นามโต้ถูก'พจมาน'ฟ้องเป็นเรื่องขี้ผง
2 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 18:18:00
การต่อสู้คดีระหว่าง "นาม ยิ้มแย้ม" ประธานคตส. กับคุณหญิง" พจมาน ชินวัตร" ภรรยาอดีตนายกฯทักษิณ กรณีการซื้อที่ดินแถวถนนรัชดา จากกองทุนฟื้นฟูฯกลายเป็นข่าวยอดฮิตขึ้นมาในการขับเคี่ยวต่อสู้นำออกมาตอบโต้ครึกโครม
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : ก่อนที่ศาลจะวินิจฉัยออกมาว่าผิดจริงหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้คตส.ได้สรุปส่งคดีให้อัยการสูงสุดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
2 วันที่ผ่านมาคุณหญิงพจมาน ฟ้องหมิ่นประมาทประธานคตส. แต่ล่าสุด"นาม" ออกมาบอกว่าการถูกฟ้องเป็น "เรื่องขี้ผง" รู้อยู่แล้วการเข้ามาทำคดีต้องถูกฟ้องเป็นธรรมดา และไม่ได้หนักใจอะไร และตอกกลับไปว่า "หากการซื้อที่ดินผิดกฏหมายที่ดินที่ได้มาก็ต้องถูกริบ เหมือนกับทรัพย์ที่ปล้นเขามา และยังเปรียบเทียบเคียงว่าเหมือนกับทรัพย์ที่ไปปล้นเขามา ต้องถูกริบ ไม่ได้ใส่ร้าย ส่วนการฟ้องอยู่ที่ศาลจะเป็นผู้วินิจฉัย"
"นาม"เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2479 อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จบการศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเนติบัณฑิตไทย ประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมา ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดอุบลราชธานี จันทบุรี และชลบุรี , ผู้พิพากษาศาลฎีกา,ประธานคณะอนุญาโตตุลาการ ,อนุกรรมการสอบสวนคดีทุจริต คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ,ประธานอนุกรรมการฝ่ายสืบสวน คณะกรรมการการเลือกตั้ง ,ประธานอนุกรรมการพิจารณาคัดค้านการเลือกตั้งของ กกต.
เป็นประธานคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติมสรุปกรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหามีกระบวนการว่าจ้างพรรคการเมืองให้ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2549 " ซึ่งคณะอนุกรรมการนี้ดำเนินการสืบสวนตามมติของคณะกรรมการการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2549
เขายังลงสมัครเป็นกรรมการการเลือกตั้งชุดที่ 3 แต่ไม่ได้รับการคัดเลือกจากที่ประชุมวุฒิสภา ในวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2549 ต่อมาภายหลังการรัฐประหารกันยายน 2549 ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการตรวจสอบคตส. เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2549
เมื่อดูประวัติการทำงานก่อนที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานคตส. ถือว่าผ่านการทำงานมาโชกโชน เกี่ยวกับคดีต่างๆ และถือการเข้าตรวจสอบคดีการซื้อที่ดินของคุณหญิงพจมาน ย่านถนนรัชดา จากกองทุนฟื้นฟูฯ
คงถือเป็นความกล้าเพียงพอ ในการสะสางข้อเท็จจริงในการได้ทรัพย์มา ซึ่งได้ส่งคดีให้อัยการสุงสุดฟ้องไปแล้ว
เล่นกับกลุ่มอำนาจที่มีเครือข่ายพวกพ้อง และทุนหนา คงต้องมีหลายเกมแน่นอน เพราะไม่นั้นคุณหญิงพจมานคงไม่ฟ้องหมิ่นประมาทกลับ
ถึงที่สุดต้องรอรับฟังว่าศาลจะตัดสินกรณีคุณหญิงพจมาน ซื้อที่ดินรัชดาว่าผิดจริงหรือไม่
http://www.bangkokbiznews.com/2007/05/02/WW65_WW65_news.php?newsid=67129และตอกกลับไปว่า "หากการซื้อที่ดินผิดกฏหมายที่ดินที่ได้มาก็ต้องถูกริบ เหมือนกับทรัพย์ที่ปล้นเขามา และยังเปรียบเทียบเคียงว่าเหมือนกับทรัพย์ที่ไปปล้นเขามา ต้องถูกริบ ไม่ได้ใส่ร้าย ส่วนการฟ้องอยู่ที่ศาลจะเป็นผู้วินิจฉัย"