จองคิวปลุกเสก “จตุคาม” วัดมหาธาตุ เต็ม 4 เดือน

[นทร์]

จองคิวปลุกเสก “จตุคาม” วัดมหาธาตุ เต็ม 4 เดือน

เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุเผย วัดถูกจองคิวปลุกเสก “จตุคาม-รามเทพ” ยาวเต็ม 4 เดือน หนุนสรรพากรเก็บภาษีนายทุน-แนะวัดต้องชัดเจนป้องกันเหลือบอาศัยวัดทำธุรกิจ

กรณีมีกระแสข่าวว่าสรรพากร จ.นครศรีธรรมราช เตรียมสืบสวนภาษีกับนักสร้างพระเครื่อง “จตุคามรามเทพ” เพื่อเรียกเก็บภาษีเนื่องจากพบว่ามีเงินสะพัดในวงการนับพันล้านบาท จนกระทั่งสะเทือนในวงการนักสร้างพระเครื่องโดยเฉพาะสาย “จตุคามรามเทพ” และมีเสียงตอบรับทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับเรื่องนี้

เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่มณฑลพิธีวางศิลาฤกษ์สร้างรูปหล่อท้าวจตุคามรามเทพ และอนุสาวรีย์ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช หน้าที่ทำการกองบังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช พล.ต.ต.สุดใจ ญาณรัตน์ เป็นประธานในพิธีฝ่ายฆราวาส และ พระราชธรรมสุธี เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช (ธรรมยุติ) ในฐานะเจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุนครศรีธรรมราช เป็นประธานพิธีฝ่ายสงฆ์ และมีนายฉันทณ์ทิพย์ พันธรักษ์ราชเดช บุตรชายคนโตของ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นเจ้าพิธีดำเนินพิธีอ่านโองการอัญเชิญเทวดา

ภายหลังพระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เปิดเผยถึงกระแสความเคลื่อนไหวการจัดสร้างวัตถุมงคลโดยเฉพาะ “ท้าวจตุคาม” และ “ท้าวรามเทพ” ซึ่งมีความเชื่อว่าจะต้องเริ่มพิธีในการบวงสรวงและปลุกเสกภายในวัดพระมหาธาตุเนื่องจากเป็นต้นกำเนิดของเทพทั้ง 2 องค์ว่า ในระหว่างเดือนมกราคม จนไปถึงเดือนเมษายน 2550 มีการติดต่อวัดพระมหาธาตุเพื่อขอใช้สถานที่เพื่อประกอบพิธีปลุกเสกพระเครื่องโดยเฉพาะ “ท้าวจตุคามรามเทพ” ถึงกว่า 50 รุ่น

“ขอยืนยันว่าวัดไม่ได้กะเกณฑ์รายได้ในการอนุโมทนากับวัด ขึ้นอยู่กับความศรัทธาของผู้ที่เข้ามาจัดสร้าง จะไปทำประโยชน์ หรือหาประโยชน์ก็แล้วแต่ ส่วนใหญ่จะอนุโมทนาประมาณ 1-2 หมื่นบาทเท่านั้น แต่สิ่งที่วัดห้ามอย่างเด็ดขาด คือ การห้ามจุดพลุ จุดตะไล จุดประทัด และจำกัดสถานที่ให้เพียงหน้าวิหารและในวิหารหลวงเท่านั้น ในบริเวณองค์พระบรมาตุเจดีย์ห้ามเด็ดขาด” เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุ กล่าว

พระธรรมสุธี ยังกล่าวต่อว่า ความเชื่อที่ว่าจะต้องมาทำพิธีที่วัดพระมหาธาตุนั้นเนื่องจากรูปหล่อองค์ท้าวจตุคาม และท้าวรามเทพ ทำหน้าที่ในการเฝ้ารักษาองค์พระบรมธาตุเจดีย์มานับพันปีแล้ว นั่งอยู่บริเวณทางขึ้นลานประทักษิณ ดังนั้นเมื่อใครจะสร้างก็ต้องไปบวงสรวงไปปลุกเสกที่วัดเข้าทำนองอยู่ที่ไหนก็ต้องไปที่นั่น

“อาตมาเชื่อว่าความนิยมต่อองค์จตุคามรามเทพนั้น ที่ผ่านมาคนเริ่มถามหาของดีเยอะ ออกมาจากวัดหรือออกมาจากที่ไหน จากที่อื่นที่ไม่ใช่วัดนั้นคาดว่าประมาณปลายปีนี้จะสะดุดอย่างแน่นอน ถ้าถามว่าเกินพอดีแล้วหรือไม่นั้น ต้องตอบว่าไปห้ามความต้องการไม่ได้ ในเมื่อพอใจและศรัทธาก็เช่าบูชากันทุกรุ่น คนที่สร้างก็สร้างเรื่อย เวลานี้บางรุ่นก็สะดุด บางรุ่นก็มีให้เช่าได้เรื่อยเป็นที่นิยม แต่เดี๋ยวนี้ชาวบ้านรู้ว่าอะไรเป็นอะไร รุ่นไหน อย่างไร สร้างกันเพื่อหาประโยชน์หรือไม่”พระธรรมสุธี กล่าว

ส่วนในเรื่องมวลสารนั้นถ้ามาจากวัดพระมหาธาตุคือ ดินที่สกัดออกมาจากองค์พระบรมธาตุเจดีย์ เมื่อครามบูรณะครั้งใหญ่ในปี 2536-2538 เศษดินเศษปูนเหล่านี้ได้ฝังไว้ เมื่อใครมาขอก็ได้ดินพวกนี้ รวมทั้งมีเทียน มีเศษขี้ธูป เศษทองคำเปลว ดอกไม้ที่บูชาองค์พระธาตุ อย่างอื่นไม่มี

พระฑรรมสุธี กล่าวถึงกรณีที่สรรพากรจะจัดเก็บภาษีกับนักสร้างพระเครื่องโดยเฉพาะองค์จตุคามรามเทพ ว่า เรื่องของการเก็บภาษีนั้นอาจจะมาพาดพิงกับวัดแต่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับสรรพากรที่จะจัดเก็บภาษี ทั้งนี้เชื่อว่าจะสามารถควบคุมการจัดสร้างไม่ให้เพิ่มมากขึ้น ในส่วนของวัดนั้นวัดไหนที่จะจัดสร้างก็ตามควรแจ้งกับสำนักพระพุทธศาสนาเพื่อรายงานถึงรายได้ รายจ่าย ให้มีความชัดเจนถึงที่มาหากจะเก็บภาษีส่วนนี้เป็นเรื่องของสรรพากร แต่อีกนัยยะหนึ่งสามารถป้องกันพวกหัวใสที่อ้างวัด โรงเรียน มูลนิธิ มีมากมายสร้างแบบไม่มีการควบคุม

พระธรรมสุธี เปิดเผยอีกว่า อย่าให้วัดตกเป็นเบี้ยล่างนายทุนสร้างกันไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ วัดได้แค่ไม่เท่าไหร่ แต่วัดคงไม่ไปกีดกันในการสร้าง เพราะถือว่าเป็นการสร้างบารมีขององค์จตุคาม และองค์รามเทพให้มีบารมีท่านสูงยิ่งๆขึ้น สุดท้ายอาจจะไม่ต้องเวียนว่ายอาจจะหลุดพ้นไปอยู่ในพุทธภูมิก็สุดแล้วแต่
 
คมชัดลึก

* ช่วงนี้เรื่องนี้ดังขึ้นมา