เปลวสีเงิน
กรณีศึกษาจากลีลาจอมยุทธ์ ITV
7 มีนาคม 2550 กองบรรณาธิการ
มีสิทธิ์พูดได้ ๒ หนเท่านั้นนะครับ สำหรับ "คำขอโทษ" ถ้ามีอีกเป็นครั้งที่ ๓ อย่างนั้น..เขาไม่เรียกว่าขอโทษ แต่เขาเรียกว่า "คำติดปากของ..คนไม่รับผิดชอบ"!
กรณี ITV นั้น ยกให้เป็น "กรณีศึกษา" ของนักการเมือง ข้าราชการ และนักศึกษาวิชาการสื่อสารทั้งหลาย
สำหรับนักการเมือง นี่คือบทเรียนว่า การบริหารด้านการเมืองนั้น ใช้แค่น้ำใสใจจริง คิดอย่างไร เห็นอย่างไร ต้องการอย่างไร ก็พูดออกไปทันที-ทันใด นั้น
เสียคนเอาง่ายๆ ครับ!
สำหรับข้าราชการ อย่าบริหารอำนาจรัฐในมือแบบ "คล้อยตาม-รับใช้" นักการเมืองตะพึดตะพือ "กฎหมายคืออำนาจ-อำนาจคือกฎหมาย"
ฉะนั้น ตัวเองจะทำอะไร "ทำแบบไม่รู้-ไม่ได้ โง่ก่อนแล้วมารู้ทีหลังก็ไม่ได้ จะต้องเป็นแกน" แห่งบรรทัดฐานที่ ถูกต้อง-ยึดถือได้!
สำหรับนักศึกษาวิชาสื่อสาร อย่ามองปัญหานี้แบบ "ฟังไม่ได้ศัพท์จับมากระเดียด" ถ้าอย่างนั้น ตัวเองจะกลายเป็นเครื่องมือเผยแพร่ข่าวสาร "ความจริงครึ่งเดียว" สู่สาธารณะให้เป็นที่น่าสมเพช
และ "หัวใจของเรื่อง" จากที่ฝ่ายบริหาร ITV ตกอยู่ในสถานภาพจำเลยของปัญหา แต่สามารถพลิก-ผลักภาระนั้นให้ไปตกอยู่ที่ "บ่ารัฐบาล"
แล้วตัวเองก็ ตั้งโต๊ะชวน "เทมาเส็ก" นายใหญ่ขึ้นภูเสพสุราดู "แพะรุมแทะเสือ" สบายใจเฉิบ!
ที่เป็นอย่างนี้ได้ก็เพราะ ชั้นเชิง "ลีลาสื่อสารสู่สังคม" ของระดับบริหาร ITV พลิ้วเหนือกว่าฝ่ายรัฐนั่นเอง!
ต้องเข้าใจแต่ละขั้นตอนก่อนนะครับว่า ภาระ ITV ต่อรัฐ ในฐานะผู้รับสัญญาสัมปทาน ขณะนี้มีอยู่ ๒ ส่วน คือ
ส่วนหนี้ "ค้างค่าเช่า" ตามสัญญารายเดือน ๒ พันกว่าล้านบาท!
และอีกก้อน กว่า ๗ หมื่นล้านบาท เป็น "ค่าปรับ" จากการทำผิดสัญญา
เงินก้อน ๗ หมื่นกว่าล้านค่าผิดสัญญานี้ ผู้บริหาร ITV ก็โต้แย้ง ชาวบ้านก็ร้อง..โอ้โฮ..มากจัง จะเอาที่ไหนมาจ่าย?
แต่ฝ่ายรัฐบอกว่า ค่าปรับ ๗ หมื่นกว่าล้านนั้น ไม่จ่ายก็ไม่เป็นไร ไม่ใช่เงื่อนไข "ชี้เป็น-ชี้ตาย" เอาไปว่ากันตามขั้นตอนของกฎหมาย ยุติด้วยธรรมตรงไหน ก็เอากันตรงนั้น
ส่วน ๒ พันกว่าล้าน "ค่าเช่ารายเดือน" ที่ค้างจ่ายอยู่นั้น ITV ต้องจ่ายส่วนนี้ให้ถูกต้อง-ครบถ้วนตามสัญญา เพราะนี่คือ "ความถูกต้อง-ชอบธรรม" ที่รัฐพึงได้ตามเงื่อนไข
แต่ฝ่าย ITV ก็ยักเยื้องการจ่ายด้วยเหตุผลต่างๆ เรื่อยมา ฝ่ายรัฐก็ผ่อนปรนเรื่อยมา จนถึงเส้นตาย "ครั้งสุดท้าย" คือวันที่ ๖ มีนา.นี้ ที่ทั้ง ๒ ฝ่ายก็ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามเงื่อนไขสัญญา
แต่ฝ่ายบริหาร ITV ก็แสดงท่าทีชัดเจนล่วงหน้าว่า "ไม่จ่าย" โดยผู้บริหารระดับใหญ่ปลีกตัว "ลาออก" ไปก่อน
ฝ่ายบริหาร ITV ปลิ้นตัวลอยเหนือภาระปัญหา ปล่อยให้ฝ่ายพนักงานดาหน้าใส่รัฐบาล เพื่อเค้นเอาคำมั่นสัญญาว่า..ต้องเปิด ITV ต่อเพื่อให้พวกเขามีงานทำ
สถานการณ์ที่พลิกผันก็เริ่มจาก "ฝ่ายบริหาร" ITV ใช้หน้าจอเป็นสื่อรวบประเด็นนำเสนอว่า
"เขาไม่ได้ปิด แต่เพราะรัฐยึดเอาคลื่น ITV คืน"
เหตุที่รัฐยึดคลื่นคืน เพราะเจรจาไม่ตกลงกัน รัฐจะเอาค่าปรับเฉียดแสนล้าน ขอผ่อนปรนให้ไปสู่ขั้นตอนศาลก็ไม่ยอม ก็จำใจต้องให้รัฐยึดเอาคลื่นคืนไป
เท่าที่ผมฟังจากนักข่าว ITV เขาซักหน้าจอถึงประเด็น..ทำไมไม่เอาค่าเช่า ๒ พันล้านไปจ่ายให้รัฐก่อน ITV จะได้ดำเนินต่อไป
ที่ผมจำความได้ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล เขาทำหน้าเศร้า ตอบปะล่อมปะแล่มทำนองว่า ๒ พันกว่าล้านนั้น หาเงินมาจ่ายให้ได้..
แต่นายทุน หรือผู้ร่วมทุนใหม่เขาไม่มีความมั่นใจในเรื่องเงินค่าปรับเฉียดแสนล้าน ก็เลยไม่มีใครยอมจ่าย-ยอมร่วมทุน
สรุป ความจริงของ "จอมืด" ก็คือ...
ITV ไม่จ่ายค่าเช่ารายเดือนที่ติดค้างอยู่ ๒ พันกว่าล้านให้รัฐบาล!!
ไม่ใช่รัฐบาล "ยึดคลื่น ITV คืน"
เพราะการ "ไม่จ่ายค่าเช่า" นั่นแสดงเจตนาว่า ผู้รับสัมปทาน-ผู้เช่า ไม่ประสงค์จะดำเนินกิจการนั้นต่อไปแล้ว
ฉะนั้น ITV จะจอมืด-จอขาว พนักงาน บริษัทรับจ้างผลิตรายการ จะมีงานทำกันต่อไปหรือไม่ ประเด็นใหญ่มันอยู่ที่ผู้บริหาร ITV เขาต้องการทำธุรกิจด้านนี้ต่อไปหรือไม่ตะหาก!?
ถ้าอยากทำต่อ เงินแค่ ๒ พันกว่าล้านไปจ่ายเขาซะ ขนหน้าแข้งเทมาเส็กไม่ร่วงหรอก ที่ไม่จ่ายเพราะรู้ว่า "ต่างชาติเป็นเจ้าของสื่อผิดกฎหมาย" และทั้งเทมาเส็กแสดงเจตนาแต่แรกแล้วว่า "ไม่ต้องการธุรกิจนี้"
เขาจึงใช้ชั้นเชิง "ยืมแรงแมลงปอเขยื้อนภูเขา" นอกจาก มี-ไม่หนี-ไม่จ่ายแล้ว จึงใช้ลีลาทางคำพูดพลิกประเด็น ปลิ้นตัวเองให้พ้นจากหล่มโคลนตม
โดยใช้จังหวะที่ "พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์" ใช้ความซื่อ-ใสแห่งจิตใจเมตตา โดดเอาบ่าแบกรับภาระแทน โดยบอกกับนักข่าว ITV ว่า
"จะไม่ปิด ITV และทุกคนจะมีงานทำต่อไป" นั่นแหละ!
รัฐบาลเลยเป็น "หนังหน้าไฟ" หนี้รัฐที่ต้องได้ขั้นแรก ๒ พันกว่าล้านก็ไม่ได้แล้ว แถมยังต้องตกอยู่ในฐานะจำเลย ถูกนักข่าว-พนักงาน ITV สร้างภาพให้กลายเป็นว่า
รัฐบาลโหด รัฐบาลใจร้าย รัฐบาลมีวาระซ่อนเร้น กระทั่งว่า "นายกฯ พูดจาสับปรับ เชื่อถือไม่ได้" บอกว่าจะไม่ปิด สุดท้ายก็ปิด!?
การเสนอข่าวของโทรทัศน์ โดยเฉพาะตลอดวันวานนี้ของ ITV ทำให้ภาพรัฐบาล ภาพพลเอกสุรยุทธ์กลายเป็น "ผู้ร้าย" ในสายตาสังคม
ขณะเดียวกัน แปลกที่สุด..คล้ายกับว่า ITV บริหารด้วยพนักงาน ส่วน "ระดับบริหาร" เกาะอยู่ติดหลังพนักงาน..ไม่กล้าเผยหน้าเผยตา
และแปลกที่สุด ก็เพิ่งเห็นครั้งแรก คือแทนที่พนักงานจะฮือไปทวงถามเอากับ "ผู้บริหารบริษัท" ว่ามีเจตนาอะไรในการ "ไม่จ่ายค่าเช่า" ทั้งที่เห็นอยู่ว่า "มีกำไร" แถมนายทุนใหญ่คือ "เทมาเส็ก" ก็มีเงินมากมาย
แต่การไม่จ่าย เหมือนเจตนาให้ผิดสัญญา และต้องการให้ผลของการผิดสัญญานั้น เกิดภาพต่อเนื่องว่า "รัฐบาลเป็นฝ่ายมายึดคลื่นคืน"
ที่ทำอย่างนี้..ต้องการอะไร?
นี่..แทนที่ "ความจริง" ควรจะเป็นอย่างนี้ แต่กลับเป็นว่าพนักงาน ITV ทำเหมือนจะไปเชือดเนื้อเถือหนังเอากับรัฐบาล ซึ่งไม่ใช่ "นายจ้าง" และไม่มีส่วนต้องรับผิดชอบโดยตรงอะไรเลย!
เปรียบก็เหมือน "บ้านถูกตัดโทรศัพท์" แทนที่จะถามพ่อบ้าน-แม่บ้านว่า "ทำไมไม่เอาเงินไปจ่ายค่าโทรศัพท์ จนองค์การฯ เขามาตัด?"
หรือเหมือนเราเป็นนักเรียน ครบเทอมแล้วแต่ผู้ปกครองไม่จ่ายค่าเทอมให้โรงเรียน เราจะไปด่าเจ้าของโรงเรียนว่า "หน้าเลือด ไม่เห็นแก่การศึกษาของเด็ก" เพื่อให้เขายอมให้เราเรียนต่อไป โดยไม่ต้องจ่ายเงินคนเดียว!
ทุเรศไปหน่อยมั้ย?
ทางที่ควรตามกติกา คือ เอาเงินค่าใช้โทรศัพท์รายเดือนที่ค้างไปจ่ายเขา เอาเงินค่าเทอมไปจ่ายโรงเรียนเขา ลูกจะได้เรียนหนังสือตามปกติ
กรณีนี้ก็เหมือนกัน แทนที่จะรบเร้าให้รัฐบาลเปิดจอ ทำไมพนักงาน ITV ไม่กลับหลังหันไปทวงถาม "ฝ่ายบริหาร ITV" ดูบ้างล่ะว่า ไหนบอกว่าธุรกิจมีกำไร แล้วทำไมไม่จ่ายค่าเช่าให้รัฐบาล..พวกหนูจะได้มีงานทำกันต่อไป?
ผมเชื่อว่า ถ้าผู้บริหาร ITV นำเงิน ๒ พันกว่าล้านไปจ่ายค่าเช่าให้รัฐบาล ทุกอย่างก็คงตกลงกันได้ ITV ก็จะเปิดจอกันต่อไป ส่วนเรื่องค่าปรับก็ว่ากันไปตามกระบวนการกฎหมาย
อย่างนี้มีความเป็นไปได้มากกว่า คือมากกว่าทางหวังให้รัฐเปิดจอเพียงจุดประสงค์ "ให้คนกลุ่มหนึ่งได้ออกจอ"
การเอาแต่ใจ-เอาแต่ได้ ให้รัฐดำเนินการ ITV ต่อเนื่องนั้น อย่าลืมผลประโยชน์รัฐ คือผลประโยชน์ประชาชนทุกคน กรณีนี้ขืนผลีผลามจะเหมือน "เหยียบกับระเบิด"
ทาง ITV โดยเทมาเส็ก นั้น ผมว่าจ้องตาเป็นมันอยู่แล้ว ลองเข้าไปแตะต้องดำเนินการอะไร จะเกิดเป็นเงื่อนไขให้ฝ่ายตรงข้ามยึดเป็น "ข้อโต้แย้ง-ข้อต่อรอง" ในรูปคดีเรื่อง "ค่าเช่า-ค่าปรับ" ทันที!
และจริงๆ แล้ว อุปกรณ์ต่างๆ นั้น สำรวจแน่หรือยังว่า บริษัท ITV เช่ามาใช้ หรือว่าซื้อมา นี่ก็เป็นปัญหาเรื่อง "สมบัติที่ต้องส่งมอบให้รัฐ" อีกเช่นกัน
โบราณท่านพูดว่า
"ใต้ธงรบแม่ทัพที่ชาญฉลาด ย่อมไม่มีทหารที่โง่เขลา" จริงของท่าน เพราะกรณีนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า "อาณาจักรชินคอร์ป" ภายใต้การก่อตั้งของ พ.ต.ท.ทักษิณ บ่มเพาะนักบริหารที่สูงด้วยเชิงชั้นไว้ใช้มากมาย อย่างกรณี ITV นี้ ด้วยฝีมือบริหารในนาทีวิกฤติของลูกหม้อชินคอร์ป แค่พลิกนิดเดียว..รัฐบาลเป็นฝ่าย "เสียว" แทนเทมาเส็ก!.
===========================================
กรณี ITV ที่มันเกิดปัญหาขึ้นตอนนี้ต้องยอมรับเลยว่า นายกซื่อบื้อคนนี้ผิดเต็มๆที่ไปรับปากพวกเขา
และคุณหญิงบ้าบอนั่นก็ปากพล่อยพูดเรื่อยเปื่อยโดยไม่ได้แหกตาดูข้อกฏหมายเลย
หากยึดตามหลักกฎหมายแล้วถ้าอยากออกอากาสต่อ ITV แค่เอาตังจ่ายค่าสัมปทานและค่าปรับมันก็จบแล้วนี่คือความจริงที่ ITV ไม่ยอมบอกประชาชน
ถ้าศาลให้ความคุ้มครอง ITV ปัญหาอีก 108 จะตามมาไม่รู้จบ
นายกซื่อบื้อคนนี้ต้องลาออกสถานเดียวอยู่ไปก็รังแต่จะสร้าง่ปัญหากลับไปเล่นรถไฟจำลองที่เขายายเที่ยงแบบเดิมนะดีแล้วตำแหน่งนายกไม่เหมาะแก่ท่านหรอก