ทุกข์ของน้าทักษิณ
ผม พึ่งไปกินข้าวกับญาติสนิทของทักษิณมา ที่ทักษิณเรียกหาเสมอ ก็ไม่มีอะไรมากนัก พูดคุยกันเรื่องน้าทักษิณ ผมก็ถามถึงทุกข์และสุขของน้าทักษิณ อดีตนายกที่ผมชื่นชมมาก และรักมาก เพราะน้าเขาเห็นใจคนจน คนด้อยโอกาศ และคนที่ถูกสังคมลืมและมีความหมายน้อยมาก ในสังคมที่ชื่นชมคนรวยและเงินทอง ของคนมีอันจะกินกรุงเทพ ที่กำลัง "อาบไออุ่น" จากการโค่นล้มน้าทักษิณสำเร็จ แล้วเอาเผด็จการมากดขี่ทุกภาคส่วนของไทย นอกจากวงในของคณะปฏิวัติ
มันก็แปลกดี คนเราเป็นถึงนายกมา อำนาจล้นฟ้า นึกว่าน้าทักษิณจะ "ยังกระหายอำนาจ เพราะรู้สึกตัวว่าวันนี้หมดค่า" แต่เปล่า ญาติทักษิณ บอกว่านอกจากถ้าคนเป็นล้านเดินขบวนเรียกร้องให้ทักษิณกลับมาเป็นนายก "ทักษิณพอเพียงแล้ว" สำหรับการมีอำนาจล้นฟ้า คือไม่เอาอีกแล้ว การเป็นนายกไทย "ทักษิณเขารู้ตั้งแต่ก่อนเป็นนายกแล้วว่า วิสัยทัศของเขาที่เน้นคนจน มันเหมือนเปลวไฟบนเทียน ดับลงได้ตลอดเวลา" เขาพูดให้ญาติๆฟังเสมอว่า "อยู่มาได้นานแค่นี้ ช่วยให้คนมีหวังขึ้นมาได้แค่นี้ ทำให้เศรษฐกิจดีได้แค่นี้ ก็พอใจแล้ว" สรุปคือในขณะที่สื่อและคณะปฏิวัติ "กำลังพยายามปั้นให้ทักษิณเหมือนคนกระหายอำนาจไม่รู้จบ ทักษิณเขาปล่อยวางพอเพียงมานานแล้ว"
แล้วก็แปลก ที่ขนาดถูกจองล้างจองเผาขนาดนี้ ด้วยการถูกตามจับโกงกิน ถึงขนาดจะยึดทรัพย์กัน ไม่ก็ปรับเป็นหมื่นล้าน จะเอา ลูกและเมียเข้าคุก และถูกแฉว่าสุดโกงกิน โดยคณะปฏิวัติและพลพรรค ทุกวันตามสื่อ จนเสียชื่อเสียง แบบสุดจะเหวี่ยงแหและใช้การตีความ เป็นส่วนมาก ทักษิณกลับบอกญาติว่า "อาจจะผิดระเบียบและกฏเล็กๆน้อยๆไปบ้าง แต่ผมไม่เคยโกง และสบายใจเรื่องนี้เพราะเชื่อในความบริสุทธิของตัวเอง จะเป็นเกราะที่ทำให้พ้นภัยนี้ไปได้" ผมก็ย้อนถามญาติทักษิณว่า แต่เขาปักธงชัยไว้แล้ว ว่าโกง และกระบวนยุติธรรมไทย สมัยนี้ก็ปักธงชัยเหมือนกัน คงจะตีความกันออกมาเพื่อให้เอาผิดให้ได้อย่างเดียวแน่นอน "ทักษิณไม่กลัวหรือ" ญาติทักษิณก็บอกว่า "ญาติๆพูดเหมือนคุณทวีวุฒิหมดทุกคน" แต่ทักษิณบอกว่า "ยิ่งผิดจริยธรรมและจรรยาบรรน ยิ่งไม่ยุติธรรมแค่ไหน คนจะเห็นขึ้นมากแค่นั้นว่าความจริงคืออะไร สื่อไทยจะคล้อยตามเขา รุมยำผมเหมือนเดิม แต่ในระดับโลกแล้ว ความจริงจะออกมา ให้โลกเห็น ก็ขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจ ว่าเลือกอะไร"
แล้วมันก็แปลกดี ที่คนที่สร้างพรรคใหญ่โตและมั่นคง และได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงมากมายถล่มทลายทุกครั้ง จะไม่เสียใจที่พรรคทรท ถูกทำลายลงอย่างต่อเนื่องมาเรื่อยๆ จนพูดง่ายๆ ไม่น่าจะเหลือซากให้เห็นมากนักในสามสี่ปีข้างหน้า และที่สำคัญอย่างญาติทักษิณบอกผม "แค่สนธิ ลิ้มทองกุลใช้สื่อในมือเจ้าเดียว ทักษิณยังล้มไม่เป็นท่า" คือแปลก ที่ทักษิณ ไม่เสียดายหรือยึดติดกับ วันก่อนๆ ไม่โกรธใคร ไม่อาฆาตสนธิ ลิ้มทองกุล ไม่อาฆาตคณะปฏิวัติ แต่พร้อมร่วมมือกับทุกคน ในการทำให้ไทย "เดินต่อไปข้างหน้าอย่างสงบ"
ญาติทักษิณบอก ผมว่า "ทักษิณเขาบอกตั้งแต่ถูกปฏิวัติแล้วว่า เขารู้แพ้รู้ชนะ แค่นั้นน่าจะพอแล้วนะ คือต้องให้ นายกเก่าถึงกับต้องออกมาพูดตรงๆเลยหรือ ว่าเขาแพ้แล้ว ยอมแล้ว ปัญหามันคือ คณะปฏิวัติและสื่อไทย ตามจิกเขาไม่มีที่สิ้นสุด ต้อนเขาเข้ามุมตลอดเวลา ทั้งที่เขายอมแพ้แล้ว คือจะเอากันให้ตาย แล้วทักษิณเขาไปทำอะไรเลวขนาดต้องถูกจับแขวนคอ โดยยังไม่ผ่านกระบวนยุติธรรมด้วยซ้ำ" ผมก็ถามแล้วออกมาตอบโต้ทำไม ทำไมไม่ติดต่อไปยังคณะปฏิวัติ แบบเงียบๆเป็นความลับ ว่าผมพอแล้ว ไม่ต้องกลัว ญาติทักษิณก็บอกว่า "ติดต่อไปแล้วแต่ไม่ได้ผล กลับถูกกล่าวหากลับมาว่าอยู่เบื้องหลังคลื่นใต้น้ำ สนับสนุนการเงินให้คนต่อต้านคณะปฏิวัติ" ญาติทักษิณบอกต่อว่า "ทักษิณบอกว่า พวกปฏิวัติเชื่ออย่างนั้นจริงๆ แล้วเวลาคนเราเชื่ออะไร ยิ่งระดับผู้หลักผู้ใหญ่ขนาดนั้น มันพูดถึงข้อมูลและความจริง และเหตุผล ยาก มันทำให้ไม่เห็นความจริงใจกัน"
แล้วผมก็ถามว่า "ตกลงทักษิณเป็นพระไปแล้วหรือ ถึงนิ่งและเย็นและสงบ ขนาดนี้ ไม่มีอะไรเลยหรือที่เป็นทุกข์" ญาติทักษิณ ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนบอกว่า "ทักษิณห่วงประชาธิปไตยในไทยมาก ทักษิณห่วงในหลวงมากเพราะพอเพียงกำลังถูกมองในแง่ลบ ทักษิณห่วงเศรษฐกิจไทยมาก แต่ถ้าถามว่าห่วงเรื่องพวกนั้นจนเป็นทุกข์ไหม คำตอบคือไม่ถึงขนาดนั้น" ผมก็ย้ำ "ผมไม่เชื่อพี่หลอกว่าทักษิณไม่มีทุกข์อะไรเลย"
ญาติทักษิณก็บอกว่า "ทักษิณเป็นทุกข์อยู่เรื่องเดียว ที่ญาติๆทุกคนเป็นห่วงกันมาก คือทักษิณ เหงาและคิดถึงเพื่อน มันก็ธรรมชาติหละนะ สำหรับคนที่เคยถูกห้อมล้อมตลอดเวลา มีแต่เพื่อนอยากเข้าหา มีแต่คนอยากเป็นเพื่อนด้วย" สำหรับคนเกลียดทักษิณแล้ว ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ หลังจากอ้วกมาแล้วหลายหน จนท้องว่าง คงจะ "สมน้ำหน้า ทักษิณคนชั่ว" ว่าดีแล้ว อยู่คนเดียว ในคุกที่เรียกว่า ขังให้อยู่นอกประเทศตัวเอง ไม่มีเพื่อนให้หัวเราะและหาความสุขสนุกสนานด้วย หัวเดียวกระเทียมรีบ แคว้งอยู่ในโลกกว้าง
"ทักษิณมักเดินฝ่าหมอก หนาวเย็นของอังกฤษ ไปนอกบ้านคนเดียว พวกเรามองตามออกไป เห็นเงาของทักษิณสลัวๆในแสงไฟ รัฐบุรุษไทย มักจบลงแบบนี้ เดียวดายหนาวเย็นในหมอกของยุโรป พวกญาติเข้าใจดี เขาคิดถึงเพื่อนและเมืองไทยมาก"
"แล้วทำไมไม่กลับ เห็นข้อแม้คือห้ามเรื่องการเมืองเท่านั้น" เขาก็เชิญแล้ว ญาติก็บอกว่า กลับมาก็ต้องอยู่แต่ในบ้าน เพราะทำอะไรก็จะถูกกล่าวหาว่าการเมืองไปหมด แล้วจะมีสื่อตามทุกก้าว คนสนับสนุนก็ห้ามยาก คนเกลียดชังก็จะตามไปด่าทุกที่ "ทักษิณเขาพูดเองว่าไม่อยากเป็นแบบ ออง ซาน ซูจี เขาบอกว่าเปิดโอกาศให้คมชและรัฐบาล ทำงานกันเต็มที่ มีอะไรเขาช่วยได้ให้บอก เขาจะไม่กลับมาเป็นภาระให้ชาติ"
"ถ้า งั้นทำไมไม่ออกงานให้มากขึ้นในต่างประเทศ และเห็นบอกมาว่าสื่อนอกรุมตามเป็นสิบๆ หรือริเริ่มธุรกิจก็ได้ อย่างที่เป็นข่าวลือว่าทำอยู่ในฮ่องกงและจีน" ญาติก็บอกว่า "แค่จะซื้อบ้านยังต้องมาเบิกกับคมช จะเอาเงินที่ไหนไปทำธุรกิจ แล้วทักษิณไม่อยากมีปัญหาเช่นสิงค์โปร์อีก ส่วนงานสังคมนั้นมีมาก แต่มันเป็นสังคมของอังกฤษ ทักษิณเขาคนไทย ชอบกินส้มตำไก่ย่างปลาดุก กับเบียร์สิงค์ ไม่ใช่แควิอาร์ พายเครื่องใน หรือแชมเปน"
"ไม่ต้องเป็นห่วงเขามากไป เขาไปๆมาๆหลายประเทศ เปลี่ยนสิ่งแวดล้อม เจอสิ่งใหม่ๆตลอดเวลา มันเป็นวิธีแก้เหงาของทักษิณ"
ผม ก็ยิงคำถามสุดท้ายๆเข้าหาญาติทักษิณ "คนไทยที่รักทักษิณมากๆ และคนจนเกือบทั้งประเทศ และพวกที่ทักษิณทำให้ชีวิตเขาดีขึ้น รู้สึกถึงความ ไม่ยุติธรรม อย่างมาก แล้วอยากให้ทักษิณกลับมาเป็นผู้นำ จุดชนวนการโค่นล้มคณะปฏิวัติ" คือไม่กลัวทำให้ความหวังของคนรักทักษิณ หมดความหวังหรือ ญาติทักษิณก็บอกว่า "เรื่องนี้ทักษิณเขารู้ดี เพราะไปที่ไหน ก็มีคนไทยในประเทศนั้น เข้าไปกอดเขา แต่คนรักและชอบทักษิณต้องทำใจ "ทักษิณเขาพูดเสมอว่าต้องสมานฉันท์กันทุกฝ่าย ตบมือข้างเดียวจะไม่ได้ผล เขายินดีช่วยคมชและรัฐบาล ทำให้ไทยเป็นปึกแผ่นเดียวอีกครั้ง ทักษิณเขาเน้นกับญาติทุกคนว่า หมดเวลาแล้วสำหรับการเผชิญหน้าและอารมณ์เกลียดชัง ช่วยอะไรได้ช่วยไป"
แล้ว พี่ช่วยอะไรคมชและรัฐบาลหรือเปล่า ตามที่ทักษิณสั่ง ญาติสนิททักษิณอึ้งไปก่อนบอกผมว่า "ช่วยไปมากแล้ว ผมบอกไม่ได้ว่าอะไร ถ้ารู้กรุงแตกแน่ แต่เอาเป็นว่าเส้นสายทักษิณ กำลังช่วยคมชและรัฐบาลเต็มที่ ไม่ใช่เพื่อให้หลุดจากการตรวจสอบหรือทำคะแนนหรืออะไร แต่เอาง่ายๆว่าเป็นการช่วย ด้วยความจริงใจ เพื่อแสดงจุดยืนอย่างจริงจัง ช่วยถึงระดับสูงสุดของประเทศ ทั้งชาติ ศาสตร์ และ กษัตริย์ กันก็แล้วกัน" แต่ทรทเคลื่อนไหวไปอีกทางผมถาม "นั่นเรื่องต้องแข่งกับพรรคการเมืองอื่น เรื่องการเลือกตั้ง พรรคไม่เหมือนทักษิณ ต้องเกาะและสนองตอบ คะแนนเสียงของคนสนับสนุน"
ผมก็กัดไม่ปล่อยนะครับ จนรู้มาได้ว่าช่วยอะไร ก็ต้องของดเขียนตรงนี้นะครับ ถ้ารู้กรุงแตกแน่
คำ ถามสุดท้ายคือ "ทักษิณไม่โกรธอะไรจริงๆหรือ" คำตอบคือ "โกรธคนใกล้ชิดบางคนมาก และญาติบางคน เพราะเอาชื่อเขาไปใช้ในทางที่ผิด" แล้วทักษิณทำไง ปล่อยไปหรือว่าอะไร "ตอนเป็นนายก เช็คบิลไปแล้วหลายคนเท่าที่รู้ เท่าที่จับได้ แต่เขาโกรธมากเรื่องนี้ คืออะไรเกิดขึ้นในไทย สมัยเขาเป็นนายก หนีไม่พ้น คำว่า ทักษิณอยู่เบื้องหลัง แบบเจ้าของมหาวิทยาลัย เข้ามาขอพบ บอกว่าพี่ทักษิณอย่ามาซื้อผมเลยนะ ผมขอเก็บไว้ให้ลูก ทักษิณสืบดู แล้วเจอขบวนการใช้ชื่อของเขาทำแบบนั้นจริงๆ เขาโกรธมาก ตัดขาดญาติมิตรกันเลย แล้วมันเจ็บก็ตรงที่ว่า ตอนเจ้าของมหาวิทยาลัย ยังเชื่อว่าทักษิณกำลังเข้ายึดเขา นักวิชาการที่นั่น ออกมาโจมตีทักษิณตลอดเวลา"
แล้วน้าทักษิณ จะโกรธผมไหม ที่มาเขียนถึงเขา "ทวีวุฒิ ไม่ต้องห่วง ทักษิณเป็นแฟนบทความคุณทวีวุฒิ เหมือนหลายๆคนในพันทิพย์ อ่านที่คุณทวีวุฒิเขียน เกือบทุกบทความ ผมรู้เพราะเขาสั่งให้ผมส่งไปให้เขาทุกอัน เขาชอบคุณทวีวุฒิมาก ถึงจะไปด่าเขาที่กรุงเทพธุรกิจเรื่องภาคใต้ ทุกวี่ทุกวัน" ขอตังน้าทักษิณให้ผมสักล้านได้ไหม ผมแห่ย "ผมเลี้ยงเบียร์สิงห์คุณอีกเหยือกก็แล้วกัน ชื่อคุณกระฉ่อนมากเรื่องเงินซื้อไม่ได้ อย่ามาเลวตอนนี้เลย " ผมก็บอกตัวเองว่า "เป็นนักข่าวนี้มีบุญชมัด จะเลวสักหน่อยก็ไม่ได้"
นั่นคือบทสรุปที่เขียนไว้ นะครับ
ตอน นี้สนธิ ลิ้มทองกุล นายเก่าผม ออกมาบอกว่าน้าทักษิณไปด่าอะไร เปรม เข้าในต่างประเทศ กลายเป็นเรื่องใหญ่อีกแล้ว ผมเลยหยิบโทรศัพท์ โทรไปถามอีกทีว่าแน่หรือที่ทักษิณ สมานฉันท์เต็มร้อยแล้ว แต่ทำไมยังพูดแรงๆอีก ญาติทักษิณบอกว่า "เขาพูดให้วงใน แบบนั้นบ่อย ให้แฟนพันธ์แท้ฟัง ไม่ได้มีความต้องการให้มันหลุดออกมา จนเป็นเรื่อง ไม่ได้พูดให้เป็นเรื่อง ออกมา แต่วงในจริงๆ ก็ต้องพูดเอาใจกันหน่อย ปลุกใจกันหน่อย มันภายใน สำหรับคนไม่กี่คน แฟนพันธ์แท้"
"แต่ปัญหา ของทักษิณ คือมีคนจ้องหาเรื่อง สร้างเรื่องตลอดเวลา" แล้วญาติทักษิณก็ถามผมว่า "คุณก็รู้ว่าทำกันขนาดไหน จ้องจับผิดกันขนาดไหน คุณทวีวุฒิ ก็เคยเขียนถึงแล้ว กระบวนการหาเรื่องทักษิณ" ผมก็นึกไปที่ "อาจสามารถ" นะครับ เพราะนักข่าวรู้กัน ว่าส่งคนเข้าไป แบบคนจนจากภาคใต้ แล้วให้ไปนั่ง "หน้าแถว" ต้อนรับทักษิณ พยายามทำทุกอย่างให้ทักษิณดูเหมือน "เทียบบารมีในหลวง" เช่น พอทักษิณเดินผ่านคนจนจ้างมาพวกนี้ เขาจะพยายามดึงรองเท้าทักษิณ ออก แล้วเอามาวางบนหัวเขา หรือไม่ก็กราบไปบนรองเท้าทักษิณ และเรียกว่า "พ่อหลวงใหม่" ให้ทีวี เอาไปออก นักข่าวเอาไปเขียน อะไรแบบนั้น มันสกประมากครับ
นักข่าวรู้กันดีครับ เรื่องแบบนี้ เพราะรปภเขาออกเตือนว่าจะมีแบบนี้กันมา
จากไฮทักษิณครับ
