ความปั่นป่วนวุ่นวายทางการเมือง ที่กำลังถูกก่อขึ้นโดยกลุ่มรับจ้างจากอำนาจเก่า อีกทั้งแนวการต่อสู้ที่พยายามจาบจ้วงสถาบันอันเป็นที่เคารพ การมุ่งโจมตีองคมนตรีซึ่งเป็นที่ปรึกษาของสถาบัน เริ่มรุนแรงขึ้นโดยลำดับ เสียงเรียกร้องจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ที่ยังจงรักภักดี และทราบสถานการณ์ที่กลุ่มอำนาจเก่าพยายามสร้างขึ้น ให้ทางรัฐบาลปราบปามการกระทำนี้โดยเด็ดขาดและรวดเร็ว แต่ดูเหมือนรัฐบาลจะไม่ค่อยกระตือรือร้นเท่าไหร่นัก อีกทั้ง คมช.เองก็ดูเนือยๆ ราวกับไมใส่ใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ถึงจะมีข่าวเชิงขู่ออกมาถึงการนำพระราชบัญญัติสถานการณ์ฉุกเฉินมาใช้ แต่ก็เหมือนแกล้งขู่เล่นๆ ตำรวจเองก็ออกมาปรามๆ แต่ก็ดูเหมือนปรามไปอย่างนั้นเอง บรรดาคนใจร้อนถึงกับออกอาการเต้นงิ้วเต้นโขน และหลายรายมองไกลไปถึงการระดมคนมาชนกัน ถึงกับกะกันว่า จะเล่นให้เหมือนเหตุการณ์ 6 ตุลาคมนั่นเชียว
อันที่จริง การต่อสู้แบบดับครื่องชน ของกลุ่มรับใช้อำนาจเก่านั้น จุดมุ่งหมาย็คือต้องการให้รัฐปราบปรามอย่างรุนแรง และเชื่อขนมยายข้างบ้านกินได้เลยว่า แกนนำนั้นจะปลีกวิเวก หายวับไปกับตา ปล่อยให้รากหญ้ารากกระบือที่โง่เข้ามาติดกับ ถูกจับกุม และภาพนั้นจะถูกป้ายสี เต้าข่าว ใส่ไข่ เพื่อให้ประชาคมโลกเห็นว่า รัฐบาลไทยใชอำนาจเผด็จการ คุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชน
พวกมันต้องการเท่านั้นเองทั้งนี้เพื่อสร้างเงื่อนไขให้บุคคลหนึ่ง ที่กำลังหวาดวิตกกับการถูกดำเนินคดี ในฐานะอาชญากร คอรัปชั่น โกงกินบ้านเมือง ข้อหาซึ่งเมื่อไปติดคุกแล้ว จะมาอ้างโก้เก๋ว่า ติดคุกเพราะการเมืองไม่ได้ นักการเมืองที่ถูกเผด็จการรังแก จนต้องไปติดคุกน้น เขาถือกันว่าเป็นศักดิ์เป็นศรี แต่อาชญากรที่โกงบ้านโกงเมือง เมื่อไปติดคุกแล้ว มันก็คือ ไอ้ขี้คุก
เงื่อนไขที่บุคคลดังกล่าวต้องการ คือสถานะ ผู้ลี้ภัยทางการเมือง ด้วยสถานะนี้ จะเปิดโอกาศให้มันได้ดำเนินการทางการเมือง ในลักษณะปฎิปักษ์กับประเทศที่ให้กำเนิดมัน และอาจใช้ปกป้องทรัพย์สิน ที่อยู่ในต่างประเทศได้ หากไม่ได้สถานะนี้ การยึดทรัพย์ข้ามชาติ ก็ย่อมกระทำได้ ด้วยกฎหมายฟอกเงิน
หากต้องการให้บุคคลในกลุ่มอำนาจเก่า เข้ากระบวนการยุติธรรม เพื่อตัดสินคดีไปตามตัวบทกฎหมาย ก็ต้องป้องกันเงื่อนไขที่กลุ่มอำนาจเก่ากำลังพยายามสร้างขึ้น นี่เป็นการทุ่มเดิมพันสุดท้ายของมันแล้ว ไม่มีทางอืนใดที่จะกระตุ้นให้ประชาชนและรัฐบาล ออกมาจัดการกับมันขั้นเด็ดขาดได้เลย นับตั้งแต่เริ่มดำเนินการมา วิธีสุดท้าย คือจาบจ้วงโจมตีสถาบัน ยั่วยุให้มีการใช้กำลังให้ได้
รัฐบาลนายกสุรยุทธ คมช.โดยพลเอกสนธิ มีหรือจะไม่รู้ และนั่นคือคำตอบของอาการหน่อมแน้ม ไม่ทันใจวัยรุ่น หรือโก๋แก่ใจร้อนทั้งหลาย ที่อยากจะฆ่าฟันกลุ่มบุคคล ที่ออกมาก่อกวนโจมตีสถาบัน ใจแทบขาด
จะเอาอย่างไรกันดี ลุยๆไป กระทืบมัน ให้หนำใจ หนำบาทา แล้วตัวการใหญของมันก็จะนอนหัวร่อร่า ลอยนวลไปได้ตลอดชีวิตของมัน หรือจะเชื่อ ขิงแก่ ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวจนมาถึงวันนี้ รบ เขาก็บมามากกว่าพวกเรา รัก เขาก็รักมามากกว่าพวกเรา (จดทะเบียนสองคนเข้านั่นแน่ะ

) ยุทธการ เขาก็ผ่านมามากกกว่าเรา เชื่อแล้วรอดู ม็อบที่ไร้ผล และหัวหน้าของมัน ต้องกลับมาติดคุก หรือหนีคดีไปยังประเทศที่ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศไทย เป็นอาชญากรหนีคดีไปตลอดชีวิต
ตรองดูก็แล้วกัน อากาศร้อนๆ กินไอติมดีกว่าไปชุมนุม หรือไปกระทืบคนชุมนุมค่ะ
