ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: นทร์ ที่ 13-11-2006, 12:50



หัวข้อ: ชะล้างความโสโครกของระบอบทักษิณจะใช้วิธี 'ตั้งรับ' ไม่ได้
เริ่มหัวข้อโดย: นทร์ ที่ 13-11-2006, 12:50
ชะล้างความโสโครกของระบอบทักษิณจะใช้วิธี 'ตั้งรับ' ไม่ได้

13 พฤศจิกายน 2549 00:00 น.

หากบ้านเมืองเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็นไปหลังจากที่มีการก่อรัฐประหารวันที่ 19 กันยายน แล้ว ทุกภาคส่วนของสังคมก็จะต้องลุกขึ้นมาทวงถามความเป็นธรรม ชะล้างความสกปรกโสโครกของอำนาจการเมืองอันเลวร้าย

       และจะต้องมีการตั้งข้อหาฉกาจฉกรรจ์ต่อผู้ที่กุมอำนาจรัฐที่ทำให้บ้านเมืองแตกเป็นเสี่ยงๆโกงกินกันทั้งโคตร และทำลายกลไกแห่งการตรวจสอบอย่างยับเยิน

       แต่บรรยากาศในหลายๆส่วนยังเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนเหตุการณ์วันที่ 19 กันยายน เป็นเพียงแค่อาการสะอึกนิดเดียว แล้วทุกอย่างก็กลับไปเหมือนเดิมหรืออย่างที่ฝรั่งเขาบอกว่ามันกลายเป็น "...Business as usual" เสียแล้วกระนั้นหรือ?

       เราไม่เห็นสื่อโดยเฉพาะทีวีและวิทยุ แสดงความรับผิดชอบในการทำหน้าที่เจาะลึกและค้นหาข้อมูลข่าวสารว่าด้วยความเหลวแหลกของสังคมการเมืองในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

       เราไม่เห็นการถกแถลงผ่านสื่อของทุกภาคส่วนของสังคมไทยในอันที่จะวิเคราะห์ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงของ"ระบอบทักษิณ" ที่อ้างระบอบประชาธิปไตยเพื่อใช้เป็นเครื่องมือของการทำมาหากินเฉพาะกลุ่มของตน

       ดูเหมือนว่าคณะผู้ก่อการรัฐประหารหรือคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) ภายใต้การนำของพลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน กับรัฐบาลชั่วคราวของพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ จะต่างคนต่างคิดว่าการ "เปิดโปง" ความชั่วร้ายที่ทำให้มีความจำเป็นที่จะต้องก่อการรัฐประหาร ฝืนความชอบธรรมแห่งหลักการประชาธิปไตยหรือที่อ้างว่า "ถอยสองก้าวเพื่อเริ่มเดินหน้าต่อ" นั้น เป็นหน้าที่ของอีกฝ่ายหนึ่ง

       การตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อค้นหาคนผิดเรื่องที่ทำให้"เกิดความเสียหายต่อรัฐ" หรือที่เรียกว่า คตส.ของคณะผู้ก่อการนั้นเป็นเพียงหน้าที่หนึ่งเพื่ออธิบายเหตุผลของการก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงด้วยกำลังทหารเท่านั้น เพราะหากกลุ่มผู้ปฏิรูปทำการเปลี่ยนแปลงด้วยอำนาจเพื่อสกัดกั้นการโกงกินบ้านเมืองอย่างมโหฬารจริง ก็จะต้องทำอะไรมากกว่านี้ในการฟื้นฟูค่านิยมของสังคมไทย...โดยเฉพาะการให้การศึกษากับประชาชนทั่วไปถึงความชั่วร้ายของ "วัฒนธรรมแห่งการโกงกิน" และความโสมม สิ้นเปลือง และแนวโน้มวัตถุนิยมอย่างรุนแรงของ "ระบอบทักษิณ"

       น่าแปลกอย่างยิ่งว่าการวิพากษ์วิจารณ์ระบอบทักษิณและข้อเสนอสำหรับทางออกของสังคมไทยนั้นมีความลุ่มลึก กล้าหาญ และกว้างไกลก่อนวันที่ 19 กันยายน ด้วยซ้ำไป

       ประหนึ่งว่าเมื่อโค่นล้มระบอบทักษิณไปแล้วชั่วข้ามคืนทุกอย่างก็จะกลับฟื้นคืนสู่ความถูกต้องชอบธรรมด้วยตัวของมันเองได้

       หากคิดเช่นนั้นก็ต้องถือว่าเป็นความผิดมหันต์ เพราะรากแห่งระบอบประชานิยมที่ใช้เงินและอำนาจซื้อความภักดีของผู้คนในระดับต่างๆ นั้น ได้ชอนไชฝังรากลึกในสังคมไทยยิ่งนัก มิอาจจะแก้ไขได้ด้วยเพียงการตั้งคณะกรรมการไม่กี่ชุดและปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขณะที่คณะต่าง ๆ กำลังทำหน้าที่ขุดคุ้ยข้อมูลและหลักฐานเพื่อจัดการกับการฉ้อฉลชาติในระดับที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

       ระหว่างการสืบหาหลักฐานและตั้งข้อหาคนโกงชาติจากระบอบทักษิณนั้นมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลและคมช.จะต้องส่งเสริมให้มีการวิพากษ์สภาพสังคมที่ผ่านมาและค่านิยมว่าด้วยคุณธรรมและจริยธรรมอย่างคึกคัก ต่อเนื่องและมุ่งมั่นเพื่อก่อให้เกิดความตื่นตัวในประชาชนทุกหมู่เหล่า ในอันที่จะประสานมือกันเพื่อทำลายล้าง "ค่านิยมแห่งความตะกละตะกลาม" หรือ culture of greed ที่ได้คืบคลานเข้ามาเกาะกินทุกส่วนของสังคมไทยอย่างน่าอันตรายยิ่ง

       การสร้าง"ประชาชนที่รู้ทัน" หรือ "informed citizenship" คือ การสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันการหวนคืนของระบอบทักษิณ ที่ได้ผลที่สุด

       และการสร้างประชาชนที่ฉลาดเพื่อจับคนโกงได้มิอาจจะทำด้วยวิธีตั้งรับหรือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการชุดใดชุดหนึ่ง ไม่ได้

       ต้องเปิดเสรีทุกสื่อต้องเปิดกว้างทุกภาคส่วนของสังคม ต้องรุกเข้าทุกห้องเรียน ต้องเคาะทุกประตูบ้าน

       เพื่อสื่อให้คนไทยทุกคนได้รู้ซึ้งถึงคุณค่าอันยั่งยืนและถาวรของจริยธรรมของความเป็นสังคมไทยและการตั้งปณิธานร่วมกันว่าจะไม่ยอมก้มหัวให้กับคอร์รัปชันอีกต่อไป

http://www.bangkokbiznews.com/level3/news_120531.jsp

ช่วยกันผลักช่วยกันดัน รัฐบาลให้เห็นจุดสำคัญ  :slime_fighto:


หัวข้อ: Re: ชะล้างความโสโครกของระบอบทักษิณจะใช้วิธี 'ตั้งรับ' ไม่ได้
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 13-11-2006, 13:06
ช้า ๆ แต่ชัวร์ ที่สำคัญต้อง...ไม่เวอร์...

อย่าลืมว่า กิริยา เท่ากับ ปฏิกิริยา

อะไรที่จับไม่มั่นคั้นให้ตายก็เว้น ๆ ไว้ก่อน

เอาที่มันเจ๋ง ๆ ออกมาก่อน คดี 2 คดี นั่นก็ติดคุกหัวโตแล้ว

ที่สำคัญ เล่นแต่ตัวหัวหน้า เท่ากับเปิดทางถอยให้ลูกน้องไว้บ้าง

ไม่งั้นมันจะรับศึกหลายด้าน สู้ทำแบบนี้ ขู่ ๆ มันไว้ยังงี้ พวกในประเทศก็ไม่คิดสู้ เพราะหวังว่า คมช.จะเมตตาไง

บอกตัวลูกน้องทั้งหลาย ถ้าเอ็งไม่เคลื่อนไหว ตีรวน เอ็งรอด ถ้าเอ็งหือ เอ็งโดน

ทำแบบนี้ยังพอจะมีเวลาพัฒนาประเทศและแก้ปัญหาหมักหมมได้ใน 1 ปี ไม่เกิน 2 ปี

ที่เหลือพวกเอ็งมาปัดกวาดกันเอง...

คตส. ลุ้นแทบแย่ 12 คดี รัฐเสียหาย 12,000 ล้าน

แต่แค่ ภาษี โอ็ค เอม ก็ 5,000 ล้าน ถ้าคิดดอกเบี้ยอีกก็ 12,000 ล้าน

เล่นภาษีสัมปทาน "ไอทีวี" อีก 70,000 -80,000 ล้าน แค่นี้ก็คุ้มสุดคุ้ม

พวกบ้าหาว่าเค้ากินเงินเดือนสูง ๆ น่าจะหุบปากได้แล้วนะ

เงินเดือน คมช. ทั้งปี ไม่เกิน 10 ล้านหรอกน่า...ทำสะดิ้ง..