ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

(http://www.thairath.co.th/2549/newsthairathonline/Sep/library/26/break15.35_1.jpg)

ทูลเกล้าฯรธน.ชั่วคราว 30 ก.ย. 'สนธิ' ย้ำไม่คิดครอบงำรัฐบาล

วันนี้ (26 ก.ย.) พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) นัดพบสื่อมวลชนเฉพาะสายทหาร ก่อนเป็นประธานการประชุมคณะปฏิรูปฯ เปิดตารางการทำงานของคณะปฏิรูปฯ นับถอยหลังตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.-4 ต.ค. เพื่อให้เป็นไปตามเวลาที่สัญญาไว้ โดย พล.อ.สนธิ เปิดเผยว่า ร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราวเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีทั้งสิ้น 39 มาตรา และจะเชิญนักวิชาการและประชาชนบางส่วนมาร่วมพิจารณาแก้ไขเป็นครั้งสุดท้าย คาดว่าจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ได้ ในวันที่ 30 ก.ย. หรือ 1 ต.ค.นี้

สำหรับบุคคลที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่นั้น พล.อ.สนธิ กล่าวว่า อยู่ระหว่างสรรหา ซึ่งจากปัญหาที่เคยเกิดขึ้นในอดีตทำให้ทราบว่าจะต้องสรรหานายกรัฐมนตรีแบบไหน แต่ต้องดูกระแสสังคมด้วย เวลานี้มีรายชื่ออยู่แล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผย เพราะอาจจะทำให้หลายคนที่มีชื่อไม่สบายใจ หากไม่ได้รับการพิจารณาคัดเลือก

"ขณะนี้ผมยังไม่ได้พูดว่ามีใครบ้าง แต่บุคคลที่จะมารับตำแหน่ง ต้องเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย โดยเฉพาะเรื่องความซื่อสัตย์ สุจริต การสร้างความสมานฉันท์ ความรัก ความสามัคคี เพราะจะเข้ามาบริหารประเทศในระยะเวลาสั้นๆ" พล.อ.สนธิ กล่าว

ส่วนที่มีชื่อนายศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด) นั้น พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ยังไม่เคยบอกใครว่า คิดจะตัดสินใจเลือกใคร อย่างไรก็ตาม คณะปฏิรูปฯ จะเป็นผู้ตัดสินใจเลือกนายกรัฐมนตรี โดยใช้หลักประชาธิปไตยคือเสียงข้างมาก ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ จะมี 35 คน รวมนายกรัฐมนตรีเป็น 36 คน โดยจะให้อำนาจนายกรัฐมนตรีเป็นผู้พิจารณาเลือกคณะรัฐมนตรีเอง คณะปฏิรูปฯ จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง ส่วนที่มีชื่อของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็น 1 ในรายชื่อที่อาจได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ต้องถามสื่อมวลชน เพราะสื่อมวลชนเป็นคนเสนอข่าวขึ้นมา ส่วนการแปรสภาพคณะปฏิรูปฯ เป็นคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ไม่ใช่เพื่อครอบงำรัฐบาล แต่จะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา ในขีดความสามารถที่เรามีอยู่

ต่อข้อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ติดต่อมาบ้างหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ส่วนใหญ่ พล.อ.วินัย ภัททิยะกุล เลขาธิการคณะปฏิรูปฯ เป็นผู้ประสาน ส่วนการดำเนินการยึดทรัพย์อดีตนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะดำเนินการ ส่วนการเบิกจ่ายใช้ทรัพย์สินของคณะรัฐมนตรีชุดเดิม ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการแต่ละคณะ คณะปฏิรูปฯ จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง

http://www.thairath.co.th/online.php?section=newsthairathonline&content=20979

ต้องระวังไอ้เหลี่ยมกลับมาแทรกแซงครับ

อย่าชะล่าใจ

ลุ้นกันทั้งประเทศครับ อย่าให้มันกลับมาได้อีก  :slime_worship: