ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
19-05-2025, 20:50
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  มันคือความจริงทั้งๆ ที่ผม เป็นเครือข่ายคนรักทักษิณชินวัตร 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
มันคือความจริงทั้งๆ ที่ผม เป็นเครือข่ายคนรักทักษิณชินวัตร  (อ่าน 2068 ครั้ง)
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« เมื่อ: 09-04-2007, 00:02 »

อยากให้อ่านบทความข้างล่างนี้อีกครั้ง เพราะมันคือความจริงทั้งๆ ที่ผม เป็นเครือข่ายคนรักทักษิณชินวัตร(ก็อบมาให้อ่านนะครับ)

เคยเชียร์เขาบนอินเตอร์เน็ตห้องพันทิพย์ราชดำเนิน
ลงคะแนนพร้อมกับเชิญชวนหลายคน
ให้เลือกทักษิณทั้งสองสมัย และพยายาม ละเลย
ข้อบกพร่องเรื่องซุกหุ้นภาคหนึ่ง เพื่อให้เขามาช่วยชาติ
แต่วันนี้ทำไมผมต้องกลับลำ พร้อมหันมาต่อต้าน
รัฐบาลทักษิณ และระบอบทักษิณ
และแม้กระทั่งต่อต้านคัดค้านไม่ให้ทักษิณ
มาปกครองบ้านเมืองนี้ต่อไป อย่างเต็มกำลัง
กระทั่งต้องเสียเพื่อนฝูงไปหลายคน
...โปรดไตร่ตรองเรื่องต่อไปนี้อย่างรอบคอบ
และพิจารณาในส่วนลึกของหัวใจคุณว่า
อยากมีส่วนร่วมกับรัฐบาลทักษิณชินวัตร
และพันธมิตรกลุ่มทุนของพวกเขา
ส่งเสริมให้กรณีที่จะเกิดต่อไปในอนาคต
เป็นแบบนี้หรือเปล่า

เมื่อคนไทยใจต่างชาติยอมขายชาติขายอธิปไตยบนแผ่นดินนาน 99 ปี
แลกกันอามิสสินจ้างเพื่อวงศ์ตระกูลของตัว
ถ้าคุณรู้คุณยังจะสนับสนุนหรือไม่!!!???

คนไทยรากหญ้าไม่รู้ ชาวไร่ชาวนาต่างจังหวัดก็ไม่รู้
ไม่รู้เลยว่า ถ้ายังสนับสนุนรัฐบาลไทยรักไทยนี้อีกต่อไป แลกกับแค่เงินกองทุนหมู่บ้านที่ได้มายังไงก็ต้องใช้หนี้ หรือโครงการสามสิบบาทที่ไม่นานก็จะต้องปิดตัวลงหรือ ไม่มีประสิทธิภาพในการรักษา
เพราะยามันจะแพงจากการเปิด FTA กับสหรัฐอเมริกา !!!!

กลเม็ดในการวางหมากยึดประเทศเพื่อผลประโยชน์ของพวกพ้องตนเองแบบนี้ คนไทยรากหญ้าและชาวไร่ชาวนา คนขับแท๊กซี่หรือสามล้อสองล้อ
ตามวินมอเตอร์ไซค์จะไม่มีทางรู้หรอก เพราะวันๆ ต้องทำมาหากินแต่พวกเราที่เป็นคนที่มีความรู้ มีความสามารถ ทำไมไม่คิดจะช่วย
พวกเขาด้วยการต้านทาน กลอุบายขายชาติ ทำลายโครงสร้างของประเทศ?ด้วยการเรียนรู้ และเท่าทันระบอบทักษิณ ระบอบการปกครองที่ประกอบ
ไปด้วยเหล่านักบริหาร นักลงทุนที่...
"คิดแต่จะขายทรัพย์สินแผ่นดินกินลูกเดียว"!!!
กฏหมายที่ บรรดาขุนพลของทักษิณตั้งใจไว้ว่าจะผลักดันให้เป็นจริงนอกจากกฏหมายขายเช่าที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ 99 ปี ก็คือ
อีกไม่นานที่ดินที่นาของตัวเองเมื่อถึงรุ่นลูกรุ่นหลานต้องรับสืบทอดมรดก ก็จะถูก "กฏหมายภาษีที่ดินและภาษีมรดกฉบับปรับปรุง" เล่นงาน!!!!
บีบคั้นให้ต้องขายที่ทิ้ง! เพราะกฏหมายฉบับนี้ มันจะถูกออกแบบมาเพื่อรุกคืบยึดที่ดินจากมือชาวบ้าน ให้มาอยู่ในมือนายทุนและธนาคาร ชื่อไทแต่ใจสิงคโปร์ อย่างถูกกฏหมาย ! ใครเป็นผู้ออกแบบแนวคิดนี้หรือ
ว่ากันว่า ก็คือ "นายสมคิด"
อดีตรัฐมนตรีรัฐบาลทักษิณ
และว่าที่นายกนอมินี! และ "นายพันศัก " นักคิดที่เคยอยู่ในรัฐบาล บุฟเฟ่ท์คาบิเนท์ จนโดยปฏิวัติมาแล้วครั้งหนึ่งก็ยังไม่หลาบจำ!!

เอาละเรื่องแบบนี้ อาจจะไม่มีใครรู้ เรื่องแบบนี้ แม้จะยังไม่เกิดแต่ก็ได้มีการเตรียมการไว้แล้ว โดยมีตัวละครหลักๆ คือ มือขวาของทักษิณชินวัตร ที่ชื่อ "นายบุญคี " โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่า
จะทำให้เสร็จในรัฐบาลทักษิณสองที่ผ่านมา แต่บังเอิญคนไทยรักชาติกลุ่มหนึ่ง ที่ทำมาหากินในกิจการอสังหาริมทรัพย์ ทราบถึงการสุมหัวที่จะออกกฏหมาย
" ขายเช่าที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ให้ต่างชาติเข้ามาครอบครอง" ทำให้สามารถ ดูดกินทรัพยากรในผืนดินได้นานถึง 99 ปี !!! โดยคนที่มีส่วนรู้เห็นและผลักดันเรื่องนี้เป็นอย่างมากเพราะมีส่วนได้เสียในกิจการหลายอย่างที่เกี่ยวพันกับอสังหาริมทรัพย์ คือ
"นายอนันต์ " แห่ง "แลนด์แอนด์เฮ้าส์"
เพื่อนเก่าเกลอแก่ของ "นายบุญคี"นั่นเอง !

เรื่องนี้ไม่ใช่เพียงแค่การวางแผนออกกฏหมายเอื้อสิทธิประโยชน์ให้คนต่างชาติมีแรงจูงใจที่จะเข้ามาซื้อและครอบครองอสังหาริมทรัพย์ ราคาแพงในโครงการของ "แลนด์แอนด์เฮ้าส์" และ "เอสซีแอสเซ็ทของชินวัตร" เท่านั้น แต่ยังแฝงไว้ด้วย
"หมากสุดอันตรายของเครือข่ายกลุ่มทุนจากสิงคโปร์"
ที่รับ แผนการมาจาก "นายลีกวนยิวอดีตนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์" ผู้กุมอำนาจสูงสุดเหนือผู้ลูกอย่าง "นายลีเซียนหลุง" เป็นผู้ริเริ่มแผนการทั้งหมด

หมากสุดอันตรายนั้นก็คือ "แผนการขนย้ายประชากรพลเมืองคนสิงคโปร์" ที่กำลังใกล้จะล้นเกาะสิงคโปร์! ให้มาอาศัยในเขตเศรษฐกิจพิเศษสุวรรณภูมิ
ที่กำลังจะมีการเตรียมการไว้รองรับในอนาคต ซึ่งเรื่องแบบนี้คนไทย
โดยทั่วไปแทบจะไม่เคยรู้ หรือไม่คิดมาก่อน แต่ถ้าถามผู้ใหญ่ ที่เคยขับเคี่ยวกับพวกลีกวนยูซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์มาก่อน
จะทราบดีว่า คนในรัฐบาลสิงคโปร์และนักธุรกิจบางส่วนของสิงคโปร์นั้น
มีแผนที่จะยึดกุมอำนาจทางเศรษฐกิจและดินแดนเหนือมาเลเซียและไทยมานานแล้ว
ซึ่งนายกมหาเธร์แห่งมาเลเซียก็รู้ อดีตผู้นำของไทยหลายๆ คนก็รู้

ส่วน "นายทักษิณชินวัตรและพวก" จะรู้แล้วยังกล้าทำ? เพราะมี"ส่วนได้เสียกับพวกผู้นำทางเศรษฐกิจของสิงคโปร์" หรือไม่?
อนาคตจะเป็นเครื่องพิสูจน์ !!!
อย่างไรก็ดี! ผมใน ฐานะคนไทยที่รักชาติและได้รับการปลูกฝังมาว่าผืนแผ่นดินไทย แม้แต่ตารางนิ้วเดียวก็อย่าขายหรือยกให้ต่างชาติกิน
เพราะแม้แต่เกาะฮ่องกง ที่จีนแผ่นดินใหญ่ ถูกยึดไปในสงครามฝิ่นนาน99ปี
รัฐบาลจีนยังต้องทวงคืนจากมหาอำนาจอย่างอังกฤษเลย โชคดีที่จีนยุคนี้เข้มแข็งพอจะที่อังกฤษจะไม่กล้าใช้อำนาจบาทใหญ่ถือโอกาสยึดครองต่อแต่ไทยเราละ !?

