ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
09-07-2025, 19:42
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  นัดถก 26 มี.ค. ยุบรวม ทีโอที - กสท 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
นัดถก 26 มี.ค. ยุบรวม ทีโอที - กสท  (อ่าน 1966 ครั้ง)
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« เมื่อ: 22-03-2007, 20:17 »

นัดถก 26 มี.ค. ยุบรวม ทีโอที - กสท

นายวุฒิพงษ์ เพรียบจริยวัฒน์ กรรมการบริหารบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เปิด
เผยว่า จากการหารือร่วมกันของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช. นายสิทธิชัย
โภไคยอุดม รมว.ไอซีที พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ประธานบอร์ดทีโอที และ พล.อ.
มนตรี สังขทรัพย์ ประธานบอร์ด บมจ.กสท.โทรคมนาคม (CAT) มีแนวคิดในการตั้ง
คณะกรรมการร่วมผนึกโครงข่ายโทรคมนาคม เบื้องต้นเห็นว่าต้องทำในรูปแบบบริษัท
โฮลดิ้ง ที่รัฐเป็นเจ้าของถือหุ้น 100% ในทีโอทีและ กสท. แล้วทำหน้าที่บริหาร
โครงข่ายโทรคมนาคมของชาติ ทั้งนี้เมื่อรวมกันแล้วจะต้องเป็นเครือข่ายเดียวและเป็น
ของชาติเพื่อเอามาใช้ในผลประโยชน์ด้านความมั่นคง การบริการสาธารณะ

นอกจากนี้จะหารือกับการไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง ทั้ง กฟผ. กฟน. และ กฟภ. เพื่อขอซื้อ
สินทรัพย์และสิทธิเป็นเจ้าของเครือข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสง (ออฟติกไฟเบอร์) ที่ยัง
ไม่ได้ใช้ประโยชน์มาไว้ในการดูแล รวมถึงเจรจากับ 5 บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์คือ
ทรู ทีทีแอนด์ที เอไอเอส ดีแทค และทรูมูฟ เพื่อให้รวมกันเป็นโครงข่ายโทรคมนาคม
เดียวขนาดใหญ่

ซึ่งวันที่ 26 มี.ค. จะประชุมนัดแรกกับตัวแทนของทีโอทีและ กสท. เพื่อวางกรอบ
การทำงานซึ่งต้องทำให้เสร็จในรัฐบาลนี้ “ยืนยันว่าไม่ใช่การรังแกเอกชนรายใด เพราะ
เราไม่ได้ไปยึดสัมปทาน แต่เป็นการทวงสิทธิคืน หากโครงการดังกล่าวสำเร็จทุกบริษัท
จะเสียค่าเช่าในราคาต่ำกว่าค่าสัมปทาน เว้นแต่บริษัทที่ไม่ยอมมีเจตนาแอบแฝงเพื่อ
ยึดเครือข่ายเอาไว้และฟังจากเสียงเอกชนบางส่วนแสดงความเห็นด้วย” นายวุฒิพงษ์
กล่าว.

เดลินืวส์ 22 มีนาคม 2550

http://www.dailynews.co.th/dailynews/pages/front_th/popup_news/Default.aspx?Newsid=121609&NewsType=1&Template=1
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #1 เมื่อ: 22-03-2007, 20:29 »

ไอซีทีขอ 500 ล้าน ตั้งศูนย์แปลตำรา

นายสิทธิชัย โภไคยอุดม รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวถึง
การประชุม ครม. อย่างไม่เป็นทางการว่า ได้เสนอขออนุมัติกรอบงบประมาณ 500 ล้าน
บาท เพื่อดำเนินการโครงการจัดตั้งศูนย์แปลตำราขึ้นในสังกัดกระทรวงไอซีที เพราะขณะ
นี้เกิดปัญหาขึ้นมีการกล่าวหาว่าประเทศไทยไม่เจริญ เพราะเด็กไทยไม่รู้ภาษาอังกฤษ
ทั้งๆ ที่ความจริงไม่ใช่เป็นอย่างนั้น และบางประเทศเจริญ แต่คนในชาติรู้ภาษาอังกฤษ
น้อยกว่าประเทศไทยก็มีจำนวนมาก เช่น ไต้หวัน จีน เกาหลี ญี่ปุ่น รัสเซีย อิตาลี เป็นต้น
ความรู้ต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษ หากมีการแปลตำราอย่างถูกต้อง มีคุณภาพ เมื่อเสร็จแล้ว
จะนำไปเผยแพร่ในเว็บไซต์ให้ดาวน์โหลดฟรี หรือพิมพ์เป็นเอกสารขายในราคาถูกเล่มละ
200 บาท จะทำให้เด็กหลายแสนคนได้ประโยชน์และทำให้ประเทศไทยเจริญ โดยที่ไม่
จำเป็นต้องให้คนทั้งชาติรู้ภาษาอังกฤษดี
เราไม่เคยเป็นเมืองขึ้นใคร ซึ่งวิธีการนี้คงต้อง
ใช้ระยะเวลาถึง 30 ปี กว่าจะได้ผล
 
เดลินืวส์ 19 มีนาคม 2550

http://www.dailynews.co.th/dailynews/pages/front_th/popup_news/Default.aspx?Newsid=121259&NewsType=1&Template=1
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #2 เมื่อ: 22-03-2007, 20:33 »

เลิกยุ่งเกี่ยวกับภารกิจที่ไม่ใช่หน้าที่รัฐบาล “ชั่วคราว” ซะที
พวกคุณไม่มีความ “ชอบธรรม” พึงสังวรณ์ไว้

หาก “ชอบทำ” มากนัก ก็นู่น ไปลงเลือกตั้งตามกติกา
เสนอนโยบาย แล้วอาสาประชาชนเข้ามาใหม่

อย่ามาใช้อำนาจที่ได้จากการใช้รถถังยึดมา
ทำตามอำเภอใจ
… ไปไป๊ ชิ้วๆ
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #3 เมื่อ: 22-03-2007, 20:40 »

เลิกยุ่งเกี่ยวกับภารกิจที่ไม่ใช่หน้าที่รัฐบาล “ชั่วคราว” ซะที
พวกคุณไม่มีความ “ชอบธรรม” พึงสังวรณ์ไว้

รวมทั้งเลิกเจ้ากี้เจ้าการให้ ทีไอทีวี จัดรายการ .. ด้วยหรือเปล่า 
บันทึกการเข้า
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 22-03-2007, 20:43 »

ปล่อยให้รัฐบาลจัดระเบียบเรื่องพวกนี้ไปเถอะครับ ถ้าไม่ทำในรัฐบาลนี้จะกล้าไปทำในรัฐบาลไหนอีกล่ะครับ

อย่าลืมว่ารัฐบาลปกติมาจากการเลือกตั้ง บางครั้งก็ต้องเกรงใจนายทุน นักลงทุน ประชาชนนะครับ 
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #5 เมื่อ: 22-03-2007, 22:44 »

ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10603
แผน โทรคมนาคม แผน พัฒนา ทุนนิยมแห่งรัฐ แผน สนธิ บุญยรัตกลิน
คอลัมน์ วิภาคแห่งวิพากษ์

การต่อสู้กับ "เผด็จการทุนนิยม" ของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ดำเนินไปด้วยความ
เข้มข้นเป็นอย่างยิ่ง
เป็นความเข้มข้นที่ ด้าน 1 สัมผัสได้จากการเสนอแนวคิดในเชิง "ชาตินิยม" ขึ้นมา
เป็นชาตินิยมซึ่งรับไม่ได้ เพราะทุกครั้งที่ยกหูโทรศัพท์ขึ้น เสียงพูดก็จะแล่นไปยัง
ประเทศสิงคโปร์โดยอัตโนมัติ
จึงนำไปสู่ข้อเสนอในการระดมทุนเพื่อซื้อคืน "ดาวเทียม" กลับมาเป็นของคนไทย
ขณะเดียวกัน ด้าน 1 เป็นความเข้มข้นที่จะรื้อฟื้นแนวทางในแบบที่นักวิชาการจาก
สถาบันเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เรียกว่า

เป็นแนวทางในเชิง "รัฐวิสาหกิจนิยม"
รูปธรรมล่าสุดสัมผัสได้จากการเคลื่อนไหวระหว่าง ประธาน คมช. ประธานคณะกรรมการ
บริหารทีโอที และ กสท รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT)
เพื่อนำไปสู่การจัดตั้ง "โครงข่ายโทรคมนาคมแห่งชาติ" หรือที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Telecom Pool
เป็นการดำเนินไปบนทิศทางแห่งแนวคิด "รัฐวิสาหกิจนิยม" อย่างเข้มข้น

ความริเริ่ม "ร่วม" ระหว่างประธาน คมช. กับประธานคณะกรรมการบริหารทีโอที และ
กสท กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ในเรื่อง
Telecom Pool
ถือได้ว่าเป็นความริเริ่ม "ร่วม" ในเชิงนโยบาย
เพราะมิได้เป็นเพียงเรื่องของ ทีโอที และ กสท ซึ่งอยู่ในการกำกับดูแลของกระทรวง
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) เท่านั้น
หากแต่ยังสัมพันธ์กับกิจการของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.)
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ซึ่งเป็นเจ้าของโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสง (Fiber Optic)
ขณะที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงพลังงาน
ขณะที่ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทย
ไม่มีใครทราบว่า กระทรวงพลังงาน กระทรวงมหาดไทย คิดอย่างไร
ที่สำคัญเป็นอย่างมาก ไม่มีใครทราบว่า รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ รัฐมนตรีในกระทรวงอันเกี่ยวกับเศรษฐกิจจะคิดอย่างไร
กระนั้น ที่แน่นอนอย่างที่สุดก็คือ ที่ประชุมร่วมอันมี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช.เป็นประธาน ก็แถลงถึงมติของที่ประชุม
เป็นมติที่จะจัดตั้ง "โครงข่ายโทรคมนาคมแห่งชาติ" หรือ Telecom Pool
เป็นมติที่จะเดินหน้าทบทวนเรียกคืนสัญญาสัมปทานที่ให้กับเอกชน เป็นมติที่จะเดินหน้ารวมเอา
โครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในโครงข่ายโทรคมนาคมแห่งชาติ

เป็นมติที่จะเดินหน้าในการสร้างความเข้มในสถานะแห่งความเป็นรัฐวิสาหกิจของ "ทีโอที" และ "กสท"
ในลักษณะทวนกระแสที่เคยแปรรูปโดยการทำเป็นบริษัทแล้วนำไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
นี่คือการหวนกลับไปสู่ยุคของ จอมพล ป.พิบูลสงคราม ภายหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2490
นี่คือการฟื้นกระบวนการของ "ทุนนิยมแห่งรัฐ" อันเกิดขึ้นและดำรงอยู่ในระบบราชการไทยนับแต่ภายหลังรัฐประหาร
เดือนมิถุนายน 2494 และยาวนานกระทั่งถูกต่อต้านและคัดค้านต่อเนื่องมาจากสถานการณ์เดือนตุลาคม 2516
จนถึงทุกวันนี้

เพราะว่า "ทุนนิยมแห่งรัฐ" คือกระบวนการเพาะเลี้ยง "ทุนนิยมขุนนาง" อย่างคึกคักยิ่ง

จึงไม่แน่ใจว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เข้าใจ "เผด็จการทุนนิยม" ว่าเป็นอย่างไร
เพราะว่าทิศทางที่ขับเคลื่อนอยู่ในขณะนี้เป็นการขับเคลื่อนบนเส้นทางที่ผุกร่อนอันเป็นความริเริ่มของทุนนิยม
แห่งรัฐและทุนนิยมขุนนางซึ่งนำไปสู่เผด็จการทรราชคนแล้วคนเล่าในอดีต
ที่สำคัญเป็นทิศทางซึ่งไม่แน่ว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ จะเห็นด้วยหรือไม่


ว่าแล้วต้องเป็นสงครามระหว่างชนชั้น
บันทึกการเข้า
room5
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 573



« ตอบ #6 เมื่อ: 24-03-2007, 13:55 »

โธ่น่าสมเพส
ที่ไอทีวี ละก็ไม่ใช้หน้าที่ซะหน่อย
เจือกออกมาหนับหนุนให้อุ้ม
เบื่อพวกมือถือสาก ปากถือศีล
เขาเห็นใส้เน่าๆขอเทอหมดแล้ว หิมะเน่า
ไปดีทอกซ์ซะมั่งหนะ
เหม็นฟุ้งเลย
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 24-03-2007, 14:05 »

บางทีก็ต้องมานั่งทะเลาะกันใหม่

ทำไมไม่คิดว่าในรัฐธรรมนูญก็กำหนดไว้แล้ว

อะไรคือ "สาธารณูปโภค"....เค้ายกเว้นไว้อยู่นี่ครับ...

จะเสรีได้มากน้อยแค่ใหน ก็ต้องไปเถียงกันในกรอบรัฐธรรมนูญ

ไม่งั้นก็เป๋ไป เป๋มา เหมือน พรฎ.กฟผ. ไงครับ
บันทึกการเข้า

RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 24-03-2007, 15:06 »

ไม่ทำอะไร พวกโปรทักษิณก็ด่าว่าไม่มีผลงาน
พอทำอะไรขึ้นมาบ้าง คุณสโนว์ไวท์ก็ด่าขึ้นมาอีก
เกิดเป็นรัฐบาลรัฐประหารนี่ชีวิตมันลำบากจริงๆ นะครับ
 
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 24-03-2007, 17:45 »

ถ้าคิดได้แค่นี้ มันเลยไม่แปลกที่มีคนลงทุนทำการเมืองเพื่อซื้อประเทศไทย

อาศัยกรอบการเลือกตั้งนั่นแหละเป็นเกณฑ์....เซ็งลี้สิทธิ์มาแล้วก็้ได้สิทธิ์ทำอะไรได้ทุกอย่างในประเทศนี้

พอมีคนรู้ทันทักท้วง ก็ไล่ไปลงสมัครสส. หรือไม่ก็บอกว่า "ฉันมาจากประชาชน" ฉันมี 19 ล้านเสียงนะ

ก่อนนั้นก้ไปหลอกชาวบ้านมาก่อน...ผมรวยแล้ว...ผมไม่โกงหรอก...ว่าไปโน่น

พวกเอาความจริงครึ่งเดียวมาอ้าง แต่ชาวบ้านที่รู้ทันเค้ากลับไม่ยอม มันถึงยุ่ง


บันทึกการเข้า

WATERMAN
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 161


« ตอบ #10 เมื่อ: 24-03-2007, 20:11 »

ควรที่จะทำกันตอนนี้แหละ โครงการใหญ่ๆทั้งหลายเช่นรถไฟฟ้าก็เหมือนกัน อย่าปล่อยให้นักการเมืองเข้ามาแล้วค่อยทำ รับรองโกงกันพุงกางอีกรอบ เพราะมันก็ไม่พ้นหน้าเดิมๆที่มีเงินไปแจกชาวบ้านแล้วได้เป็น ส.ส.หรอก ในเมื่อลงทุนซื้อเสียงไปแล้วคนละ 30-50 ล้าน แต่ละพรรคหมดกันไปหลายพันล้าน หรือ ทรท.ก็เกินหมื่นล้าน แล้วจะไม่ให้เข้ามาถอนทุนนั้นเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าไม่โกงชาติจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อเสียงครั้งต่อไป ประเทศไทยถ้ายังแก้เรื่องซื้อเสียงไม่ได้ ก็อย่าหวังเลยว่าจะแก้เรื่องโกงกินได้ ยิ่งซื้อมากยิ่งโกงมาก ไหนๆก็ไล่คนโกงออกไปแล้ว สิ่งที่ไม่ดีก็รีบแก้ไขจัดการซะให้เรียบร้อยก่อนที่พวกขี้โกงจะกลับมาอีก(มันกลับมาแน่) snowflake คงกลัวว่าเจ้านายลงทุนซื้อเสียงรอบใหม่เข้ามาแล้วไม่มีอะไรจะให้โกงอีกละซี เกลียดนักพวกรักชาติจนน้ำลายไหลเนี่ยะ
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #11 เมื่อ: 24-03-2007, 21:15 »

ถ้าคิดได้แค่นี้ มันเลยไม่แปลกที่มีคนลงทุนทำการเมืองเพื่อซื้อประเทศไทย

อาศัยกรอบการเลือกตั้งนั่นแหละเป็นเกณฑ์....เซ็งลี้สิทธิ์มาแล้วก็้ได้สิทธิ์ทำอะไรได้ทุกอย่างในประเทศนี้

พอมีคนรู้ทันทักท้วง ก็ไล่ไปลงสมัครสส. หรือไม่ก็บอกว่า "ฉันมาจากประชาชน" ฉันมี 19 ล้านเสียงนะ

ก่อนนั้นก้ไปหลอกชาวบ้านมาก่อน...ผมรวยแล้ว...ผมไม่โกงหรอก...ว่าไปโน่น

พวกเอาความจริงครึ่งเดียวมาอ้าง แต่ชาวบ้านที่รู้ทันเค้ากลับไม่ยอม มันถึงยุ่ง


เมืองไทยมันโดนซื้อไปตั้งนานแล้วลุง ไม่รู้อีกเหรอ
บันทึกการเข้า
meriwa
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,100



เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 25-03-2007, 06:39 »

ทำแต่เรื่องเฉพาะหน้าที่สำคัญเร่งด่วน เช่น แก้ปัญหาชายแดนใต้
และปัญหาปากท้องของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ
ก็พอแล้วค่ะ

อย่าได้มายุ่งวุ่นวายกับนโยบายที่มีผลต่อเนื่องผูกพันระยะยาว
โดยไม่ผ่านความเห็นชอบของประชาชน
ให้เกิดข้อครหาว่ามีผลประโยชน์แอบแฝง
ให้เสียชื่อเสียงคุณธรรมความดีอะไร
ที่ยกหางพวกตัวเองและกล่าวหาทับถมผู้อื่นไว้เลย

สองเรื่องเองหรอคุณสโนที่รัฐต้องทำ แหม กระทู้ก่อนเห็นยกเรื่องด่าเค้ามาเพียบเลยนี่ ไม่ทำโน่นทำนี่

นโยบายเค้าก็ไมได้คิดใหม่ทำใหม่ซะหน่อย  เค้าก็เอามาจากเรื่องเก่าทั้งของรัฐบาลที่แล้ว และของเก่าที่มันมีปัญหาติดขัดไม่สามารถดำเนินการได้ในรัฐบาลที่แล้วๆมาทำทั้งนั้น

พวกไม่รู้จักผู้เด็กรู้จักผู้ใหญ่ ด่าได้ไม่เลือกแบบคุณนี่ ก็ไม่รู้ว่าจะว่าว่าเป็กอะไรดีแล้วละคุณ   

เรียกร้องแต่ประชาธิปไตย บอกหน่อยสิว่าหน้าที่มีอะไรบ้าง  หรือเอาแต่ด่าๆๆๆ ประชดประชันไปวันๆ
บันทึกการเข้า

ผู้ปกครองระดับธรรมดา   ใช้ความสามารถของตน    อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับกลาง       ใช้กำลังของคนอื่น             อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับสูง           ใช้ปัญญาของคนอื่น           อย่างเต็มที่

                                                                  ...คำคมขงเบ้ง
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #13 เมื่อ: 25-03-2007, 10:37 »

ถ้าคิดได้แค่นี้ มันเลยไม่แปลกที่มีคนลงทุนทำการเมืองเพื่อซื้อประเทศไทย

อาศัยกรอบการเลือกตั้งนั่นแหละเป็นเกณฑ์....เซ็งลี้สิทธิ์มาแล้วก็้ได้สิทธิ์ทำอะไรได้ทุกอย่างในประเทศนี้

พอมีคนรู้ทันทักท้วง ก็ไล่ไปลงสมัครสส. หรือไม่ก็บอกว่า "ฉันมาจากประชาชน" ฉันมี 19 ล้านเสียงนะ

ก่อนนั้นก้ไปหลอกชาวบ้านมาก่อน...ผมรวยแล้ว...ผมไม่โกงหรอก...ว่าไปโน่น

พวกเอาความจริงครึ่งเดียวมาอ้าง แต่ชาวบ้านที่รู้ทันเค้ากลับไม่ยอม มันถึงยุ่ง



รู้ทันแต่นักการเมืองก็พอ?
แล้วรู้ทันพวกอื่นๆ บ้างหรือเปล่า?
นักการเมืองเลวหมด ก็ไม่ต้องมีเลือกตั้งไปให้ป่วยการ
ให้ทหารผู้มีรถถังและคุณธรรมชนิดตรวจสอบไม่ได้
ปกครองต่อไปจนชั่วฟ้าดินสลายดีกว่า
แบบนี้ถึงจะถูกใจละสิ
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #14 เมื่อ: 25-03-2007, 10:44 »

ควรที่จะทำกันตอนนี้แหละ โครงการใหญ่ๆทั้งหลายเช่นรถไฟฟ้าก็เหมือนกัน อย่าปล่อยให้นักการเมืองเข้ามาแล้วค่อยทำ รับรองโกงกันพุงกางอีกรอบ เพราะมันก็ไม่พ้นหน้าเดิมๆที่มีเงินไปแจกชาวบ้านแล้วได้เป็น ส.ส.หรอก ในเมื่อลงทุนซื้อเสียงไปแล้วคนละ 30-50 ล้าน แต่ละพรรคหมดกันไปหลายพันล้าน หรือ ทรท.ก็เกินหมื่นล้าน แล้วจะไม่ให้เข้ามาถอนทุนนั้นเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าไม่โกงชาติจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อเสียงครั้งต่อไป ประเทศไทยถ้ายังแก้เรื่องซื้อเสียงไม่ได้ ก็อย่าหวังเลยว่าจะแก้เรื่องโกงกินได้ ยิ่งซื้อมากยิ่งโกงมาก ไหนๆก็ไล่คนโกงออกไปแล้ว สิ่งที่ไม่ดีก็รีบแก้ไขจัดการซะให้เรียบร้อยก่อนที่พวกขี้โกงจะกลับมาอีก(มันกลับมาแน่) snowflake คงกลัวว่าเจ้านายลงทุนซื้อเสียงรอบใหม่เข้ามาแล้วไม่มีอะไรจะให้โกงอีกละซี เกลียดนักพวกรักชาติจนน้ำลายไหลเนี่ยะ

มุกเดิมๆ ใครไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจ ก็เป็นพวกทักษิณ

นักการเมืองโกงอยู่พวกเดียว นักรัฐประหารโกงไม่เป็น?
ถึงไม่โกง เรื่องที่ทำก็ใช่ว่าจะดี หรือชอบธรรม
เรื่องที่มีผลกระทบต่อคนทั้งชาติ
ให้บางคนมาใช้อำนาจทำตามอำเภอใจได้งั้นหรือ?
ตอนก่อนเข้ามายึดอำนาจ
ได้ประกาศไว้ก่อนหรือเปล่าว่าจะทำเรื่องพวกนี้
หรือว่าพวกที่สนับสนุนการรัฐประหาร ไม่สนใจ
ใครจะเข้ามาทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น
ผลงานคือ ไล่รัฐบาลเก่าไปได้ ก็พอใจแล้ว?
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #15 เมื่อ: 25-03-2007, 10:55 »

ทำแต่เรื่องเฉพาะหน้าที่สำคัญเร่งด่วน เช่น แก้ปัญหาชายแดนใต้
และปัญหาปากท้องของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ
ก็พอแล้วค่ะ

อย่าได้มายุ่งวุ่นวายกับนโยบายที่มีผลต่อเนื่องผูกพันระยะยาว
โดยไม่ผ่านความเห็นชอบของประชาชน
ให้เกิดข้อครหาว่ามีผลประโยชน์แอบแฝง
ให้เสียชื่อเสียงคุณธรรมความดีอะไร
ที่ยกหางพวกตัวเองและกล่าวหาทับถมผู้อื่นไว้เลย

สองเรื่องเองหรอคุณสโนที่รัฐต้องทำ แหม กระทู้ก่อนเห็นยกเรื่องด่าเค้ามาเพียบเลยนี่ ไม่ทำโน่นทำนี่

นโยบายเค้าก็ไมได้คิดใหม่ทำใหม่ซะหน่อย  เค้าก็เอามาจากเรื่องเก่าทั้งของรัฐบาลที่แล้ว และของเก่าที่มันมีปัญหาติดขัดไม่สามารถดำเนินการได้ในรัฐบาลที่แล้วๆมาทำทั้งนั้น

พวกไม่รู้จักผู้เด็กรู้จักผู้ใหญ่ ด่าได้ไม่เลือกแบบคุณนี่ ก็ไม่รู้ว่าจะว่าว่าเป็กอะไรดีแล้วละคุณ   

เรียกร้องแต่ประชาธิปไตย บอกหน่อยสิว่าหน้าที่มีอะไรบ้าง  หรือเอาแต่ด่าๆๆๆ ประชดประชันไปวันๆ

กระทู้ไหน ด่าเรื่องอะไรไม่ทราบ?
ยกมาลอยๆ ไม่มีใครรู้เรื่องด้วย หรือไม่ได้ต้องการให้รู้

นโยบายสองเรื่องในกระทู้นี้นี้น่ะเหรอที่บอกว่าทักษิณเคยทำ
รวม ทีโอที-กสท. ผูกขาดโทรคมนาคมเป็นของรัฐ
เป็นรัฐวิสาหกิจ ที่ทหารจะได้เข้าไปเป็นบอร์ดกันมากๆ
กับแปลหนังสือเป็นภาษาไทยเนี่ยนะ?
นโยบายดังกล่าวดีหรือไม่ ชอบไม่ชอบอย่างไร
ควรทำหรือไม่ เชิญวิจารณ์
หรือยึดแต่ตัวคน คณะรัฐประหารทำอะไรเป็นต้องถูก
ทักษิณทำอะไรเป็นต้องผิด
ไม่ต้องคิดพิจารณาว่าเป็นเรื่องอะไรก็สรุปได้เลย

จะเขียนอะไรก็ใช้เหตุผลให้มันเข้าท่าหน่อย
แค่บอกว่าเป็นผู้ใหญ่แล้วดี แตะต้องวิจารณ์ไม่ได้น่ะ
ถือหลักการอะไร การปกครองระบอบไหนมิทราบ
หากยึดหลักอย่างที่ว่าคงต้องสักอายุไว้ที่หน้าผาก
หรือที่ไหน ให้เห็นเด่นชัด จะได้เคารพกันได้ถูกต้องตามความชรา
หากแน่ใจว่าเป็นระบบที่ดีสมควรกระทำ
ลองเสนอให้เวบบอร์ดนี้ปกครองแบบที่ว่านั้นดูก็ได้
เผื่อคุณจะได้เป็นผู้สมควรได้รับการเคารพสูงสุด
พูดหรือทำถูกไปหมด ตามอาวุโสนิยม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-03-2007, 11:10 โดย snowflake » บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 25-03-2007, 11:02 »

เสนอความเห็นครับ

1.กสท. กับ ที โอ ที มีแนวโน้มและความจำเป็นต้องรวมกัน นานมาแล้วครับ
2.ที่น่าเป็นห่วงคือ อะไรที่เป็นของราชการหรือบริหารโดยราชการ มักล้าสมัย ดังนั้นต้องจัดการให้มีมาตรฐานเช่นเดียวกับเอกชน
3.แปรรูปส่วนบริการที่ไม่จำเป็น ให้เอกชนมาแข่งขันกัน
4.เดินหน้าปฏิรูประบบราชการในส่วนที่ทำมาแล้วต่อไป

บันทึกการเข้า

snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #17 เมื่อ: 25-03-2007, 11:07 »

สังคมอุดมปัญญา กับ สังคมอุดมความชรา
ชอบแบบหลัง ก็เชิญลงคะแนนสนับสนุน คุณ meriwa
อ้อ ลืมไปคนส่วนใหญ่ที่นี่ไม่ชอบโหวต
ชอบให้ผู้มีอำนาจ บังคับบัญชา ลงมา
ถูกหรือผิดไม่ต้องคิดสงสัย
รอผู้ใหญ่อาบน้ำร้อนมาก่อนคิดและสั่งให้
เราเด็กดีก็ทำตามไป ไม่ต้องรับผิดชอบเอง
เก่งจังเลย

