ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: *bonny ที่ 26-08-2006, 15:06



หัวข้อ: **เมื่อผมบังอาจอ่านใจ พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี**
เริ่มหัวข้อโดย: *bonny ที่ 26-08-2006, 15:06
จากกระทู้
http://forum.serithai.net/index.php?topic=6356.0

ขอวิเคราะห์ต่อนะครับ ในสถานการณ์ที่แตกต่าง

ผมเป็นมือสังหารผู้มากประสบการณ์และมีอิทธิพลสูง ผ่านสนามรบมามากมาย และมีเพื่อนเป็นนายทหารหลายเหล่าหลายคน

มีลูกน้องคนสนิทมากมายที่มีวิชาความรู้ในการทำสงคราม

ถ้าผมคิดจะสังหารผู้นำประเทศนี้..

สิ่งที่ผมจะคิดอย่างแรก คือ..

1) ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างไร
ถ้าผมอยู่มาจนอายุปูนนี้ เคยร่วมก่อการรัฐประหาร และลอบสังหารอดีตผู้นำในอดีตจนล้มเหลวมาแล้ว ไม่มีบทเรียนว่า ระบบรักษาความปลอดภัยของผู้นำประเทศมีจุดอ่อนจุดแข็งอย่างไร  แสดงว่า ผมเป็นนักเรียนที่โง่มาก ทำข้อสอบชุดเดิมแท้ๆ ยังสอบตกอยู่นั่นแหละ

ระดับชั้นของการรักษาความปลอดภัยรอบๆ ตัวผู้นำมีกี่ชั้น ผมย่อมมีประสบการณ์มากกว่าใคร เพราะถ้าใครมีมากกว่าผม มันก็ต้องเป็นคนที่เคยทำผิดพลาดแบบผมมาแล้ว คนทำสำเร็จผมยังไม่เคยพบ

ผมมีเพื่อนนายทหารมากมาย อดีตนายตำรวจก็เยอะ จะต้องรู้ว่า จำนวนคนในแต่ละกะที่ดูแลความปลอดภัยมีเท่าไร และกะไหนที่ "โล่ง" ที่สุด  เครื่องมือเครื่องไม้ในการติดตาม สอดแนม และสืบหาข้อมูลของเขาเป็นอย่างไร

ถ้าผมก้าวเท้าออกไป จะมีกล้องกี่ตัวจับความเคลื่อนไหวของผม  รถของผม และโทรศัพท์ที่ผมใช้ติดต่อ

ถ้าระบบรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ไม่มีช่องว่างเลย ผมจะยกเลิกทันที ไม่ต้องไปคิดเรื่องก้าวต่อไป

แต่เท่าที่เห็น ขนาดนักข่าวจำนวนมากๆ สามารถเอาไมค์ไปจ่อปากได้ ผมก็เห็นว่ามันมีช่องว่างแล้ว

2) วิธีการ
ปืน ระเบิด หรือ คาร์บอมบ์  การตัดสินใจของผมอยู่ที่ อะไรง่ายที่สุดแล้วได้ผลดีที่สุด เรื่องการจัดหา ผมไม่มีปัญหา มีลู่ทางเยอะ แต่เมื่อ ผมไม่ได้ลงมือเอง จึงต้องแน่ใจว่า การใช้อาวุธนี้จะไม่ย้อนกลับมาถึงตัวผมหากเกิดความผิดพลาด  ดังนั้น ที่ผมคิดออก คือ อาวุธต้องไม่มาจากหน่วยงานที่ผมรับผิดชอบ (อาวุธทุกอย่างของกองทัพมีหมายเลขกำกับ เช็คได้ว่า มาจากที่ไหน)

ในบรรดาอาวุธที่เอ่ยมา  ปืน เป็นอาวุธที่กระทำการได้คล่องตัวที่สุด แต่ต้องอาศัยความแม่นยำสูง  ปืนอานุภาพสูงในปัจจุบันที่กองทัพไทยมี สามารถยิงจากระยะไกลได้อย่างแม่นยำ  ถ้าเป้าหมายอยู่ในสภาพที่ไม่ถูกบดบัง ปืนสามารถยิงมาได้จากทุกทิศทาง ใครก็ป้องกันไม่ได้  โดยเฉพาะคนที่ยืนบนเวทีปราศรัญ ที่รอบข้างเป็นทุ่งโล่งและอาคารระดับต่ำ

การใช้คาร์บอมบ์ในการก่อการร้าย เท่าที่ทราบมา เป็นการทำลายล้างคนหมู่มากเพื่อต้องการให้เกิดความสูญเสียในเชิงปริมาณ ไม่ใช่เป้าหมายโดดๆ คนใดคนหนึ่ง