แล้วลองคิดดูในอนาคต ถ้าคนสิงคโปร์มาตั้งถิ่นฐานในเขตเศรษฐกิจพิเศษ
อย่างในจังหวัดสุวรรณภูมิที่ "นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ"

กะลิ้มกะเหลี่ยหวังไวที่จะขายพุงประเทศกิน พื้นที่ไร่สวนไร่นาอันอุดมสมบูรณ์
ของเขตลาดกระบังพื้นที่รับน้ำแก้มลิงตอนนี้ จะถูกแปลงสภาพเป็นเขตอาณานิคมให้เช่าโดย
สิงคโปร์เป็นผู้ยึดครอง ! น้ำที่เคยถูกผลักให้ออกไปไม่ท่วมกรุงเทพก็จะถูก
เขตปกครองพิเศษสุวรรณภูมิ ที่สิงคโปร์มีอิทธิพลเหนือเรียกเก็บค่าเช่าค่าใช้
บริการคลองระบายน้ำ ! ไม่ให้ท่วมกรุงเทพ+ แหล่งท่องเที่ยว ชายหาดสวยงามที่เกาะสมุย เกาะเสม็ด
เกาะพีพี เกาะช้าง จะถูกอำนาจเงินอำนาจทุนจากแบงค์ชื่อไทใจสิงคโปร์เข้ากว้านซื้อหมด คุณคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้น ชายหาดสวยงามที่เราเคยไปใช้ชีวิตแบบพอเพียงค่าเช่าบังกะโลไม่กี่ร้อยบาท
จะถูกแปลงสภาพจากการท่องเที่ยวแบบพอเพียงกลายเป็นการท่องเที่ยวเพื่อ
ให้กลายเป็นอุตสาหกรรมอย่างสมบุรณ์แบบ และเมื่อนั้น ชายหาดที่เราเคยเดิน
เล่นอย่างสบายอย่างเสรี อาจจะถูกปักป้ายไว้ว่า  "คนไทยห้ามเข้ากรุณาชำระค่าผ่านทาง" ก็ได้!!!

นี่คือเหตุผลที่นายกฯ
เสนอให้จัดตั้งสุวรรณภูมิเป็นเขตปกครองพิเศษขึ้นมาใหม่เป็นจังหวัดสุวรรณภูมิ
เพื่อเตรียมพร้อมไว้ให้ชาวสิงคโปร์โดยเฉพาะและการตรวจสอบก็ต้องเป็นแบบพิเศษผ่านจากนายกฯคนเดียวเท่านั้นเห็นหรือยังว่าคนที่ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เค้ารักประเทศไทยขนาดไหน
ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะทวงคืนประเทศไทย

ลอกมาจาก ราชดำเนินกลับใจไกรฤกษ์ ไมตรี
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #1 เมื่อ: 09-04-2007, 00:56 »

เคยเห็นคนโพสต์ว่า กฏหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษที่จะประกาศใช้กับจังหวัดสุวรรณภูมิ นี้

มีอยู่ข้อ หนี่งที่ตรา ว่า ห้ามยึดทรัพย์ผู้ที่อยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ

ไม่ทราบว่า จริงเท็จประการใด 
บันทึกการเข้า
*bonny
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,459



« ตอบ #2 เมื่อ: 09-04-2007, 07:14 »

แสดงว่า คนเขียนเป็นคนที่มีภูมิปัญญา กล้ากลับลำ ก่อนเรือจะอับปราง

เรื่องที่กล่าวคนที่ต่อต้านทักษิณแบบถึงแก่นรู้กันมาตั้งหลายปีแล้วล่ะครับและก็พยายามที่จะชี้แจง อธิบายให้พวกรักทักษิณฟัง  แต่กลับถูกหาว่า เป็นปชป. เป็นพวกกะทิ


เรารู้มานานแล้วว่า ประเทศจะถูกฮุบโดยระบอบทักสิงค์

ดีใจที่คนรักทักษิณบางคนกลับตัวได้ทัน แต่ยังมีอีกหลายแสนหลายล้านที่ตามืดบอดอยู่และไม่มีวันที่จะสว่างได้
บันทึกการเข้า

ประเทศชาติมีภัย  เสรีไทยร่วมกอบกู้
public limited
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 161


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 09-04-2007, 08:13 »

กลับใจได้หนึ่งคนฝ่ายโน้น เหมือนได้พลังสมาชิกมาเพิ่มหลายคนของฝ่ายนี้
เพราะเมื่อเขาตระหนักได้ด้วยตัวเองแล้ว ย่อมมีแรงฮึดที่ต้องยืนหยัดต่อสู้อย่างแข็งขัน ยิ่งกว่าคนที่ไม่เคยพลาดพลั้ง

น่ายินดีนะครับ และพวกเราก็ต้องสู้กันต่อไป แม้ฝ่ายโน้นคนจะแถคนจะถากเราแค่ไหน ถ้าสิ่งที่เราบอกไป ทำให้เขาเปลี่ยนมุมมองสว่างขึ้น อย่างน้อยได้มาหนึ่ง ก็เป็นกำลังใจให้พวกเราได้มาก ว่ายังมีผลสัมฤทธิ์ สร้างประโยชน์ช่วยคนให้พ้นจากบ่วงทาสขึ้นมาสู่เสรีภาพ

  สู้ต่อไป ทาเคชิ !!!
บันทึกการเข้า

เปิดความคิด พิชิตความไม่รู้ ต้องดู-ต้องอ่าน-ต้องฟัง และสิ่งสำคัญคือมีคุณธรรมต่อชาติบ้านเมือง
buntoshi
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,348



« ตอบ #4 เมื่อ: 09-04-2007, 09:38 »

กลับใจได้หนึ่งคนฝ่ายโน้น เหมือนได้พลังสมาชิกมาเพิ่มหลายคนของฝ่ายนี้
เพราะเมื่อเขาตระหนักได้ด้วยตัวเองแล้ว ย่อมมีแรงฮึดที่ต้องยืนหยัดต่อสู้อย่างแข็งขัน ยิ่งกว่าคนที่ไม่เคยพลาดพลั้ง

น่ายินดีนะครับ และพวกเราก็ต้องสู้กันต่อไป แม้ฝ่ายโน้นคนจะแถคนจะถากเราแค่ไหน ถ้าสิ่งที่เราบอกไป ทำให้เขาเปลี่ยนมุมมองสว่างขึ้น อย่างน้อยได้มาหนึ่ง ก็เป็นกำลังใจให้พวกเราได้มาก ว่ายังมีผลสัมฤทธิ์ สร้างประโยชน์ช่วยคนให้พ้นจากบ่วงทาสขึ้นมาสู่เสรีภาพ

  สู้ต่อไป ทาเคชิ !!!

เห็นด้วยครับ

ผมยอมรับที่จะถูกด่าถูกว่าได้ ถ้าทำให้ คนไทยแม้แค่ 1 คนกลับใจมารักชาติ และไม่สนับสนุนคนที่จะขายชาติเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง
บันทึกการเข้า


เราต้องสร้างคนดีมากกว่าคนเก่ง เพราะคนเก่งจะเห็นคนอื่นเก่งกว่าไม่ได้ จะพยายามเก่งกว่าคนอื่น แต่คนดีจะมีความสุขที่ได้ทำให้คนอื่นเก่ง รวมทั้งคนดีทุกคน ล้วนเก่งทั้งนั้น....  ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
---------------------------
เซอร์เวย์
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 168



« ตอบ #5 เมื่อ: 09-04-2007, 11:00 »

อย่างน้อยก็มีคนที่ดวงตาเค้าเห็นธรรมแล้ว ธรรม คือ ความจริงที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ นี่แหละคือคนที่มีสติปัญญาสามารถแยกแยะผิดชอบชั่วดีได้ด้วยตัวเอง ถือว่าบรรลุธรรมได้ขั้นหนึ่งแล้ว

 
บันทึกการเข้า

หัวใจถูกแทงกี่ขั้ว ตามตัวถูกฟันกี่แผล
ปู่ไทยตายไปกี่คนแน่ ไทยจึงได้แผ่มาถึงแหลมทอง
กระดูกไทยกระเด็นไปกี่ท่อน เชิงตะกอนเผาไปกี่หน
คอขาดกันไปกี่คน ไทยทุกคนจึงได้ไทยครอบครอง
เสียเลือดกันไปเท่าไหร่ เสียใจกันไปกี่ครั้ง
น้ำตาของไทยไหลหลั่ง ทุกๆครั้งที่ถูกเฉือนขวานทอง
เข่นฆ่ากันทำไม เราเป็นคนไทยด้วยกันทั้งผอง
ไทยฆ่าไทย ให้ชาติอื่นครอง
วิญญาณปู่จะร้องไอ้ลูกหลานจั***
ไทยฆ่าไทยให้ชาติอื่นครอง
วิญญาณปู่จะร้องไอ้ลูกหลานจั***
วิญญาณปู่จะร้องไอ้ลูกหลานจั***
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 09-04-2007, 15:16 »

แต่ลองมองดูคนในบอร์ดนี้ยังกลับตัวกันไม่ได้เลยสักคน

ยังไงก็ยังงั้น รักษาระดับมาตรฐานกันได้ดีจริงๆพับแผ่
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #7 เมื่อ: 09-04-2007, 18:21 »

คนๆนี้
เยี่ยมครับ
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
เช็คบิล
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 580



« ตอบ #8 เมื่อ: 13-04-2007, 16:39 »

สู้ๆ น่ะ ผมก็คิดแบบเดียวกับคุณนั่นแหละ แต่ไม่ปลื้มกับหน้าเหลี่ยมมาตั้งแต่แรกแล้วล่ะ
บันทึกการเข้า
พิเภกอินเตอร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,028



« ตอบ #9 เมื่อ: 14-04-2007, 23:49 »

ปลอบใจกันเองในนี้ได้
อย่าเพ่นพ่านข้างนอก เข้าใจ๋
การบวชเรียนไม่ทำให้จิตดีขึ้น
คงบวชผิดวัด ได้ จาน ผิดเพศ...
บันทึกการเข้า

"พิเภกอินเตอร์"มาให้อาหาร "กบในกะลา" ด้วยกุศล เจตนา ขออย่ามีเวร และ กรรมต่อกันเลย สาธุ...อิอิอิ
Tam-mic-ra
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 603


« ตอบ #10 เมื่อ: 15-04-2007, 04:45 »

หวัดดี พิเภกอินเตอร์ ครับ ไม่ได้เจอเสียนาน


ผมขอถาม จขกท เป็นความรู้ครับ  ที่เนื้อความในกระทู้บอกว่าทักษิณขายชาติ
ช่วยวิจารณ์ เรื่อง  ปรส  หน่อยได้ไหมครับ  ว่าต่างกันยังไง 
ขออธิบายขยายเหตุผลจุดอื่นๆให้ผมเป็นความรู้  ที่ได้จากกระจกอีกด้านน่ะครับ
ผมยอมรับว่าไม่มีความรู้อีกด้านนึงที่จะคิดเองได้ได้  และผมไม่ได้มีเจตนา เบื้องลึกใดๆ
ผมเคารพ ภาษา และ สำนวน คคห ของ จขกท ครับ

ปล  ผมอ่านแล้วมีน้ำหนักใช้ได้ครับ  ถ้าเป็นความจริงก็น่ากลัวมากๆ  แต่ผมหากะทู้"ราชดำเนินกลับใจไกรฤกษ์ ไมตรี " ที่คุณลอกมาไม่เจอ
ช่วยนำไปโพสต์ซ้ำใน รดน. ด้วย ครับ ผมอยากอ่าน คคห ที่เห็นต่าง
บันทึกการเข้า
aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #11 เมื่อ: 15-04-2007, 09:19 »

ชี้ พ.ร.บ.อัปยศ"นครสุวรรณภูมิ"เมืองขึ้นทักษิณ


โดย ผู้จัดการรายวัน
 19 กรกฎาคม 2549 22:03 น.


ผู้จัดการรายวัน - “เครือข่ายจุฬาฯ” ระบุร่างพ.ร.บ.เขตปกครองพิเศษ มหานครสุวรรณภูมิ เอื้อประโยชน์ทักษิณ-นักการเมือง จงใจยกเว้นมาตรา 73 เปิดทางโกยผลประโยชน์นาน 8 ปี โดยไม่เปิดช่องให้หน่วยงานกลางเข้าไปตรวจสอบ ทั้งอนุมัติโครงการ คุมนโยบาย ก่อนทิ้งปัญหาผูกพันระยะยาว ชี้อยู่นอกเหนือจากกฎหมายการปกครองส่วนท้องถิ่นที่โดยยกเว้นหมวด 9 ในกฎหมายรัฐธรรมนูญ ด้าน”ต่อตระกูล ยมนาค” ยันเป็นกฎหมายเถื่อนที่ออกโดยคนบางกลุ่มไม่ใช้ความต้องการของประชาชน ให้อำนาจนายกล้นฟ้า ยกเลิก-อนุมัติได้ทุกอย่างกระทั่งผังเมือง
       
       วานนี้ (19 ก.ค.) เครือข่ายจุฬาฯเชิดชูธรรม นำประชาธิปไตย ร่วมกับสถาบันสหสวรรษ จัดการเสวนาภาคประชาชนหัวข้อเรื่อง “เปิดโปงขุมทรัพย์...มหานครสุวรรณภูมิ” โดยมีนายสัก กอแสงเรือง รักษาการ สมาชิกวุฒิสภากรงเทพมหานคร นายต่อตระกูล ยมนาค อดีตกรรมการสภาสถาบันเศรษฐกิจและสังคมฯ และนางนวพร เรืองสกุล นักวิชาการเศรษฐศาสตร์ และนักเขียน เป็นวิทยากรบรรยายพิเศษ โดยมีนายวุฒพงษ์ เพรียบจริยวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการสถาบันสหสวรรษ เป็นผู้ดำเนินรายการ
       
       นายสัก กอแสงเรือง กล่าวว่า การออกพระราชบัญญัติเขตปกครองพิเศษ ซึ่งขณะนี้เป็นร่างกฎหมายเขตปกครองพิเศษมหานครสุวรรณถูมิ นั้นมีข้อสังเกตหลายอย่างที่เป็นการเอื้อประโยชน์ และให้อำนาจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี แบบเบ็ดเสร็จในการบริหาร ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วอำนาจที่ให้ดังกล่าวมีครอบคลุมและมากกว่า อำนาจที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติเขตเศรษฐกิจพิเศษที่มีการคัดค้านไม่ให้มีการประกาศใช้ถึง 2 เท่าตัว
       
       ในระยะแรกของการบริหารงานมหานครสุวรรณภูมินั้น มีการกำหนดให้ใช้กฎหมายในพระราชบัญญัติเขตปกครองพิเศษ ในมาตรา77-101 เท่านั้น โดยยกเว้นการบังคับใช้กฎหมายในมาตรา 1- 73 ออกไป ซึ่งจะทำให้ในระยะเริ่มต้นนั้น การบริหารงานนครสุวรรณภูมิ มีรูปแบบการบริหารงานแบบจังหวัดโดยมีผู้ว่าการสุวรรณภูมิ เป็นผู้คุมอำนาจในการบริหาร และมีนายยกรัฐมนตรีเป็นประธาน และมีคณะกรรมการบริหาร ซึ่งเป็นตัวแทนจากองค์กรบริหารส่วนตำบล (อบต.) และผู้แทนจากองค์กรบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ไม่เกิน 5 คน ทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการบริหาร มีอำนาจในการลงมติอนุมัติงานบริหารทุกเรื่อง
       
       **ออกกฎเอื้อ”ทักษิณ”ใหญ่คับฟ้า**
       
       “ อำนาจในการคัดเลือกผู้ว่าการมหานครสุวรรณภูมิ คณะรัฐมนตรีมีอำนาจในการแต่งตั้ง โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในการคัดเลือก นอกจากนี้ในมาตรา 67 ยังกำหนดให้การบริหารงานนครสุวรรณภูมิ 4 ปีแรก และสามารถต่ออายุได้อีก 4 ปี ไม่ต้องบังคับใช้ มาตรา 1-73 ซึ่งเท่ากับว่าเปิดโอกาศให้มีการหาผลประโยชน์จากการบริหารงานได้โดยไม่มีการตรวจสอบจากหน่วยงานกลางหรือหน่วยงานอิสระในระยะ 8 ปีหลังจากที่มีการประกาศให้เป็นนครสุวรรณภูมิ และนอกจากนี้หลังจากพ้นระยะ 8 ปีที่มีการยกเว้นการบังคับใช้มาตรา 1-73 แล้วมาตรา 62. ยังกำหนดให้รัฐมนตรีมีอำนาจในการเพิกถอนมติของของสภาสุวรรณภูมิได้ด้วย” นายสัก กล่าว
       
       นายสักกล่าวว่า การกำหนดให้มีนายกรัฐตรี เป็นประธานในการบริหารงาน เช่นเดี่ยวกับพระราชบัญญัติเขตเศรษฐกิจพิเศษ นั้นเท่ากับว่าให้อำนาจในทุกเรื่องในการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นการยกเลิก หรืออนุมัติโครงการใดๆ ก็ตาม ซึ่งตามมาตรา 70 ที่กำหนดในพรบ.เขตปกครองพิเศษ กำหนดให้รัฐบาลมีอำนาจในการเข้ามาตั้งกรรมการบริหาร และผู้ว่าการได้ เท่ากับว่าเป็นการเปิดช่องให้รัฐบาลแฝงตัวเข้ามาบริหารงานในนครสุวรรณภูมิได้ ซึ่งไม่แตกต่างอะไรกับการที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดที่อยู่ใต้การสั่งการและปกครองของผู้นำรัฐบาล
       
