ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

หลายคนกำลังติดตามคดีคาร์บอมบ์อย่างใจจดใจจ่อว่า  จริง หรือ สร้างสถานการณ์

แต่ผมว่า สิ่งที่น่าสนใจกว่า และเป็นวัตถุประสงค์สำคัญของเหตุการณ์คาร์บอมบ์ คือ อะไรจะตามมาหลังจากนี้

คดีคาร์บอมบ์เป็นแค่ฉากหนึ่งที่สร้างขึ้นให้ดูเสมือนจริงจากความเป็นมาของการช่วงชิงการลงมือเท่านั้นเอง

อำนาจ คือ สาเหตุของการช่วงชิงนั้น

คนสองกลุ่มกำลังเดินเกมแห่งการช่วงชิงอำนาจ  ซึ่งใครอ่านใจอีกฝ่ายหนึ่งออก ก็จะชิงลงมือก่อนเพื่อชิงความได้เปรียบ
ซึ่งคุณทักษิณแกเป็นคนคิดลึกคิดระแวงไปหมดมานานแล้ว  เรียกว่า ตอนนี้เสียงมือถือที่ไม่ใช่ของแกดังขึ้น ยังผวาเลยครับ

การสร้างสถานการณ์คาร์บอมบ์ขึ้น ทำให้ความคิดที่จะทำการปฏิวัติ (หากมีจริง) แทบจะตัดทิ้งไปได้เลย  เพราะคำสารภาพแบบเลยเถิดของจ่ายักษ์ ทำไห้ปิดหนทางของการปฏิวัติไปแล้ว ใครคิดทำก็ยากเป็นสองเท่าจากเดิมยากอยู่แล้ว

เงื่อนไขที่เกิดคาร์บอมบ์ และเชื่อมโยงไปสู่ทหารที่จะทำการปฏิวัตินี้  เป็นหนึ่งในวิธีการ "ไล่เช็คบิล" ฝ่ายตรงข้ามเพื่อช่วงชิงอำนาจนั่นเอง  หากใครอ่านออก

การพาดพิงนายพลและนายทหารในกองทัพหลายท่าน ทั้งๆ ที่ไม่ใช่แม่ทัพที่ครองกำลังทหาร เป็นแค่การ "เชือดไก่ให้ลิงดู" 

ตามด้วยการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารที่สามารถอ้างได้ว่า ทำเพื่อมิให้มีการฉีกรัฐธรรมนูญโดยนายทหารที่อยู่ตรงข้ามกับรัฐบาล  แม้จะมีนายทหารหลายนายแสดงความไม่เห็นด้วย แต่รัฐบาลสามารถอ้างสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจมาสยบข้อครหา

นั่นเป็นผลจากสถานการณ์คาร์บอมบ์ซึ่งรัฐบาลได้ทำสำเร็จไปด้วยดีทั้งสองแผน (จนถึงเวลานี้)

หลังคาร์บอมบ์นี่ต่างหากล่ะ.. ที่เรียกว่า ของจริง  คือ เล่นกันจริงๆ

การตั้งข้อกล่าวหานายทหาร และพลเรือนจำนวนหนึ่งวางแผนลอบสังหารนายก ยังไม่จบนะครับ

พลเรือนจำนวนหนึ่งยังไม่ได้ออกโรงเลย ละครจะจบได้อย่างไร?

แสดงว่าที่เปิดตัวกันมายังไม่ครบ จะเห็นได้ว่า ตำรวจออกข่าวไว้ก่อนว่ามี 20 กว่าคนเกี่ยวข้อง ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ออกข่าวมาทำไมในเมื่อยังไม่มีหลักฐานในมือสาวไปถึง  เป็นตัวเลขล้วนๆ ไม่ใช่รายชื่อ 
แต่ที่ฝ่ายสืบสวนกั๊กไว้เป็นขยักๆ แล้วค่อยๆ ปล่อยของเป็นระยะๆ  เพราะขืนปล่อยหมดก็หมดมุกเท่านั้น

การกั๊กแล้วปล่อยๆ นี่แหละครับ สร้างความกดดันให้ฝ่ายที่อยู่ตรงข้าม เพราะคนที่คิดจะอยู่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลต้องชั่งใจ  ถ้าเดินหน้าต่อไปก็อาจต้องเปิดเผยตัว  และเมื่อนั้นก็จะถูกโยงใยมาเป็นหนึ่งในขบวนการลอบสังหารได้

คือ..คนเขียนบทเขาจะเขียนตัวละครในฉากต่อไป ก็ต่อเมื่อมีใครกล้าหือ  ถ้าไม่กล้าหือ ก็จะไม่เขียนต่อ  จบแค่นี้ ส่งฟ้องแค่นี้ คดีอีกสามปีตัดสินโน่น

ฉะนั้น..ไม่ต้องแปลกใจนะครับ นายกกลับจากฟินแลนด์เมื่อไร  ประกาศวันเลือกตั้งเมื่อไร  จะมีตัวละครที่ถูกกล่าวหาว่า ร่วมมือในการทำการปฏิวัติ และลอบสังหารเพิ่มเติมอีก  แต่ถ้าฝ่ายเคลื่อนไหวต่อต้านพร้อมหยุด ก็จะยุติแค่จ่าบ๊อง และนายหทารเล้กๆ สุดท้ายจบที่ปาหี่ ไม่มีหลักฐานแน่ชัด

ชื่อของเอกยุทธ อัญชันบุตร  ประชัย เลี่ยวไพรัตน์  ประสงค์ สุ่นศิริ  สนธิ ลิ้มทองกุล อยู่ๆ ก็ลอยขึ้นมาตรงหน้าผมอย่างช่วยไม่ได้  และก็ไม่ต้องแปลกใจหรอกนะครับ ถ้าจะมีหมายจากตำรวจออกมาถึงคนเหล่านี้ ส่วนหลักฐานเชื่อมโยงที่ว่าหนักแน่นที่สุดก็แค่คำซัดทอดเท่านั้นซึ่งไม่มีน้ำหนักอะไรหรอก  แต่พิษของมัน คือ ทำให้ฝ่ายสนับสนุนคุณทักษิณใช้เป็นข้ออ้างในการกล่าวหาไปได้อีกหลายปี

หากจะเล่นไม้นี้จริงๆ แม้วไม่รอดเองครับ
เพราะแค่นี้คนก็ไม่เชื่อกันทั้งบางแล้ว
ทั้งรูปถ่าย ทั้งจ่ายักษ์(แร๊บ)

คิดว่าแม้วไม่น่าใช้ไม้นี้
สถานการณ์ตอนนี้กึ้งกึ่งถึงเกือบแย่ สำหรับ คาบ๊องกับแม้ว

ผมว่าตำรวจเอง น่าจะประเมินสถานการณ์ออก
ขืนด้นไปตามความอยาก ของคนบางคน ตำรวจเองตายยกกรมเหมือนกัน

ไปๆมาๆ ก็กั๊กกันเอาไว้บลั๊พกัน แค่นี้แหละครับ

บางทีไม่ต้องรอให้ฝั่งตรงข้ามขยับหรอกครับ ทะสินจะรุกเลยก็ยังได้  :!:

คุณนทร์..


แคนแคน

เขาไม่ได้สนใจหรอกนะครับว่า สังคมระดับเราที่อ่านข่าวสารบ้านเมืองจะเชื่อถือแค่ไหน  ที่ผ่านมา เขาก็ไม่ได้คงความน่าเชื่อถือเอาไว้เสมอมาอยู่แล้วนี่ครับ   ทั้งเรื่อง การแทรกแซงองคืกรอิสระ หรือ การแจกเงินให้รากหญ้าในกรณีต่างๆ

เขาสนใจว่า สิ่งที่สร้างขึ้นมานั้น เป็นหัวข้อให้รากหญ้านำมากล่าวอ้างได้ต่างหาก  และถ้าชาวรากหญ้าเหล่านี้วิเคราะห์เป็น  เขาจบอนาคตไปนานแล้ว

ส่วนประเด็นศาลไม่เล่นด้วย  ผมกล่าวไว้ชัดเจนทั้งในกระทู้นี้และก่อนหน้าแล้วว่า ถึงศาล "หลุด" หมด เหลือแค่ข้อหามีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง

เขาก็รู้กันครับว่า ศาลไม่เชื่อ  แต่กว่าศาลจะตอบว่า "ไม่เชื่อ"  ได้เนี่ย มันหลายปีนะครับ   

มันอยู่ที่ว่า ตำรวจจะยัด "ข้อหา" กัันได้ง่าย ๆ หรือไม่...

ผมคิดว่ารัฐธรรมนูญปัจจุบัน ไม่อนุญาตให้ยัดข้อหากันง่าย ๆ ครับ

หมายถึงว่า หากหลักฐานหรือองค์ประกอบความผิดไม่ชัดเจน ศาลไม่ออกหมายจับให้แน่นอน

หากจะทำได้คงได้แค่ สงครามข่าวสารแค่นั้นเองครับ...เรื่องแบบนี้ก็ต้องสู้กันแบบ "สงครามข่าวสาร" นั่นแหละ

ถึงที่สุด ถ้ามันฟังดู"ไม่น่าเชื่อถือ" เหมือนเอาจ่าแร๊พ มาพูดเรื่องปฏิวัติ คนพอจะมีสามัญสำนึกคงขำกลิ้ง

งานระดับ "วางแผนปฏิวัติ" จะให้หลุดมาถึง"จ่าบ๊องส์" คนวิ่งซื้อก๋วยเตี๋ยวประจำสำนักงานคงขำตาย

ถ้าพูดถึงกรณีศาลรับฟ้องหรือไม่  มันก็ตอบยากนะลุงแคน  เพราะคนเขียนบท (สำนวนส่งฟ้อง) มันเป็นตำรวจซะด้วยสิ

ตำรวจไทยทำได้ทุกอย่างนะครับ และทำมาแล้วหลายครั้ง  จำกรณี พอ.บุลศักดิ์ที่แถลงข่าวสารภาพฆ่าป๋าเปรมได้ไหมครับ  และกรณีกำนันโต๊ะเต็ง และหมอแวที่ภาคใต้ก็เช่นกัน  ศาลรับฟ้อง แต่ตัดสินให้พ้นผิด

เรื่องหน้าแหก ผมว่า ตำรวจไม่กลัวนะครับ กลัวตูดแหกมากกว่า 8)

หนูเห็นด้วยกับคุณ bonny ตรงที่ว่า คาร์บอมบ์เป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อตรวจสอบมิตรและศัตรู หรือตรวจสอบว่าใครจะกล้าหือบ้าง และไม่ได้หวังผลถึงจะให้จำเลยติดคุก เพราะเป็นไปไม่ได้ เพียงแต่สกัดพวกศัตรูให้มีคดีติดตัว และอาจถูกควบคุมตัวในระยะหนึ่ง หลังจากทักษิณเถลิงอำนาจได้บริบูรณ์อีกครั้ง คดีจะจบอย่างไรก็ไม่สำคัญแล้ว เพราะเสี้ยนหนามจะไร้พลังการต่อสู้อีก

แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า คาร์บอมบ์นั้นจัดการได้แต่เฉพาะทหารบางกลุ่ม พันธมิตรบางคน เท่านั้น แต่ศัตรูตัวจริงของทักษิณนั้น มีเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด  และที่สำคัญ คนที่เขากลัวที่สุดคือ "ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ"  และสิ่งที่เขาหวาดที่สุดคือ กติกา เพราะเมื่อไหร่กติกาของชาติบ้านเมือง ดำเนินไปโดยไม่ถูกแทรกแซง ทักษิณเสร็จแน่นอน

การพยายามป่วนสถานการณ์ในขณะนี้ ทำเพื่อซื้อเวลา ที่เขาหาหนทางออกไม่ได้  การเลือก กกต.ที่ผ่านมา ถึงจะมีการบล็อกโหวตเลือกคนที่อันตรายน้อยที่สุดเข้ามา แต่ก็ไม่ใช่พวกอยู่นั่นเอง อีกทั้งข่าวที่ว่า อ.แก้วสรร จะเข้ามาเป็นเลขา กกต. ยิ่งทำให้ทักษิณหนาวยิ่งขึ้น

อีกทั้ง สตง.ที่ดำเนินการไล่บี้เรื่องไม่ชอบมาพากลต่างๆ ที่เกี่ยวกับพฤติกรรมฉ้อราษฎรบังหลวง และใช้อำนาจโดยมิชอบ กำลังเข้มข้นจนอาจจะอันตรายไปถึงอนาคต ทักษิณจึงมีทางเลือกไม่มากนัก  และทางหนึ่งคือ หาทางลงจากหลังเสือ

หากมีการปฎิวัติตามที่ทักษิณพยายามสร้างข่าว จะนับเป็นคุณอนันต์แก่ทักษิณ ในการที่จะใช้เหตุนี้ขอลี้ภัยทางการเมือง และได้รับการคุ้มครองรวมไปถึงครอบครัวและทรัพย์สินด้วย  แต่ที่เขากลัวที่สุด คือการถูกจัดการตาม กติกา  กติกาที่เขาพยายามพูดให้ใครเคารพ เพราะหากเขาถูกจัดการโดยกติกา นั่นหมายความว่า เขาไม่มีสาเหตุจะขอลี้ภัยทางการเมืองเลย จะกลายเป็นอาชญากรธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น

คดีคาร์บอมบ์ สร้างรอยร้าวให้กับทหารตำรวจเป็นวงกว้าง  ทหารและตำรวจที่รักชาติยังมีอีกมาก และไม่ได้เข้าไปสู่วังวนสกปรกเหมือนรุ่นเดียวกับทักษิณ คนเหล่านี้กำลังไตร่ตรองว่า จะรักษาตัวรอด หรือจะรักษาชาติรอด  สละ ตท.10 เพียงรุ่นเดียว ประเทศและกองทัพรวมไปถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะรอด  คนเหล่านั้นกำลังเลือกอยู่ค่ะ

เผลอ ๆ อาจเป็นแบบซัดดัม พอหมดประโยชน์แล้วก็จัดการซะ

ผมมองว่า ทหารไม่ยอมให้แกล้งหรอกครับ คนมีอาวุธ มันพูดกันยาก

ตอนนี้ก็มีการวิเคราะห์ว่า สถานการณ์ใกล้จุดเดือด ขนาดหน้าเหลี่ยมไม่กล้ากลับประเทศ

จนกว่า "โผทหาร" จะผ่านพ้น

ผมมองว่า แม้วมันหาทางเอาตัวรอด แบบ ตรูไม่เกี่ยวนะเฟ้ยมาก่าคร๊าบบบบบบบบบบบบ

เสธ.หมึกเชื่อ “จ่ายักษ์”มีอาการทางประสาทจริง 
19:41 น.  พล.ท.พิรัช สวามิวัสดิ์ อดีตนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเพื่อนนายทหารร่วมรุ่น (จปร.7) พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ที่ระบุว่า จ.ส.อ.ชาคริต จันทระ หรือจ่ายักษ์ มีอาการไม่ปกติทางประสาท ว่าเท่าที่ติดตามข่าวและฟัง พล.อ.พัลลภ แสดงความเห็น ตนส่วนมองว่าน่าจะเป็นความจริง เพราะคนปกติคงไม่มีใครสวมหมวกไหมพรหมตลอดเวลาคล้ายแสดงหนัง หรือเป็นไปได้ว่าที่สวมหมวกอยู่มีหูฟังของเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยเสียบเอาไว้เพื่อบอกบท และเป็นไปได้ว่าจ่ายักษ์ถูกซื้อด้วยเงินก้อนโตที่มีเจ้าหน้าที่เป็นผู้กำกับบท รวมถึงต้องการกันตัวไว้เป็นพยานเพื่อซัดทอดไปถึงบุคคลอื่น
ทั้งนี้คนที่เขาคิดจะทำปฏิวัติ ถ้าเป็นถึงระดับพลเอกคงไม่คิดตื้นๆ ที่จะเอาทหารระดับจ่ามารับรู้ หรือร่วมฟังการหารือวางแผน ซึ่งคำให้การเหมือนกันการเขียนบทภาพยนตร์ โดยเฉพาะบทที่ว่าถ้าระเบิดไม่ตายก็ให้ยิงซ้ำด้วยระเบิดอาร์พีจี ถือเป็นละครน้ำเน่าที่ประชาชนชอบดู และเจ้าหน้าที่ตำรวจชอบเล่นให้ดู
 
http://203.154.97.19/citizen_report/breaking/read.php?lang=T&newsid=213706
 :mozilla_cool:

อาจจะมีคาร์บอมบ์ของจริง เนื่องจากคนบางกลุ่มอาจจะคิดว่า "ไอ้เหลี่ยม บังอาจใส่ร้ายลูกพี่ตู มันต้องเจอของจริง!!!"

ผมรอดูอยู่ครับ เมื่อไหร่แม้วจะเป่านกหวีด เรียกรากหญ้าบุกกรุง  :lol: :lol:

ถ้ามันไปยืนเป่าจากเมืองนอก

ถ้าเจอใกล้ ๆ จะบ้องหูมันซักที  :mrgreen:

เขียนบทว่าห่วยแล้ว

เลือกนักแสดงห่วยกว่าอีก

เฮ้อ เชื่อมันก็โง่เหมือนไอ้โอ๊คแล้ว

หลังจากคาร์บ๊องคราวต่อไปก็น่าจะเป็น ปฏิบ๊องนะครับ พักหลังๆนี่หน้าเหลี่ยมมันปล่อยข่าวเรื่องปฏิบ๊องจัง

ผมก็กลัว "โทษฐานหมั่นไส้" อยู่เหมือนกันครับ เสียว ๆ เกิดทหารเอาจริงขึ้นมา ( หมายถึงทหารนอกแถวนะครับ )

สงสัยเหลี่ยมคงวิ่งป่าราบ ยิ่งตาขาว ๆ กลัวไม่ได้ใช้เงินอยู่ด้วย

แต่เท่าที่ดูแล้ว อีตาแม้วเขียนเสือขึ้นมา เสร็จแล้วกลับกลัวเสือที่ตนเองวาดขึ้น

แต่ในสภาพ"ของจริง" คิดว่าไม่มีเหตุร้ายหรอกครับ เรื่องแบบนี้หากทหารที่คิดทำ "โป้งเดียวจอด"

ถ้าทหารระดับนี้ทำจริง ๆ หล่ะก็ ขาดวิญญาณหลุดจากร่างไปลงนรกแล้ว ยังไม่รู้เลยว่าโดนอะไรตาย

ฮ่าๆๆๆ ยังงมโข่งคาร์บ๊งคาร์บ๊องส์กันอีกรึ ณ ปี 2549...ไม่ใช่ 2499 แล้วน๊ะเนี่ย หลักฐานทางวิทยาศาตร์ทั้งด้านการสอบพยานบุคคล วัตถุ และ ข้อมูลอื่นเค้าไปถึงไหนต่อไหนแล้ว...ยังท่อง 'ผู้ใหญ่หาผ้าใหม่ ให้สะใภ้ไว้คล้องคอ .......' อยู่เลย ช่างด้อยพัฒนาทั้งด้านอารมณ์และแนวความคิดจริงๆครับ กรุณาตั้งข้อสันนิฐานที่มันอิงตรรกะหน่อยดิ๊ เป็นผมไม่กล้าใส่commentเชยๆแบบนั้นน๊ะ...บอกตรง


มิน่าหล่ะ...ถึงเป็นพวกมนุษย์เงินเดือนได้แค่เนี่ย!?!


ขอโทดน๊าที่พูดตรงและแรงไปนิ๊ดส์ :roll:

ผมก็อยากจะให้เรื่องคาร์บอมบ์นี่เป็นเรื่องจริงซะด้วยซิ

เพราะว่าถ้าเป็นเรื่องจริง แต่ไม่มีใครเชื่อ ก็เหมือนกับ Time magazine ที่บอกว่า ท่านแม้วหมดความน่าเชื่อถือ ไปแล้ว พูดอะไรก็ไม่มีใครเชื่อ

และอีกอย่างก็แสดงให้เห็นว่า ทหารไม่เอา ทรราช

ข้อความ ผมเห็นด้วยครับ