ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: 55555 ที่ 27-10-2006, 09:33



หัวข้อ: บทสัมภาษณ์ พล.อ สนธิ (ก่อนหน้าที่จะออกทีวี)
เริ่มหัวข้อโดย: 55555 ที่ 27-10-2006, 09:33
สัมภาษณ์พิเศษ:พล.อ.สนธิ ลั่น"ทักษิณ"บินกลับไม่ให้จอด
ประธานคมช.ยันยึดทรัพย์"ทักษิณ"ต้องเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมายให้อำนาจคตส.-ป.ป.ช.ดำเนินการเต็มที่ เปิดใจเคยส่งสัญญาณเตือน"ทักษิณ"ถึง2ครั้งก่อนปฏิวัติ ย้ำเลือก"สุรยุทธ์"เป็นนายกฯคนแรกและคนเดียว
 

พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบกและประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เปิดบ้านพักย่านเกษะโกมลให้สัมภาษณ์แก่ผู้บริหารเครือเนชั่น เกี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมือง ตั้งแต่ก่อนและหลังการปฏิรูปการปกครองเมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมาว่าได้มีการหารือเพื่อวางแผนในเรื่องนี้ล่วงหน้ามานานกว่า 6-7 เดือน ในช่วงที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยระบุว่าจะย้ายผู้บัญชาการทหารบกไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี   ยังเคยถามตนในระหว่างร่วมรับประทานอาหารเย็นกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ ( ผบ.เหล่าทัพ)ที่กองทัพอากาศเป็นเจ้าภาพ ว่าจะปฏิวัติหรือไม่ ซึ่งตนตอบไปว่า ปฏิวัติ

  นอกจากนี้ ยังถาม ผบ.เหล่าทัพคนอื่นว่าจะปฏิวัติด้วยหรือไม่  ซึ่งผบ.เหล่าทัพท่านอื่นบอกว่า จะปฏิวัติด้วยอดีตนายกฯ ยังได้ถามตนอีกครั้งในระหว่างที่เรียกไปพบที่ทำเนียบรัฐบาล ตนก็ตอบเหมือนเดิม แต่ไม่ได้บอกว่าปฏิวัติหรือไม่ปฏิวัติ แต่พูดว่าเหมือนเดิม

เผยบอก"ปฏิวัติ"ทักษิณ 2ครั้ง

 "ความคิดตอนนั้นจะปฏิวัติหรือไม่ปฏิวัติ สถานการณ์บ้านเมืองจะบ่งบอก ผมได้รับจดหมายจากประชาชนเยอะมาก นอกจากนั้นก่อนที่อดีตนายกฯ จะออกมาพูดเรื่อง “ผู้บารมีนอกรัฐธรรมนูญ” หนึ่งวัน ได้มาถามผมว่า ผบ.ทบ. จะปฏิวัติมั้ย ผมก็บอกไปว่าคำเดิม และผมขออนุญาตพูดในฐานะเป็นแกนนำว่า “ท่านนายกรัฐมนตรีควรจะเปลี่ยนแนวความคิดในการบริหาร” ซึ่งการพูดครั้งนั้นเพื่อให้ทุกอย่างเรียบร้อย ซึ่งอดีตนายกฯไม่ได้พูดอะไร" พล.อ.สนธิ ระบุ

 ส่วนขุมกำลังที่มีการแบ่งออกเป็นกลุ่ม โดยเฉพาะเตรียมทหารรุ่น10 ซึ่งเป็นเพื่อน พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ไม่มีใครคุมขุมกำลัง แต่ตนคุมได้คนเดียว

ปฏิวัติก่อน20ก.ย.หวั่นนองเลือด

 พล.อ.สนธิ ย้ำว่าหากปล่อยให้เหตุการณ์ผ่านไปถึงวันที่ 20 ก.ย. แล้วจะเกิดเหตุอะไรขึ้นนั้นว่าจากที่ติดตามดูเห็นว่าวันที่ 20 กันยายน จะมีกลุ่มพันธมิตรฯ มาชุมนุมจำนวนมาก ฝ่ายพ.ต.ท.ทักษิณ ได้เตรียมส่งคนเข้ามาก่อเหตุ หากควบคุมจุดนี้ไม่ได้ก็ต้องประกาศภาวะฉุกเฉินแน่นอน และหากมีการประกาศภาวะฉุกเฉิน ตนก็ต้องผ่ากติกาแน่ เพราะตนจะไม่ใช้กำลังกับประชาชนเด็ดขาด เนื่องจากตลอดเวลาที่ผ่านมาได้สั่งห้ามกำลังพลนำอาวุธออกมา ให้แค่หมวกกับโล่ 

 ประธานคมช.กล่าวอีกว่า  เมื่อถึงจุดนั้นอดีตนายกฯ ก็คงสั่งตนไม่ได้ ซึ่งเหตุการณ์นี้จะนำไปสู่การปลด และ ตั้ง ผบ.ทบ.คนใหม่ ซึ่งก็อาจจะมีการใช้กำลัง โดยแผนนี้อดีตนายกฯคงคิดมานานแล้ว

”มีคนมาพูดเล่นกับผมว่า ผบ.ทบ. ยังไม่เก็บของหรือ แสดงว่าเขาจะทำผมก่อน และให้ผมรู้ภายหลัง ความจริง ผมตั้งใจจะทำวันที่ 20 กันยายนแต่มาเปลี่ยนเป็นวันที่ 19 กันยายน เพราะเกรงว่าจะเกิดความรุนแรง เนื่องจากเมื่อกำลังพลเคลื่อนไหวมาเจอกันจะทำให้การความรุนแรงและนองเลือด” ประธานคมช.ย้ำ

เผยแกนนำปฏิรูปมีแค่ 4 คน

 ส่วนที่ระบุการปฏิรูปครั้งนี้ฝ่ายทหารใช้วิทยุ ทีวี เป็นเครื่องมือเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารน้อยมากนั้น พล.อ.สนธิกล่าวว่า การทำงานครั้งนี้ มี 4 คน และตอนปฏิบัติการเพิ่มเป็น 8 คน โดยทำงานแบบจิ๊กซอว์ เมื่อถึงเวลาจะนำจิ๊กซอว์มารวมกัน ซึ่งหากใช้มากกว่านี้จะไม่สำเร็จ หลายอย่างที่เราไม่ได้ทำไว้ ดังนั้นสิ่งที่ควรจะทำต่อ เราก็ไม่คิด คิดถึงแต่การสรรหาตัวนายกรัฐมนตรี

  “จิ๊กซอว์แต่ละส่วนจะต่อให้สมบูรณ์ต้องใช้ระยะเวลา ทั้งนี้ทหารที่มาจากหน่วยรบเราซื้อใจกันมาตั้งแต่ต้น การปกครองคนที่ถืออาวุธไม่ใช่ง่ายๆ ผมอยู่ด้วยกันมา มีความศรัทธา ความไว้วางใจกัน เมื่อเรามีความศรัทธาต่อกัน และไว้วางใจ จะคิดอะไรก็ยอม” พล.อ.สนธิ ย้ำ

ยันเลือก"สุรยุทธ์"นั่งนายกฯคนเดียว

 สำหรับการสรรหานายกรัฐมนตรีคนที่ 24 นั้น พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ความจริงตนไม่รู้จะต้องเป็นคนเลือกนายกฯ แต่เมื่อรู้ว่าต้องเลือกก็เลือกโดยไม่มีใครรู้  ก็มีชื่อพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ขึ้นมา แต่ที่มีชื่อ ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์  นายอักขราธร จุฬารัตน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล  และนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ มาเป็นตัวเลือกนั้น ขอยืนยันว่าไม่ได้เจรจากับใครทั้งสิ้น แต่ไม่รู้ว่าชื่อออกมาได้อย่างไร ซึ่งตนได้พูดในที่ประชุมให้ ผบ.เหล่าทัพให้แต่ละคนไปคิดดูว่า ใครจะเหมาะสมแต่ห้ามพูด เมื่อถึงเวลาตนบอกเองว่าเลือกคนนี้นะ มีใครเห็นด้วยหรือไม่ ซึ่งผบ.เหล่าทัพ ก็ระบุออกมาเป็นชื่อเดียวกันหมด

 พล.อ.สนธิ ยังย้ำว่า ในคืนวันปฏิรูปไม่ได้คุยอะไรกับ พล.อ.สุรยุทธ์ เพราะจริงๆ แล้วตนเป็นลูกน้องท่านนายกฯ เคยนั่งรถไฟไป จ.สุรินทร์ พูดกันแค่ 2 ประโยค โดยยอมรับว่าไม่ค่อยได้คุยกับนายกฯ “ผมไปหาท่านพูดคุยให้ท่านเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านคิดนานมาก และก็ไม่ได้ให้คำตอบ แต่ตอนหลังก็ไปเรียนอีกครั้งให้ท่านรับตำแหน่ง “

 อย่างไรก็ตาม หาก พล.อ.สุรยุทธ์ ไม่รับตำแหน่งนายกฯ  พล.อ.สนธิ กล่าวว่าหากไม่รับ ตนคงตาย เพราะไม่ได้เตรียมสำรองคนที่จะเป็นนายกฯไว้เลย หากไม่รับคงต้องกราบ

 " ถ้าให้ผมเป็นนายกฯคงไม่เป็น แต่ถ้าถามว่าจะทำได้มั้ย ก็คงพอไหว ในสภาวะงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับปกติ และก็ไปดูงานเรื่องความมั่นคง และความเรียบร้อยจัดระเบียบก็ไม่ยากอะไร "พล.อ.สนธิย้ำ

ยันยึดทรัพย์"ทักษิณ"ต้องตามขั้นตอนก.ม.

 ส่วนกรณีอายัดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น  พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ของที่ผิดกฎหมายเขาคงไม่เก็บไว้เห็น เราจะไปอายัดอะไรได้ ส่วนการดำเนินการยึดทรัพย์ต้องคำนึงถึงกฎหมาย และสิทธิมนุษยชน เราจะต้องตอบสังคมโลกได้ ขณะนี้ ได้ให้อำนาจคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เป็นผู้มีอำนาจเต็มไปแล้วสามารถทำได้ทุกเรื่อง ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ บางเรื่องอาจไม่ถูกใจบ้าง

  "เรื่องนี้ผมก็อยากให้เร็วอยู่เหมือนกัน ไม่ได้ดั่งใจตัวเอง ผมเองก็ไม่ถูกใจว่าทำไมมันถึงช้านักแต่ต้องยอมรับ  ดังนั้นเวลาใครบ่นก็ต้องยอมรับ คนมองย่อมเหมือนกับดูนักฟุตบอล เตะไม่เข้าเสียที ดูแล้วไม่ได้ดั่งใจ" พล.อ.สนธิ ระบุ
ให้อำนาจป.ป.ช.-คตส.จัดการเต็มที่

 สำหรับการตั้งข้อหา หรือ ดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น  พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ต้องขึ้นอยู่กับข้อกฎหมาย คมช.จะพยายามแบ่งงานออกไปตามแขนงต่างๆ เช่น ตั้ง ป.ป.ช. และ คตส. ขึ้นมา โดยทั้งสองคณะต้องไปเดินงานตามกรอบกฎหมายเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม หากเราไปทำอย่างอื่น อาจจะเป็นข้อครหาต่อสังคมโลกอีกว่า ทำไมไม่ทำตามกฎหมาย ใช้อำนาจกฎอัยการศึกจะเหมาะสมหรือ ตนถึงพยายามจะไม่ทำให้กฎอัยการศึกมีผลกระทบต่อสังคมและประชาชนทั้งประเทศ  ถ้ากฎหมายเดินไปตามครรลองก็น่าจะเพียงพอ ทุกคนที่แต่งตั้งเข้าไปทำงานใน คตส. ก็เป็นคนที่มุ่งมั่นทำงานอยู่แล้ว

เตรียมชี้แจงเหตุการณ์ปฏิรูปทางทีวี

 ส่วนการทำความเข้าใจกับประชาชนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.อ.สนธิ กล่าวว่าปัญหาที่ผ่านมา ตนไม่ต้องการไปรบกวน แต่ได้ขอช่อง 5 ให้ไปดำเนินการเรื่องนี้ แต่ช่อง 5 ก็ไม่มีเวลาเพราะให้เช่าไปหมดแล้ว แต่ขณะนี้เราจะเริ่มดำเนินการทั้ง ช่อง 5 และช่อง 7 เมื่อวันก่อนได้ข่าวดีว่า รัฐบาลได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)หรือ อสมท ซึ่งตนจะไปหารือกับนายกฯ ถึงเรื่องการทำความเข้าใจกับประชาชน ไม่รู้ว่ามีอำนาจแค่ไหน  เมื่อเห็นรายชื่อคนที่จะมาเป็นกรรมการก็โอเคแล้ว และจะให้ไปเจรจากันทั้ง 6-7 ช่อง ก็ยังไม่คืบหน้า  เมื่อวันก่อนก็ได้เรียกมาหารือเรื่องนี้ไปแล้ว