ป.ล. ส่งช้ากว่าคุณ Q ต้องขออภัยที่ไม่ต่อเนื่อง
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #18 เมื่อ: 25-03-2007, 12:40 »

เทเลคอมพูล"เรื่องเก่าเก็บ/ทักษิณ" ซุก "-วีรบุรุษสพรั่ง?"รื้อ"

25 มีนาคม พ.ศ. 2550 00:00:00
 
พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานคณะกรรมการบริษัท ทีโอที จำกัด (ประเทศไทย) ควรจะตัดอกตัดใจ เลิกยุ่งกับสนามบินอาถรรพ์ "สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง" ที่มีแต่เรื่องเปลืองตัว

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ :

จนเปรอะเปื้อนทำให้สง่าราศี "ว่าที่ผู้บัญชาการทหารบก" หมองลงไปถนัดตา

แล้วหันมาเอาจริงเอาจังกับข้อเสนอยุทธศาสตร์โครงข่ายโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ Telecom Pool ของ ดร.วุฒิพงษ์ เพรียบจริยวัฒน์ ที่เป็นกรรมการและโฆษกทีโอทีให้ประสบความสำเร็จให้ได้

เรื่องนี้ใหญ่กว่าสำคัญกว่าเรื่องสนามบินหลายเท่า หากพล.อ.สพรั่ง "ขาบู๊" ลุยให้ตั้งลำนำร่องอย่างมั่นๆ เป็นผลสำเร็จในยุคนี้ จะเกิดคุณูปการต่อสังคมไทยในระยะยาวนานัปการ เพราะสนามบินไม่ได้เกี่ยวข้องกับคนไทยทั้ง 65 ล้านคนอย่างมากแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น

แต่โครงข่ายโทรคมนาคมแห่งชาติ จะเสมือน "ทางด่วนแห่งชาติ" ที่นำพาทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งการสื่อสาร ข่าว ความรู้ และความบันเทิงไปถึงคนไทยทุกคนทุกครัวเรือนได้อย่างเท่าเทียม

"เทเลคอมพูล" จะเสมือน "กุญแจดอกสำคัญ" ในการปฏิรูปหลายๆ อย่างในประเทศที่เป็นเสมือนการใช้เครน "ยกครก" ขึ้นภูเขาสำเร็จ หลังจากพยายามเข็นครกกันมาหลายครั้ง แต่ไม่เคยประสบความสำเร็จ

ปฏิรูปสังคมและปฏิรูปเศรษฐกิจ ให้เกิดความเท่าเทียมกันในการสื่อสารราคาถูกลงมาก ทำลายการผูกขาดการบริการจากโทรศัพท์ทุกระบบให้เกิดรายใหม่ๆ แข่งขันกันบริการประชาชน ผลจะช่วยทำให้เกิดระบบการค้าแบบใหม่ เช่น E-Commerce , E-service , E-business ,อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของจริง ฯลฯ

ปฏิรูปสื่อวิทยุโทรทัศน์ ที่จะเกิดผู้ผลิตรายการโทรทัศน์รายเล็กๆ หลากหลายเกินกว่า 100 ช่อง ทั้งช่องข่าว,ช่องบันเทิง,ช่องวัฒนธรรม ,ช่องท้องถิ่น ฯลฯ

ปฏิรูปการเรียนรู้ ที่เด็กๆ จะสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและเรียนรู้วิทยาการจากทั่วโลกได้ในเวลารวดเร็ว ผ่านอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงถึงทุกห้องเรียน

ที่สำคัญ เมื่อเกิดการปฏิรูปสังคม,ปฏิรูปเศรษฐกิจ,ปฏิรูปสื่อและปฏิรูปการเรียนรู้ จะทำให้การ "ปฏิรูปการเมือง" สัมฤทธิผลอย่างยั่งยืน เพราะพลังประชาชนจะสามารถแสดงออกและเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างแข็งขัน ผ่านโครงข่ายโทรคมนาคมที่เข้าถึงทุกครัวเรือน

เขียนอย่างนี้ไม่ใช่เรื่องการขยายความสำคัญเกินเลยความเป็นจริงแต่อย่างใด หากย้อนกลับไปตรวจสอบแนวคิด "เทเลคอมพูล" แล้ว จะพบว่าไม่ใช่เรื่องใหม่เลย แต่เป็นนโยบายที่ถูก "ซุก" อย่างเงียบเชียบ ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

เพราะเพิ่งได้เอกสารเก่าเล่มหนึ่ง จัดทำโดยคณะกรรมการจัดทำนโยบายทางด่วนสารสนเทศ กระทรวงคมนาคม ศึกษานโยบายทางด่วนสารสนเทศของประเทศไทยไว้แล้วเมื่อเดือนตุลาคม 2543 ในช่วงปลาย รัฐบาลนายชวน หลีกภัย หลังจากประกาศยุบสภาไปแล้ว

"นโยบายทางด่วนสารสนเทศของประเทศไทย" น่าจะเป็นเรื่องเดียวกันกับการจุดพลุ "เทเลคอมพูล" ของดร.วุฒิพงษ์ แต่นโยบายนี้ไม่ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็น "งานหลัก" ของอดีตนายกฯ ทักษิณ ที่เป็นเจ้าของเครือข่ายโทรคมนาคมขนาดใหญ่ที่สุดระบบโทรศัพท์มือถือจีเอสเอ็มของเอไอเอสและดาวเทียมไทยคม

ถือเป็นปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน (Conflict of Interest) ขนานใหญ่ที่สุดของอดีตนายกฯ ทักษิณ ที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงมากนัก


รวมทั้งยังเกิดการทับซ้อนอีกหลายซับหลายซ้อน จากหุ้นส่วนการเมืองสำคัญอีก 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ ดร.อดิศัย โพธารามิก อดีตรัฐมนตรีหลายตำแหน่งในรัฐบาลทักษิณ ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มจัสมินกับบริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน) เจ้าของโครงข่ายโทรศัพท์พื้นฐานในต่างจังหวัดทั้งหมด

