ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
17-01-2025, 03:35
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ข้อเขียน จากหัวปิงปอง ในผู้จัดการ ถึงแจ๋วริมจอ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ข้อเขียน จากหัวปิงปอง ในผู้จัดการ ถึงแจ๋วริมจอ  (อ่าน 1030 ครั้ง)
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« เมื่อ: 21-06-2007, 20:13 »

   สารภาพเลยว่า หลายครั้งที่ "หัวปิงปอง" แอบชื่นชมต่องานเขียนคอลัมน์ "TV บันเทิง" จากผู้เขียนที่ใช้นามปากกว่า "แจ๋วริมจอ" ใน นสพ.ไทยรัฐอยู่
       
        ชื่นชมเพราะรู้สึกว่า เนื้อหาในเชิงว่ากล่าวตักเตือน เช่นเรื่องการใช้ภาษาของนักร้อง การแต่งกายที่ไม่สุภาพของพิธีกร การพูดจาที่ไร้หางเสียงของผู้ดำเนินรายการ ทั้งหลายเหล่านี้มีผลที่เป็นทางบวกมากกว่าลบ โดยมิได้สนใจสักเท่าไรนักว่าเนื้อหานั้นๆ มีนัยอะไรซ่อนเร้น หรือเกิดขึ้นมาจาก เจตนาที่ดีจริงๆ หรือไม่? คนเขียนมีอคติกับดาราค่ายนั้นแต่ชื่นชอบดาราค่ายนี้เพราะมีผลประโยชน์ทางธุรกิจกันอยู่รึเปล่า?
       
        แต่กับงานเขียนที่ชื่อ "ถูกครอบงำ" ซึ่งตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ฉบับเมื่อสองวันที่ผ่านมา(19)ต้องบอกว่ารับไม่ได้!
       
        รับไม่ได้จริงๆ ครับที่จะเห็นนักเขียนที่ตนเองชื่นชอบโชว์โง่ออกมา อันจะทำให้คนอ่านที่เขาพอจะรู้เรื่องอยู่บ้างหัวเราะเยาะเอาได้
       
        ในขณะที่คนที่ไม่รู้จริงๆ ก็อาจจะเกิดความเข้าใจผิดต่อประเด็นที่ถูกเสนอออกมา
       
        สรุปโดยรวมของเนื้อหาจากข้อเขียนที่ว่า ("หัวปิงปอง" ขอใช้ความชอบส่วนตัวต่อผู้เขียนมาเป็นบรรทัดฐานในการเชื่อมั่นว่าข้อเขียนชิ้นนี้เกิดมาจากเจตนาดี) พูดถึงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนทีวีกับการรายงานข่าว "ม็อบ" ที่ท้องสนามหลวงซึ่งได้ความว่าค่อนข้างจะเงียบ ไม่มีทีวีช่องไหนกล้าที่จะนำเสนอในรายละเอียดข้อเท็จจริง อันเนื่องมาจากทีวีช่องต่างๆ นั้นไม่กล้าหือกับคมช.
       
        พร้อมกับฟันธงว่านี่คือการปิดกั้นข้อมูลข่าวสารอย่างหนึ่ง
       
        ...จะบอกว่าสื่อโทรทัศน์ถูกปิดหู-ปิดตาก็เข้าทำนองนั้น ไม่ผิดจากนี้แน่นอน
        "ข่าวม็อบ" คือข้อพิสูจน์ที่กล้าพูดได้ว่าทีวีก็ไม่ต่างอะไรจากตู้เลี้ยงปลา จะหาข้อเท็จจริงมานำเสนอต่อประชาชนแทบไม่ได้เลย
        ถูกตัดหัว-ตัดท้ายข่าวม็อบประชาธิปไตยไล่เผด็จการ จึงไม่ต่างจากข่าวราชการข่าวหนึ่ง
        สื่อทีวีพร้อมใจกันเป็นกระบอกเสียงให้รัฐบาลและคมช.ซึ่งก็ไม่ผิดความคาดหมายและรู้อยู่แล้วว่าเรากำลังอยู่ในยุคใด
        แต่การ "ปิดกั้น" เสรีภาพในการเสนอข่าวม็อบนั้น คนที่รับกรรมคือประชาชนที่บริโภคสื่อโทรทัศน์
        สมัยนายกรัฐมนตรีคนก่อนเรืองอำนาจเคยถูกวิจารณ์ว่าเข้าไปแทรกแซงสื่อทุกแขนง ไม่เว้นแม้แต่สื่อโทรทัศน์
        แต่ยุคนั้นเสรีภาพของสื่อทีวีก็ยังไม่ถูกลิดรอนมากเท่ายุคนี้ ซึ่งกลายเป็นทีวีเพื่อความมั่นคงไปแล้ว...

 
   
 
 
       ไม่ทราบเหมือนกันว่าข้อมูลที่นำมาเขียนนี้ได้มาเพราะฝัน หรือเพราะว่าแจ๋วของ "หัวปิงปอง" มัวแต่ดูละครอยู่?
       
        เพราะเรื่องจริงก็คือ จะทั้งทีวีหรือจะเป็นหนังสือพิมพ์เองต่างก็ยังคงรายงานข่าวผู้ชุมนุมที่ท้องสนามหลวงนี้ออกมาอย่างเป็นปกติ แถมบางช่อง บางช่วง บางรายการ บางฉบับยังรายงานละเอียดยิบและดูเสมือนกับมีใจที่เอนเอียงแอบเชียร์อีกต่างหาก ยกตัวอย่างกันง่ายๆ อย่างวิกเอ็มโพเรี่ยมช่อง 3 ในรายการเล่าข่าวของคุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา หรือจะเป็นช่อง "ไอทีวี" เดิมอย่าง "ทีไอทีวี" ซึ่งในระยะแรกๆ รายงานซะจน "หัวปิงปอง" นึกว่าดูถ่ายทอดสดช่อง "พีทีวี" เสียอีก
       
        ที่สำคัญก็คือ ณ. เวลานี้ ช่อง "พีทีวี" เองก็ยังคงออกอากาศอยู่
       
        ถ้าบอกว่าในยุคของอดีต พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แม้จะมีการปิดกั้นสื่อแต่ก็ไม่เห็นมากขนาดนี้ ตรงนี้ "หัวปิงปอง" ขอให้เอาเวลาการรายงานข่าวระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมของ "พีทีวี" กับระยะเวลาของการรายงานข่าวเมื่อครั้งที่กลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาชุมนุมเปรียบเทียบกันเลยว่า ในวันหนึ่งๆ รวมเวลาแล้วฟรีทีวีมีการรายงานข่าวของกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มไหนมากน้อยกว่ากัน และมีแนวโน้มจะเป็นไปในทิศทางใด
       
        ส่วนที่แจ๋วตั้งข้อสงสัยว่าทำไมช่วงนี้ไม่เห็นมีนักวิชาการออกมาพูดหรือประณามผู้ที่เข้าไปแทรกแซงสื่อเลย อันนี้แจ๋วเองก็ลองเลิกดูละครน้ำเน่าเอาเวลามาศึกษาข้อมูล นั่งนึกตรึกตรองหาเหตุผลดูสิว่าเพราะอะไร?
       
        มองไม่ออกจริงๆ หรือถึงความแตกต่าง ที่มาที่ไป เหตุผล และเงื่อนไขบ่อเกิดของสถานการณ์ที่ผ่านมาและที่เป็นอยู่
       
        พูดไปประเดี๋ยวก็จะหาว่าประจบประแจงเข้าข้างทหารอีก แต่ไม่รู้ว่าใครจะคิดเหมือน "หัวปิงปอง" มั้ยว่า ณ. เวลานี้แม้จะถูกปกครองโดยคณะทหารที่ทำการปฏิวัติ แต่หลายสิ่งหลาย บรรยากาศต่างๆ มันรู้สึกว่ามีความเป็นประชาธิปไตยมากกว่ายุคที่ประเทศเรามีนายกฯ ซึ่งมาจากการเลือกตั้งเสียอีก (ย้ำว่าตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.2549 จนถึง ณ.ช่วงเวลานี้ ส่วนอนาคตความรู้สึกที่ว่าอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้หากเหล่าบรรดาผู้ปกครองเองมีพิรุธหรือทำอะไรไม่ชอบมาพากลออกมา)
       
        แต่ถึงแม้จะบอกเช่นนี้ ทว่าโดยลึกๆ แล้ว "หัวปิงปอง" เห็นด้วยนะที่อยากให้ทีวีช่องต่างๆ รายงานข้อมูล ข้อเท็จจริง เนื้อหาการปราศรัยของบรรดาแกนนำ บรรยากาศ พฤติกรรม ตลอดจนการทำกิจกรรมของม็อบกลุ่มต่างๆ ที่ท้องสนามหลวงออกมาเยอะๆ ทำแบบรายการเรียลิตี้ออกอากาศคำต่อคำเลยได้ยิ่งดี
       
        ทีนี้ ทีวีก็จะไม่ใช่แค่ตู้เลี้ยงปลาอย่างที่ "แจ๋วริมจอ" ยกขึ้นมาเปรียบเปรยแล้วล่ะครับ
       
        เพราะรับรองได้เลยว่าจะมีบรรดา เ ี้ย ห่า และสารพัดสัตว์ เลื้อย คลาน วิ่งกันให้ควั่กเต็มตู้ฯ แน่นอน...

 
จากผู้จัดการ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-06-2007, 23:25 โดย amalit1990 » บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #1 เมื่อ: 21-06-2007, 20:27 »

แรงไปเนอะครับ ลบดีกว่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-06-2007, 23:24 โดย amalit1990 » บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 21-06-2007, 22:38 »

เบา ๆ หน่อย คุณโอม

รู้ลึกรู้ดี บอกลุงด้วยดิ อิ อิ

แจ๋วมันก็แค่เขียนด่า เนชั่นเป็นปกติอยู่แล้ว...นานมาแล้วจ้า..

เข้าใจว่าตั้งแต่ขัดแย้งเรื่อง ไอทีวี แล้วโดนสุภาพ-เหม่งจ๋าย อัดคืนนั่นแหละ

จะว่าไป คอลัมน์ก็เขียนวันละครั้ง แต่ข่าวทีวี ต้องออกทุกชั่วโมง

ข่าวทีวีการแข่งขันมันสูง ก็ต้องสัมภาษณ์ในจุดที่ผู้คนสนใจทั้งนั้น

ผมเข้าใจว่าปัจจุบัน รายการข่าวภาคกลางวัน ทำสถิติคนดูได้มากกว่าละครน้ำเน่านะครับ ( เฉพาะภาคกลางวัน )

พอใกล้ ๆ ช่วงเปลี่ยนชั่วโมง เรามักจะกดดูข่าวแทบทุกช่อง แบบว่าชั่วโมงละครั้ง ประมาณนั้น

ไม่นับรายการข่าวเต็ม ๆ ชั่วโมงนะ
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
    กระโดดไป: