ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

   ***  ยังออกมาโม้ว่า  คนจนในประเทศลดลงอีก
ที่อาจสามารถหน่ะ  ตัวอย่างที่เห็นชัดๆๆ   ไปโชว์
การแก้จนที่นั่น  อยู่หลายวัน  ทาครีมก่อนนอน ..๕๕

  ...แล้วไงคะ  แค่ที่อาจสามารถหน่ะ  คนจนลดลงจริง
หรือเปล่า  เอาแค่จังหวัดเดียวพอ

 ..............................................................................................



   พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการนายกฯทักษิณ คุยกับประชาชน ว่า

ขณะนี้มีผู้กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศว่ากำลังเข้าขั้นลำบาก เหมือนกับที่ประเทศอาร์เจนติ
น่ากำลังเผชิญอยู่ โดยเห็นว่า บุคคลที่วิจารณ์เช่นนี้อาจเป็นผู้ไม่มีความรู้ หรือต้องการวิจารณ์ให้เกิดปัญหา
 ซึ่งเมื่อวานนี้มีการรวบรวมตัวเลขทั้งหมด และจะเสนอต่อคณะรัฐมนตรีในวันจันทร์นี้ รวมทั้งจะประกาศให้
ประชาชนทราบว่าตัวเลขทั้งหมดเป็นเช่นใด ทั้งนี้ในส่วนของตัวเลขหนี้แม้จะดูเหมือนเพิ่มขึ้น แต่วิธีการคำ
นวนเลขในการบริหารประเทศต้องใช้คำว่าสัดส่วนหนี้ต่อจีดีพี หรือสัดส่วนหนี้ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมของประ
เทศ ซึ่งในวันแรกที่ตนเองเข้ารับหน้าที่นายกรัฐมนตรีนั้นตัวเลขหนี้ต่อจีดีพีอยู่ที่ ร้อยละ 57 ขณะนี้ลดลง
เหลือร้อยละ 41.4 แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของประเทศเติบโตกว่าตัวเลขหนี้มาก แม้ขณะนี้ตัวเลขหนี้
จะมีมากขึ้นแต่ก็ช้ากว่าการเติบโตของเศรษฐกิจ ทั้งที่ประเทศต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์ในหลายเรื่อง โดย
เฉพาะการส่งออกสินค้าภาคการเกษตร และอุตสาหกรรม ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน คนจนลดจำนวนลง และ
ในวันอังคารหน้าหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีแล้วจะแถลงตัวเลขทั้งหมดให้ประชาชนได้รับทราบ


   

  บุคคลที่วิจารณ์เช่นนี้อาจเป็นผู้ไม่มีความรู้ หรือต้องการวิจารณ์ให้เกิดปัญหา
 ซึ่งเมื่อวานนี้มีการรวบรวมตัวเลขทั้งหมด และจะเสนอต่อคณะรัฐมนตรีในวันจันทร์นี้
 รวมทั้งจะประกาศให้ประชาชนทราบว่าตัวเลขทั้งหมดเป็นเช่นใด ทั้งนี้ในส่วนของ
ตัวเลขหนี้แม้จะดูเหมือนเพิ่มขึ้น แต่วิธีการคำนวนเลขในการบริหารประเทศต้องใช้คำ
ว่าสัดส่วนหนี้ต่อจีดีพี หรือสัดส่วนหนี้ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ ซึ่งในวันแรก
ที่ตนเองเข้ารับหน้าที่นายกรัฐมนตรีนั้นตัวเลขหนี้ต่อจีดีพีอยู่ที่ ร้อยละ 57 ขณะนี้ลดลง
เหลือร้อยละ 41.4 แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของประเทศเติบโตกว่าตัวเลขหนี้มาก
 แม้ขณะนี้ตัวเลขหนี้จะมีมากขึ้นแต่ก็ช้ากว่าการเติบโตของเศรษฐกิจ ทั้งที่ประเทศต้อง
เผชิญกับวิกฤตการณ์ในหลายเรื่อง


 

   :) :) :) :) :)   ถามหน่อยเหอะ  ยุคดิจิทอล  ยุคข้อมูลเทคโนโลยี
สารสนเทศ  ตัวเลข ข้อมูล  ปรับแต่งไม้หรือไม่  ใครเป็นคนตรวจสอบ
ว่าข้อมูลทุกอย่างมาจาก  ข้อมูลสภาพจริง


 ....ใครที่ปฏฺบัติราชการ  ลองเบิ่งตาในหน่ยงานของท่านดูนะคะว่า
ข้อมูลผักชีโรยหน้าเท่าไหร่  ข้อมูลเสนอหน้านายเท่าไหร่  ข้อมูล
สร้างภาพเท่าไหร่  .......

 ....อยามัวหลงละเมอกับตัวเลขข้อมูลสวยหรูอยู่เลย .....
เอาคำพูดที่ท่านนายกออกมาแสดงความคิดเห็นทางสื่อ
สารมวลชน  ทางจอโทรทัศน์แต่ละครั้ง  แล้วยังแยกไม่ออกอีก
ว่า  อันไหนโม้  อันไหนจริง  อันไหนพูดจาดูถูกประชาชน
ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว ......

เป็นการไร้มรรยาทมากครับรายการนี้
ทุกฝ่ายก็พยามแล้วพยามอีกทั้งเป็นภาษาพูดและภาษาเขียน
ขอร้องให้งดรายการนี้
แต่ก็ยังทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน

จะต้องให้เป็นแบบที่ทีม กกต.ได้รับหรือเปล่าก็ไม่รู้
จึงจะหยุดคนๆนี้ได้

คนอะไรก็ไม่รู้
เกิดมาไม่เคยพบไม่เคยเห็นใครที่ ... แบบนี้

 :mozilla_yell:

นายกฯ  มารายงานการทำงานให้ทราบ ทุกวันเสาร์  ก็ดีแล้ว

พวกเราจะได้ทราบว่า  ท่านนายกฯ  ลงมือทำอะไรไปบ้าง

และมีแนวคิดอย่างไร  พวกเราจะได้ปรับตัวเข้าไปดำเนินการได้ถูกต้อง


มีแต่กล่าวหา  มีแต่อคติ  ดีแต่ด่าเข้าไป

ด่าโดยไม่ลืมหูลืมตา  มองอะไรให้มันรอบด้านหน่อยดิ

ใครที่เคยด่าว่า เลิกอ้างซะทีเถอะ เรื่อง อาเจนติน่า แสดงว่าด่าท่านรักษาการณ์นี่เอง สมน้ำหน้า เจอ ราชดำเนินด่า   :lol:

อืม รายการโกหกที่ดูยังไงก็โกหกทุกวันเสาร์นั่นน่ะรึ อย่างที่ผมเคยบอก ถ้าใครจะฟังรายการนี้


ห้ามใช้สมองคิดนะครับ เดี๋ยวจะเป็นการดูถูกหัวแม่เท้า  

เอาเปรียบด้านการหาเสียง...ในการออกมาพบประชาชนทุกวันเสาร์ยังไม่พอ ...ยังโม้ว่า...

พาดหัวกระทู้อย่างนี้ในราชดำเนิน กระทู้เดียว ก็สมควรถูกเฉดหัวมาแล้วหล่ะ..... :!:


ปล. ตั้งกระทู้นี้เอาใจสมาชิกที่นี่หรือเปล่า...........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

...๕๕๕๕  แหมท่านปุคะ  ถ้าระยะหลังท่านปุเข้าราชดำเนิน
ท่านปุก็จะต้อง  คันปากยุบๆๆยิบๆๆ....เขาชมกันได้ทุกวัน

ชมท่านนายกตั้งแต่หัวจรดเท้า ....มิทราบว่าเขาเอียนกันบ้างหรือเปล่าก็มะรู้

... :D :D :D :D

เมื่อสามสี่ปีก่อนผมเคยเรียกพวกที่เลีย
ไอ้เหลี่ยมอย่างไม่ลืมหูลืมตาใน รดน.ว่าเป็นพวก
สัตว์กินขนหน้าแข้งเป็นอาหาร
ทำให้วลีนี้โดนแบนไปนานมากเลย   :mrgreen:

คนเดียวกันพูด  สับปลับไหมคะ

(http://photo.thaiupload.com/img/eac5880239ee43d87dd8124b649e7ce7/4229183-high.jpg)


  :) :) :)  ยังจำได้มั๊ยคะ ....  ที่อาจสามารถ  ที่โชว์การแก้จน
เดี๋ยวนี้เขาหายจนแล้วยังล่ะ   ใครรู้ช่วยเล่าให้ฟังหน่อย

มีแต่เสียดสี กระทบกระเทียบเปรียบเปรย
ไม่มีข้อมูลความคิดเห็นอะไรที่เป็นสาระ
นอกจากมา ระบายสีท่านนายกฯ

เอ่อ...คนเรา....เป็นไปได้เง้อ....

มีแต่ประจบสอพลอเชียร์นายกไม่ลืมหุลืมตา
สมแล้วล่ะที่เค้าจะเรียกว่า ลิ่วล้อ

เขาเรียกว่าหาเสียงเหรอ? นึกว่ารายการตอแหลยามเช้าซะอีก

อาจสามารถรวยขึ้นหรือเปล่าไม่รู้
แต่เรื่องจริงที่รู้และพบเห็นคือ
ญาติและคนรู้จักที่อยู่ต่างจังหวัด
5ปีของทักษิน เขาไม่ได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเลย
แถมยังอยู่อย่างลำบากมากขึ้นเสียอีก ด้วยภาวะเศรษกิฐและราคาน้ำมัน
ที่รัฐบาลไม่เคยทำอะไรเลย นอกจากหาเสียงไปวันๆ
ที่จะดีขึ้นก็พวกหัวคะแนน พวกลิ่วล้อไทยรักไทยนั่นแหล่ะ
ได้เงินอัดฉีดมากันอู้ฟู้

หากไม่ทำมาหากิน  ก็จนเหมือนเดิม...
หากอยู่เฉย ๆ เงินจะเดินเข้ามาหาได้อย่างไร

ในแต่ล่ะ Case ต้องพิจารณาเป็นราย ๆ ไป
ที่ว่าไม่ได้มีชีวิตที่ดีขึ้น  ไม่ดีขึ้นเพราะอะไร

หากดื่มเหล้า  เล่นหวย  จน เครียด กินเหล้า นั้นก็สมควร...เป็นแบบนี้อย่างไร ก็ไม่รวยขึ้นมาได้หรอกครับ

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีกล่าวในรายการ “นายกฯ ทักษิณ คุยกับประชาชน” ว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ไปปาฐกถาเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจไทยให้นักธุรกิจไทยและจีนได้ฟัง เพื่อให้รู้ว่าบางทีบางครั้งมีคนพูดกันเลอะเทอะว่าประเทศแย่แล้ว ประเทศเป็นหนี้เยอะเหลือเกิน ซึ่งคนที่พูดมีอยู่ 2 ประเภท คือ ไม่รู้เรื่อง ไม่เคยดูตัวเลข ไม่เคยดูอะไร หรือ ต้องการพูดให้เกิดปัญหา 

และส่วนใหญ่เป็นพวกสาวก  ซึ่งขี้อิจฉา  เห็นใครดีกว่าตัวเองไม่ได้  ก็ขัดขวาง.....ประมาณนี่ครับ

นึกแล้วว่าต้องเอามุขว่าเขาขี้เกียจมาอ้าง
พวกเขา........ที่ดิฉันสัมผัส
เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ(จะมีก็ยาเส้นมวนๆบ้าง)
การพนันไม่เล่น วันพระเข้าวัดถือศีล ขยันทำมาหากิน
แต่ด้วยกลไกตลาดเศรษกิฐเฮงซวยที่ทักษินหว่านลงไป
ทำให้เขาต้องรับภาระกับค่าครองชีพที่ถีบตัวสูงแต่ขณะที่ผลิตผลไม่ได้ราคาซ้ำต้องรับภาระต้นทุนที่สูง
เผอิญญาติที่ว่านี่ไม่ได้ปลูกยางอย่างภาคใต้ ก็เลยไม่ได้อานิสงค์ราคายางอย่างที่ทรท.คุยอวดนักอวดหนา

แต่ใอ้เจ้าหัวคะแนนที่ว่านี่(ไปเห็นมากับตา) แม่งงงงงอาทิตย์นึงจะออกเรือสักที หรือไม่ก็เป็นเดือนๆ
แต่มีเงินอัดฉีดมาใช้กันอย่างฟุ่มเฟือย โทรศัพท์มือถือมีใช้กันตั้งกะพ่อยันลูกที่อายุยังไม่ถึงสิบขวบ

ไปเห็นแล้วมันจี๊ดดดดดเจ้าค่ะ  ไปเยี่ยมคราวที่แล้วดิฉันซื้อโทรศัพท์ไป3เครื่อง แจกคนของเรามั่ง(เครื่องมือสองถูกๆราคาไม่กี่สตังค์ แต่ก็เล่นเอาโบนัสข้าพเจ้าหายวับไปกับตา)

เดาออกใหมว่าซื้อซิมการ์ดระบบอะไรให้เขาเปล๊า........ไม่ใช่ดีแทคไม่ใช้น้องส้ม :!:
ก็วันทูคอลของเอไอเอสนี่แหล่ะ เกลียดแม๊วแค่ใหนก็ยังต้องใช้ของมัน เพราะตรงนั้นมีสัญญานเดียวที่เข้าไปถึง

พวกเขา........ที่ดิฉันสัมผัส
เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ(จะมีก็ยาเส้นมวนๆบ้าง)
การพนันไม่เล่น วันพระเข้าวัดถือศีล ขยันทำมาหากิน
แต่ด้วยกลไกตลาดเศรษกิฐเฮงซวยที่ทักษินหว่านลงไป


ก่อนนี้  ห้าปี  เขาก็จนอยู่อย่างนี้ถูกต้องไหมครับ ปัจจุบันก็จนเพิ่มขึ้น  เพราะระบบการศึกษาของเรามันด้อยครับ  เด็กจบมาก็เรียนโรงเรียนแถวบ้าน จบมาก็ทำอาชีพเกษตรกร  วนเวียนเป็นวัฐจักร อยู่อย่างนี้ครับ  แต่รัฐบาล  ก็สนับสนุนทุนการศึกษา  1 ทุน 1 ตำบล  เพื่อให้เด็กมีการศึกษาที่ดีขึ้น การพัฒนาบางครั้งต้องใช้ระยะเวลา หากจะให้รวยพร้อมหน้ากันทุกคน  อัญเฃิญเทวดา  มาเป็นนายกฯ  ดีไหมครับ   

รัฐบาลพยายามแก้อยู่ครับ  คุณจะให้สำเร็จได้ดังใจ  ทั้งที่พวกคุณประท้วงกันอยู่ตลอดเวลา  ทั้งปิดถนน  ทั้งปิดห้าง  ไปให้สัมภาษณ์ด่ารัฐบาลใน CNN บ่อยทำลายประเทศ  นักลงทุน นักท่องเที่ยวก็หนีหมด  ไหนประเทศจะพบกับวิกฤติน้ำมัน วิกฤติจากภัยสึนามิ ปัญหาภาคใต้ ปัญหาไข้หวัดนก ปัญหาภัยแล้ง ปัญหาน้ำท่วม  ก็พวกคุณ  พยายามขัดขวาง  การพัฒนาของนายกฯ  พวกคุณลองอยู่เฉย ๆ ไม่ออกมาประท้วงสัก 3 ปี  คาดว่าประเทศอาจดีขึ้นครับ  ...

หนี้สินเฉลี่ยต่อเดือนของครัวเรือน พ.ศ.2539-2547
2537      2539      2541     2542     2543      2544    2545      2547
31,387   52,001   69,674  71,713   68,405  68,279   82,485   104,571

ค่าใช้จ่ายฉลี่ยต่อเดือนของครัวเรือน  พ.ศ.2539-2547
2537    2539    2541      2542      2543   2544      2545      2547
7,567   9,190   10,389   10,238   9,848   10,025   10,889   12,297

รายได้เฉลี่ยต่อเดือนของครัวเรือน พ.ศ.2539-2547
2537    2539    2541     2542      2543      2544    2545     2547
8,262   10,779 12,492   12,729  12,150   12,185  13,736   14,963

ที่มา:สำนักงานสถิติแห่งชาติ

ปีนี้ 2549 แล้ว ของ 48 อยู่ไหน อยากดู
อยากให้ดูก็เอามาให้หมดซิ
เค้าคงใช้คืนในปี 49 หมดแล้วมั้ง

เมื่อก่อน  ไม่เคยมีหนี้สินต่อครัวเรือนเหรอครับ

นับตั้งแต่รัฐบาล "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" เข้ามาบริหารประเทศ ได้ปั๊มนโยบายประชานิยมออกมามากมาย จนประชาชนแทบสำลักนโยบาย นับตั้งแต่กองทุนหมู่บ้าน พักหนี้เกษตรกร ธนาคารประชาชน โอท็อป ฯลฯ ทุกโครงการล้วนใช้เงินงบประมาณจำนวนมหาศาล สิ่งที่เห็นจากภายนอก คือ คะแนนนิยมในตัวนายกฯ ในต่างจังหวัดยังดีมาก แต่หากถามว่าจะตรวจวัดความสำเร็จในเชิงรูปธรรมที่จับต้องได้ ปัจจุบันยังไม่หาตัวเลขที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายได้ยากยิ่ง

ดร.สมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัยสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) บอกกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า นโยบายประชานิยมของรัฐบาลได้สร้างภาระหนี้ 2 ด้าน ทางหนึ่งคือรัฐบาล อีกทางหนึ่งคือประชาชน กองทุนหมู่บ้านใช้งบประมาณไป 8 หมื่นกว่าล้านบาท รัฐบาลยืมมาจากธนาคารออมสินแล้วตั้งงบประมาณชำระคืนทุกปี ตรงนั้นท้ายที่สุดแล้วไม่แย่นัก เพราะไปกระตุ้นให้เศรษฐกิจดีขึ้น รายได้ก็ไหลกลับเข้าสู่รัฐบาล

ฉะนั้น โจทย์แรกภาระหนี้ต่อรัฐบาลในช่วงนี้จึงดูไม่หนักหนาสาหัสมาก ส่วนภาระหนี้ต่อภาคเอกชน ในส่วนของกองทุนหมู่บ้านขณะนี้ ยังไม่ค่อยน่าห่วงเช่นกัน สาเหตุเพราะเป็นหนี้ที่เกิดจากเงินได้เปล่าจากรัฐบาล ที่ส่งผ่านให้คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านแล้วไปปล่อยกู้ให้กับชาวบ้าน ไม่มีเจ้าหนี้ที่แท้จริง เพราะฉะนั้นตัวเลขหนี้ครัวเรือนก็จะไม่สูงขึ้น คาดว่าน่าจะอยู่ที่ 5% ของหนี้ครัวเรือนทั้งประเทศ

กระตุ้นเศรษฐกิจ คะแนน A+

ก็ไปถามสำนักงานสถิติแห่งชาติเอาเอง ส่วนข้อมุลที่เอามานี่เป็น 2539-2547 แล้วมันจะมีพ.ศ.2548ได้ยังไง

ยังครับยังไม่พอ ยังมีทัวร์แจกตังอีก2ภาค 2อาทิตย์ โค้งสุดท้าย ก่อน พ.ร.ฏ. เลือกตั้งประกาศใช้

ถ้าหากมีการยืด วันเลือกตั้ง น่าจะมีการเพิ่มรอบโชว์ตัวโปรยข้าวเปลือกอีกหลายรอบ

แต่ไม่ไปภาคใต้นะ แม้วกัว  :(

ถึงคุณ Solidus จะเอาปี 48-49 มาให้ดูได้ เขาก็คงจะทำนายไปว่าปี 50-51 หนี้เหล่านี้คงจะลดแบบฮวบๆอยู่ดี ป่วยการพูดเรื่องตัวเลขกับคนพวกนี้ครับ 

ว่างั้นเหมือนกัน แต่ของปี48-49 คงหายากหน่อยเพราะต้องแต่งตัวเลขให้สัมพันธ์กับ GDP

นึกออกแล้ว บางทีเขาสำรวจแบบปีเว้นปี

ใช่ ใช่ มีแบบสอบถามจากสนงสถิติแห่งชาติมาหาผมบ่อยๆ ผมก็ตอบมั่วไปเสมอ
ไม่ได้ตั้งใจ เค้าถามเร็วคิดไม่ทัน คือ ขี้เกียจอ่านนะครับ
แล้วปี 50-51 นี่ตกลงมันต้องลดฮวบๆแน่เลย คุณว่ามั้ย

การตอบแบบสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาตินั้น ถ้าพบว่ามีการไม่ให้ความร่วมมือหรือจงใจบิดเบือนข้อมูลมีความผิดตามกฏหมาย ตามมาตรา 21 ในพระราชบัญญัติ สถิติ พุทธศักราช 2508 มีความว่า

มาตรา ๒๓ ผู้ใดกรอกข้อความหรือตัวเลขในใบแบบหรือใบกำหนดข้อถาม โดยรู้อยู่ว่าเป็นเท็จ หรือชี้แจงข้อเท็จจริง หรือตอบข้อถามอันเป็นเท็จแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ หรือพนักงานซึ่งปฏิบัติการตามมาตรา ๑๘ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินห้าร้อยบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทำไงถึงจะดูดีดูงาม ถูกใจใบไม้หนอ

อ้าว...


อ้าว...

ใบไม้  ฝีมือตกไปนะ  หากตั้งกระทู้ที่ราชดำเนิน

ต้องไม่ต่ำกว่าครึ่งร้อย Reply  ...



ปรับปรุงหน่อยน่ะ.... 

เอิ๊กๆ งานนี้ตัวใครตัวมัน

คุณSkyนี่.........น่าจะไปยืมล๊อคอินของ ชอบแถ มาใช้นะ
เพราะรายนั้น แกแถไม่ค่อยเก่งสมชื่อสักเท่าไร
ดิฉันบอกไปว่าญาติดิฉันเคยมีความเป้นอยู่ที่ดีกว่านี้
ก่อนที่นายแม๊วจะมาฮุบประเทศ
แต่คุณก็ยังแถ+ท่องอยู่อย่างเดียวคือ จน+ขี้เกียจ

คุณนี่ไม่สมราคาที่จะวิสาสะด้วยเลยแม้แต่น้อย

... น้องท้องฟ้าคะ   ๕๕  ที่นี่เขาลืมตาโพสต์  มอง
ฟ้ามองดินก่อนโพสต์คะ   แต่ที่ราชดำเนิน  ไม่อาจเอื้อม
อาจหาญ  วิพากษ์   วิจารณ์  จ๊ะ ...ว่า  เขาโพสต์
วิธีไหน ....

 ....แต่ไงก็ยัง   คิดถึงคนมีเหตุผลอีกหลายคนนะคะ
น้องท้องฟ้า  ที่น่าเสวนาด้วย  เช่น  ท่านแตรท 
ท่านเอ็กซ์ซียู  ท่านศรีธนญชัย  ป้าหนูดา  ป้านินจา
 ท่านขนมต้ม  ท่านขุนอิน  ท่านอะตอม  ท่านพอลครับ
ท่านม้ามังกร  ท่านคิทตี้ แพท  รวมทั้งน้องท้องฟ้าด้วย


และอีกหลายคนทีเดียว  ไม่สามารถเอ่ยชื่อได้หมด  ณที่นี้

....ฝากความคิดถึง ด้วยนะคะ  น้องท้องฟ้า

คุณSkyนี่.........น่าจะไปยืมล๊อคอินของ ชอบแถ มาใช้นะ
เพราะรายนั้น แกแถไม่ค่อยเก่งสมชื่อสักเท่าไร
ดิฉันบอกไปว่าญาติดิฉันเคยมีความเป้นอยู่ที่ดีกว่านี้
ก่อนที่นายแม๊วจะมาฮุบประเทศ
แต่คุณก็ยังแถ+ท่องอยู่อย่างเดียวคือ จน+ขี้เกียจ
คุณนี่ไม่สมราคาที่จะวิสาสะด้วยเลยแม้แต่น้อย


ก็บอกว่าให้แยกเป็นประเด็นๆ เป็นเรื่อง ๆ ไป
หากบางคนค้าขาย ขาดทุน  แล้วก็ไปอ้างว่ารัฐบาลทำ ว่ารัฐบาลไม่ดี 
เพราะระบบเศรษฐกิจ  ที่รัฐบาลลงมือดำเนินการ

แล้วทำไม  คนอื่น ๆ เขาถึงประสบความสำเร็จล่ะครับ
เขาถึงทำมาหากินได้  คุณเอะอ่ะก็ไปโทษรัฐบาล 
เหตุผลหรือข้อมูลอะไรก็ไม่มี  เอาแต่โทษรัฐบาล
รัฐบาลไม่ใช่เทวดานะครับ
 จะช่วยอะไรได้มาก  หากเราไม่ช่วยตัวเองก่อน
แล้วช่วยตัวเองถึงที่สุดหรือยัง  หรือจะเอาให้รวยเท่านายกฯ ทักษิณ


นี้ก็คง  เป็นอีกหนึ่งความคิดเห็นหนึ่ง ที่ต่อต้านรัฐบาล
ที่ไร้ข้อมูล เหตุผล ตรรกะ  ไร้สาระเป็นอย่างยิ่ง




ใบไม้  กลับไปราชดำเนินดีกว่าไหม  .. 
เห็นใจ ครับ  ไม่กล้าพูดอะไรมาก
เพราะเมื่อก่อน  ผมก็เป็น  แถวหน้า(ของอะไรไม่บอก อิ อิ)



คุณ leeping  บางครั้ง  พวกเขา  ไม่มีเหตุผล 
เราก็ไร้เหตุผลบ้าง 
บางคนจริงครับ  มีแต่อคติ เหตุผลไม่รับฟัง
ฉันถูกคนเดียว  คนอื่นพูดอย่างไร  ฉันไม่ฟัง...

พวกนี้ท่องเป็นอยู่คำเดียว

อาหารแช่แข็งไม่อร่อย ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ยังมีคนหวังมารยาท หรือสปิริตจากไอ้นี่อยู่อีกเหรอ...
มันแก่เกินจะดัดได้แล้ว...

การตอบแบบสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาตินั้น ถ้าพบว่ามีการไม่ให้ความร่วมมือหรือจงใจบิดเบือนข้อมูลมีความผิดตามกฏหมาย ตามมาตรา 21 ในพระราชบัญญัติ สถิติ พุทธศักราช 2508 มีความว่า

มาตรา ๒๓ ผู้ใดกรอกข้อความหรือตัวเลขในใบแบบหรือใบกำหนดข้อถาม โดยรู้อยู่ว่าเป็นเท็จ หรือชี้แจงข้อเท็จจริง หรือตอบข้อถามอันเป็นเท็จแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ หรือพนักงานซึ่งปฏิบัติการตามมาตรา ๑๘ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินห้าร้อยบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อ้าว พูดตกไปที่มาถามผมเป็นสำนักงานสถิติแห่งชาติหน้า ครับ

เศรษฐกิจดีขึ้นหรือไม่ไม่ต้องยกตัวเลขมาอ้าง ประชาชนล้วงกระเป๋าดูก็รู้แล้ว

ทุกวันนี้ของเเพงขึ้น  เงินเดือนเพิ่มขึ้นรึป่าว หรือว่าต้องประหยัดขึ้นอีกหน่อย
พวกคนทำมาค้าขาย รู้สึกเงินหายากขึ้นรึป่าว(อาจจะลูกค้าน้อยลงหรือว่าต้องลดราคาเยอะขึ้น)
 ถ้าเป็นแบบนี้ยังเรียกว่าเศรษฐกิจดีอยู่อีกรึป่าว
ขยันไม่ขยัน ไม่เกี่ยวกับเศรษฐกิจ
จนหรือไม่จน ก็ไม่เกี่ยว

 :shock: ตั้งชื่อรายการได้ตรงเหลือเกิน   :mrgreen:

ขออนุญาตเอาทั้งหมดมารวมกัน จะได้เห็นภาพเลยว่าอนาคตประเทศไทยเป็นยังไง

เป็นสถิติที่น่าสนใจ รายได้ก็เพิ่มมากกว่าค่าใช้จ่ายตลอดมาทุกปี แต่ทำไมหนี้สินถึงโตเอาโตเอา?

                       2537      2539      2541      2542      2543      2544      2545       2547  
รายได้            8,262    10,779    12,492   12,729   12,150    12,185   13,736     14,963
ค่าใช้จ่าย        7,567      9,190   10,389    10,238     9,848   10,025   10,889     12,297
หนี้สิน          31,387    52,001    69,674    71,713   68,405   68,279   82,485  104,571  

ทั้งที่คำนวณ รายได้-ค่าใช้จ่าย ต่อปี (เงินเหลือเก็บต่อปี) ได้แบบนี้

                      2537      2539      2541      2542      2543       2544      2545       2547
เหลือเก็บ      8,340     19,068   25,236   29,892   27,624    25,920    34,164    31,992

ดูจากหนี้สิน ณ สิ้นปี 2543 ก่อนรัฐบาลทักษิณเข้าบริหารประเทศหนี้ต่อครัวเรือนอยู่ที่ 68,405   บาท
คำนวณเงินเหลือเก็บจาก รายได้-ค่าใช้จ่าย ปี 44,45 และ 47 (ไม่มี 46) = 25920 +34164 +31992 = 92,076   บาท
แทนที่หนี้สินจะหมดไปกลับกลายเป็นเพิ่มขึ้นถึงหลัก แสนบาท หรือมีหนี้สินเท่ากับเงินรายได้เกือบ 7 เดือน?

เทียบกับ สิ้นปี 37 ปลายสมัยรัฐบาลชวน 1 .. หนี้สิน เท่ากับรายได้                      31387/8362   = 3.80 เดือน
พอมาถึง สิ้นปี 39 หลังนายกฯบรรหารพ้นอำนาจได้ 3 เดือน หนี้สิน เท่ากับรายได้   52001/10779 = 4.82 เดือน
ถัดมาคือ สิ้นปี 41 รัฐบาลชวน 2 บริหารมา 1 ปีนิดๆ หนี้สิน เท่ากับรายได้              69674/12492 = 5.57 เดือน
จนมาถึง สิ้นปี 43 ปลายสมัยรัฐบาลชวน 2 แก่ๆ หนี้สินต่อรายได้เกือบคงที่            68405/12150 = 5.63 เดือน

ไทยรักไทยมาบริหาร 4 ปีหนี้ท่วมบ้านเรือนหนักกว่าเดิม แต่โฆษณาว่าแก้ปัญหาความยากจนสำเร็จ!!!

ไม่ทราบใครมีข้อมูลปี 2546 และ 2548 บ้างครับ .. แบบนี้เป็นการจับโกหกรัฐบาล ทรท. ได้หรือเปล่า..
อย่างน้อยก็โกหกไว้ตอนก่อนเลือกตั้ง 6 กพ. 48 ใช่หรือไม่.. ว่าแก้ปัญหาความยากจนสำเร็จ?
------------------------------------------------------------------------------------------------
อ้างอิงข้อมูลจาก สำนักงานสถิติแห่งชาติ ลองเข้าไปดูกันก็ได้ครับ มีรายละเอียดเป็นภาคด้วย
ให้สังเกตเฉพาะภาคเหนือ และภาคอีสาน ปี 47 หนี้สินเกือบจะเท่ารายได้ 10 เดือนแล้วครับ..

รายได้   http://service.nso.go.th/nso/lfsstat/graph6.html
ค่าใช้จ่าย   http://service.nso.go.th/nso/lfsstat/graph7.html
หนี้สิน   http://service.nso.go.th/nso/lfsstat/graph4.html

ปี 2546 กับ 2548 รู้สึกทางสำนักงานสถิติจะเปลี่ยนไปจัดเก็บข้อมูลแบบปีเว้นปีเหมือนที่เคยจัดเก็บมาก่อนปี 2541 ครับ

เอ.. แล้วคุณทักษิณแกไปเอาข้อมูลจากไหนมาโฆษณาหาเสียงล่ะครับ?

ลองเอารายได้ต่อเดือนปี 44 (12,185 บาท) เป็นตัวตั้งต้นนะครับ
ถึงปี 45 เพิ่มขึ้นเป็น 13,736 บาท คิดเป็นเพิ่มขึ้นจากปี 44 = 12.73%
ถึงปี 47 เพิ่มขึ้นเป็น 14,963 บาท คิดเป็นเพิ่มขึ้นจากปี 45 =   8.93%

คราวนี้มาดูหนี้สินบ้างคิดให้ปี 44 (68,279 บาท) เป็นตัวตั้งต้นเช่นกัน
ถึงปี 45 เพิ่มขึ้นเป็น 82,485 บาท  คิดเป็นเพิ่มขึ้นจากปี 44 = 20.81%
ถึงปี 47 เพิ่มขึ้นเป็น 104,571 บาท คิดเป็นเพิ่มขึ้นจากปี 45 = 26.78%

..ป่านนี้ใกล้สิ้นปี 49 ตัวเลขจะไปถึงไหนแล้วก็ไม่ทราบนะครับ..

สักสงสัยเหมือนกัน ถ้าข้อมูลนี้มีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานด้วยก็จะดีกว่านี้อีก

ข้อมูลที่แจกแจงกันน้อยที่สุดคงเป็นเรื่องการกระจายรายได้ครับ

เอาเข้าจริงดูแค่ค่าแรงขั้นต่ำ หรือเงินเดือน Start ของนักศึกษาจบใหม่
เทียบ 10 ปีก่อนกับตอนนี้ ว่าขยับไปถึงไหน

แล้วเอาไปเทียบราคาข้าวแกง เมื่อ 10 ปีก่อนกับตอนนี้ประกอบอีกที
ก็เห็นภาพแล้วว่าจะรวยกันมากขึ้น (หายจน) จริงหรือเปล่า

หมายเหตุ : ขอเอาสถิติที่สรุปได้ไปตั้งกระทู้ใหม่ให้คนดูกันนะครับ

http://forum.serithai.net/index.php?topic=5249.0

ลองให้ชาวบ้านแต่ละคนไปคิดเล่น ๆ เอาสินทรัพย์ที่ตัวเองมี หารหนี้สิน ดูว่าจะได้ตัวเลขแบบไหน ถ้ามากกว่า 1 ค่อยมาคุยเถอะว่าไม่มีคนจน

ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (Gross Domestic Product : GDP)

         หมายถึง มูลค่าของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายที่ผลิตขึ้นภายในประเทศในระยะเวลาหนึ่งโดยไม่คำนึงถึงว่าทรัพยากรที่ใช้ในการผลิตสินค้า และบริการจะเป็นทรัพยากรของพลเมืองในประเทศหรือเป็นของชาวต่างประเทศ ในทางตรงข้าม ทรัพยากรของพลเมืองในประเทศแต่ไปทำ การผลิตในต่างประเทศก็ไม่นับรวมไว้ในผลิตภัณฑ์ในประเทศ

         ผลิตภัณฑ์ในประเทศมีการจัดทำทั้งตามราคาปัจจุบันและราคาคงที่โดย GDP ณ ราคาปัจจุบัน คิดมูลค่าผลผลิตเป็นเงินตามราคา
ตลาดของสินค้าและบริการเหล่านั้น ขณะที่ GDP ณ ราคาคงที่คิดมูลค่าผลผลิตเป็นเงินตามราคาปีที่กำหนดเป็นปีฐาน

โอ้ ... คนไม่มีมารยาท มันใช้ช้อนกินข้าวกับเขาเป็นหรือนี้   อยู่บ้านมันใช้มือเปิบ  แล้วล้างนิ้วในแก้วน้ำดื่มเป็นนิสัย  แปลกม๊ากมาก