ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

เสียงจาก \"อนาคตของชาติ\" ถึง \"ระบบสอบเข้ามหาวิทยาลัย\" แสนห่วยแตก

หมายเหตุ น้องพงษ์กำชับเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าขอให้พี่ช่วยนำบทความนี้ลงโพสต์ด้วยนะครับ ที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น  เรื่องนี้สำคัญขนานแท้เชียวล่ะ

          สวัสดีครับท่านผู้อ่านครับ  หลังจากที่กระผมไม่ได้จับแป้นพิมพ์เสียหลายวัน คือจากที่คุณทักษิณประกาศปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งนั้น หลังเหตุการณ์นั้นกระผมก็มิได้ลงบทวิจารณ์แต่อย่างไร  มาวันนี้คงเป็นอีกวาระหนึ่งกระมัง  ที่กระผมคงจะต้องมาว่ากล่าวกัน วันนี้จะเขียนถึงกรณีประเด็นของเยาวชนและประเด็นการเมืองซึ่งประเด็นหลังดูจะเล็กไปเสียเลยครับ เมื่อเทียบเทียมกับประเด็นการศึกษาของเยาวชน  



         กระผมจึงจะขอกล่าวถึงในประเด็นที่สำคัญเสียก่อน เพราะอดเสียไม่ได้ครับที่จะต้องมาว่ากล่าวกัน  คือในกรณีของระบบที่คัดเลือกคนเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย ในระบบใหม่นี้จากการสอบถามนักเรียนผู้เข้าสอบในระบบใหม่นี้  กระผมขอเรียนเลยครับว่าดูแล้วหดหู่ใจ   จะว่าไปคงจะเรียกได้ว่าอัปรีย์เสียสิ้นดี  คือจะไม่ให้กระผมใช้คำเรียกดังกล่าวได้อย่างไรเล่า  



          ในการสอบครานี้หากว่ากันก่อนที่จะเข้าสู่ห้องสอบก็เรียกว่าชุลมุนวุ่นเสียแล้ว  เพราะทางเจ้าคนผู้ที่จะต้องรับและรับชอบนั้นได้เปลี่ยนสถานที่สอบเอาเสียล่วงหน้าประกาศล่วงหน้าเพียงแค่วันเดียว  คือใครที่ฐานะทางเศรษฐกิจของครอบครัวไม่มีทุนพอจะซื้อคอมพิวเตอร์ได้ก็คงไม่ต้องสอบกันล่ะ  ในพฤติการณ์นี้คงทราบครับว่าใครกันรึแน่ที่ไร้ความชอบด้วยธรรม  ใครกันแน่รึที่ควรจะต้องรับผิดชอบ ทางผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้อง หรือว่าเด็กผู้เข้าสอบ



         หากจะโยนมากล่าวโทษในฝ่ายหลัง ก็คงจะว่ากันเสียให้เปลืองน้ำลาย อายหน้าเหวี่ยงพื้น ให้เด็กถอนผมขาวกันเสียง่าย ๆ  คือเหตุผลที่จะกล่าวอ้างว่าในฝ่ายผู้ไปสอบนั้น คงจะว่า “ผู้จะสอบนั้นไม่มีความกระตือรือร้นในการตามข่าวเรื่องการสอบ อะไรกัน! ตรวจสอบข้อมูลเรื่องระเบียบการสอบทางอินเตอร์เน็ตยังไม่ขวนขวายกันเสียอีกทั้ง ๆ ที่ได้แจ้งไว้ให้ทราบเสียล่วงหน้าตั้งนานถม เพียงแค่ทางผู้รับผิดชอบเปลี่ยนสถานที่สอบก่อนวันสอบเสียวันเดียว ยังมิได้ตรวจสอบเสียก่อนลงสนามจริงในวันรุ่งขึ้น  



         เด็กนี่ช่างเหลวไหลเสียเหลือเกินเรื่องของตัวแท้ ๆ ยังไม่ดู  สูจะมาโทษผู้รับผิดชอบเสียกระไร  เพราะเรื่องทั้งเรื่องก็มิได้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่เสียสักกระหน่อย  เป็นเรื่องของเด็กในการเตรียมตัวไปสอบทั้งนั้น”  



         นี่ล่ะครับคงจะถือว่าเป็นเหตุและผลที่น่าฟังเสียทีเดียว ฟังดูช่างอิ่มเอมเปรมใจเสียเหลือหลาย  กระผมจึงอดมิได้ที่จะนึกย้อนไปเสียว่าท่านผู้รับผิดชอบ เรื่องการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในครานี้ ได้ผุดมาจากส้วมโถไหน? จึ่งกระทำการที่เรียกได้ว่าไร้จริยธรรมเป็นอย่างสูงยิ่ง  อ่ะ มาถึงเรื่องของการเข้าห้องสอบ พอเข้ามาได้ก็คิดว่างานนี้คงจะต้องใช้วิทยาความรู้ที่สั่งสมมาเสียเต็มที่  แต่ทว่าหากดูข้อสอบแล้ว



         ผู้ที่เข้าสอบนั้น หลายคนหลายท่านได้กล่าวมาเป็นเสียงเดียวกันดั่งปลิดทิ้งเลยครับว่า “ง่ายมาก” ทั้ง ๆ ที่กระผมจะพยายามถามผู้ที่ไม่ใคร่จะเรียนดีเด่นเสียสักเท่าไหร่ คือหากจะให้ว่ากันก็คือเรียนขั้นพอใช้เท่านั้นกระมัง  



         แต่ก็ได้รับเสียงตอบมาเช่นเดียวกันครับว่า “ง่ายมาก”  และผมก็ไม่แน่ใจสักเท่าไรนักจึงซักถามดูอีก ก็ได้รับคำตอบมาครับว่า ข้อสอบเอนทรานซ์ระบบเก่าที่ตนได้ทดลองฝึกทำนั้น ยากกว่าข้อสอบฉบับระบบใหม่นี้หลายต่อหลายเท่าตัวนัก  เพราะเหตุเนื่องมาจากการเปลี่ยนตัวคณะผู้ออกข้อสอบทั้งชุดด้วยหรือไม่ประการใดนั้นอันนี้กระผมไม่แน่ใจจึ่งไม่ขอยืนยันแน่ชัด และในการจัดห้องสอบรวมถึงการคุมสอบนั้น  



         กระผมตั้งแต่ผุดแต่เกิดมาจากครรภ์มารดา ก็เพิ่งจะเคยทราบครับว่า ในการคุมห้องสอบแท้จริงแล้ว มีแบบนี้ในโลกด้วยหรือ  คือพฤติการณ์ในการคุมห้องสอบแบบที่ว่า ผู้คุมท่านหนึ่งหลับ   อีกท่านพูดคุยกันเด็กนักเรียนที่เข้าสอบในฐานะครูอาจารย์กระมัง  และไม่ได้ใส่ใจหรือยินดีฤาร้ายประการใดกับการทุจริตสอบ  เพราะในการจัดห้องสอบคราวนี้ทราบมาว่าละเลยจากรูปแบบมาตรฐานเสียมากนัก  คือห้องหนึ่ง ๆ จะมีนักเรียนผู้เข้าสอบเสียหกสิบคนโดยประมาณ  และการจัดโต๊ะสอบ แทบจะเรียกได้เลยครับว่าแหงนหน้าชำเลืองตาก็เป็นอันรู้ข้อสอบของคนข้าง ๆ และที่สำคัญในการคุมสอบมิได้มีการตรวจตรากระเป๋าหรือกระเป๋าใส่เครื่องเขียนที่สามารถยัดโพยอันใดเข้าไปได้  ในการตรวจสอบไม่ปรากฏครับ  



       นี่กระผมจะเรียกได้ว่าละเลยและบกพร่องต่อหน้าที่อย่างรุนแรงเสียได้หรือไม่  และจะเรียกผู้ที่รับผิดชอบงานนี้ว่ามีคุณภาพที่ต่ำทรามเสียยิ่งกว่าจะปล่อยให้ไปควบคุมการสอบของเด็กระดับอนุบาลได้  เพราะงานที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งยวดที่หมายถึงอนาคตทั้งชีวิต  การเลี้ยงดูบำรุงของพ่อแม่ผู้ปกครองมาครึ่งชีวิต สิ่งเหล่านี้กำลังถูกแขวนไว้ภายใต้การทำงานของท่าน  เรื่องนี้เป็นเรื่องของการคัดคนแท้ ๆ ซึ่งระบบและมาตรฐานนั้นจำต้องดีเสียก่อน  และในส่วนอื่น ๆ จึ่งจะพ่วงตามกันมาสิ่งที่พ่วงตามกันมาก็คือเด็กและคุณภาพที่ติดตัวเด็กที่ถูกการคัดสรรมาจากระบบ  ซึ่งหากระบบเหลวแหลกเสียแล้ว ตัวบุคลากรที่ได้รับมาจากระบบคงจะไม่ต้องเอ่ยถึงหรอกครับ  



        ท่านผู้อ่านครับ  กระผมเห็นทีจะปล่อยปละให้ไฟมันสุมทรวงดั่งนี้เสียไม่ได้แล้ว  เพราะรังแต่จะลุกลาม และอาจพาลจะไปสู่การทำลายบุคคลากรที่ดีงามของชาติที่อาจถูกระบบที่เลวทรามนี้กีดบังมิให้เข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยได้ด้วยความสง่างามตามความสามารถของตน เพราะถูกตราหน้าว่าเป็นบุคลากรที่ถูกคัดสรรมาจากระบบที่มีปัญหา  ซึ่งเรื่องนี้กระผมเห็นทีนักศึกษาที่ไม่เพียงแต่จะเป็นนักเรียกมัธยม6เสียเท่านั้น  



        หากแต่กระผมเห็นว่านักเรียนมัธยมทั่วประเทศ สมควรเป็นอย่างยิ่งครับที่จะออกมารวมตัวรวมพลังกัน เพื่อเรียกร้องระบบที่ดี ให้กลับคืนมาดั่งเก่า  และจะเป็นการกำราบเสียให้บรรดาเฒ่าเพราะอยู่นานทั้งหลายให้จำเสียเลยครับว่า  จะทำการชุ่ย ๆ คิดจัดตั้งระบบชุ่ย ๆ เหมือนดั่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เสียมิได้อีกแล้ว  แล้วจะต้องให้พลังนักเรียนรวมตัวกันอย่างจริงจังเพราะจะเป็นเกราะป้องกันอนาคตของบรรดานักเรียนทั้งหลายเอง  



       กระผมเห็นสมควรและจะโบกธงสนับสนุนการเรียกร้องครั้งนี้เสียเป็นอันแน่  และสมควรที่จะต้องประกาศเสียเลยครับว่า “เราจะไม่ยอมรับระบบที่ทำให้เกิดความได้เปรียบ ฤาเสียเปรียบ  และไม่ต้องการระบบที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำของนักเรียนที่อยู่ต่างมาตรฐานการชี้วัด และจะไม่ยอมพฤติกรรมชุ่ย ๆ ในระบบที่ได้มาจากความชุ่ย ๆ ดั่งนี้อีก”  เป็นอันว่าคงจะชัดเจนกระมังว่างานนี้ขั้นที่สมควรจะดำเนินไปควรจะเป็นเช่นใด  และการณ์นี้จะมีหน้าใดมาปัดความชั่วมาสู่เด็กนักเรียนเสียอีกบ้าง  (อดิศัยและนายรุ่ง มิทราบว่าตอนนี้บากหน้าไปซุกอ่างกะปิอยู่ที่ใดก็มิทราบได้ครับ) สวัสดี



                                                                                           น้องพุฒิพงษ์

**ผมได้อ่านทั้งหมดแล้วและคิดว่ามีความสำคัญที่ทุกคนต้องรู้ว่าการศึกษาไทยในมุมมองของน้องพงษ์ที่กำลังจะตกเป็นเหยื่อของระบบที่เน้นผลสอบในห้องเรียนเพียงอย่างเดียวในอีก 1-2 ปีนี้เขามีความคิดเห็นอย่างไร มาร่วมหาทางออกช่วยกันครับ

ถ้าหากจะอ่านเรื่องราวเพิ่มเติมสามารถอ่านได้ที่  http://porameto.kapookclub.com ครับ

ผมไม่เคยสอบเอนทรานซ์
แต่เท่าที่อ่านมาน่าจะเกิดจากการพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงระบบอะไรก็แล้วแต่โดยไม่มีความพร้อม
ซึ่งเป็นอย่างนี้มาตลอดในยุคทักษินตามนโยบายคิดใหม่ทำใหม่ (และไม่เชื่องช้าเหมือนชวน)
เพื่อแสดงให้เห็นว่าข้าทำจริงนะเหมือนที่หาเสียงมาก็เท่านั้นเอง
เลยเละอย่างที่เห็น :roll:

One problem I found was the writing answer but who pointed students was computer.

It was not good idea at all, especially, Thai language.

http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X4278838/X4278838.html

++ ร่วมลงชื่อให้นายภาวิชและผู้ที่เกี่ยวข้องลาออก [Admission]+++

โดยเฉพาะนายภาวิช ปากไม่อยู่สุข

ไม่อยากจะพูดอะไรมากแล้วล่ะครับ ถึงระบบนี้

เพราะมันก็เห็นๆกันอยู่กับสิ่งที่ออกมา

พูดไปมันก็เท่านั้นครับ

ผมไม่เคยใช้ A-Net กับ O-Net สอบครับ
โชคดีที่เป็นปีสุดท้ายที่ใช้สอบเอ็นทรานซ์
แต่โชคร้ายที่สอบไม่ติด เป็นเด็กราม

ยังไงๆ ผมว่าที่ห่วยเป็นเพราะระบบที่ไร้การตรวจสอบนะครับ

เศร้าใจกับ การ ปฏิรูปการศึกษา ของประเทศไทยจริงๆครับ........

ผมสอบเอนท์รุ่นสุดท้ายเช่นกันครับ
แต่ว่าสอบครั้งนี้ก็สอบใหม่เหมือนกัน

เจอปัญหาเยอะครับ
ตั้งแต่สมัคร สอบ ประกาศผล
ทุกอย่างมีปัญหาหมดเลย
น่ามีความพร้อมมากกว่านี้ครับ
ยังไงเรื่องนี้ก็ผ่านไปแล้ว ครั้งต่อไปก็ทำให้มันดีๆแล้วกัน

พูดตรงๆว่า ไม่เข้าท่า!!

ผมมองว่าเขารีบครับ
ประมาณว่าโดนสั่งให้ทำไปก่อน เพื่ออะไรไม่แน่ใจครับ

ซึ่งกรณีนี้ทำให้นึกถึงเรื่องๆ นึงครับ
ผมจะเล่าอะไรเล็กๆให้ฟัง การณีโปรแกรมที่โดนยัดเยียดให้ใช้งาน

มีข่าวลือว่า (ฮี่ๆ)

มีหน่วยงานหนึ่ง โดนผู้ยิ่งใหญ่ท่านหนึ่ง สั่งให้ใช้โปรแกรม ชื่อ ประมาณว่าระบบ GFMIS มาเป็นตัวจ่ายเงิน
มีคนบอกว่ายังไม่ได้ทดสอบแน่นอน แต่ไม่ฟังเสียงบังคับให้เขาใช้ มีปัญหาตามมามากมาย
ตอนนี้บริษัทที่ขายของ ราคา 1500 ล้านบาทนี้ซึ่งรับเงินไปอย่างรวดเร็ว ได้ชิ่งไปซะแล้วหลังบริษัทโดนขายต่อ ผลเสียตอนนี้ตกกับใครละครับ
ใครเหงื่อแตกละครับ งานนี้จะเลิกใช้ก็ไม่ได้เพราะทุกอย่างรวมเข้าไปอยู่ในนี้ ข้อมูลของปีก่อนๆ ก็มั่วมากๆ 555 (ร้องไห้ทั้งน้ำตาเลยนะ)
เหมือนกับการสอบระบบนี้เลย

ระบบการศึกษาไทยเป็นอะไรที่..... ไม่รู้จะเขียนยังไงดี  เซ็งจริงๆ อย่างที่เห็นๆกัน!!

เราจะทำอย่างใร...ให้ผู้ที่มีความสามารถ...มีความพร้อม..อยากเรียนอะใร..เขาควรจะได้เรียนในคณะที่เขาถนัด..และรักในวิชานั้น...ทำอย่างใร..ให้ รมต ศึกษาฯควรอย่างยิ่งที่จะมีความรู้ด้านการศึกษา...จาตุรนต์แม้แต่จิตวิทยาด้านการพูดเบื้องต้นยังทำไม่ได้เลย...เช่น..ถ้าเป็นในยามปกติก็จะแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก...เห็นไหมครับ...พุดทำไมครับ..มีผลอะใรเกิดขึ้นบ้าง.....ท่านไม่รู้หรือว่า..คำพูดถ้าอย่างนั้น...ถ้าอย่างนี้..เพียงแต่ว่า...คำเหล่านี้บ่งบอกถึงผู้พูดว่าหมดความสามารถแล้ว( หมดน้ำยาแล้ว )..เด็กที่เรียนจิตวิทยาเบื้องต้นรู้ความหมายของคำเหล่านี้ดี....เห็นไหมครับว่า..ท่านได้พูดเอาเพราะ  เอาดี..จนลืมไปว่าการสื่อออกทางภาษาจิตวิทยานั้น..มันมีตัวบ่งชี้แต่ละตัวออกมาให้รับรู้..ให้เข้าใจได้ลึกซึ่งกว่า...ท่านพูดลักษณะนี้บ่อย..หรือท่านหมดน้ำยาแล้วจริงๆ

ท่านผู้นำยังแก้เชือกที่พันตัวไม่ออกเลยน้องเอ๋ย  

ระบบเอนท์ฯ เหมาะสมกับประเทศไทยที่สุดแล้วครับ ส่วนตัวผมว่าเอนท์ฯเพิ่มความเครียดนิดหน่อยแต่การที่เราได้อ่านหนังสือมุ่งมั่นต่อสู้กับตัวเองเพื่อสิ่งที่เราฝันไว้มันก็ท้าทายแล้วก็สนุกดีออกไม่ใช่เหรอ...มีบางครั้งที่เราร้องให้ มีบางครั้งที่เราดีใจและภูมิใจเมื่อเราทำสำเร็จ เวลาเรามองกลับไปเราก็ภูมิใจทุกครั้งเป็นเสน่ห์ของระบบเอนทรานซ์นะครับ แถมระบบก็พร้อมสมบูรณ์เป็นที่ยอมรับของทุกคนในสังคม เป็นบรรทัดฐานได้น่ะ ตอนที่จะเปลี่ยนผมงงเลยว่าจะเปลี่ยนทำไม ตามแต่ตูดฝรั่งไม่ดูสังคมตัวเอง ผลก็คือน้องๆเป็นเหยื่ออย่างที่เห็นละครับ

เหตุเกิดเพราะความที่ไม่พร้อม  บุคคลากรยังไม่แม่นกับขั้นตอนการดำเนินงานและความรู้ชัดในเรื่องระบบ

ผู้ใหญ่เป็นโรคดันทุรังสูง  ก็เพราะถูกบี้มาให้เอาขึ้นให้ได้  แล้วไอ้คนที่มาบี้ ก็ทำท่าจะปล่อยลอยตัวตามฟอร์ม

ท้ายสุด  .... กรรมก็มาตกอยู่กับเด็กๆ  ก็สงสัยอยู่ ว่าเด็กๆเครียด วิ่งพล่านกันทั้งเมือง  จนวันนี้ก็ยังแก้ไม่ตก  ถึงตก ก็ยังติดใจว่ามันถูกต้องหรือเปล่า  แล้วหนูๆจะเอาสมาธิที่ไหนไปเริ่มเรียนกันนี่

คอยดู  ปีหน้ามีเด็กซิลเยอะมากเป็นประวัติการณ์

โอ้ละหนอ  การศึกษาไทย 

ใจเย็น ๆ ซิคร๊า.........  คุณ  มด
คำก็แช่ง สองคำก็แช่ง   เดี๋ยวคำแช่งก็วกเข้าตัวหรอกนะคร๊า  ( แซวเล่นน่า.....ตัวเอง อย่าซีเรียสซิจ๊ะ )   ค่อย ๆ คุยกันเน้อออ  อิอิ

 :lol: :lol: :lol:

แต่ ดิฉัน  ว่า การเสนอ ความคิดเห็น ในลักษณะ นี้ เป็น อันตราย  ต่อ มนุษยชาติ ไม่ต่างกันค่ะ  

คุณมด 5.11 มันเกี่ยวไรกับพันธมิตรนิ อย่าแสดงความเห็นมั่วๆดิ ให้มีที่ไปที่มาหน่อย

ผมว่าปัญหามันเกิดจาก คนจัดการบริหาร ใช้เทคโนโลยี่ไม่เป็น
คิดว่าการตรวจคะแนน ด้วยคอมพิวเตอร์มันง่าย
เลยใช้เวลาเตรียมการน้อย ทั้งการให้เวลาคนทำโปรแกรม และการทดสอบ
ในเมื่อไม่พร้อม ก็ ยังดันทุรัง ก็เลยเละ
น่าจะรื้อปัญหามาดู ใครวางระบบ ใครทำโปรแกรม มีการทดสอบ ทดลองไปแค่ไหน
งานนี้ มันมีคนไร้ความสามารถ มาทำอยู่แล้วล่ะ แต่ทางรัฐไม่ยอมเปิดเผยออกมา ว่าเป็นความผิดของใคร
อย่าคิดว่าเป็นการหาเรื่องจับผิดอะไร แต่ ให้กระชากคนไร้ความสามารถออกมา อย่าให้มันทำงานเลย ความสามารถไม่ถึง

เห็นด้วยเลยครับท่าน

ผมว่าเราโทษแต่ error ของโปรแกรม แต่ไม่โทษ human error เลย ผมว่า ส่วนนี้ สำคัญนะครับ ยังไม่เข้าใจ โปรแกรม ใช้ผิดๆ ถูก ทำให้ช้า นี่คือความไม่พร้อม ที่น่ากลัวมากครับ

น่ากลัวจังเลยค่ะ  ยังไม่รู้เลยว่าถ้าเป็นรุ่นเราสอบจาออกมาแบบไหน
ได้ข่าวว่าใช้G-pacตั้ง40% + GPA10%
จ๊ากกก!!  เลยกลายเป็นว่าต้องเครียดทั้ง3ปี เก็บคะแนนสอบทุกเม็ด 
เฮ้อ ปวดหัวค่ะ  อย่างนี้หนีไปสอบตรงซะให้สิ้นเรื่องไม่ดีกว่าหรอออ..

พูดจริงๆนะ ตอนแรกก็คิดว่าเป็นการผิดพลาดทางเทคนิด ก็เข้าใจค่ะจุดนั้นน่ะ
แต่มันหลายรอบเหลือเกิน แล้วทุกๆครั้งที่มีปัญหา ผู้ใหญ่ก็จะออกมาพูด
ขอโทษนะคะ แต่ขอใช้คำว่า "แก้ตัวน้ำขุ่นๆ"  ไม่รู้สินะ แต่เรามีความรู้สึกว่าอย่างนั้นจริงๆ
แถมยังยืนยันว่าจะใช้ระบบนี้ต่อในปีต่อๆไป....
 :shock:....

แง่ะ... จิงดิ๊  เฮ้ออ.. ปวดหัวอย่างรุนแรง
ยอมรับตรงๆว่าหมดความศรัทธาลงไปมาก.. แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง
แต่ถ้าเป็นการบกพร่องทางเทคนิคจริงๆ ก็..ขอให้รีบๆแก้ไข อย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้ซ้ำซ้อนอีกละกันนะคะ

(พูดตรงๆนะ อยากได้รัฐบาลใหม่เข้ามาปรับปรุงเรื่องนี้จังเลยอ่า.. เอิ้ก)

GFMIS เป็นระบบการบริหารการเงินการคลังภาครัฐ มันมั่วเพราะบุคลากรมันไร้คุณภาพสิ
ระบบนี้แหละที่ทำให้ตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้าง การเบิกจ่ายงบฯ ทุกกระทรวงทบวงกรม ได้สุดยอด

ในฐานะผู้บริหาร คุณจะบริหารงานโดยไม่สนใจสภาพที่แท้จริงขององค์กรไม่ได้
ต้องเข้าใจถึงสภาพความเป็นจริงของคุณภาพของทรัพยากรบุคคลของตัวเอง
ใส่งานเข้าไปให้เหมาะสมกับบุคลากรนั้นๆ และพัฒนาบุคลากรขึ้นมาให้ทำงานนั้นๆ ได้
นี่คือหน้าที่ของผู้บริหาร ไม่ใช่เอารถเก๋งไปขนตู้ขนของ เอารถบรรทุกไปส่งเอกสาร
พอมันฉิบหายก็เที่ยวโทษว่าบุคลากรไม่ได้เรื่อง แบบนั้นมันช่างเป็นผู้บริหารที่น่ารังเกียจสิ้นดี

 :mozilla_wink:

ไม่อยากกล่าวหา แต่ก็ต้องยอมรับครับ ว่ามันน่าสงสัย....

ระบบการตรวจเดิม ใช้การระบาย ใช้ได้ผลดีมาไม่รู้กี่รุ่นต่อกี่รุ่น เปลี่ยนมากากบาทก็มีปัญหา (แล้วเจ้าระบบตรวจกากบาทเนี่ย มันเครื่องละเท่าไหร่ ขายกันยังไง ใครได้ประโยชน์ ทำไมต้องรีบซื้อ ถ้ายังไม่พร้อมกัน ในเมื่อเป็นการตรวจ Choice เหมือนเดิมทุกประการ)

เรื่องจะปฏิวัติการคัดเลือกเด็ก ให้เขียนตอบ ไอ้ระบบ OCR นี่มันก็ไม่ได้เชื่อถือได้ซะทีเดียว เรื่องระบบใหม่ที่ว่าก็ต้องย้อนกลับไปอ่านบรรทัดบนอีกครับ....

เฮ้อ....