เศรษฐกิจเน่าหนัก แม้แต่ 'มาม่า' ยังไม่มีปัญญาซื้อกิน

สหพัฒน์ชี้เกิดวิกฤตความเชื่อมั่น ขนาดสินค้าหลักอย่าง"มาม่า"ยังวูบ

บิ๊กบอสสหพัฒน์ฯ แหยงตั้งเป้าหมายยอดขายของกลุ่มในปีนี้ เกรงกดดันตัวเอง เหตุสารพัดปัจจัยลบรุมกระหน่ำจนเกิดวิกฤตความเชื่อมั่นผู้บริโภค หันนำหลักพอเพียงมาใช้ โอดขนาด "มาม่า" ยอดขายยังลด

นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เปิดเผยว่า ผลจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นจนมีผลกับยอดส่งออกสินค้าในเครือของสหพัฒน์ รวมทั้งเกิดภาวะวิกฤตความไม่เชื่อมั่นของผู้บริโภคหลังจากเกิดเหตุการณ์ระเบิดในพื้นที่กรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2549 ทำให้ทางบริษัทไม่ได้ตั้งเป้าหมายภาพรวมทั้งเครือว่าจะต้องเติบโตเท่าไร เพื่อไม่ให้เป็นการกดดันตัวเอง เนื่องจากยังมีปัจจัยลบหลายด้าน สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือ นำเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ด้วยการประหยัดต้นทุนทุกด้าน โดยใช้กลยุทธ์หยุดรอดูสถานการณ์ (wait and see) ไปก่อน เนื่องจากสิ่งต่างๆ ยังไม่ชัดเจน กำลังซื้อผู้บริโภคไม่เพิ่มมีแต่ลดลง หลังเกิดระเบิดคนไม่กล้าเดินห้าง หันมาซื้อสินค้าตามร้านค้าปลีกมากขึ้น แต่หลังจากพ้นไตรมาสที่ 1 เชื่อสิ่งต่างๆ อาจจะดีขึ้น

นายบุณยสิทธิ์ กล่าวถึงยอดขายของสินค้าหลักในเครือบะหมึ่กึ่งสำเร็จรูปตรามาม่าว่า ขณะนี้ยอดตกลงอยู่ตลอดเวลา

และคาดว่าตลอดทั้งปีนี้จะอยู่ในสถานการณ์ไม่ดีนัก สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากวัตถุดิบที่นำเข้าจากออสเตรเลีย มีการปรับตัวสูงขึ้น จากผลกระทบจากคลื่นความร้อนที่พัดผ่านออสเตรเลีย อย่างไรก็ตามปีที่ผ่านมาทั้งเครือสหพัฒน์มีการเติบโตกว่า 10% คิดเป็นยอดขายประมาณ 1.3 แสนล้านบาท สำหรับปีนี้ หากทั้งเครือเติบโตได้เท่ากับที่ผ่านมาถือว่าดีแล้ว

นายบุณยสิทธิ์กล่าวว่า ส่วนปัญหาเรื่องความไม่พร้อมของสนามบินสุวรรณภูมินั้น จะยิ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมเนื่องจากมีผลกับความเชื่อมั่นของต่างประเทศ รวมทั้งนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักที่นำเงินเข้ามาใช้จ่ายในประเทศ และจะเป็นอีกตัวแปรที่น่าเป็นห่วงนอกเหนือจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลง

นายบุญเกียรติ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไอ.ซี.ซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในเครือสหพัฒน์ กล่าวว่า ปี 2549 ไอ.ซี.ซี มียอดขายรวม 13,000 ล้านบาท เติบโตเพิ่มจากปี 2548 คิดเป็น 12% ต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่วางไว้ว่าจะเติบโต 15% ผลจากการเกิดน้ำท่วม และเหตุการณ์ด้านการเมืองในช่วงปลายปี ส่วนกลยุทธ์ในปีนี้ทางบริษัทจะเน้นทำงานหนักเพื่อขายสินค้าให้ได้มากขึ้น โดยสินค้าหลักที่จะเป็นตัวกระตุ้นยอดขายคือ บีเอสซี, ลาคอส, แอร์โรว์, และวาโก้ (กรอบบ่าย)
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01eco03310150

ปกติจะมีดัชนี 'มาม่า' วัดเศรษฐกิจแบบง่ายๆ ถ้าขายดีแสดงว่าเริ่มแย่เพราะคนเปลี่ยนมากินอย่างประหยัด
แต่ถ้าถึงขั้นไม่มีปัญญาซื้อ 'มาม่า' กิน แสดงว่าสุดยอดเศรษฐกิจเน่ามาเยือนแล้ว ปลูกผักหลังบ้าน
จับปลาในคลองแสนแสบมากินกันเถอะพวกเรา