ถ้าใช้การพลีชีพวิ่งเข้าชน คนที่ไปพลีชีพต้องไม่ใช่ลูกน้องคนสนิทของผมแน่ จะบ้าเรอะ.. ขืนทำอย่างนั้น ผมจะมานั่งวางแผนทำไมล่ะ ในการก่อการร้ายที่ใช้ระเบิดพลีชีพ คนพลีชีพเป็นสมาชิกของลัทธิ ตายแล้วก็ตายเลย ไม่มีใครสืบสาวต่อไปหรอกว่า เขาถูกใครจ้างมา เพราะไม่นานก็จะมีคนออกมาประกาศความรับผิดชอบ
แต่กรณีลูกน้องผม  แม้จะถูกระเบิดจนแหลกเหลว แต่ตรวจดีเอ็นเอ ก็จะรู้ได้ว่ามาจากสังกัดไหน เพราะถ้าเป็นคนของกองทัพ มีประวัติอย่างละเอียดเก็บไว้อยู่แล้ว ผมคงหนีไม่พ้น

นอกจากนี้ การตระเตรียมระเบิดแบบลูกโซ่ในคาร์บอมบ์ยังยุ่งยากซับซ้อนมากกว่าอาวุธชนิดอื่นๆ

ในการลอบสังหารผู้นำประเทศที่เคยประสบมา คาร์บอมบ์เป็นวิธีที่ได้ผลน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ และส่วนใหญ่ใช้การจุดชนวนโดยการตั้งนาฬิกาปลุก หรือไม่ก็โทรศัพท์มือถือ

3) สถานที่
ถ้าผมยังสติดีอยู่ ผมจะไม่เลือกเป้าหมายใน กทม. เด็ดขาด เพราะรู้ๆ อยู่ว่า กล้องส่องทางไกลเป็นร้อยๆ และเป็นขุมกำลังของผู้นำประเทศ

บังเอิญผู้นำคนนี้เดินทางบ่อย โดยเฉพาะค้างแรมต่างจังหวัดครั้งละหลายๆ วัน

ผมเคยรบในสมรภูมิชายแดนมาแล้วเช่นตาพระยา  รู้ทางหนีทีไล่ดีที่สุดในประเทศนี้ ผมคงไม่เลือกก่อการในสถานที่ที่มีการจราจรคับคั่ง เพราะ ไม่มีทางเลยที่จะไม่ทิ้งเบาะแสให้ตามจับ

ผมคงเสียสติไปแน่ๆ ถ้าอดีตแม่ทัพภูธรและชายแดนอย่างผม เลือกก่อการสังหารครั้งสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์โดยเลือกสถานที่ที่แออัดยัดเยียดเช่นนี้

4) มือสังหาร

ผมมีลูกน้องในสายบังคับบัญชามากมายก็จริง แต่ถ้าผมเลือกลูกน้องที่รับราชการอยู่ โอกาสรอดของเขาและของผมคงยาก ไม่ว่างานจะสำเร็จหรือไม่ก็ตาม

คนๆ นี้ นอกจากจะต้องเก่ง กล้า และซื่อสัตย์ที่สุดต่องานที่ได้รับมอบหมายแล้ว ยังจะต้อง ไม่ใช่ลูกน้อง ของผม ทั้งในอดีตและปัจจุบัน

ผมนึกถึงคนสั่งการเรื่องนี้ ที่จะไม่ใช่ผมสั่งการเอง แต่ผมจะมอบหมายให้คนสนิทที่พรางหน้าพรางตาไปว่าจ้างมืออาชีพที่ไว้ใจได้ที่สุด โดยมืออาชีพนั้น รับงานโดยไม่รู้ว่า ใครเป็นคนว่าจ้างจะปลอดภัยกับทุกๆ คน

ผมมีเพื่อนเป็นนายทหาร ทำงานอยู่ภาคใต้ ผมเองก็เคยอยู่มาก่อน หาคนๆ นี้ไม่ได้เชียวหรือจึงต้องใช้ลูกน้องคนสนิท

ถ้าผมหาไม่ได้ ผมเลิกล้มความตั้งใจดีกว่าครับ

จาก..ผม
(ใครคนหนึ่งที่คิดวางแผน)


หัวข้อ: Re: **เมื่อผมบังอาจอ่านใจ พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี**
เริ่มหัวข้อโดย: Solidus ที่ 26-08-2006, 15:16
วางแผนดี แต่ทำไงได้คนเขียนบทเรื่องนี้ไม่เคยทำและดูหนังแนวนี้มาก่อน


หัวข้อ: Re: **เมื่อผมบังอาจอ่านใจ พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี**
เริ่มหัวข้อโดย: The Piggy@u ที่ 26-08-2006, 15:28
คาร์บ๊องส์
[/size][/color]


หัวข้อ: Re: **เมื่อผมบังอาจอ่านใจ พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี**
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 26-08-2006, 15:33
ผมนำภาพแผนผังบริเวณที่รถบรรทุกระเบิดใต้สะพานสี่แยกบางพลัด
มาให้ชมประกอบการวิเคราะห์.....

(http://i8.tinypic.com/25ksyzq.jpg)


หัวข้อ: Re: **เมื่อผมบังอาจอ่านใจ พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี**
เริ่มหัวข้อโดย: นทร์ ที่ 26-08-2006, 15:36
มีอีกข้อหนึ่งที่ผมแปลกใจ

จะมาวางระเบิด ทำงานใหญ่ทั้งที

ทำไมต้องลงชื่อในหนังสือเข้าออกที่กรมทหาร

ทำไมต้องทิ้งหลักฐานชิ้นใหญ่ขนาดนั้น

ทำไมไม่เอารถออกมาโดยไม่มีหลักฐาน (เรื่องแค่นี้ทำไม่ได้ก็แปลกแล้ว)

เพราะเมื่อเกิดระเบิดขึ้น การตามค้นว่ารถมาจากไหนจะถูกสืบเป็นเบื้องต้น

การทิ้งหลักฐานชิ้นใหญ่ขนาดนั้นไว้ เพื่ออะไร


*** นอกจากจะมีใครซักคนการจงใจสร้างหลักฐาน... (ไม่ว่าก่อนหรือหลัง)

หรือ

ตอนขับออกไปไม่มีระเบิดแน่นอน จึงไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรที่จะเซ็นลงไป

( ข่าวออกมาว่า มีการทิ้งแกลอน ถุงปุ๋ย ทราย เก็บไว้ให้เป็นหลักฐานยืนยันอีกต่างหาก   ทำไปได้ :shock: )  


หัวข้อ: Re: **เมื่อผมบังอาจอ่านใจ พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี**
เริ่มหัวข้อโดย: Suraphan07 ที่ 26-08-2006, 16:43
น่าติดตาม เป็นอย่างยิ่ง... :shock:

ผมว่างานนี้ "มีตัดตอน"

รออ่านการวิเคราะห์ต่อครับ...


หัวข้อ: Re: **เมื่อผมบังอาจอ่านใจ พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี**
เริ่มหัวข้อโดย: ทองเปลว ที่ 26-08-2006, 16:59
"ในชีวิตผมเป็นหัวหน้าชุดล่าสังหาร หัวหน้ากองโจร ถ้าผมจะทำท่านนายกฯ รับรองว่าหนีไม่พ้นผมหรอก จริงๆ ผมไม่ทำแบบนี้"

คำสัมภาษณ์พลเอกพัลลภ แค่นี้ผมว่าคนฟังก็ขี้หดตดหายแล้วครับ


หัวข้อ: Re: **เมื่อผมบังอาจอ่านใจ พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี**
เริ่มหัวข้อโดย: *bonny ที่ 26-08-2006, 17:12
มีอีกข้อหนึ่งที่ผมแปลกใจ

จะมาวางระเบิด ทำงานใหญ่ทั้งที

ทำไมต้องลงชื่อในหนังสือเข้าออกที่กรมทหาร


อ่านได้ว่า..

รท.ธวัชชัย ไม่ว่าจะสารภาพหรือปฏิเสธ ไม่ใช่จุดลงเอยของเรื่องไงครับ

ผมจำลองอีกสถานการณ์หนึ่ง  ไม่เป็นพลอ.พัลลภล่ะ แต่ผมเป็นทักษิณ..

คำถามแรกที่สื่อและสังคมจะตั้งให้ผมตอบ คือ ความน่าเชื่อถือของจำเลยที่จับได้ มีแค่ไหน

ดังนั้น..
ถ้าผม (อีกที) เป็นดร.ทางด้านอาชญวิทยา และผมจะสร้างฉากน่าเชื่อถือขึ้นมาสักฉากหนึ่ง ต้องเป็นระดับเดียวกับความรู้ความสามารถ ไม่ใช่ระดับพ่อค้ามาเฟีย นั่นคือ หลักฐานที่ผมจะนำมาเสนอต่อสื่อและสังคม จะต้องเป็นหลักฐานที่ "มัดแน่น" พอสมควร

ดังนั้น..
รท.ธวัชชัย จึงเป็นหมากตัวหนึ่งในการเดินแต้ม

อย่าเพิ่งคิดว่า หมากตัวนี้เป็นของพลเอกพัลลภเสมอไปนะครับ  คุณอาจโดนภาพลวงตา :shock:


หัวข้อ: Re: **เมื่อผมบังอาจอ่านใจ พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี**
เริ่มหัวข้อโดย: นทร์ ที่ 26-08-2006, 17:38
คำถามแรกที่สื่อและสังคมจะตั้งให้ผมตอบ คือ ความน่าเชื่อถือของจำเลยที่จับได้ มีแค่ไหน

ข้อมูลถ้ามากและเนียนเกินไป (จากสถานการณ์นี้ตำรวจแทบไม่ได้ทำหน้าที่อะไรเลย เพราะหลักฐานครบจัด)

การที่มีหลักฐานละเอียดยิบทุกฝุ่นผง ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้ "คนไทย" เชื่อมั่นในฝีมือตำรวจมากขึ้นครับ

