ผมอึดอัดเช่นเดียวกับ คุณสัก กอแสงเรือง & TDRI เกี่ยวกับ "ผู้นำเกียร์ว่าง"

[AsianNeocon]

ในเมื่อเขารอเจ้าทุกข์โผล่มาจะได้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษ หากข้าราชการไม่ขยับ ก็ต้องเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีที่ต้องไปไล่บี้ และถ้ารัฐมนตรียังเกียร์ว่าง ก็เป็นหน้าที่ของ "นายกรัฐมนตรี" ที่ไปไล่บี้ ให้งานมันเดิน

ตลอดมาและทุกวันนี้ ก็ยังคงปล่อยให้รัฐมนตรี ตั้งแต่
- ไอ้อ๋วยไปปลุกผีหวยใต้ดินมั่ง จนสังคมวุ่นวายไปหมด หรือแสดงความลังเลในการสกัดการเก็งกำไร
- ไอ้หน้าเต้าหู้ก็ไปจับเรื่องมหาลัยนอกระบบ
- ไอ้นิตย์กว่ามันจะยกเลิกหนังสือเดินทางแดงได้ ก่อนจะยกเลิกผู้นำเกียร์ว่างดันไปให้สัมภาษณ์บอก "ให้เกียรติ"
- กว่าจะเขี่ยโกเด้งออกไป ประชาชนรอจนชาด้านไปแล้ว
- แล้วก็ปล่อยให้สังคมวุ่นวายไปกับสนามบิน คนนั้นพูดที คนนี้พูดที  คณะตรวจสอบก็บอกวิบัติแล้ว ไอ้นั่นก็บอกจะย้ายไปดอนเมือง ไอ้นี่ก็บอกย้ายบางส่วน ไอ้โน่นบอกย้ายเฉพาะต้นทุนต่ำ ไอ้นั่นบอกเฉพาะในประเทศ ปล่อยจนวุ่นวาย
- ล่าสุด ให้ธีรภัทร ออกมาปล่อยไก่เป็นเล้า "เค้าจะตอบโต้แล้วนะตัวเอง" ภาพมันออกสะเหร่อๆอะครับ ไอ้เหลี่ยมมันเดินแผนขั้นต่อไปของมันแล้วครับ แล้วกลายเป็นว่า ปชป. คุณกอปรศักดิ์  ท่านทูตกษิต อลงกรณ์ ออกมาแฉโน่น สืบนี่  ส่วน แป๊ะลิ้ม ท่านทูตอัษฎา วีระ สมความคิด  คนคาบไปป์  ไทกร  อ.เสรี  อ.เจิม  พี่ใหญ่อ.ย. อะไรต่อมิอะไรเขาไปกันถึงไหนแล้ว
- ในขณะที่ "ผู้นำเกียร์ว่าง" เอง พอถูกเขาทวงถามมากๆเข้า ก็ไปออกทีวีตอน 11 โมง โคตรจะ prime time เลย แถมปล่อยให้ครูสอนภาษาอังกฤษซื่อบื้อหลุดคำถามโง่ๆออกมา แล้วไอ้หมอโฆษกซื่อบื้อนั่นก็นั่งเซ่อ ไม่ได้ช่วยอะไร

ความจริง ไอ้เหลี่ยมมันเที่ยวไปจ้างล็อบบี้ จ้างสื่อสัมภาษณ์ บินว่อน ไอ้นั่นมันฆ่าตัวตายของมันอยู่แล้ว สิ่งที่จะยุติปัญหาทั้งหมดก็คือ "ผู้นำเกียร์ว่าง" นี่แหละไปเร่งรัดให้เกิดการร้องทุกข์กล่าวโทษ ให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินไป ความจริงมันจะได้ออกมา ความยุติธรรมจะได้บังเกิด ความเชื่อมั่นทั้งในด้านเศรษฐกิจจะได้กลับคืนมา ความจริงเศรษฐกิจเขาไม่แคร์ว่าคุณจะยึดอำนาจเข้ามาหรือไง เขาแค่ต้องการความมั่นใจจากรัฐบาลว่าจะสร้าง "เสถียรภาพ" ได้ไหม ก็แค่นั้นเอง

ก็อย่างที่ "พี่ใหญ่ อ.ย." แกบอก ถ้าไม่รีบปรับตัว ก็เตรียมม้วนเสื่อได้

[aiwen^mei]

ขออนุญาตแสดงความเห็นเล็กน้อยนะคะ โดยส่วนตัวมองว่า ท่านพลเอกสุรยุทธ์คงต้องการความรอบคอบก่อนทำการตัดสินใจขั้นสุดท้าย เพราะแต่ละเรื่องที่คุณ ซ่วนมิ่งไท่กั๋ว ยกมานั้น คงต้องใช้ข้อมูลพิจารณาอย่างรอบด้านในฐานะที่ท่านเป็นผู้นำ แต่ผู้ติดตามข่าวคราวอย่างใกล้ชิดอาจมีธงที่ตั้งไว้ในใจแล้วว่า ควรดำเนินการอย่างไร

และเชื่อว่า ความคิดเห็นดีๆ จากเพื่อนสมาชิกของเว็บบอร์ดแห่งนี้ คงเป็น "เสียงสะท้อน" อย่างดีอีกเสียงหนึ่งที่เปรียบเสมือน "คันเร่ง" ให้กับคณะรัฐบาลชุดนี้แน่นอนค่ะ

[tom]

เอื่อยเฉิ่อย กว่าชวนอีกแน่ะ
แบบนี้ไม่เรียกรอบคอบครับ เค้าเรียกว่าเฉื่อย มันจะรอบคอบอะไรนักหนา 4 เดือนมาแล้วทำแค่ปลดโกวิท ได้คนเดียว
กองเชียร์ถอดใจหมดแล้ว

เค้าเรียก เฉื่อยๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เป็นนิสัย
เคยออกรอบตีกอล์ฟอยู่ก๊วนหลังสมัยยังไม่เป็นนายกฯ เซ็งมาก เล่นโคตรช้าาาาาเลย
ก๊วนติดทั้งสนามเพราะแกไม่มีเกียร์เดินหน้า์นี่แหละ

อึดอัด โว๊ยยยยยยยย

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

เข้าใจในความอึดอัดของ คุณ算命泰国 พอสมควรค่ะ ก็รู้สึกอึดอัดขัดใจเหมือนกัน

แต่เนื่องจากพิจารณาในมุมกว้างๆแล้วยังเห็นว่า มีปัจจัยหลายอย่างที่จำเป็นที่ต้องค่อยๆดำเนินการ

ด้วยเหตุผลทางการเมืองที่ซับซ้อนและไม่อาจเปิดเผยได้ เนื่องจากการที่คมช.ออกมารับหน้าเสื่อ

จัดการกับสิ่งเลวร้ายที่นักการเมืองพันธุ์ใหม่ที่แปดเหลี่ยมสิบสองคม เล่ห์เหลี่ยมแพรวพรายรอบตัว

คงไม่ใช่เรื่องง่าย ทำรุนแรงไปช่องโหว่ของกฎหมายก็จะกลับมาเล่นงาน หากใช้อำนาจเกินเลยไป

ก็คงจะเข้าทางว่าเป็นรัฐบาลเผด็จการณ์ในสายตาของชาวโลก ซึ่งจะเข้าทางเหลี่ยมที่พร้อมจะวิ่งไปฟ้อง

ประจานกับบุพการีทั้งหลายนอกประเทศที่มองประไทยอย่างน้ำลายสอ และอีกเหตุหนึ่งที่ทำให้คิด

คือ คมช. ไม่ได้มีอาชีพนักการเมืองเป็นหลัก 19 กย. ที่ผ่านมาเป็นอุบัติเหตุทางการเมืองแบบจำยอม

มากกว่าตั้งใจ แต่มั่นใจว่าเสียงจากประชาชนธรรมดาอย่างเราๆที่ช่วยกันติติงจะมีส่วนช่วยผลักดัน

และเป็นตัวเร่งให้ตัดสินใจในการกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

[AsianNeocon]

ทุกวันนี้ ถ้าจะว่าไป นึกว่าเรามีนายกรัฐมนตรีชื่อ "อภิสิทธิ์" หรือ "อลงกรณ์" และมีรมว.ตปท. ชื่อ กษิต ภิรมย์ มีรมว.พาณิชย์ชื่อ กอปรศักดิ์ สภาวสุ หรือคุณเกียรติ์ สิทธิอมร หรือจะเป็น อ.เจิมศักดิ์ คุณการุณ ใสงาม  หรือสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทั้งดร.สมเกียรติ์ คำนูญ นิติภูมิ (ทั้งๆที่ก็ไม่ได้ว่าไว้ใจคนเหล่านี้มาก) คือกลายเป็นคนเหล่านี้ทำงานล้ำหน้าไปแล้ว  ในขณะที่ในส่วนของกรุงเทพฯ ผมค่อนข้างพอใจกับผลงานของคุณอภิรักษ์มาก คือแกไม่ได้หยุดแม้ว่าจะเกิดการยึดอำนาจ

สมัยคุณชวน หลีกภัย หรือพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ไม่เรียกว่าทำงานเฉื่อยนะครับ อย่างน้อยทั้งคุณชวน และพล.อ.เปรม ก็รู้จักการจัดลำดับความสำคัญของงาน ไม่ใช่ปล่อยสะเปะสะปะ จนรัฐมนตรีของตัวเองออกมาเฟอะฟะรายวันแบบนี้

ไม่ต้องไปสนใจฝรั่งมังค่าแล้วครับ เพราะฝรั่งมันเสียประโยชน์ คุณจะไปอธิบายยังไงว่าไม่ได้ปิดกั้นสื่อบ้าบออะไร มันก็ไม่ฟังหรอกครับ เพราะมันเสียผลประโยชน์ ... ดังนั้นวิธีที่จะพิสูจน์ตัวเองคือ การเร่งรัดให้ความจริงมันปรากฎโดยเร็ว ผ่านกระบวนการยุติธรรม (ก็คุณเลือกเส้นทางนี้แทนการอายัดทรัพย์) โดยเริ่มจากนายกรัฐมนตรีก่อน  ท่านนาม ท่านสัก ก็ออกมาเร่งแล้ว .... ส่วนในด้านการบริหารก็ไม่ควรปล่อยลูกน้องคุณออกมาสร้างเรื่องปวดหัวรายวัน ล่าสุด "คุณชายจอมตบทรัพย์" วันก่อนทำเป็นด่าไอ้เหลี่ยมปาวๆ วันนี้อยู่ดีๆทำท่าจะแอบดันเอาประเด็นหวยใต้ดินกลับมาปั่นหัวสังคมเล่นอีกแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วคนเป็นนายกรัฐมนตรีจะต้องทำอะไรสักอย่างได้แล้ว เดี๋ยวก็วุ่นวายกันอีก

แม้แต่คุณนาม ยิ้มแย้ม ยังออกมาแสดงความอึดอัด

[skidato]

เป็นความซวยของประเทศไทยเราจริงๆหลุดพ้นจากนายกจอมเล่เหลี่ยมโกงชาติมาได้แต่ต้องโชคร้ายกลับมาเจอนายกจอมซื่อบื้อทำงานไม่เป็นอีก เฮ้อ คงต้องให้ไอ้เหลี่ยมมันกลับมาครองอำนาจได้นะแหละถึงตอนนั้นผู้นำนักบุญคนนี้จะได้รู้ซึ้งเสียที

[qazwsx]

เป็นความซวยของประเทศไทยเราจริงๆหลุดพ้นจากนายกจอมเล่เหลี่ยมโกงชาติมาได้แต่ต้องโชคร้ายกลับมาเจอนายกจอมซื่อบื้อทำงานไม่เป็นอีก เฮ้อ คงต้องให้ไอ้เหลี่ยมมันกลับมาครองอำนาจได้นะแหละถึงตอนนั้นผู้นำนักบุญคนนี้จะได้รู้ซึ้งเสียที

น่า...
นกกระสาออกไปแล้ว
ถึงจะได้นายใหม่เป็น "ดุ้นซุง" ลอยตุ๊บป่อง ๆ
ก็ยังพอ "ให้ร่มเงา" ได้บ้างนิดหน่อยล่ะน่า...



หรือจะเอา "กระชอน"
ช้อน "ทั้งฝูง" ลงหม้อต้มโคล้งไปเลย ??

[AsianNeocon]

TDRI ออกมาแสดงความรู้สึกแบบเดียวกัน ต้องเด็ดขาดและสร้างความถูกต้องยุติธรรมให้เกิดขึ้น โดยไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม


"ฉลองภพ" จี้รัฐลุยปฏิรูปฟื้นเชื่อมั่น

"ฉลองภพ" แนะรัฐบาลใช้เวลา 9 เดือนที่เหลือ เร่งปฏิรูปประเทศ ส่งสัญญาณกติกาใหม่ของชาติให้ชัดเจน เพื่อฟื้นความมั่นใจภาคเอกชน ด้านนักเศรษฐศาสตร์ชี้ความเชื่อมั่นนักลงทุนและ

ผู้บริโภคยังไม่ฟื้นจากสถานการณ์การเมืองที่ยังไม่มีข้อยุติ ชี้ต้องรอรัฐธรรมนูญและเลือกตั้งใหม่ รวมทั้งการดำเนินนโยบายต่างๆ ของรัฐให้ไปสู่การปฏิบัติมากขึ้น

ดร.ฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า ความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุนต่อเศรษฐกิจไทยขณะนี้ เนื่องจากเอกชนไม่แน่ใจว่าประเทศไทยหลังจากมีการเลือกตั้งแล้ว ทิศทางจะเป็นอย่างไร จึงเป็นเหตุผลที่แต่ละฝ่ายไม่กล้าที่จะลงทุนหรือขยายกิจการ ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลต้องดำเนินการในช่วงเวลาที่เหลือของรัฐบาลประมาณ 9 เดือนนี้ เพื่อฟื้นความเชื่อมั่น คือภารกิจปฏิรูป เพื่อส่งสัญญาณให้เห็นว่าไม่ว่าจะเปลี่ยนรัฐบาลไปอย่างไร ภาคเอกชนจะเห็นทิศทางหรือโครงสร้างประเทศไทยที่ถูกต้อง

"การปฏิรูปดังกล่าว คือการวางกฎและกรอบกติกาของประเทศ เพื่อเป็นเครื่องชี้ทิศทาง ทำให้เอกชนมั่นใจว่า ไม่ว่าการเมืองจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร ทิศทางการพัฒนาประเทศจะชัดเจน ดังนั้น ช่วงอายุรัฐบาล 9 เดือนที่เหลือ หากไม่ดำเนินการปฏิรูป เท่ากับว่าเป็นการเสียโอกาส ซึ่งหากย้อนไปสมัยรัฐบาลอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ได้ใช้เวลาดังกล่าวทำการปฏิรูปประเทศ ในประเด็นที่เห็นว่าโครงสร้างบางเรื่องบิดเบือน ที่สำคัญหากไม่ดำเนินการอะไรออกไป จะทำให้ประเทศเกิดช่องว่าง" ดร.ฉลองภพ กล่าว

สาเหตุที่ ดร.ฉลองภพ แนะนำให้รัฐบาลเดินหน้าปฏิรูป วางกฎ ระเบียบที่เหมาะสม ฟื้นความมั่นใจ เพราะห่วงว่าหากไม่ดำเนินการ จะทำให้เอกชนเชื่อได้ว่าต่อไปประเทศจะหันกลับไปเดินแนวทางประชานิยม แบบรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นแนวทางที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติ และแนวคิดตรงกันข้ามกับเศรษฐกิจพอเพียงอย่างชัดเจน

"เป็นเรื่องตลกที่ออกมาวิจารณ์ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพราะทักษิโณมิกส์ ไม่มีอะไรเปรียบเทียบได้เลย เพราะพื้นฐานของเศรษฐกิจพอเพียงไม่ได้ปิดกั้นโลกาภิวัตน์ แต่ทำอย่างไรเราจะมีภูมิคุ้มกัน นอกจากนั้นยังเน้นหลัก พอประมาณ คุณธรรม ซื่อสัตย์ สุจริต " ดร.ฉลองภพ กล่าว

เชื่อมั่นลด นักลงทุนรอทิศทางการเมือง

ดร.เชาวน์ เก่งชน รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า การที่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุนปรับลดลง เนื่องมาจากการที่นักลงทุนและผู้บริโภคยังรอติดตามสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ ทั้งการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ และการเลือกตั้งใหม่ว่าจะมีผลออกมาอย่างไร เพราะจะเป็นส่วนสำคัญที่มีผลต่อการเมืองไทยในระยะต่อไป รวมทั้งนักลงทุนยังต้องการรอดูผลสรุปของร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของต่างด้าว ว่าสุดท้ายหลังจากผ่านสภานิติบัญญัติแล้วจะออกมาอย่างไรด้วย

“เหตุการณ์ต่างๆ ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลง ยังไม่นิ่ง นักลงทุนยังรอดูกฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะกำหนดกรอบทิศทางโฉมหน้าของการเมืองไทย และหลังจากนั้นก็จะมีการเลือกตั้ง ก็ต้องดูว่าแต่ละพรรคจะชูนโยบายต่างๆ ยังไง และจะเสริมสร้างความเชื่อมั่นได้อย่างไร ซึ่งก็ต้องค่อยๆ ผ่านไปทีละจุด” ดร.เชาวน์ กล่าว

ส่วนปัจจัยด้านเศรษฐกิจอย่างกรณีของมาตรการกันสำรอง 30% ของ ธปท.นั้น ดร.เชาวน์มองว่า น่าจะส่งผลกระทบเพียงระยะสั้นเท่านั้น เพราะขณะนี้ ธปท.ก็ทยอยผ่อนปรนนโยบายลงบ้างแล้ว ประกอบกับเชื่อว่าหากค่าเงินบาทนิ่ง ธปท.ก็คงจะยกเลิกมาตรการดังกล่าวด้วย

โดยวิธีที่จะเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้บริโภคกลับมานั้น ดร.เชาวน์มองว่า ในด้านการเมืองจะต้องรอให้ร่างรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จรวมทั้งให้มีการเลือกตั้ง เพราะหากทำได้เร็วจะทำให้การเมืองกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ส่วนในด้านเศรษฐกิจนั้น ในส่วนของนโยบายการเงินก็ควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง เนื่องจากเงินเฟ้อปรับลดลงแล้ว ซึ่งการปรับลดดอกเบี้ยก็จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการลงทุนและการใช้จ่ายมากขึ้น

.................. ................. .................... .................. .................. ..................

สถานการณ์ขณะนี้ยังถือว่าเป็นสถานการณ์ไม่ปกติครับ ประเทศนี้ต้องการการใช้อำนาจที่เด็ดขาด และใช้ในทางที่ถูกต้องเท่านั้น เพื่อนำพาประเทศออกจากวิกฤติให้ได้
ขณะนี้ยังไม่ใช่เวลาของการเลือกตั้ง

[สมชายสายชม]

ไม่ค่อยไว้ใจรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ ตรงที่แต่งตั้งนักกฏหมายสามคนข้างล่างนี้

นายมีชัย ฤชุพันธ์

นายวิษณุ เครืองาม

นายบวรศักดิ์ อุวรรโณ


 

[The Last Emperor]

ฮ่าๆๆๆ...ข้าราชการที่เค้านิ่งเฉยไม่สนใจมีจำนวนเป็นล้านคน จะไปไล่บี้ไงไหวเอ่ย!?!