของประเทศใหม่ด้วยการเปิดกว้าง ไร้อคติต่อกัน ปฏิรูปการเมืองอย่างจริงจัง และที่เชื่อในวิธีการถกแถลงกันด้วยเหตุด้วยผล ยืนยันที่จะให้สังคมไทยปลอดจากความรุนแรงและมุ่งมองหาสันติวิธีในการสร้าง ความสมานฉันท์ใหม่อย่างแท้จริง
"พลังเงียบ" เริ่มมีความเหนื่อยหน่ายกับการชุมนุมของกลุ่มคนที่ต้องการจะปกป้องแค่ สัญลักษณ์แห่งอำนาจของตน ขณะเดียวกัน ก็มองเห็นว่าคณะทหารที่ก่อการปฏิวัติเมื่อ 19 กันยายน นั้น จะต้องเร่งสางงานของตัวเองให้เสร็จเพื่อก้าวลงจากอำนาจและส่งต่ออำนาจทาง การเมืองนั้นคืนสู่กระบวนการของประชาชนอย่างชัดเจน
พูดง่ายๆ ก็คือว่ายังไงๆ ทักษิณก็กลับมาเป็นใหญ่ทางการเมืองไม่ได้...และยังไงๆ คมช. ก็ไม่อาจจะสืบทอดอำนาจของตัวเองต่อไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตาม...
ดังนั้นความรู้สึกร่วมของ "พลังเงียบ" ที่ว่านี้ ก็คือการที่ต้องการเห็นทักษิณ ยอมรับความจริงและต่อสู้ข้อกล่าวหาร้ายแรง (ที่คนไทยส่วนใหญ่เชื่อว่ามีมูลเพียงพอที่จะต้องดำเนินตามกระบวนการ ยุติธรรมต่อไปอย่างเปิดเผยและโปร่งใส) โดยต้องสำนึกว่าเขาได้กลายเป็นตัวปัญหาที่ทำให้สังคมไทยแตกแยกเกินกว่าที่ เขาจะสามารถเล่นบทการเมืองอย่างที่เขาหรือกลุ่มผู้สนับสนุนเขาเรียกร้อง ต้องการได้อีกต่อไปแล้ว
ขณะเดียวกัน ผมก็เชื่อว่า "พลังเงียบ" ก็เห็นพ้องเช่นกันว่าอย่างไรเสีย คมช. ก็จะต้องแสดงความจริงใจ และจริงใจในการส่งไม้ต่อให้กับกระบวนการทางการเมืองโดยต้องมีตารางเวลา เพื่อการสละอำนาจเพื่อให้ "พลังสังคมบริสุทธิ์" ได้ทำหน้าที่พลเมืองดีในยามวิกฤตินี้อย่างสร้างสรรค์และสมานฉันท์
ลองนับจำนวนคนที่รวมตัวกันในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเรียกร้องแทนทักษิณ หรือฝ่ายต่อต้านทักษิณก็ตาม รวมกันแล้วแค่หมื่นสองหมื่นคนเป็นอย่างมาก...คนไทยอีก 60 ล้านคนที่เหลือไม่ได้ต้องการจะเข้ามาพัวพันกับความ "ผิดปกติ" นี้อย่างแน่นอน...ถึงวันนี้ ผมเชื่อว่า "พลังเงียบ" ส่วนใหญ่จะไม่ยอมให้กระแสที่ต่างฝ่ายต่างปลุกขึ้นมาทำร้ายประเทศชาติอีกต่อ ไปแล้ว
ใน "สมการการเมือง" อันพึงประสงค์สำหรับคนไทยส่วนใหญ่นั้น หากตัดทักษิณออก ตัด คมช. ออก เปิดทางให้กระบวนการยุติธรรมและกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญทำหน้าที่ของตัวเอง อย่างเป็นอิสระ โปร่งใส ตรวจสอบได้โดยประชาชน ไม่มีอคติเฉพาะกลุ่ม การเริ่มต้นใหม่ที่ "พลังเงียบ" เรียกร้องต้องการจึงจะเกิดขึ้นได้
ประเทศชาติเหมือนคอมพิวเตอร์ที่ hang อยู่ ต้อง reset ใหม่...เลิกใช้โปรแกรมที่ละเมิดลิขสิทธิ์เสีย ยอมทำตามกฎกติกาที่ควรจะเป็น...อาจจะใช้เวลาหน่อย แพงหน่อย ต้องใช้ความอดทนของคนทั้งชาติมากขึ้นหน่อย...
แต่สำหรับผมนี่คือหน ทางเดียวที่เหลืออยู่สำหรับเราที่จะเริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่...หากเราไม่ ต้องการตกลงไปในหลุมดำมืดที่อันตรายยิ่งนัก
คุณอาจจะถามว่าจะทำอย่างไรในทางปฏิบัติเพื่อบรรลุ "สมการการเมืองใหม่" นี้ใช่ไหม?
หากตั้งเป้าหมายร่วมกันได้ว่าเราจะหาสมการใหม่นี้ให้ได้ หากพลังเงียบแสดงพลังด้วยรูปแบบสันติแต่หนักแน่น หากเราปฏิเสธที่จะถูกดึงเข้าไปในเกมของการเผชิญหน้าขณะนี้ นั่นแหละ เราก็จะเริ่มตั้งประเด็นเพื่อการแสวงหาทางออกร่วมกันของสังคมจากภาวะวิกฤติ ศรัทธาและความเชื่อมั่นในตัวเราเองได้
ถึงวันนี้ ผมก็ยังเชื่อในพลังแห่ง "สติ" และ "ปัญญา" ของคนไทยส่วนใหญ่อยู่..
http://www.oknation.net/blog/black/2007/06/19/entry-2ไม่เอาทักษิณ
ไม่เอา คมช.
ทั้งคู่ต้องออกไปจากการเมือง
แต่ทักษิณต้องออกไปก่อน
คมช. ค่อยออกไป