(มันตำรวจไทย หรือ FBI หว่า)

ความเชื่อในข้อมูล มีระดับหนึ่ง ถึงระดับหนึ่ง คนไทย ที่รับข้อมูล จะลังเลและตั้งคำถามว่ามันอะไรกันแน่

ดังนั้น..
ถ้าผม (อีกที) เป็นดร.ทางด้านอาชญวิทยา และผมจะสร้างฉากน่าเชื่อถือขึ้นมาสักฉากหนึ่ง ต้องเป็นระดับเดียวกับความรู้ความสามารถ ไม่ใช่ระดับพ่อค้ามาเฟีย นั่นคือ หลักฐานที่ผมจะนำมาเสนอต่อสื่อและสังคม จะต้องเป็นหลักฐานที่ "มัดแน่น" พอสมควร

ถ้าคิดอีกด้าน ถ้าคนตั้งใจทำจริงคนทำไม่ใช่โจรกระจอกแน่ ทำไมทิ้งหลักฐานไว้เต็มไปหมด มันกลายเป็นเครื่องหักล้างคำว่า "มันแน่น" ของอีกฝั่งไปโดยปริยาย


ดังนั้น..
รท.ธวัชชัย จึงเป็นหมากตัวหนึ่งในการเดินแต้ม

อย่าเพิ่งคิดว่า หมากตัวนี้เป็นของพลเอกพัลลภเสมอไปนะครับ  คุณอาจโดนภาพลวงตา :shock:


มีคำว่า ตำรวจไทยทำได้ทุกอย่าง... / แต่ผมไม่อยากเห็น ความแตกแยกระหว่างตำรวจกับทหาร มากขึ้นไปกว่านี้อีกเลย...


หัวข้อ: Re: **เมื่อผมบังอาจอ่านใจ พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี**
เริ่มหัวข้อโดย: Scorpio6 ที่ 26-08-2006, 19:22

ขอปรบมือให้......... ทั้งผู้เขียนและผู้เผยแพร่ครับทั่น

ประเทืองปัญญานิ่มๆ...และ สมองกลวงๆ ของข้าผู้น้อย

ดีนัก....แล


หัวข้อ: Re: **เมื่อผมบังอาจอ่านใจ Bonny **
เริ่มหัวข้อโดย: ThailandReport ที่ 26-08-2006, 19:34
--------------------------------------------------------------------------------
ผมไม่รู้ว่าผมจะเขียนอะไรต่อไปนี้ดีไหม...เอาเป็นว่า ผมจะพยายามเขียนแบบ..ไม่ให้เข้าใจละกันนะ
ผมรู้แต่ว่า หากคุณ Bonny ยังคงตั้งอกตั้งใจเขียนบทวิเคราะห์เจาะลงไปลึกๆแบบนี้ ต่อไป

กระทู้นี้...
http://forum.serithai.net/index.php?topic=6356.0
ก็จะกลายเป็น...เขียนเสือให้วัวกลัวไป


แล้วริดกุนก็อาจจะเป็น ไก่ตัวแรกที่ "เขา"จะ เชือด ให้ลิงดู
 
หากคุณบอนนี่ เกลียดปลาไหล ไม่จำเป็นต้องกินน้ำแกง

แต่ควรตัดไฟต้นลม ด้วยการ ทำให้กระต่ายเฉื่อยชา ตัวหนึ่ง... ตื่นตูม

ก่อนที่มะพร้าว ทั้งสวน จะหล่นลงมา ใส่กบาล...

คับ....
หวังว่าจะเข้าใจนะคับ




หัวข้อ: Re: **เมื่อผมบังอาจอ่านใจ พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี**
เริ่มหัวข้อโดย: พรรณชมพู ที่ 26-08-2006, 19:41
การลอบสังหารบุคคลนั้น วิธีที่ได้ผลมากที่สุดเท่าที่เคยใช้กันมา คือใช้คนในนั่นแหละเป็นผู้ลงมือ  ในวงล้อมของการรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนา อาวุธที่ใช้รักษาความปลอดภัยนั่นแหละ คืออาวุธที่ใช้สังหารได้ทรงประสิทธิภาพยิ่ง

แต่คนข้างกาย ตามภาษิตไทย ช้างสาร งูเห่า ข้าเก่า เมียรัก นั่นคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด และการลอบสังหารครั้งใดก็ตาม หากผู้ลอบสังหารยอมพลีชีพด้วยแล้วไซร้ จะเป็นการลอบสังหารที่น่ากลัวที่สุด และได้ผลดีเยียมที่สุด เพราะผู้ลงมือไม่ต้องหาทางหลบหนี

เมื่อจูเลียส ซีซ่าร์ ล้มลงจากมีดที่รุมแทงหน้าสภาแห่งโรม คำพูดสุดท้ายที่เปล่งออกมาคือ "บรูตุส เจ้าด้วยหรือ" นั่นหมายถึงบุตรบุญธรรมของซีซ่าร์เอง ที่ร่วมลงมือสังหารเขาด้วย  คนกันเองแท้ๆ

การลอบสังหารเกิดขึ้นมาจนนับครั้งไม่ถ้วนแล้วในโลกนี้ แม้แต่แกนนำของผู้ก่อการร้าย ที่หลบซ่อนอยู่ในป่า ยังถูกหน่วยไล่ล่าสังหารของกองทัพไทย สังหารมาจนนับไม่ถ้วน จิตร ภูมิศักดิ์ อดีตนักศึกษาที่เข้าป่า ก็เสียชีวิตจากการลอบสังหาร ในยุคนั้น ยุคที่ จปร.7 กำลังคุมอำนาจอยู่ในระดับกองพัน พลเอกพัลลภไม่ได้พูดกินจริงเลย

หากทหารในกองทัพ คิดจะสังหารผู้นำจริงๆ  หนีไม่พ้นอย่างที่ท่านว่ามานั่นแหละ  ช่องโหว่ในการรักษาความปลอดภัยของนายกรัฐมนตรีนั้น โหว่ขนาดใช้สากกะเบือเป็นอาวุธในการลอบสังหารก็คงประสบผลสำเร็จ ไม่ต้องขนระเบิดคาร์บอมบ์ให้มันวุ่นวายไปเลยค่ะ


หัวข้อ: Re: **เมื่อผมบังอาจอ่านใจ พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี**
เริ่มหัวข้อโดย: เซนเบ้ ที่ 26-08-2006, 22:37

พิรุธเพียบ
1.สั่งคนในกรมของตนเอง ที่เป็นอดีตคนขับรถ ให้ไปลอบสังหารผู้นำประเทศ 
2.ขับรถคันที่เกิดเหตุออกจากกรมที่ตั้งโดยเซ็นชื่อไว้ด้วย
3.ใช้รถแดวูคันเก่าๆ เป็นคันเดียวกับที่ขับตามเหยื่อ 2-3 สัปดาห์ (อ้างจากปากคำของเหยื่อเอง)
4.เมื่อแผนไม่สำเร็จ มือสังหารยังมีแก่ใจไปกินข้าวต้มเป็ด  ก่อนขับรถขนระเบิดออกไปอีก
5.ตอนเเรกให้ข่าวว่ารถแดวูขับวนดูลาดเลาจากบ้านนายก  เมื่อมีคนโต้แย้งว่าไม่สมเหตุผล เปลี่ยนสคริปทันที
โดยอ้างว่ารถยนต์คันนั้นจอดไว้ก่อนใต้สะพานข้ามแยกบางพลัด  แถมจอดชิดขวาด้วย  ไม่ทราบว่าจอดได้อย่างไร
ดูที่ภาพที่นำมาแจกก็ขัดเเย้งกัน  เพราะเป็นจุดที่ไม่เหมาะสมที่จะจอดรถทิ้งไว้


หัวข้อ: Re: **เมื่อผมบังอาจอ่านใจ พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี**
เริ่มหัวข้อโดย: morning star ที่ 26-08-2006, 22:47
...ใครเชื่อว่าจริง ก็แปลก..และ โง่

สมมติว่าถ้าเป็นจริง แล้วทำสำเร็จ..เกิดระเบิดขึ้นมาจริง ๆ..รถแดวูคันนี้ ..คนขับคนนี้ ผู้บงการ คงได้นอนซังเตกันถ้วนหน้า..สำเร็จหรือไม่ก็ปูทางให้สาวถึงตัวได้ง่าย ๆ ... คนทำคงงี่เง่าจริง ๆ ..


หัวข้อ: Re: **เมื่อผมบังอาจอ่านใจ พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี**
เริ่มหัวข้อโดย: สี่หามสามแห่ ที่ 27-08-2006, 00:56
เรื่องนี้่ผมว่า เอาแค่เราๆ ที่ดูหนัง Action บ่อยๆ ยังรู้เลยครับ ว่าจะลอบฆ่ากันยังไง

บทเรื่องนี้เอาไปเป็นบทหนังบู๊ล้างผลาญของ Hollywood ยังไม่ได้เลยครับ  บทอ่อนยวบ ...

พี่ครับหนังฝรั่งจะวางแผนฆ่า ปล้่น ฯลฯ มันยังใช้รถมากกว่าสองคันเลยครับ

พี่ครับ หนังฝรั่งเวลาสะกดรอย ยังใช้รถมากกว่าสองคันเลยครับ

พี่ครับ หนังฝรั่งมันมีทีมล่วงหน้าด้วยนะครับ

พี่ครับ หนังฝรั่งมันยังรู้เลยครับว่าทำอะไรต้องไม่ทิ้งหลักฐาน

พี่ครับ หนังฝรั่งเวลาทำงานมันยังใช้รถแบบดาษๆ เลยครับ พี่เคยเห็นฝรั่งใช้รถแปลกๆ สะกดรอยไหมครับ

สงสัยคนเขียนบทไม่เคยดูหนังแอ๊คชั่น ....ดูหนังตลก มากไปแหง๋ๆ



หัวข้อ: Re: **เมื่อผมบังอาจอ่านใจ พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี**
เริ่มหัวข้อโดย: 1ktip ที่ 27-08-2006, 01:08
ถ้าแผนนี้เป็นการจัดฉากจริง ผมว่ามันได้ผลสัมฤทธิ์ในระดับหนึ่งเลยนะครับ

1. ปลุกเร้าอารมณ์มวลชนที่ยึดมั่นกับนายกให้รุนแรงขึ้น (กลุ่มที่ออกมาขอชีวิตแม้วกับป๋าเปรมนั่นไง) ความเกลียดชังอาจก่อตัวและพุ่งไปยังทิศทางที่ทักษิณชี้เป้า

2. กลบกระแสข่าว รปภ. กระทืบคนแก่และผู้หญิง (หายไปจากหน้าข่าวเกือบทั้งหมด)

3. ปลดคนที่มีแนวโน้มจะต่อต้านออกจากหน่วยงานสำคัญ (พล.อ.พัลลภ พ้นจาก กอรมน.)

ผมว่าแผนนี้บรรลุวัตถุประสงค์ขั้นต้นไปแล้ว ต้องรอดูว่าจะมีแผนการต่อเนื่องอะไรอีกหรือเปล่า

คนที่เชื่อว่าเป็นการลอบสังหารก็มีอยู่จริงๆ โดยเฉพาะคนที่เป็นสาวกทักษิณอยู่แล้ว เต็มห้องราชดำเนินยุคมืดเลย


หัวข้อ: Re: **เมื่อผมบังอาจอ่านใจ พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี**
เริ่มหัวข้อโดย: ไทมุง ที่ 27-08-2006, 01:18
ถ้าแผนนี้เป็นการจัดฉากจริง ผมว่ามันได้ผลสัมฤทธิ์ในระดับหนึ่งเลยนะครับ


คนที่เชื่อว่าเป็นการลอบสังหารก็มีอยู่จริงๆ โดยเฉพาะคนที่เป็นสาวกทักษิณอยู่แล้ว เต็มห้องราชดำเนินยุคมืดเลย

แผนลอบสังหารมีจิง  ลอบสังหารตัวเองงัย


หัวข้อ: Re: **เมื่อผมบังอาจอ่านใจ พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี**
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 27-08-2006, 04:08
จับผิด "ลิเกคาร์บ๊องส์"...ด้วยภาพถ่าย ของตำรวจ

มันแค่แผนซ้อมรับมือ 1 ในขบวนการซ้อมรับสถานการณ์ ซึ่งทำต่อจากแผน รปภ.ทำเนียบรัฐบาล

มีรถสมมุติ ซึ่งจอดใต้สะพานจริง ๆ ด้วย

http://www.weopenmind.com/board/index.php?topic=2522.0

ผมเคยสร้างหนังมาก่อนไง เลยพอเข้าใจ "มุมกล้อง"

พิรุธคือจุดที่จับรถขนระเบิดไง


หัวข้อ: Re: **เมื่อผมบังอาจอ่านใจ พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี**
เริ่มหัวข้อโดย: นู๋เจ๋ง ที่ 27-08-2006, 07:21
สรุปว่า เรื่องคาร์บอม เป็นแค่การซ้อมใหญ่  เท่านั้นเองเหรอคะ คุณแคน

เวนก้ำ เวนกำ สื่อนี่ก็ช่างกระไรใส่ไข่ไปเป็นตุเป็นตะ

ให้คนคิดว่า เรื่องจริง โถ!!

55555


หัวข้อ: Re: **เมื่อผมบังอาจอ่านใจ พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี**
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 27-08-2006, 09:01
ถ้าเป็นคนร้าย ไม่ได้สวมแว่นตาดำ กำลังจะไขกุญแจรถ มองเห็นกล้องถ่ายรูปแบบนั้นต้องเดินหนีแล้ว

ตกลงลงจากรถที่ติดอยู่มา "แอ็คชั่น" หรือ จอดรถทิ้งไว้แล้วเพิ่งมารับรถ เอาให้แน่

ถ้าจอดไว้เลนนั้น จราจรอัมพาตแน่ ๆ แถมต้องมี"รถยก" ให้มารับที่สถานีตำรวจ...ชัวร์

นี่พอนั่งในรถ หยิบแว่นตาดำมาสวม ยังแอ็คชั่นให้ถ่ายด้านหน้าอีก

ยัง ยังไม่พอ...ตำรวจตรวจใบขับขี่ ถ้าไม่มีพิรุธ ต้องปล่อยไปใช่มั๊ย

คุณเคยเห็นใครถ่ายรูปตำรวจตรวจใบขับขี่ด้วยมุมกล้องนั้น...ไม่แปลกใจบ้างเหรอ

ผมนึกว่ากำลังทำแผนประทุษกรรม

แล้วเรียกเค้าลงมา จับข้อหาอะไร บนถนนที่กำลัง "รถติด" แบบนั้น

แล้วรถที่อีตาแม้วคุยจ้อว่าเห็นจอดเสียอยู่น่ะ มันคันใหน คันนี้หรือเปล่า ( คุยว่าเห็นกองทรายอีกต่างหาก )

เปิดดูกระโปรงหลังหรือยัง เปิดประตูหลังเห็นระเบิดหรือยัง

หากเจอแล้ว ทำไมเจ้าหน้าที่ที่เฝ้ารถถึงไม่แสดงท่าท ี"กลัวระเบิด" ขณะที่ยังไม่ปิดการจราจร

ที่สำคัญ หาก "คนร้าย" ยินดีให้ถ่ายภาพนิ่งขนาดนั้น ทำไมไม่ถ่ายทำวิดีโอไปเลยล่ะ จะได้ไม่ต้องเถียงกัน


หัวข้อ: Re: **เมื่อผมบังอาจอ่านใจ พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี**
เริ่มหัวข้อโดย: นู๋เจ๋ง ที่ 27-08-2006, 09:43
นู๋สงสัยว่าถ้าทหารระดับป๋าจะวางแผนบึ้งใครน่ะ
เค้าคงใช้หน่วยจู่โจม เคลื่อนที่เร็ว ของทหารแล้ว
ทหารหนุ่มๆ ที่ฝึกจบมาใหม่ๆ 30 นิดหน่อยที่กำลังปราดเปรียว
แทรกได้ทุกที่แม้กระทั่งในกลุ่มเชียร์ จับไม่ได้หรอก
ทำไมเค้าต้องใช้ทหารทำบัญชีแก่ๆ ด้วยอ้ะ
อีกทั้ง วัตถุระเบิดก็ไม่ได้ทันสมัย สมกับงานกองทัพเลยซักกะนิ๊ด -_-!!
มันไม่เมคเซ้นนนนนนน

นู๋ว่าถ้าทหารจะลงมือจริง ไม่ทำกระจอกๆแบบนี้ เสียพิ๊กเจ้อ ทหารโม๊ดดดด -"-

อ่านข่าว พันเอกพร้อมลูกน้อง พลีชีพ ที่ ภาคใต้เช้านี้แล้ว เศร้าใจกว่าเยอะค่ะ
เพราะระเบิดโจรใต้มันบึ้มได้จริงๆ
รัฐจับแพะ เอ๊ย จับคนร้ายให้ดูทันทีทันควันหน่อยเส่ะ !!ตำรวจทำได้ไม๊นั่น!!! ทำไมไม่รีบลงไปพิสูจน์หลักฐาน แห่ดูกันทั้งสตชล่ะคะ -*-!!!






หัวข้อ: Re: **เมื่อผมบังอาจอ่านใจ พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี**
เริ่มหัวข้อโดย: see - u ที่ 27-08-2006, 13:02
วิเคราะห์...และตั้งข้อสังเกตุได้ดีคะ

ช่วงนี้.... ได้อ่านและฟังมุมมองของหลายๆ ท่านที่คิดว่า .. เป็นการจัดฉาก

ซึ่งสามารถหาข้อพิรุธ..ได้เพียบ

ตอนนี้... เลยมีคำถามในใจว่า .. ใครเป็นคนเขียนบท

ทำไมมันถึง ด้อย..คุณภาพขนาดนี้.. ทั้งห่วยและไม่เนียน

ขนาดเป็นเรื่องใหญ่.. ว่ามีการ ลอบสังหาร...ผู้นำ

ยังพบข้อบกพร่องได้ขนาดนี้... แสดงว่า..ไร้ซึ่งคนมี ฝีมือ .. จริงๆ

เพราะ.. การวางแผนการอะไรสักอย่าง ที่มีเป้าหมายใหญ่ และ..ส่งผลกระทบต่อภาพรวม

มันต้องหาข้อบกพร่อง..ให้ได้น้อยที่สุด

ถ้าเรื่องนี้.. เป็นเพียงการสร้าง .. สถานการณ์เพื่อกลบข่าว และ หวังเรียกคะแนนสงสาร

ขอประนามคนทำว่า ............... ชั่ว  จริงๆ ค่ะ


ที่เอาภาพลักษณ์ของประเทศ.. มาแลก กะ ผลประโยชน์ของใครบางคนเท่านั้น !!!!



หัวข้อ: พี่ชายร.ท.ธวัชชัยเผยน้องชายรักทักษิณมากไม่เชื่อวางแผนลอบฆ่าผู้นำ
เริ่มหัวข้อโดย: นทร์ ที่ 27-08-2006, 13:26
พี่ชายร.ท.ธวัชชัยเผยน้องชายรักทักษิณมากไม่เชื่อวางแผนลอบฆ่าผู้นำ

จ.ส.อ.อิทธิพล กลิ่นชะนะ ทหารสังกัดจังหวัดทหารบก จ.ราชบุรี พี่ชายของ ร.ท.ธวัชชัย กลิ่นชะนะ ผู้ต้องหาคดีมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง เดินทางเข้าเยี่ยมน้องชายที่ห้องคุมขังกองปราบปราม โดยเจ้าหน้าที่ได้อะลุ่มอล่วยให้เข้าเยี่ยมเป็นกรณีพิเศษ เป็นเวลา 5 นาที เพราะเห็นว่าเดินทางมาไกลจากจังหวัดราชบุรี

จากนั้น จ.ส.อ.อิทธิพล เปิดเผยหลังเข้าเยี่ยมว่า ส่วนตัวไม่เชื่อว่าน้องชายจะทำจริง เพราะน้องชายเป็นคนดี และเชื่อว่าที่น้องชายพูดไปนั้นเป็นความจริง 90% ที่ว่าเพื่อนจ้างวานให้ไปขับรถแดวูคันดังกล่าวให้ แต่พอขึ้นรถก็ถูกตำรวจจับ โดยยังไม่ทันได้ขับออกไป ทั้งนี้น้องชายตนไม่มีความรู้เรื่องระเบิด และไม่ทราบว่ามีวัตถุระเบิดซุกซ่อนไว้ในรถ แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม สำหรับเพื่อนที่น้องชายอ้างชื่อนายจุ้ย ที่วานให้มาเอารถนั้น ซึ่งจะต้องนำมาเป็นพยานด้วย ขณะนี้ยังไม่มีเวลาได้พูดกับน้องชายเพราะเวลาให้เข้าเยี่ยมน้อยมาก


“ความจริงผมอยากให้ย้ายน้องชายไปอยู่ในความควบคุมของทหาร เพราะเชื่อมั่นในความเป็นกลางมากกว่า และโดยปกติน้องชายเป็นคนชื่นชอบ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นอย่างมาก ไม่น่าจะก่อเหตุลอบสังหารรักษาการนายกฯ ตามที่ถูกกล่าวหา โดยก่อนหน้านี้ตนกับน้องชายยังเคยพูดคุยถึงเรื่องที่มีการออกมาต่อต้านรักษาการนายกฯกับกลุ่มคนที่ออกมาต่อต้านรักษาการนายยกฯ พอมาทราบข่าวยังรู้สึกงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าน้องชายจะลอบสังหารรักษาการนายกฯได้อย่างไร ” จ.ส.อ.อิทธพล กล่าว
http://www.posttoday.com/breakingnews.php?sec=breaking&id=117582

พล.อ. พัลลภ เองก็เป็นเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย

เอาข้อมูลเพิ่มให้มึนงงมากขึ้นไปอีก


หัวข้อ: Re: **เมื่อผมบังอาจอ่านใจ พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี**
เริ่มหัวข้อโดย: Solidus ที่ 27-08-2006, 14:28
จับผิดได้เยี่ยมจริงๆ


หัวข้อ: Re: **เมื่อผมบังอาจอ่านใจ พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี**
เริ่มหัวข้อโดย: อนัตตา (ไร้สี ไร้กลิ่น ไร้ฝ่าย) ที่ 27-08-2006, 14:34
[] แค่หาข้อแก้ตัวจะได้ไม่ต้องขึ้นเวทีหาเสียงไงครับ อัดวีดีโอเป็นซีดีแจกแทน

ทีนี้พอกลับมาเป็นนายก ก็จะ บริหารประเทศผ่านวีดีโอคอนเฟอเร้น

ไม่เหนื่อย ไม่ต้องหนวกหูเสียงไล่



หัวข้อ: Re: **เมื่อผมบังอาจอ่านใจ พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี**
เริ่มหัวข้อโดย: Ja-Ded ที่ 28-08-2006, 10:41
หรือทั้งหมดนี้ เป็นแค่การโปรโมทหนัง บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยมภาค 2 ของแม๊ว จ๊กมกหว่า

คือจะทำเป็นแอ๊คชั่นเนียนๆไปเลย ก็กระไรอยู่
จะทำหนังตลกอย่างเดียวก็กลัวคนไม่ดู

เลยทำกั๊กๆงี้ล่ะว่ะ ภาคแรกยังพอไปได้เลย
ภาคนี้คงไม่ต้องวิ่งแก้ผ้ากลางทำเนียบ เอ๊ยถนน

แต่อย่าบอกนะ ว่าจะส่งไปประกวดเมืองคานส์
เมืองไทยจะดังก็คราวนี้ล่ะวะ ดังกว่าสปีลเบิร์กอีก
ไม่ใช่ว่าสปีลเบิร์กทำไม่ได้นะ แต่หน้าด้านไม่พอตะหาก