       นอกจากรัฐบาลมีอำนาจในการกำหนดนโยบายการบริหารประเทศแล้ว ยังมีอำนาจในการกำหนดนโยบายในมหานครสุวรรณภูมิด้วย ซึ่งในความเป็นจริงการกำหนดนโยบายบริหารนครสุวรรณภูมิต้องมากจากความต้องการของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะในมาตรา 70 (1) กำหนดว่าให้คณะกรรมการมีอำนาจในการเห็นชอบในโครงการที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยสามารถยกเลิกเขตพื้นที่ที่เกิดผลกระทบสิ่งแวดล้อมได้
       
       **เปิดทางนักการเมืองงาบโดยไม่มีการตรวจสอบ**       

       ส่วนในเรื่องของรายได้ที่เกิดจากการบริหารมหานครสุวรรณภูมิ นับว่ามีการกำหนดไว้กว้างมาก โดยในมาตรา 92 ได้ให้อำนาจว่าไม่ต้องมีการส่งรายได้ต่อกระทรวงการคลัง ไม่ต้องมีการทำงบประมาณเบิกจ่าย ไม่มีบทบัญญัติว่าด้วยการจัดการงบประมาณรายจ่าย หรือการตรวจสอบงบการเบิกจ่าย ซึ่งเป็นการเปิดช่องให้มีการหาผลประโยชน์ ได้โดยไม่มีการตรวจสอบ ซึ่งทำให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบการทุจริตได้ เพราะไม่มีการทำงบเบิกจ่าย
       
       ดังนั้น ร่างกฎหมายเขตการปกครองพิเศษดังกล่าว จึงบ่งชี้หรือแสดงให้เห็นว่าการมีนายกเป็นประธานเท่ากับเป็นการเปิดโอกาส ให้คุมนโยบายการบริหารงานและการอนุมัติโครงการได้โดยไม่มีการตรวจสอบ หรือกล่าวได้ว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ เป็นการสร้างกฎหมายใหม่ ที่นอกเหนือไปจากกฎหมายการปกครองท้องถิ่นที่มีอยู่แล้ว ซึ่งปัญหาที่ตามมาคือ มหานครสุวรรณภูมิจะมีรูปแบบการปกครองที่ไม่อยู่ภายใต้การ บริหารงานแบบการปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นการยกเว้นหมวด 9 ของกฎหมายรัฐธรรมนูญ ในเรื่องการปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งยกเว้นในเรื่อง การบริการงานโดยท้องถิ่น การเงิน งบประมาณ การร่วมทุน โครงการโครงสร้างสาธารณูปโภค สาธารณูปการ ที่ปราศจากการตรวจสอบ
       
       นายสักกล่าวต่อว่า สิ่งที่ตามมาหลังจาก 8 ปีที่มีการบริหารงานโดยมีนายกเป็นผู้กุมอำนาจในการตัดสินใจการบริหารงาน คือสัญญาผูกพัน จากการให้สัมปทาน และอีกมากมาย ซึ่งในที่สุดสิ่งตามมาก็คือ ต้องนำเงินภาษีของประชาชนทั้งประเทศเข้ามาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งนี้หากมีการประกาศใช้ ร่าง พรบ.เขตการปกครองพิเศษ เมื่อพิจารณาแล้ว พบว่าจริงๆ ขุมทรัพย์เป็นของใคร ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นของเครือข่ายนักการเมือง ซึ่งในขณะนี้ต้องถามว่า ใครบ้างที่ถือครองที่ดิน อยู่จำนวนมาก ซึ่งบางแปลงมีมูลค่าถึง 6-7 พันล้านบาท และหากมีการประกาศใช้ร่างพรบ.ฉบับนี้ มูลค่าที่จะตามมาจาก 6-7 พันล้านก็จะกลายเป็น 6-7 หมืนล้านบาท
       
       นอกจากนี้ สิ่งที่จะตามมาก็คือประชาชนในพื้นที่จะถูกเบียดบังจากอำนาจเบ็ดเสร็จ เพื่อนำมาสร้างเป็นเมือง ผลประโยชน์ต่างๆ จากการก่อสร้างจากการอนุมัติโครงการก่อสร้าง ระบบสาธารณูปโภค สาธารณูปการ รถไฟฟ้า โรงพยาบาล ทั้งของรัฐบาลและเอกชน บริการสถานบันเทิง สัมปทานต่างๆ ที่จะถูกแปรรูปเป็นทรัพย์ เป็นทุน ในรูปแบบต่างๆ การให้สิทธิ์ผูกขาดต่างๆ ที่เขากอบโกยไป เชื่อว่ามากกว่า การขายหุ้น 7.3 หมืนล้านแน่นอน
       
       “ร่างกฎหมายดังกล่าว ที่ออกมาอยากจะบอกว่าเป็นกฎหมายเถื่อน ที่ร่างและออกมาโดยคนบางกลุ่ม ซึ่งจริงๆ แล้วกฎหมายที่จะมีการประกาศใช้นั้น ต้องมาจากความต้องการของประชาชน และนำผ่านขั้นตอนต่างๆ จนเกิดเป็นกฎหมาย แต่ที่เกิดอยู่ในขณะนี้ เป็นการร่างตามความต้องการของคนบางกลุ่มเท่านั้น“ นายสักกล่าว
       
       **คลอดกฎผังเมืองเอื้อนายทุน**
       
       ด้านนายต่อตระกูลกล่าวว่า เดิมที่พื้นที่หนองงูเห่าก่อนที่จะมีการนำมาสร้างเป็นสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นพื้นที่รับน้ำ(แก้มลิง)ตามโครงการพระราชดำริของในหลวง ซึ่งไม่เหมาะกับการนำมาก่อสร้างตึกอาคารสูงบ้านที่อยู่อาศัย แต่นักวิชาการเสนอแนะให้เป็นเมืองน้ำ ซึ่งในการประกาศให้เป็นมหานครสุวรรณภูมินี้ เป็นเรื่องที่ขัดจากลักษณะของพื้นที่ ทำให้ในการกำหนดผังเมืองหรือออกประกาศ มีการกำหนดให้ในพื้นที่ 500 ตารางกิโลเมตรที่จะตั้งมหานครสุวรรณภูมินี้ สามารถใช้งานก่อสร้างได้เพียง 30% ของพื้นที่เท่านั้น
       
       ทั้งนี้ ในพรบ. เขตปกครองพิเศษ ที่จะประกาศใช้นี้กลับ มีการเอื้อประโยชน์ โดยการให้สามารถมีการยกเลิกข้อกำหนดข้อบังคับได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการยกเลิกผังเมือง และสิ่งจำเป็นต่างๆได้ทุกอย่าง ซึ่งไม่ได้ตรงกับความต้องการของประชาชน
       
       นอกจากนี้ การออกผังเมืองของมหานครสุวรรณภูมิ ยังเป็นการออกผังเมืองที่เอื้อประโยชน์ให้นักเก็งกำไรที่ดิน เนื่องจากมีการกันพื้นที่ 20,000 ไร่ไว้เป็นพื้นที่ รับน้ำแล้ว รัฐบาลยังมีแผนจะขุดแม่น้ำเจ้าพระยา 2 เพื่อเป็นทางระบายน้ำ โดยได้มอบหมายให้กรมชลประทานไปศึกษาและมีกระทรวงเกษตรเป็นผู้กำกับดูแล คาดว่าจะใช้งบประมาณ 8,400ล้านบาท ระยะความยาว 15 กิโลเมตร ซึ่งเมื่อคำนวณแบ่งแปลงที่ดินริมฝั่งน้ำทั้ง 2 ด้านแล้ว จะขายได้ประมาณ 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งต้องใช้งบประมาณ จากเงินภาษีของประชาชนไปใช้ในการขุดแต่เพิ่มมูลค่าให้ที่ดินของนายทุน และกลุ่มคนบางกลุ่ม
       
       ในขณะที่นางนวพร เรืองสกุล กล่าวเห็นด้วยว่า มหานครสุวรรณภูมิ เป็นการนำเงินประชาชนมาพัฒนาให้คนบางกลุ่มและในที่สุดก็ถูกขโมยและหาประโยชน์จากคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น

.....ผู้จัดการ

 
http://www.parliament.go.th/news/news_detail.php?prid=19651

ขอนำมาโพสต์ซ้ำอีกครั้งค่ะ ขอบคุณรัฐบาลนี้ที่ยกเลิก พรบ. อัปยศนี้ไปแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-04-2007, 09:31 โดย aiwen^mei » บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #12 เมื่อ: 15-04-2007, 11:53 »

^
ข่าวจากผจก. ลิ่วล้อทักษิณไม่เชื่อหรอกครับ
ต้องข่าวจาก"พ่อมัน"ออกมาทีดีดดิ้นเป็นไส้เดือนถูกน้ำร้อน 555
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: