http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9500000026834 มีชัย เผย กฤษฎีกาตีความ ระบุ กรมประชาฯมีอำนาจในการบริหารคลื่นไอทีวีได้ คาดส่งผลตีความกลับไปให้ สปน.รับทราบภายในวันนี้
วันนี้ (7 มี.ค.) นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวถึงกรณีมติคณะรัฐมนตรีที่ให้กรมประชาสัมพันธ์เข้าไปดูแลทรัพย์สินและอุปกรณ์ของสถานีโทรทัศน์ไอทีวี ว่า ทางสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ได้ทำเรื่องสอบถามมายังคณะกรรมกฤษฎีกามาหนึ่งประเด็น คือ จะมอบสถานีโทรทัศน์ไอทีวีให้กรมประชาสัมพันธ์ดำเนินการต่อไปได้หรือไม่ และเป็นการขัด พ.ร.บ.จัดสรรคลื่นความถี่หรือไม่ ซึ่งคำตอบคือไม่ขัด ซึ่งคาดว่าจะส่งความเห็นกลับไปยัง สปน.ภายในวันนี้
อย่างไรก็ตาม นายมีชัย กล่าวว่า ในความเป็นจริงกรมประชาสัมพันธ์จะดำเนินการได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับสัญญาต่างๆ ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่เกี่ยวข้องด้วย เพราะทาง สปน.ไม่ได้สอบถามมาได้เรื่องสัญญา
เมื่อถามว่า สถานีโทรทัศน์ไอทีวีจะมีสถานะภายใต้การกำกับของรัฐหรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า เมื่อไม่มีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ (กสช.) อำนาจก็อยู่ที่กรมประชาสัมพันธ์ในกฎหมายก็ระบุว่ายังไม่สามารถจัดสรรคลื่นความถี่ เปิดสถานีใหม่ได้ ดังนั้นกรมประชาสัมพันธ์จึงต้องเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนเรื่องค่าจ้างลูกจ้างก็อยู่ที่บริษัทจะตกลงกันเอาเอง
นายมีชัย กล่าวถึงการที่สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) จะดำเนินการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญเอง ว่า รัฐธรรมนูญชั่วคราวได้ให้อำนาจกับ ส.ส.ร.ในการกำหนดหลักเกณฑ์ในการจัดทำประชามติ ดังนั้น ส.ส.ร.ก็มีสิทธืที่จะดำเนินการแต่ในความเป็นจริงก็จะต้องมาดูว่าส.ส.ร.จะสามารถดำเนินการได้เองหรือไม่ เนื่องจากในการดำนเนินการในเรื่องนี้เป็นการทำงานที่ต้องใช้คนจำนวนมาก
ทั้งนี้ ผลของการตีความของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ระบุว่ากรมประชาสัมพันธ์มีอำนาจในการบริหารคลื่นไอทีวีหลังมีการยึดสัมปทานจากบริษัท ไอทีวี แล้ว อย่างไรก็ตาม คนละประเด็นกับกรณีของพนักงานไอทีวีที่ไปยื่นต่อศาลปกครอง เพื่อไต่สวนฉุกเฉินให้คุ้มครองชั่วคราวโดยให้เพิกถอนมติคณะรัฐมนตรีที่สั่งยุติการออกอากาศของไอทีวีหลังเที่ยงคืนวันนี้