หัวข้อ: ใครติดเงื่อนไขน้อยสุด เริ่มหัวข้อโดย: taworn09220 ที่ 28-09-2006, 11:52 ใครติดเงื่อนไขน้อยสุด
แม้จะเข้าใจว่ามันเป็นไปตามสัจธรรม อำนาจวาสนาไม่จีรังยั่งยืน แต่ก็อดใจหายแทนไม่ได้กับข่าวที่ว่า เจ้าหน้าที่ของทำเนียบรัฐบาลได้ลบชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกจากตู้พลาสติกใสหน้าบ้านพิษณุโลก ที่เดิมในรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ได้ใช้เป็นตู้รับเรื่องราวร้องทุกข์ต่างๆของประชาชน คนเก่าถูกลบชื่อออกไป นาทีนี้ก็รอลุ้นแค่โฉมหน้านายกรัฐมนตรีใหม่ ใครจะรับอาสาแบกเหล็กร้อนๆ อย่างที่รู้ๆกัน โจทย์ของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) อยู่ที่ต้องหาคนที่มีภาพของความเป็นกลาง เป็นที่ยอมรับของสังคมทุกภาคส่วน มีฝีมือในการบริหารด้านเศรษฐกิจและกฎหมาย มือโปรด้านเศรษฐกิจกับเซียนกฎหมายพอหาได้ไม่ยาก แต่เงื่อนไขหินสุดเลยก็คือ คนเป็นกลาง ในยามที่คนในบ้านเมืองแบ่งฝักแบ่งฝ่าย เพราะในคำจำกัดความของคำว่าเป็นกลางในที่นี้ ต้องหมายถึงทุกฝ่ายให้การยอมรับ ในความเป็นกลางจริงๆ ไม่แอบอิงหรือตั้งแง่กับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ไม่ใช่เป็นกลางแค่ในสายตาของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเก่าอย่างเดียว แต่ต้องรวมถึงในสายตาของฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วย นี่แหละที่ต้องกรองกันหลายๆชั้น จากโผที่ออกมาเป็นข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ คุณสมบัติล้วนดีเด่นดังด้วยกันทั้งนั้น เช็กทางลึกไปยืนยันได้ว่า ทุกชื่อล้วนถูกยกขึ้นมาถกกันในวงคณะปฏิรูปฯ เอกซเรย์กันทีละชื่อ นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด ไม่มีใครติดใจเรื่องเกียรติประวัติ ฝีมือทางกฎหมาย เพียงแต่ย้อนไปดูผลการตัดสินของศาลปกครองในหลายๆ คดีทั้งในเรื่องการแตะเบรกแปรรูปการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) หรือแม้แต่คดีเลือกตั้งของอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่วนใหญ่ส่งผลด้านลบต่อรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เช่นเดียวกับ หม่อมอุ๋ย ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทุกฝ่ายยกนิ้วให้กับฝีมือด้านเศรษฐกิจเป็นที่ยอมรับในเวทีโลก ประทับตราธรรมาภิบาล โดดเด่นเรื่องความโปร่งใส แต่มุมมองด้านเศรษฐกิจที่ออกมามักจะย้อนศรกับรัฐบาลพรรคไทยรักไทยตลอด ภาพที่ออกมาจะถูกมองเป็นการหักดิบ ตั้งใจไล่บี้ล้างบาง กันมากเกินไป เอาเป็นว่า ชื่อเหล่านี้ตัดออกจากบัญชีไปได้ โดดเด่น แต่ไม่ชัดกับคำว่า เป็นกลาง โฟกัสอยู่ที่ 2 ชื่อสุดท้าย แน่นอน ถ้าจะเอาทั้งภาพในสายตาต่างชาติและเสียงเชียร์ในประเทศไทย ชื่อของนายศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด) ครบเครื่องกว่าใคร ภาพลักษณ์สวยหรู จะติดนิดหน่อยก็ตรงที่เคยเป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย เคยประทับยี่ห้อพรรคประชาธิปัตย์มาก่อน และก็ไม่แน่ใจระหว่างอนาคตความก้าวหน้าในเวทีโลกกับการกลับมา รับเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเพื่อกู้สถานการณ์ของประเทศภายหลังการรัฐประหาร นายศุภชัยจะเลือกอย่างไหน มาถึงคิวของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ชื่อนี้ไม่ต้องสาธยายกับภาพของความโปร่งใส ระดับจริยธรรมเกินมาตรฐาน ไม่เอียงฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ที่สำคัญ การได้คนระดับองคมนตรีมาเป็นผู้นำแก้วิกฤติร้าวฉานของคนในชาติ กู้สถานการณ์ความแตกแยกของบ้านเมือง ย่อมได้รับความร่วมมือจากคนไทยทุกภาคส่วน แต่จะมีปัญหาก็ตรงที่ผ่านมาไม่เคยมีมาก่อน นายกรัฐมนตรีที่มาจากองคมนตรี อย่างไรก็ตาม มาถึงนาทีนี้ ในยามหน้าสิ่วหน้าขวาน บ้านเมืองชะงักมานานเต็มที จะหาตัวเลือกที่ครบเครื่องจริงๆคงไม่ได้ ดูแล้วใครที่ติดเงื่อนไขน้อยสุดนั่นแหละ ใช่เลย. ทีมข่าวการเมือง |