ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
17-01-2025, 22:20
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  เดินขบวน คือกิจของสงฆ์หรือ? อย่ายึดติด มันเป็น อัตตา 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
เดินขบวน คือกิจของสงฆ์หรือ? อย่ายึดติด มันเป็น อัตตา  (อ่าน 1409 ครั้ง)
RONALDO
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 684


ไม่มีใคร ทำให้เรารู้สึกต่ำต้อยได้ หากเราไม่ยินยอม


« เมื่อ: 25-04-2007, 14:54 »

ภาพพระสงฆ์จำนวนไม่น้อยออกมาเดินขบวนกดดันสังคม เพราะต้องการให้กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับล่าสุดว่า พุทธศาสนาคือศาสนาประจำราชอาณาจักรไทย ภาพนี้สะท้อนแนวคิดและพฤติกรรมคณะสงฆ์ไทยกลุ่มนี้ได้ชัดเจนว่า ลึกๆ แล้วพระสงฆ์ก็คิดไม่ต่างไปจากผู้ประท้วงกลุ่มอื่นๆ ที่มีมากมายในสังคมไทยในขณะนี้ เพราะเมื่อไม่ได้ดั่งใจก็ใช้การรวมกลุ่มสร้างแรงกดดันเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์

ภาพพระสงฆ์เดินขบวนบนถนนเป็นภาพที่ให้บรรยากาศแตกต่างจากภาพพระสงฆ์ออกบิณฑบาตในเวลาเช้า ราวสวรรค์กับนรก เพราะสังคมไทยยกย่องและเคารพพระสงฆ์มาก เมื่อเคารพมากก็ยกย่องไว้จนสูงส่ง คนไทยยอมก้มกราบพระสงฆ์ได้แม้กระทั่งบนพื้นดิน พื้นทราย โดยไม่รังเกียจ คนไทยส่วนใหญ่แสวงหาของดีของวิเศษที่พอจะหาได้ไปถวายพระสงฆ์ เพราะตระหนักดีว่าพระภิกษุสงฆ์คือ ผู้สืบทอดพระพุทธศาสนา

คนบางกลุ่มพอเห็นจีวรพระสีเหลืองอร่ามผ่านมาก็ยกมือประนมแล้วก้มไหว้โดยฉับพลันด้วยสัญชาตญาณแห่งความเคารพในองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วเชื่อมั่นว่าพระสงฆ์ดีงามไม่น้อยไปกว่าพระพุทธองค์

จะว่าไปแล้วสังคมไทยคุ้นเคยกับความดีงามของพระสงฆ์มากกว่าความด่างพร้อยของพระสงฆ์ แม้ข้อเท็จจริงจะปรากฏเสมอๆ ว่าพระสงฆ์บ้านเราแสดงพฤติกรรมประหลาดๆ ไม่เว้นแต่ละวัน เช่น ใบ้หวย เสกน้ำมนต์พ้นน้ำหมาก ทำเสน่ห์ยาแฝด ปลุกเสกเครื่องรางของขลัง หรือแม้กระทั่งมีเพศสัมพันธ์กับสีกาและเด็กวัด แต่สังคมไทยก็ทำเป็นหลับตาข้างหนึ่งตลอดมาเพราะเชื่อว่ายังมีพระสงฆ์ดีๆ ให้กราบไหว้อีกมาก ส่วนพระสงฆ์แย่ๆ ก็มองข้ามไป

หากจะสาธยายความไม่งดงามของพระสงฆ์คงต้องใช้เวลานาน แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่าไม่มีประโยชน์ที่จะไปพูดถึงสิ่งไม่สร้างสรรค์ แต่วันนี้ต้องกราบขออภัยท่านจริงๆ เพราะจะติติงพระคุณท่านสักเล็กน้อย ติติงด้วยจิตบริสุทธิ์เพราะต้องการเห็นวงการสงฆ์ไทยพัฒนายิ่งๆ ขึ้นไป เพื่อเป็นแสงส่องสว่างสร้างปัญญาและพัฒนาจิตใจของคนไทย

พระคุณท่านคงเห็นด้วยกับกระผมในประเด็นที่ว่า พระดีแม้อยู่แสนไกลก็จะมีญาติโยมดั้นด้นไปหา แต่พระแย่ๆ แม้จะอยู่เต็มบ้านเต็มเมืองก็ไม่ทำให้ประชาชนศรัทธา ดังนั้นถ้าหากในบ้านเมืองของเรามีแต่พระสงฆ์ดีๆ พระเก่งๆ พระนักพัฒนา พระนักปรัชญา พระที่แตกฉานในพระไตรปิฎก พระที่เอาใจใส่กับสังคมและผู้คนในชุมชน เพียงเท่านี้ ประชาชนก็จะยิ่งเคารพ และจะยิ่งช่วยกันทำนุบำรุงพระศาสนา เพียงเท่านี้พระพุทธศาสนาก็จะดำรงยั่งยืน โดยไม่จำเป็นต้องกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญว่าต้องให้พุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไทย

มีญาติโยมตั้งข้อสงสัยว่า ที่พระคุณท่านออกมารวมพลังกดดันสังคมโดยอ้างพระพุทธศาสนาเป็นเครื่องบังหน้า เพราะพระคุณท่านทราบดีว่า พระสงฆ์ส่วนหนึ่งกำลังบั่นทอนและทำลายศรัทธาพุทธศานิกชนรวมถึงประชาชนที่นับถือศาสนาอื่นๆ จึงเข้าใจผิดคิดว่าเมื่อกำหนดหรือบังคับให้บรรจุศาสนาพุทธไว้เป็นศาสนาประจำชาติไทยแล้ววิกฤติศรัทธาต่อพระศาสนาจะหมดไป แต่แท้จริงแล้วหาเป็นเช่นนั้นไม่ เพราะชาวพุทธทุกคนตระหนักดีว่า ถึงอย่างไรพระพุทธศาสนาก็ต้องสถิตสถาวรอยู่คู่กับประเทศไทยและคนไทยตลอดไป ขอเพียงแค่พระสงฆ์ประพฤติปฏิบัติตนให้สมกับความเป็นสมณรูป อย่าประพฤติผิดทำนองครองธรรม อย่าลุ่มหลงในอามิสบูชาจนลืมศึกษาพระไตรปิฎก อย่าเห็นแก่ลาภยศสรรเสริญจนพุทธศาสนิกชนเสื่อมศรัทธา และอย่ามัวเมากับลาภยศตำแหน่งจนไม่ต่างไปจากคฤหัสถ์ที่ยังไม่ละทิ้งเรื่องราวทางโลก ต่อให้ท่านบรรจุว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติไทย แต่วัตรปฏิบัติของพระคุณท่านยังไม่สง่างาม ก็คงไม่ทำให้คนไทยเคารพเลื่อมใสพระสงฆ์ แต่ก็จะต้องกราบนมัสการเรียนพระคุณท่านว่า แม้พระสงฆ์บางรูปจะไม่ดี แต่คนไทยก็ยังคงยึดมั่นในพระพุทธเจ้าตลอดไป เพราะในหัวใจของชาวพุทธทุกคน ยึดมั่นในพระพุทธองค์โดยไม่มีอะไรมาลบล้างได้

เฉลิมชัย ยอดมาลัย แนวหน้า


+++++++++++++++++++++
พระธรรมคำสั่งสอนนั้นเป็น อะกาลิโก อยู่เหนือทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ควรมาเกลือกกลั้ว กับสิ่งที่สร้างจากกิเลส ตัณหา ของมนุษย์ ผู้ทำขึ้น
เราควรที่จะเลือกเคารพพระธรรม มากกว่ายึดติดในปัจเจกบุคคล เพราะบุคคลนั้นยังมีกิเลส แม้บุคคลนั้นๆจะห่มจีวรเหลือง แต่ไม่เคยลึกซึ้งในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเลยแม้แต่น้อย

บางรูปจบเปรียญธรรมหลายประโยค ได้ถึงนักธรรมเอก เข้าใจในทุกตัวอักษรของพระไตรปิฎกครบถ้วน

แต่ไม่เคยเข้าถึงจิตใจ และไม่เคยปฏิบัติได้เลยแม้แต่น้อย

ซึ่งก็ไม่ต่างจากการสร้าง รธน.สวยหรูู คนๆนั้น เข้าใจง่ายทุกตัวอักษร

แต่ก็หลีกเลี่ยงหาช่องหาประโยชน์เพื่อกระทำความผิด โดยไม่เคยลึกซึ้งถึงเจตตนารมย์ของการมีรัฐธรรมนูญเลยซักข้อ

เมื่อศาสนาจะมาปนกับกฏหมายของปุถุชนที่มีกิเลส

มันจึงทำให้เกิดการเสื่อมและหายนะ เท่านั้นเอง เอวัง!!!!!


บันทึกการเข้า

เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน ถ้าไล่พวกโกงกิน ขจัดระบอบทักษิณ ให้ออกไป
engg
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 388


« ตอบ #1 เมื่อ: 25-04-2007, 16:31 »

การกระทำของท่าน เกิดจากตัณหาก็ได้ ฉันทะก็ได้ แต่เมื่อวิเคราะห์คุณวุฒิ และวัยวุฒิแล้ว ท่านกระทำเพราะฉันทะมากกว่า ทำเพื่อคนไทยจะได้พบทางที่เป็นสุข มนุษย์โลกจะได้ทางสู่ความสุข
บันทึกการเข้า
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 25-04-2007, 16:40 »

ไปๆมาๆ หาเหตุผลกันไม่เจอ

ได้ยินการให้ข้อคิดบางความเห็นว่า มีช่องทางให้เอาไว้ได้

และมีการลงรายละเอียดที่ไม่ทำให้เกิดความแตกแยก

แต่ก็เหนื่อย 



พระขี่ช้าง 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-04-2007, 22:23 โดย นทร์ » บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
Limmy
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,346


« ตอบ #3 เมื่อ: 25-04-2007, 18:56 »

แท้ที่จริงแล้วประชาชนส่วนใหญ่นับถือผีเจ้าพ่อเจ้าแม่ ต้นไม้ ตะกวด วุ้นเจล ดินเผา

ต้องระบุไว้ในรัฐธรรมนูญไหมครับ ?
บันทึกการเข้า
engg
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 388


« ตอบ #4 เมื่อ: 25-04-2007, 22:02 »

การกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ เป็นปัยจัยหลักที่มีผลให้พระพุทธศาสนา มีความมั่นคงมีพลัง ที่จะให้ความรู้แก่กลุ่มคนดังกล่าวเลิกการพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มาเป็นพึ่งตนเอง มีพลังที่จะรับการรุกของศาสนาอื่น อย่างที่เกิดในภาคใต้
บันทึกการเข้า
(ลุง)ถึก สไลเดอร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,026



« ตอบ #5 เมื่อ: 25-04-2007, 22:09 »

อย่าถึงกับให้พระต้องแตกแยกออกเป็นสองฝ่าย แล้วใช้ก้อนหินถล่มกันอย่าง
ประเทศเพื่อนบ้านก็แล้วกัน

 
บันทึกการเข้า

(ลุง)ถึก สไลเดอร์
meriwa
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,100



เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 25-04-2007, 22:22 »

การกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ เป็นปัยจัยหลักที่มีผลให้พระพุทธศาสนา มีความมั่นคงมีพลัง ที่จะให้ความรู้แก่กลุ่มคนดังกล่าวเลิกการพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มาเป็นพึ่งตนเอง มีพลังที่จะรับการรุกของศาสนาอื่น อย่างที่เกิดในภาคใต้

ขยายความหน่อยสิ  เอาเหตุเอาผลหน่อย  อย่าพูดลอยๆ บอกมาสิว่าที่กล่าวมามันจะเป็นไปในทางปฏิบัติได้อย่างไร บรรจุแล้วจะทำอย่างไรกันต่อไป

เขียนแบบนี้ก็เหมือนกับพระบางวัดสมัยนี้ที่บอกให้ทำบุญเยอะๆ แล้วจะได้ขึ้นสวรรค์ 
บันทึกการเข้า

ผู้ปกครองระดับธรรมดา   ใช้ความสามารถของตน    อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับกลาง       ใช้กำลังของคนอื่น             อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับสูง           ใช้ปัญญาของคนอื่น           อย่างเต็มที่

                                                                  ...คำคมขงเบ้ง
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 25-04-2007, 22:26 »

สงสัยประเทศไทย  จะถึงทางตันซะแล้วมั้ง

คน พระ ไม่รู้จักสิทธิ เสรีภาพของตนเอง
ว่าขอบเขต มีแค่ไหน  อย่างไหนคือ พอเพียง
บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
ไทมุง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,543



« ตอบ #8 เมื่อ: 25-04-2007, 22:53 »

 ดูทีวี มีภาพข่าวของผู้ชายคนนึง นุ่งห่มขาว โวยวาย โวยวาย มีผู้ชายใส่สูท ร่วมโวยวายบนหลังช้าง

เห็นแล้วอนาถใจ
บันทึกการเข้า
(ลุง)ถึก สไลเดอร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,026



« ตอบ #9 เมื่อ: 25-04-2007, 23:11 »

อย่าให้ถึงกับถลกจีวรเตะปากกันเด้อ
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-04-2007, 23:43 โดย (ลุง)ถึก สไลเดอร์ » บันทึกการเข้า

(ลุง)ถึก สไลเดอร์
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 26-04-2007, 11:18 »

เมื่อคืนตอนสักประมาณ 4 ทุ่มมีรายการสัมภาษณ์พระ ไม่ทราบใครได้ดูมั่งครับ

ผมเห็นพระพูดแล้วไม่อยากดูครับ กิริยาท่าทางไม่สมกับเป็นพระเลยครับ
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
หน้า: [1]
    กระโดดไป: