ขึ้นเป็นวาระงานทางการจากทำเนียบรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนำคณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระราชพิธีฉัตรมงคล ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง วันที่ 5 พฤษภาคมนี้
และในช่วงค่ำ พ.ต.ท.ทักษิณจะเป็นประธานในงานสโมสรสันนิบาตและ นำกล่าวถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เป็นการหวนกลับมาปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ
หลังเก็บข้าวของออกจากห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ส่งไม้ให้ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รับหน้าเสื่อรักษาการนายกรัฐมนตรี
แน่นอน โดยเงื่อนไขที่อยู่ระหว่างปลีกวิเวก เว้นวรรค หรือ ไม่เว้นวรรค ยังสับสน อยู่ๆ ทักษิณ กลับมาปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ
มันก็เลยฮือฮานิดหน่อย
แต่ถ้าไม่คิดจับผิดอะไรกันมากไป อันนี้ก็พอเข้าใจได้ระดับหนึ่งว่าเป็นพระราชพิธีสำคัญ เป็นเรื่องการถวายพระพร โดยสถานะของผู้นำประเทศที่เข้าร่วมพิธีควรต้องชัดเจน
ลักปิดลักเปิดไม่ได้
อย่างไรเสีย โดยสถานะทางกฎหมาย วันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ยังดำรงอยู่ในฐานะ นายกรัฐมนตรีรักษาการของประเทศไทย
ยังไม่ได้ลาออกจากตำแหน่ง
แต่โดยโมเมนตัมการเมือง ก็ยังมองไม่เห็น ทักษิณ กลับมาทำหน้าที่เฉพาะกิจจะส่งผลอะไร เท่าที่เห็นจนถึงนาทีนี้ ทักษิณ ก็ยังนิ่งสงบปากสงบคำ
ไม่หือไม่อือกับใคร
ขนาดลูกพรรคไทยรักไทยออกมาท้าของแข็ง ลองของศาล ขวางโมฆะเลือกตั้ง
เบื้องหน้าเบื้องหลัง ทักษิณ น่าจะไม่รับรู้ด้วยซ้ำกับคิวที่รัฐมนตรีใหญ่ระดับแกนนำ ภาคของพรรคไทยรักไทยเผลอหลุดปากกลางวงเหล้า
เลือกตั้งใหม่ใช้คนละล้านห้า สี่ร้อยเขตปาเข้าไปเท่าไหร่ จะเอาเงินจากไหนวะ
ทักษิณ ไม่อยู่ในสถานะที่จะกุมสภาพได้เหมือนเก่า
เอาเป็นว่า ล่าสุดศาลรัฐธรรมนูญนัดชี้ชะตาในเวลา 10.30 น. วันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม แถลงคำวินิจฉัยก่อนลงมติ
โมฆะ หรือ ไม่โมฆะ
และเมื่อโฟกัสจาก 4 ปมใหญ่ที่อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยื่นเรื่องผ่านผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ตั้งแท่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดการเลือกตั้งโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
1. การจัดให้เลือกตั้งหลังมีพระราชกฤษฎีกายุบสภาในเวลาเพียง 37 วัน
2. กรณีที่ กกต.ออกประกาศให้มีการจัดเลือกตั้ง โดยหันคูหาแบบใหม่ที่ทำให้การลงคะแนนไม่เป็นไปโดยลับ
3. การที่ กกต.ลงมติรับรองผลการเลือกตั้งทางโทรศัพท์ โดยไม่ครบองค์ประชุม
4. ผลสอบของ กกต.ในกรณีที่พบว่า พรรคการเมืองใหญ่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ การว่าจ้างให้พรรคเล็กส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้ง
เมื่อเอามาประเมินกับอาการนอตหลุดของ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต.
หลักฐานทั้งหมดเกิดจากการกระทำของสื่อมวลชนที่มีจิตวิปริต วิปลาส อุตริ ใจชั่ว ใช้เทคโนโลยีมาจ้องจับผิดเพื่อทำลายผม ยืนยัน กกต.ทำทุกอย่างถูกต้อง ตามกฎหมายทุกประการ
อยู่ๆ วาสนา เจาะจงงัดเอาปมจัดคูหาเลือกตั้งมาด่าสื่อมวลชนแรงๆ
และบังเอิญ พล.ต.อ.วาสนาเพิ่งเดินทางเข้าชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญก่อนหน้าหนึ่งวัน ขณะเดียวกัน นายผัน จันทรปาน ตุลาการผู้ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แพลมไต๋ล่วงหน้า
ส่วนตัวพร้อมลงมติ โดยไม่ต้องเรียกหลักฐานข้อมูลจากผู้ร้องและ กกต.มาเพิ่มอีก
เพราะจากการชี้แจงของ พล.ต.อ.วาสนาและนายปริญญา นาคฉัตรีย์ กกต. ก็เพียงพอต่อการวินิจฉัย
เป็นไปได้หรือไม่ คิวนี้รู้ล่วงหน้ากันแล้วหวยจะออกอะไร
กรณีจัดคูหาเลือกตั้งในวันที่ 2 เมษายน มีปัญหา เข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยมีหลักฐานเป็นภาพข่าวทางโทรทัศน์และ หนังสือพิมพ์ที่ซูมให้เห็นผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง กากบาทในช่องลงคะแนน เป็นหลักฐานฟ้องว่า
การลงคะแนนไม่เป็นความลับ
ช่องเล็กๆรูเดียวที่จะสั่งโมฆะเลือกตั้งได้.ทีมข่าวการเมือง