10 มีนาคม พ.ศ. 2550 00:00:00
ข้อเสนอของคุณรสนา โตสิตระกูล เลขาธิการมูลนิธิสุขภาพไทย ให้ทีมข่าวไอทีวี ที่วันนี้อยู่กับ "ทีไอทีวี" ให้ทำรายการ "ถอดรหัส" ย้อนรอยอภิมหาคอร์รัปชันเชิงนโยบายของรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : เป็นแนวคิดที่ตรงประเด็นที่สุดในยามที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับความเป็น "สื่อมืออาชีพ" ของทีมงานนี้
ไม่เพียงเท่านั้น ทีมงานไอทีวีชุดนี้จะต้อง "ถอดรหัส" ถึงที่มาที่ไปของการที่ครอบครัวทักษิณ ขายหุ้นชินคอร์ป ให้เทมาเส็ก (ที่รวมเอาไอทีวีพ่วงเข้าไปด้วย...และเป็นเหตุแห่งการที่ทีมงานนี้ต้องเปลี่ยนสังกัดมาเป็นทีไอทีวี) เพื่อเจาะให้ลึกถึงความไม่ชอบมาพากลของเรื่องที่เกี่ยวกับทีมข่าวนี้โดยตรง
ถ้าไม่เจาะเรื่องอื้อฉาวเหล่านี้อย่างตรงไปตรงมา เพื่อลบข้อครหาว่าเคยสยบอยู่ใต้อิทธิพลของทักษิณ สมัยเรืองอำนาจ ทีมข่าวไอทีวีชุดนี้ก็จะยังไม่สามารถ "เคลียร์" ข้อสงสัยคลางแคลงในหมู่ประชาชนได้อย่างแน่นอน
อีกหัวข้อหนึ่งที่ทีมข่าวไอทีวีชุดนี้ ต้อง "ย้อนรอย" เพื่อ "ถอดรหัส" ก็คือการประเมินให้ชัดเจนเสียทีว่าตั้งแต่ทักษิณ เข้ามาเป็นเจ้าของไอทีวีเมื่อ 5 ปีก่อนนั้น มีการพยายาม "แทรกแซง" การทำหน้าที่ของคนข่าวมืออาชีพอย่างไรหรือไม่
เพราะนี่คือฉากหนึ่งของประวัติศาสตร์ที่ต้องมีการวิเคราะห์ แจกแจง และจารึกให้ชัดเจนเพื่อให้สังคมไทยได้รับรู้อย่างกว้างขวาง และรอบด้าน
เพราะแม้ในช่วง 48 ชั่วโมงสุดท้ายก่อนที่ไอทีวีกลายสภาพเป็นทีไอทีวีนั้น คนข่าวไอทีวีที่ปรากฏหน้าจอเพื่อเรียกร้องความเห็นใจจากประชาชน เพื่อให้ออกอากาศต่อเนื่องก็ยังพูดเสมือนหนึ่งว่า ทักษิณและครอบครัวไม่ได้แทรกแซงก้าวก่ายการทำงานของฝ่ายข่าวไอทีวีเลย
ซึ่งตรงกันข้ามกับสิ่งที่ "23 ขบถ" ไอทีวี ได้รายงานประชาชนคนไทยเสมอมา...ว่าทันทีที่ทักษิณ และชินคอร์ป เข้าไปยึดครองไอทีวีนั้น ได้มีความพยายามในรูปแบบต่างๆ เพื่อไม่ให้รายงานข่าวที่เขาและพรรคพวกของเขาไม่ต้องการจะให้รายงาน...และใช้กลเม็ดกดดันทั้งหลาย เพื่อให้ทำข่าวที่ส่งเสริมด้านบวกของพรรคไทยรักไทย แต่เพียงด้านเดียว
ถ้าทีมข่าวไอทีวีที่ทำทีไอทีวีวันนี้ยังยืนยันว่า ทักษิณ และชินคอร์ป ไม่เคยแทรกแซงการทำงานของฝ่ายข่าว ก็สมควรจะต้องประกาศให้สังคมได้รับรู้อย่างเป็นทางการ และจะต้องตอบคำถามของสื่อด้วยกันที่มีประสบการณ์คนละอย่างกับทีมข่าวนี้
แต่ถ้าหากทีมข่าวไอทีวีชุดนี้ ยังมีเรื่องจะต้อง "สารภาพ" หรือ "เปิดใจ" กับสังคมเพราะแต่ก่อนพูดไม่ได้ แต่เดี๋ยวนี้สามารถพูดความจริงแล้ว ก็เป็นโอกาสเดียวที่เหลือที่จะทำเป็นรายการ "ถอดรหัส" เพื่อ "ย้อนรอย" ประวัติศาสตร์ฉากสำคัญของวงการโทรทัศน์เมืองไทย ที่พวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงด้วย เนื่องเพราะขณะนี้ มีการมองว่าทีมข่าวไอทีวีชุดนี้ได้รับ "สิทธิพิเศษ" จากรัฐบาลนายกฯ สุรยุทธ์ ที่สามารถทำช่องทีไอทีวีทั้งๆ ที่สำนักงานปลัดสำนักนายกฯ (สปน.) ควรจะเปิดกว้างเพื่อให้คนหลายๆ กลุ่มได้เข้ามาทำช่องนี้ ในขณะที่รอให้มีการกำหนดทิศทางของคลื่นความถี่ UHF ทีมข่าวชุดนี้ จึงต้องแสดงความโปร่งใสชัดเจนในจุดยืนของตัวเองทั้งในอดีตและปัจจุบัน
พูดง่ายๆ ก็คือสิทธิพิเศษเช่นว่านี้ จะต้องแลกกับการเปิดแฟ้มประวัติของทีมข่าวนี้ เพื่อให้สังคมตรวจสอบให้ชัดเจน
ยิ่งจะต้องใช้เงินภาษีประชาชนอย่างน้อย 90 ล้านบาท (นี่แค่ก้อนแรก) ที่สปน. จะขอจากงบกลาง เพื่อให้กรมประชาสัมพันธ์ "จ้างเหมา" ทีมงานนี้ ก็ยิ่งมีความจำเป็นเร่งด่วนที่คนทำงานจากไอทีวีคณะนี้ ต้องแสดงความพร้อมที่จะ "เคลียร์" เบื้องหน้าเบื้องหลังของตนเองต่อสาธารณชน
นั่นคือ ต้องแสดงโดยเนื้อหาในรายการของทีไอทีวี ว่าทีมข่าวที่มีชื่อเสียงทางด้านการสืบสวนสอบสวน หรือ investigative journalism นั้น จะต้องแสดงฝีมืออย่างเต็มที่ในการขุดคุ้ยคอร์รัปชัน ในยุคทักษิณ ประเมิน "ประชานิยม" และ "ถอดรหัส" ออกมาให้ได้ว่าตกลงทักษิณ เคยแทรกแซงฝ่ายข่าวไอทีวีในช่วง 5 ปีที่เขาเป็นทั้งนายกรัฐมนตรีและเจ้าของชินคอร์ป ที่เป็นเจ้าของไอทีวีหรือไม่
ทีมข่าวชุดนี้ต้องแสดงความสามารถในการเจาะลึกถึงความหมายของคำว่า "ผลประโยชน์ทับซ้อน" หรือ conflict of interests ของยุคทักษิณ เพื่อพิสูจน์ว่า
การทำหน้าที่ของสื่ออาชีพนั้น "ย้อนรอย" กลับไปสิบปี เพื่อ "ถอดรหัส" จริยธรรมของตัวเองก็ยังไม่สายเกินไป (เข้ามาร่วมแสดงความเห็นใน blog ส่วนตัวของผมที่
ได้ตลอด 24 ชั่วโมง)
http://www.bangkokbiznews.com/2007/03/10/WW12_1238_news.php?newsid=58274****************
555+++