และกลุ่มซีพีที่ส่งตัวแทนเข้าไปนั่งเป็นรัฐมนตรีและผู้ช่วยรัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาลทักษิณ กลุ่มซีพีเป็นเจ้าของโครงข่ายโทรศัพท์พื้นฐานในกรุงเทพมหานครและโทรศัพท์มือถือระบบ 1800

ผมอ่านเอกสารผลการศึกษาการกำหนดนโยบายทางด่วนสารสนเทศชุดนี้ ด้วยความฝันอันบรรเจิด อยากให้ประเทศไทยเป็นจริงตามนั้น เมื่อมีการกำหนดระยะเวลาการก้าวสู่ "ทางด่วนสารสนเทศ" ไว้ค่อนข้างท้าทาย

ปี พ.ศ. 2560 ควรจะต้องมีทางด่วนสารสนเทศถึง "ทุกบ้าน"

ปี พ.ศ.2555 ควรจะต้องมีทางด่วนสารสนเทศถึง "ทุกตำบล"

ปี พ.ศ.2550 ควรจะต้องมีทางด่วนสารสนเทศถึง "ทุกอำเภอ"

นับจากปี พ.ศ.2543 ที่มีการเสนอผลศึกษาเชิงนโยบายไว้ ผ่านมา 7 ปีในปีนี้ 2550 "ทางด่วนสารสนเทศ" ที่เป็น "ความเร็วสูง" ควรจะไปถึงทุกอำเภอในประเทศไทย หากมีการเอาจริงเอาจังกับนโยบายนี้ แต่ในความเป็นจริง "อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง" ไปถึงเพียงแค่อำเภอเมืองและอำเภอระดับรองลงไปเท่านั้นเอง

มิหนำซ้ำอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงยังเป็นลักษณะการแบ่งปันกันใช้หรือแชร์แบนด์วิธ หาใช่ความเร็วสูงจริงแต่อย่างใด จึงทำให้เมื่อมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในช่วงเวลาเดียวกันมากๆ จะทำให้ระดับความเร็วของอินเทอร์เน็ตลดลงทันที

อดีตนายกฯ ทักษิณเคยพูดหาเสียงว่า จะทำให้คนไทยมีอินเทอร์เน็ตใช้ทุกบ้าน แต่ในความเป็นจริงกลับกลายเป็นการสั่งให้ กระทรวงมหาดไทยเช่าเหมา "ทรานสปอนเดอร์" ของดาวเทียมไอพีสตาร์ ของบริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) ที่เป็นบริษัทครอบครัวชินวัตร ติดตั้งจานรับสัญญาณจากดาวเทียมไอพีสตาร์ ที่เป็นเทคโนโลยีแรกของโลกในระบบ KU-BAND ให้กับ "ตำบล" ทุกแห่งประมาณ 7,000 แห่ง เพื่อให้เป็นไปตาม "นโยบายอินเทอร์เน็ตตำบล"

ผลการศึกษาเชิงนโยบายชี้ให้เห็นว่า โครงสร้างโครงข่ายโทรคมนาคมในไทยมีปัญหาใหญ่อยู่ 4 ประการ

1.ความซ้ำซ้อนของเครือข่าย ส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนซ้ำซ้อนสร้างระบบเครือข่ายในระดับเครือข่ายหลักเชื่อมโยงจังหวัดเป็นการวางเครือข่ายไปตามแนวถนนสายหลัก

2.การเชื่อมโยงเครือข่ายแทบไม่มี เมื่อต่างคนต่างลงทุนสร้างเครือข่ายแข่งขันในเชิงธุรกิจมากเกินไป ทำให้ไม่มีการเชื่อมโยงโครงข่าย เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ร่วมกัน

3.การกระจายเครือข่ายกระจุกอยู่ในเขตเมือง ไม่มีใครยอมลงทุนในพื้นที่ไกลๆ ที่ไม่คุ้มค่าการลงทุน ทำให้โครงข่ายโทรคมนาคมของไทยกระจุกตัวมาก

4.ความน่าเชื่อถือของเครือข่ายยังไว้ใจไม่ได้ เพราะจากสภาพทับซ้อนกันของเครือข่ายและไม่สามารถเชื่อมโยงเครือข่ายกันได้ เมื่อเกิดสาธารณภัยรุนแรงในพื้นที่มีการวางเครือข่ายไว้จะเห็นได้ว่า ระบบเครือข่ายจะถูกตัดขาดลงทันที และเมื่อไม่มีระบบเครือข่ายสำรอง ทำให้การบริการสื่อสารชะงักลงทุกครั้ง

ที่น่าแปลกผลการศึกษาระบุไว้ว่า โครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารโทรคมนาคมของหน่วยงานต่างๆ ที่มีอยู่แล้ว คือระบบเครือข่ายเคเบิลใยแก้ว (Optical Fiber) , ระบบเครือข่ายไมโครเวฟ (Microwave) และเครือข่ายดาวเทียม (Satellite) ค่อนข้างมากเกินพอ และพร้อมจะทำหน้าที่เป็นทางด่วนสารสนเทศของประเทศในลักษณะ เครือข่ายหลัก (Main Backbone) ได้อย่างดี

เพียงแต่จะต้องจัดตั้งองค์กรกลาง "จัดการ" อย่างเหมาะสม เพื่อลดความซ้ำซ้อนแล้วสามารถให้บริการในลักษณะเป็น Universal Service ที่ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงเครือข่ายได้อย่างเสมอภาค

ผลการศึกษาของคณะกรรมการชุดนี้ ได้ให้ภาพรวมของโครงข่ายทั่วประเทศไว้ 3 กลุ่มใหญ่คือ

1.ระบบเครือข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสง (Optical Fiber) ของหน่วยงานหลักๆ ที่มีการลงทุนไปแล้ว คือบริษัทกสท ,บริษัททศท ,บริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ (กลุ่มแทค-ยูคอม), บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (กลุ่มชิน-เอไอเอส) และบริษัทเทเลคอมเอเชีย (กลุ่มทรู-ซีพี)

2.ระบบเครือข่ายไมโครเวฟ (Microwave) ของหน่วยงานหลักๆ ที่มีการลงทุนไปแล้ว คือกระทรวงมหาดไทย,กรมการสื่อสารทหาร ,บริษัททศท ,บริษัทกสท ,บริษัท เทเลโฟน แอนด์ เทเลคอมมิวนิเคชั่น และบริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ (กลุ่มแทค-ยูคอม)

3.ระบบเครือข่ายดาวเทียม (Satellite) ที่มีสารพัดหน่วยงานภาครัฐลงทุนจัดทำเครือข่ายดาวเทียมของตัวเอง

ข้อเสนอนี้น่าจะสอดคล้องกับแนวคิดของดร.วุฒิพงษ์ ที่มี "พิมพ์เขียว" จัดตั้งโครงข่ายโทรคมนาคมแห่งชาติหรือเทเลคอมพูลในฐานะนิติบุคคล ที่เป็น "โฮลดิ้งคอมปะนี" เพื่อถือหุ้นบริษัททีโอทีกับบริษัทกสท 100% เพราะทั้งสองบริษัทเป็นเจ้าของสัมปทานโครงข่าย 5 โครงการ คือโครงข่ายโทรศัพท์พื้นฐาน "ทรู" ในกรุงเทพฯ , โครงข่ายโทรศัพท์พื้นฐานทีทีแอนด์ทีในต่างจังหวัด , โครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 ระบบ คือเอไอเอส,ดีแทค และทรูมูฟ

นอกจากนี้ "พิมพ์เขียว" ของ ดร.วุฒิพงษ์ ยังคิดจะเข้าไป "ขอซื้อ" และบริหารจัดการโครงข่ายสิทธิการพาดสายโครงข่ายใยแก้วนำแสงของการไฟฟ้า 3 แห่ง เพื่อให้เป็นโครงข่ายเดียวกันทั่วประเทศ Single National Network ที่เข้าถึงเกือบทุกบ้านในประเทศไทย

หาก "เทเลคอมพูล" สำเร็จหรือเพียงแค่ตั้งหลักตั้งลำเป็นรูปร่างออก "กฎหมาย" รองรับ เพื่อป้องกันการผูกขาดหาผลประโยชน์จากใครก็ตาม ที่เข้ามามีอำนาจจะเกิดผลอเนกอนันต์ยิ่งกว่าการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ที่พล.อ.สพรั่งต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย นำกำลังทหารจากกองทัพภาคที่สามเข้าร่วมโค่นล้มรัฐบาลเผด็จการพลเรือน "ทักษิณ ชินวัตร"

พล.อ.สพรั่งจะกลายเป็น "วีรบุรุษ" อย่างถาวรและแท้จริง หาใช่ "วีรบุรุษ" ปลอมๆจากการล้มล้างรัฐบาลด้วยกระบอกปืนแล้วฉีกรัฐธรรมนูญปี 2540 ที่เป็นรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุด
 

http://www.bangkokbiznews.com/2007/03/25/WW12_1239_news.php?newsid=60922
 
บันทึกการเข้า
WATERMAN
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 161


« ตอบ #19 เมื่อ: 25-03-2007, 13:04 »

ขอบคุณ #20 คุณ 55555 ที่เอาความจริงมาตีแผ่ ว่าสิ่งที่รัฐบาลชวนคิดทำไว้ดีๆ แต่ต้องมาสดุดที่รัฐบาลทักษิณ เพราะผลประโยชน์ทับซ้อน มิน่าลิ่วล้อทักษิณอย่าง snowflake ถึงต้องออกมาดิ้นทุรนทุรายกับเรื่องนี้ เพราะกลัวกลุ่มทุนไทยรักไทยจะเสียประโยชน์จากโครงการนี้นี่เอง คือถ้าปล่อยไว้ให้พวกลากตั้งเข้ามาแน่นอนกลุ่ม cp ais jas ต้องเข้ามาอยู่เบื้องหลังนักการเมืองพวกนี้แน่นอน(เพราะเป็นนายทุนตัวจริง)แล้วถึงเวลานั้นก็คงดองเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ เหมือนที่ทักษิณดองมาแล้วกว่า 5 ปี นี่แหละสันดานนักการเมืองซื้อเสียง ทำอะไรได้ทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ตัวเองและพวกพ้อง ถึงแม้ว่าสิ่งนั้นจะทำให้คนไทยด้อยโอกาสในการแสวงหาความรู้(แต่สิ่งนี้น่าจะเป็นที่ต้องการของนักการเมืองเพราะถ้าคนฉลาดก็ซื้อเสียงยาก) และประเทศชาติด้อยพํฒนาก็ตาม แต่ snow ก็ยังคงบอดใบ้กับสิ่งเหล่านี้ต่อไป เพราะไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมนักเลือกตั้งหรือ มีม่านสีม่วงบังตาก็ไม่รู้
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #20 เมื่อ: 25-03-2007, 15:59 »

การเมือง คือการจัดสรรผลประโยชน์ของผู้คนทั้งสังคม

มีวิธีใดที่จะรักษา "ผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่" ไว้ให้มากที่สุด ก็ต้องทำ

จะเสรีนิยมสุดโต่งหรือสังคมนิยมเสรี ก็เลือก ๆ กันซะทีครับ เบื่อเต็มที

เพราะมันใช้มุมมองกันคนละด้านมาจับตัวปัญหา
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
    กระโดดไป: