ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: ปุถุชน ที่ 12-11-2006, 20:10



หัวข้อ: 'โพลล์'ชี้เสียงสนับสนุนรัฐบาลลดลงช่วง 3-11พ.ย.
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 12-11-2006, 20:10
'โพลล์'ชี้เสียงสนับสนุนรัฐบาลลดลงช่วง 3-11พ.ย.

12 พฤศจิกายน 2549 19:39 น.
ผลสำรวจเอแบคโพลล์ระบุเสียงสนับสนุนของประชาชนต่อรัฐบาลเริ่มตกลงในเวลาอันสั้นระหว่างวันที่3-11พฤศจิกายน 2549  เพราะแนวทางแก้ไขปัญหาไม่โดนใจประชาชน แนะรัฐบาลเน้นบูรณาการกลไกต่าง ๆ ของรัฐในการแก้ไขปัญหาเดือดร้อนของประชาชนควบคู่ไปกับระบบคุณธรรม

     
นายนพดลกรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร และ 17 จังหวัดทั่วทุกภูมิภาคของประเทศจำนวนทั้งสิ้น 3,224 ตัวอย่างเรื่อง "อารมณ์ความรู้สึกของสาธารณชนต่อรัฐธรรมนูญและการทำงานของรัฐบาลชุดปัจจุบันภายใต้การนำของพล.อ.สุรยุทธ์จุลานนท์" ระหว่างวันที่3-11 พฤศจิกายนที่ผ่านมาพบว่าประชาชนส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 60 ติดตามข่าวสารการเมืองเป็นประจำเมื่อถามถึงสิ่งที่ประชาชนนึกถึงอันดับแรกเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ พบว่าร้อยละ 30.7 นึกถึงกฎหมายร้อยละ 19.5 นึกถึงความเป็นประชาธิปไตยร้อยละ 10.3 นึกถึงความยุติธรรมความเที่ยงตรง ความถูกต้อง ร้อยละ 8.9 นึกถึงการปกครองบ้านเมืองขณะที่เพียงร้อยละ 4.5 นึกถึงกฎหมายสูงสุด
ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์กล่าวว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 83.7 ไม่เคยอ่านรัฐธรรมนูญฉบับปีพ.ศ.2540 เพราะไม่มีเวลางานยุ่ง ไม่ใช่นักกฎหมาย ไม่ใช่นักการเมือง ไม่รู้ว่าหาอ่านได้ที่ไหน เป็นต้น และประชาชนเกือบครึ่งหนึ่งหรือร้อยละ 47.5 ร้อยละ47.2 ร้อยละ46.5 และร้อยละ49.6 เห็นด้วยกับการกำหนดให้นายกรัฐมนตรีอยู่ในตำแหน่งไม่เกิน8 ปีกำหนดให้รัฐมนตรีอยู่ในตำแหน่งไม่เกิน 8 ปีกำหนดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. อยู่ในตำแหน่งไม่เกิน8 ปีและกำหนดให้นักการเมืองท้องถิ่นอยู่ในตำแหน่งบริหารไม่เกิน 8 ปีตามลำดับ
 ขณะเดียวกันประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ92.3 เห็นด้วยถ้ามีกฎหมายยึดทรัพย์ขบวนการทุจริตคอร์รัปชั่น ร้อยละ 91.9 เห็นด้วยถ้ามีกฎหมายคุ้มครองพยานให้มีชีวิตที่ดีกว่าหลังจากร่วมมือคลี่คลายคดีเพื่อความถูกต้องในกระบวนการยุติธรรม ร้อยละ 87.2 เห็นด้วยถ้ามีกฎหมายเอาผิดการล็อบบี้เอื้อประโยชน์พวกพ้องและนายทุนร้อยละ 84.2 เห็นด้วยถ้ามีกฎหมายเอาผิดการเลี้ยงดูปูเสื่อคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างตามลำดับ
เมื่อสอบถามถึงปัญหาเดือดร้อนของประชาชนที่คิดว่ารัฐบาลควรแก้ไขเร่งด่วนพบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 85.9 ระบุเป็นการฟื้นฟูช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมเช่น ที่อยู่อาศัย อาหาร ยารักษาโรค อาชีพการทำงาน และเงินชดเชย เป็นต้น รองลงมาคือร้อยละ 82.9 ระบุปัญหาความยากจนและหนี้สินร้อยละ 81.6 ระบุปัญหาก่อการร้ายใน3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ร้อยละ 80.1 ระบุปัญหาอาชญากรรมต่างๆ การคุกคามทางเพศ ข่มขืน จี้ปล้น ฆาตกรรม เป็นต้น ร้อยละ 76.7 ระบุปัญหาทุจริตคอร์ปชั่นร้อยละ 75.6 ระบุปัญหายาเสพติดร้อยละ 72.8 ระบุปัญหาคุณภาพเด็กและเยาวชนไม่ได้รับการคุ้มครองดูแลอย่างแท้จริงร้อยละ 70.3 ระบุปัญหาการบังคับใช้กฎหมายการปล่อยปละละเลยของเจ้าหน้าที่รัฐ ร้อยละ 62.8 ระบุปัญหาการเมืองเช่น การไม่มีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิเสรีภาพประชาชน และการตรวจสอบรัฐบาล ในขณะที่ร้อยละ 61.4 ระบุความไม่เป็นธรรมทางสังคมไม่เท่าเทียมและการเลือกปฏิบัติ
ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์กล่าวว่า ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 91.2 ระบุสิ่งที่รัฐบาลควรเร่งปรับปรุงให้มากยิ่งขึ้นคือความรวดเร็วในการแก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชน ร้อยละ 87.4 ระบุการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมร้อยละ 66.9 ระบุมีหลักฐานเอาผิดขบวนการทุจริตคอร์รัปชั่นร้อยละ 65.1 ระบุการจัดระเบียบสังคมและร้อยละ 63.8 ระบุประสิทธิภาพการทำงานของข้าราชการเป็นต้น  ประเด็นที่น่าเป็นห่วง คือ แรงสนับสนุนของประชาชนต่อรัฐบาลชุดปัจจุบันลดลงจากการสำรวจในเดือนตุลาคม จากร้อยละ 60.9 มาอยู่ที่ร้อยละ55.2 ในการสำรวจครั้งล่าสุด
 นายนพดลกล่าวว่า ผลสำรวจครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าเสียงสนับสนุนของประชาชนต่อรัฐบาลเริ่มตกลงภายในเวลาอันสั้นมาก เพราะแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ผ่านมาของรัฐบาลอาจไม่เป็นที่รับรู้ของสาธารณชน ไม่โดนใจประชาชน ไม่รวดเร็วในการแก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชนระดับรากฐานสังคม แต่กลับไปทำอย่างอื่นที่ห่างไกลชีวิตประจำวันของประชาชนและความอดทนของประชาชนก็มีจำกัด รัฐบาลอาจไม่ต้องการคะแนนนิยม เพราะไม่ได้มาจากพรรคการเมืองแต่รัฐบาลยังต้องการการสนับสนุนจากสาธารณชนเพื่อผลักดันนโยบายต่าง ๆ ให้สำเร็จลุล่วงไป
"นอกจากนี้นโยบายของรัฐบาลที่เขียนอย่างกว้าง ๆ ถ้าให้แต่ละกระทรวงแยกกันทำจะไม่มีแรงพอที่จะแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้ เพราะปัญหาที่กำลังบั่นทอนคุณภาพชีวิตประชาชนและวัฒนธรรมประเพณีของไทยขณะนี้มันใหญ่เกินกว่ากระทรวงใดกระทรวงหนึ่งจะแก้ไขได้ เมื่อให้แต่ละกระทรวงแยกกันไปทำแบบไม่บูรณาการก็จะทำให้รัฐบาลกลายเป็นรัฐบาลที่สมองโตขาลีบและอาจเป็นรัฐบาลที่เป็นง่อยไป ความเชื่อมั่นของสาธารณชนต่อรัฐบาลก็จะหมดไปอย่างรวดเร็ว สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ ประชาชนทั่วไปจะขาดความศรัทธาต่อรัฐบาลที่มีความซื่อสัตย์ สุจริต เพราะประชาชนจำนวนมากอาจมองว่ารัฐบาลที่ถูกมองว่าไม่ซื่อสัตย์แก้ไขปัญหาเดือดร้อนของประชาชนได้ดี และทันใจกว่า" นายนพดลกล่าว
นายนพดลกล่าวว่า แนวทางที่น่าพิจารณาคือนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีควรจะเน้นการบูรณาการกลไกต่าง ๆ ของรัฐในการแก้ไขปัญหาเดือดร้อนของประชาชนควบคู่ไปกับระบบคุณธรรม เพียงแต่แก้ไขจุดอ่อนของรัฐบาลที่แล้วที่เคยมีในเรื่องระบบอุปถัมภ์ แต่เรื่องการบูรณาการการแก้ปัญหาควรจะสานต่อ แต่ดูเหมือนว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันกำลังปฏิเสธแนวทางการบูรณาการ  ขณะที่ปัญหาระบบอุปถัมภ์ยังคงมีอยู่อย่างชัดเจน ผลที่ตามมาคือ อายุของรัฐบาลอาจจะสั้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ และระบบคุณธรรมจริยธรรมของสังคมไทยจะล่มสลายไปจนกลายเป็นเพียงระบบสัญลักษณ์ให้ผู้มีอำนาจที่จะเข้ามาแทนนำไปอ้าง เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตนเองและพวกพ้องเท่านั้น

http://www.bangkokbiznews.com/level3/news_120539.jsp



ถ้ารัฐบาลนี้เร่งรัดปราบปรามการคอร์รั่ปชั่น ผู้เสียผลประโยชน์จากรัฐบาลเก่า คลื่นใต้น้ำ  คนรักทักษิณ สาวกฯ หวอรูม คงโวยวาย หาว่าไม่ให้ความเป็นธรรมแก่เผด็จการจากการเลือกตั้ง/เผด็จการรัฐสภา...


หัวข้อ: Re: 'โพลล์'ชี้เสียงสนับสนุนรัฐบาลลดลงช่วง 3-11พ.ย.
เริ่มหัวข้อโดย: พรรณชมพู ที่ 12-11-2006, 20:22
ทนไปอีกหนึ่งปีค่ะ  แล้วจะได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง  ตอนนี้ไม่ชอบก็ทนๆไปค่ะ บ่นไปก็เท่านั้น

แต่หนูว่า น้ำนิ่งไหลลึก รัฐฐาลผู้อาวุโสชุดนี้ น่าจะมีทีเด็ด เขาเรียก ทีเด็ดของคนแก่ค่ะ  :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: 'โพลล์'ชี้เสียงสนับสนุนรัฐบาลลดลงช่วง 3-11พ.ย.
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 12-11-2006, 22:01
หลายคนลืมไปว่า คณะรัฐบาลชุดนี้ ต้องสะสาง ทำความสะอาด
ล้างสิ่งปฏิกูลที่รัฐบาลเผด็จการจากการเลือกตั้งได้ทำไว้ถึง 6 ปี

รัฐบาลเพิ่งจะตั้งเสร็จ เริ่มจะทำงานเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น.......

ถ้ารัฐบาลชุดนี้ทำให้ประชาชนเชื่อว่าจะดำเนินตามแถลงการณ์ 4 ข้อ
ในการปฎิรูปการปกครองฯ อย่างแข็งขัน ไม่ละเลย หรือ ผ่อนปรน...

ถ้าองค์กรอิสระ เช่น คตส. ปปช. ศาลตุลาการรัฐธรรมนูญ และ สตง
จะรีบเร่งสร้างผลงานให้ปรากฎ สามารถนำเรื่องหนึ่งเรื่องใดเข้าสู่ขบวน
การศาลสถิติยุติธรรมสักหนึ่งเรื่อง จะทำให้การรอคอยของประชาชน
ที่ต้องการให้นำคนผิดไปลงโทษ....

 ถ้าพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีพระราชทาน
จะยอมใช้ปปง.
เอาอย่างทักษิณ เผด็จการจากเลือกตั้งบ้าง

จะสร้างความพอใจให้ประชาชนมากขึ้น.....
:!: