สวัสดีเพื่อนๆทุกท่าน
สวัสดีคุณนายท้ายเรือ
ป้าเสลาใช้เส้นแก่ๆกระซิบกับคุณริดคุงว่า
ขอห้องให้ป้าสักห้องสิ จะทำเรื่องราวสวยๆงามๆ
อ่านแล้วสบายๆเกี่ยวกับสังคม วัฒนธรรม
เล่าเรื่องด้วยภาพประมาณนี้
ป้าจะชว่ยกันทำกับคุณ"นายท้ายเรือ"
และแล้วก็ได้ห้องนี้มาโดยแรงสนับสนุนของลุงแคนอีกคนหนึ่งด้วย
ใจจริงป้าเสลาอยากตั้งชื่อห้องว่า "สบาย สบาย"
แต่คุณริดคุงและลุงแคนค้านว่า มันฟังใกล้เคียงกับห้องสุขา นะป้า
แล้วก็ให้ห้องพร้อมแปะป้ายชื่อมาดังนี้
ก็โอเค.. ยินดีๆ ป้าเสลาก็จะพยายามดึงเรื่องราวให้มาอยุ่ในหัวข้อ
ตามชื่อห้องให้จงได้แหละ
ฮะแอ้ม.. วันนี้ป้าจะนำเสนอเรื่องวัฒนธรรมการท่องเที่ยว
ฮ่า..ฮ่า.. ไม่ผิดกติกา เพราะมีคำว่าวัฒนธรรม อยู่ด้วย
ชวนไปพักผ่อนให้คลายร้อนจากอากาศ
และความร้อนจากเรื่องเครียดๆของการเมืองและเศรษฐกิจใกล้เปิดเทอม
เราไปเที่ยวที่ใกล้ๆกรุงเทพกันเถอะ
เก็บเสื้อผ้าไปเที่ยวชะอำกันทางรถไฟ..วันเดียวกลับ
ไปกันแบบประหยัดสบายๆ และปลอดภัย
การเดินทาง 06.30 น. ขบวนรถพิเศษนำเที่ยวที่ 911 ออกจากสถานีกรุงเทพ
มัคคุเทศก์ของ บริษัท ท่องเที่ยวทางรถไฟ จำกัด ให้การต้อนรับบนขบวนรถ
06.43 น. ออกจากสถานีสามเสน
06.51 น. ออกจากสถานีบางซื่อ
07.11 น. ออกจากสถานีบางบำหรุ
07.53 น. ถึงสถานีนครปฐม (หยุด 5 นาที)
07.58 น. ขบวนรถออกจากสถานีนครปฐม
09.38 น. ถึงสถานีเพชรบุรี นำนักท่องเที่ยวเดินทางโดยรถยนต์โดยสาร
(รวมอยู่ในค่าบริการแล้ว)
ไปชมอุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี ซึ่งเป็นราชนิเวศน์ในสมัยรัชกาลที่ 5
โดยขึ้นกระเช้าไฟฟ้า (รวมอยู่ในค่าบริการแล้ว)
11.15 น. ลงจากพระนครคีรี แวะซื้อของฝากจากเมืองเพชรตามอัธยาศัย
11.30 น. ออกเดินทางไปพระราชวังบ้านปืน
12.30 น. จัดเลี้ยงอาหารกลางวัน (รวมอยู่ในค่าบริการแล้ว)
13.30 น. พักผ่อนริมหาดชะอำ
16.23 น. ขบวนรถนำเที่ยวที่ 912 ออกจากสถานีชะอำ
19.18 น. ถึงสถานีบางบำหรุ
19.38 น. ถึงสถานีบางซื่อ
19.47 น. ถึงสถานีสามเสน
20.00 น. ขบวนรถถึงสถานีกรุงเทพ สิ้นสุดรายการเดินทาง
อัตราค่าบริการ : คน
ชนิดรถ ผู้ใหญ่/เด็ก
รถธรรมดา 480.- บาท
รถปรับอากาศ 580.- บาท
--------------------------------------------------

อุทธยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี(เขาวัง)

กระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปชมพระนครคีรี
อุทธยานประวัติศาสตร์พระนครคีรีสร้างขึ้นบนเขาสมณ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
สร้างตามคติพระราชวังหลวง กล่าวคือมีปราสาทและวัดอยู่ภายในเขตพระราชฐาน
ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีการประดับไฟสว่างไสวในงานพระนครคีรี
เมืองเพชร เปิดให้เข้าชมทุกวันในเวลาราชการ
กรมศิลปากรได้ใช้บางส่วนของพระราชวังบนยอดเขาด้านทิศตะวันตกนี้
จัดตั้งเป็น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครคีรี
ภายในเก็บรักษาโบราณวัตถุต่าง ๆ ได้แก่
เครื่องราชูปโภคของ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รูปหล่อโลหะสำริด
และทองเหลืองที่ใช้สำหรับตกแต่งห้องต่าง ๆ ในพระที่นั่ง
และเครื่องกระเบื้องของจีน ญี่ปุ่น และยุโรป
เฉพาะส่วนของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินี้ เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. ทุกวัน
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 30 บาท
(รวมค่ารถรางไฟฟ้า)
หมายเหตุ:- อย่าลืมเมียงมองหากำไลของเจ้าจอมสดับ
ที่มีประวัติความเป็นมาอันน่าประทับใจยิ่งคือ
เหตุการณ์ซึ่งเป็นที่จดจำกันต่อมาระหว่างพระเจ้าอยู่หัว ร.ที่5และเจ้าจอมสดับ
ก็คืองานวันเฉลิมพระที่นั่ง ทรงโปรดเกล้าฯให้มีละครเรื่อง "เงาะป่า"
เจ้าจอมสดับมีหน้าที่นั่งร้องประจำโรงจนละครเลิกก็ได้ตามเสด็จขึ้นไปบนพระที่นั่ง
ท่านได้รับพระราชทานของมีค่าอย่างหนึ่งซึ่งเป็นที่เลื่องลือกันต่อมา
สิ่งนั้นคือกำไลทองเนื้อเก้าหรือเนื้อนพคุณ เป็นทองบริสุทธิ์ เนื้ออ่อนสามารถบิดได้ด้วยมือ
ทรงสวมให้ที่ข้อมือเจ้าจอมสดับและบีบให้ชิดกันด้วยพระหัตถ์เอง
รุ่งขึ้นจึงรับสั่งให้กรมหลวงสรรพศาสตร์
พาช่างทองเยอรมันชื่อนายแกรเลิตนำเครื่องมือมาบีบให้เรียบร้อย
กำไลทองแท้นั้นรูปร่างเป็นตะปูโบราณสองตัวกอดไขว้กันอยู่
ถ้ามองตรงๆเป็นอักษร S (มาจากชื่อย่อของเจ้าจอมสดับ)
หากพลิกข้อมือเพียงเล็กน้อยมองอีกด้านหนึ่งจะกลับเป็นอักษร C (จุฬาลงกรณ์)
สิ่งที่ทำให้กำไลทองวงนี้มีชื่อมากที่สุดในบรรดาเครื่องประดับสูงค่าของรัตนโกสินทร์
ไม่ใช่ราคาหรือการออกแบบ แต่เป็นตัวอักษรพระราชนิพนธ์จารึกไว้ที่ด้านบนของกำไล
เป็นกลอนมีเนื้อความว่า
กำไลมาศชาตินพคุณแท้ ไม่ปรวนแปรเป็นอื่นย่อมยืนสี
เหมือนใจตรงคงคำร่ำพาที จะร้ายดีขอให้เห็นเป็นเสี่ยงทาย
ตาปูทองสองดอกตอกสลัก ตรึงความรักรัดไว้อย่าให้หาย
แม้รักร่วมสวมใส่ไว้ติดกาย เมื่อใดวายสวาสดิ์วอดจึงถอดเอย
ด้วยความเป็นที่โปรดปราน ได้รับพระราชทานเครื่องเพชรทองและของมีค่าต่างๆจำนวนมาก
เจ้าจอมสดับก็ได้รับความกระทบกระเทือนใจจากอาการอิจฉาริษยาของเจ้าจอมอื่นๆ
ทำให้ท่านคับแค้นใจจนถึงกับพยายามทำลายชีวิตด้วยการดื่มน้ำยาล้างรูป
แต่ว่าแพทย์ประจำพระองค์ช่วยชีวิตไว้ทัน
แต่เรื่องนี้ก็มิได้ทำให้ทรงลดถอยพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อเจ้าจอมสดับแต่อย่างใด

เจ้าจอม ม.ร.ว.สดับ (ลดาวัลย์)ในรัชกาลที่ ๕
เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต
เจ้าจอมสดับมีอายุเพียง ๒๐-๒๑ ปี ยังเป็นสาวสวยสดงดงาม ซ้ำยังร่ำรวย
ได้รับพระราชทานเครื่องเพชรมูลค่ามหาศาลจากยุโรปเป็นทุนไว้เลี้ยงชีพต่อไป
ก็เป็นเหตุให้เกิดการนินทาว่าร้ายอีกตามเคยว่า ท่านคงจะเริ่มชีวิตคู่กับชายอื่นในอีกไม่นาน
ประกอบกับครั้งหนึ่ง มีพระยาข้าราชบริพารหนุ่มในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ไปเยี่ยมเยียนด้วยกิจธุระธรรมดา ทำให้ข่าวเล่าลือนี้หนาหูมากขึ้น
เจ้าจอมสดับได้รับความเดือดร้อนจากข่าวนี้มาก
ก็เลยตัดสินใจนำเครื่องเพชรที่เป็น 'มรดก' ขึ้นถวายสมเด็จพระพันปีเสียให้รู้แล้วรู้รอด
เพื่อจะได้ไม่ระคายเคืองถึงเบื้องพระยุคลบาทว่า
ท่านอาจจะนำทรัพย์สินพระราชทานตกไปเป็นของชายอื่น
เครื่องเพชรชุดนี้สมเด็จพระพันปีโปรดเกล้าฯ
ให้จำหน่ายไปเพื่อนำเงินมาเป็นทุนสมทบสร้างโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
ส่วนเจ้าจอมสดับก็ครองตัวอยู่ตามลำพัง รักษาชื่อเสียงไม่ให้ด่างพร้อยใดๆ
อาศัยพระบารมีสมเด็จพระวิมาดาเธอฯอย่างเดิมจนพระวิมาดาฯสิ้นพระชนม์
เจ้าจอม ม.ร.ว. สดับมีอายุยาวนานจนชรา สละทางโลกเข้าบวชชี
ติดขัดอยู่เรื่องเดียวคือกำไลทองพระราชทานซึ่งท่านไม่เคยถอดออกจากข้อมือเลย
บัดนี้เกรงว่าจะไม่เหมาะที่จะสวมเครื่องประดับเมื่อบวช
เมื่อเข้าเฝ้าพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าอดิสัยสุริยาภา พระเจ้าลูกเธอในรัชกาลที่ ๕
เสด็จพระองค์หญิงก็รับสั่งตัดสินให้ว่า
" ไม่น่าจะถือเป็นเครื่องประดับ เพราะเป็นของเก่าได้รับพระราชทาน
อันเป็นนิมิตที่ดียิ่ง ถ้าจะนับว่าเป็นตะกรุดก็ไม่ต่างกัน"
เจ้าจอมสดับจึง"สวมใส่ไว้ติดกาย" ดังคำกลอนพระราชทาน
จนถึงแก่อนิจกรรมเมื่ออายุยืนยาวถึง ๙๓ ปี
ทายาทได้ถวายคืนสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เก็บรักษาไว้ ณ พระที่นั่งวิมานเมฆ จนทุกวันนี้
(ที่เก็บรักษากำไลทองนี้ ป้าเสลาจะขอเช็คอีกครั้งว่า
ขณะนี้เก็บรักษาไว้ที่ใดกันแน่ ระหว่างพระที่นั่งวิมานเมฆกับ
ที่พิพิธภัณฑ์ ที่เขาวัง หากเป็นที่พระที่นั่งวิมานเมฆจริง
ป้าเสลาก็ขออภัยไว้ด้วย)
หมายเหตุ: - เรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าจอมสดับ คัดมาจากบางตอนของบทความ
ของคุณเทาชมพูใน http://vcharkarn.com/

พระรามราชนิเวศน์ (พระราชวังบ้านปืน) จ.เพชรบุรี

หาดชะอำ

หาดชะอำ
(โปรดติดตามตอนต่อไป ชมสาวบราซิลที่ Ipanema Beach
)