ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

"สุเมธ" ขอร้องหยุดทะเลาะ! "อย่าเพิ่มภาระให้ในหลวง"

"เลขาฯมูลนิธิชัยพัฒนา" เผย ตลอด 60 ปี พระภารกิจยิ่งใหญ่ของ"ในหลวง" คือช่วยเหลือประชาชน
เป็นพระมหากษัตริย์ที่อยู่ใกล้ชิดชาวบ้านมากที่สุดในโลก ห่วงทรงใช้พระวรกายอย่างสึกหรอ ทรงเหนื่อยมากๆ
ขอทุกคนอย่าเอาภาระไปใส่ให้ท่านอีก เรียกร้องหยุดทะเลาะเบาะแว้ง ร่วมกันปฏิบัติถวาย 4 ข้อ

...
นายสุเมธกล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 60 ปี นั้นภารกิจอันยิ่งใหญ่ของพระองค์คือช่วยเหลือประชาชน
อาชีพของพระองค์คือ "ทำราชการ" คำที่เรียบง่ายทำงานในฐานะองค์ราชันย์
พวกเราเป็นข้าราชการ ถ้าถามว่าทำอะไรก็คงตอบว่า "รับราชการ" รับงานจากองค์พระราชามาทำ
เวลานี้เราชักจะลืมเลือนสถานะของตัวเองไปเหมือนกัน ชอบนิยมใช้อย่างอื่นเรียกตัวเอง

"พระองค์ทรงใช้หลักสังฆทานกับลัทธิเรื่อยๆ คือทำไม่เลือกและทำไม่หยุด
ตั้งแต่บนฟ้า เทือกเขา กลางเขา ลงเขา มาหาน้ำ ลงทะเล
พวกเราทำน้ำเสียก็มาตามกำจัดน้ำเสียให้ประชาชนอีก
ใช้หลักธรรมชาติแก้ไขธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจ สังคม
แม้กระทั่งปัญหาการเมืองก็พวกเรานี้แหละก่อแล้วก็ทรงตามแก้ด้วยความเหนื่อยยาก
ใครก่ออย่างนี้ก็ให้รู้บ้าง จะทิ้งขยะแต่ละก้อนคิดไว้นะว่าพระเจ้าแผ่นดินต้องไปแก้
ต้องคำนึงว่าเอาภาระไปใส่ให้ท่านไปอีก ทะเลาะเบาะแว้งเมื่อไรทรงตามแก้อีก
ขอฝากไว้ตรงนี้ด้วย หยุดกันเถอะ 60 ปีทรงเหนื่อยมากๆ" นายสุเมธกล่าว

นายสุเมธกล่าวว่า เมื่อคืนนี้ก็ได้รับทราบข่าวและเราก็เป็นห่วงทุกคน
พระวรกายของพระองค์ขอพระราชทานอนุญาตที่จะกล่าวว่า ทรงใช้อย่างสึกหรอมากๆ
การที่ทรงพระราชดำเนินไม่ค่อยถนัดนัก คิดว่าพระวรกายถูกใช้อย่างหนัก
ความสึกหรอมีมากกว่าคนธรรมดาเพื่อใคร เพื่อพวกเราให้อยู่เป็นสุขสงบ

"ใส่เสื้อเหลืองอย่างเดียวไม่พอ อยากให้พวกเราปฏิบัติอะไรถวายพระองค์
ไม่ต้องอะไรมากขอเพียง 4 ข้อที่พระองค์ทรงขอไว้ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา
อยากให้สีเหลืองซึมซับเข้าไปในสมองแล้วออกมาเป็นหลักปฏิบัติ

ข้อแรก จะพูดจะคิดจะทำอะไรขอให้ตั้งอยู่บนความเมตตา อย่าเกลียดชังกัน มุ่งดีมุ่งเจริญต่อกัน

ข้อที่สอง ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ความสามัคคีกัน ไม่ใช่ต่างฝ่ายต่างทำต่างแย่งชิงกันกอบโกยกัน
              ช่วยกันประสานประโยชน์ผลประโยชน์จะตกที่เราเอง ประเทศชาติดีเราก็ดีไปด้วย

ข้อที่สาม ให้ประพฤติสุขจริตเคารพกฎกติกาสังคมของกฎหมาย อย่างเสมอเหมือนเสมอภาค

ข้อที่สี่ ต่างฝ่ายต่างพยายามที่จะทำความคิด ความเห็นของแต่ละคนให้อยู่ในเหตุในผลและเที่ยงตรงอยู่เสมอ

หรือสั้นๆ อาจจะยึดความดีความถูกต้องให้เป็นหลักในการดำเนินชีวิตให้ได้

พระองค์ท่านขอเราเกินไปหรือเปล่า
ถ้าปฏิบัติครบแล้วนอกเหนือจากให้พระองค์ท่านมีพระทัยดีขึ้นแล้วพระวรกายดีขึ้นแล้ว

แท้ที่จริงเราก็ได้ประโยชน์สุขแก่ตัวเราเอง"
...

http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01p0101100749

มติชนรายวัน วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 29 ฉบับที่ 10348


ขอน้อมรับใส่เกล้าไปปฏิบัติทุกประการ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

"สุเมธ"ยันไม่สนคนถือป้ายด่า เหตุไม่จำเป็นต้องไปคลุกขยะ          

คมชัดลึก 2006-07-10

 

"สุเมธ" ระบุ คนไทยหลงกระแสโลกาภิวัฒน์ เตือนอย่าเดินหลงทางอย่าลืมรากให้ยึดหลักทิศพิธราช ธรรมของในหลวง เผยมีคนจ้างคนมาด่า แต่ไม่สน พร้อมตำหนินโยบายลดภาคเกษตรไปทำอุตสาหกรรม บ้าตัวเลขการเจริญเติบโตเศรษฐกิจ ทำนายปีหน้าอาจจะเจอกับน้ำมันดีเซล 2 ลิตร 100

(10ก.ค.) นายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวปรากถฐาหัวข้อ"ตามรอย เบื้องยุคลบาท" ในการอบรมหลักสูตรภาคจริยธรรมเนติบัญฑิต สมัยที่ 58 ว่า ตอนนี้คนกำลังเดินหลงกระแสโลกาภิวัฒน์ โดยการหลงไปตามฝรั่ง

จึงขอเตือนคนไทยว่า อย่าเดินหลงทิศ เราเป็นคนไทยอย่าลืมรากเสรีนิยม กระตุ้นให้เกิดความโลภ จึงอยากให้อยู่ไปตามฐานะ ถ้ารวยแล้วอยู่อย่างจนจะมีความสุข อย่าปล่อยให้ความร่ำรวยมาเป็นนาย

ถ้าหลงกระแสจนเกิดความโลภ โกงกิน คอร์รัปชั่น ในหลวงทรงแช่งให้มีอันเป็นไป สำหรับนักกฎหมาย ต้องยึดหลักสุจริตเป็นที่ตั้ง ถ้าไม่มีความยุติธรรม ประเทศก็ไปไม่ได้ เมื่อเกิดความโลภ ก็ทำให้ตัดสินใจผิดไปหมด โกงกินทะเลาะกัน กัดกัน ไร้สาระมากขึ้น

"บ้านเมืองเสียเวลากับเรื่องไร้สาระไปมากแล้ว จึงขอให้ยึดหลักธรรมของในหลวง คือทศพิธราชธรรม ซึ่งในหลวงประกาศไว้ก่อน Good Government ของฝรั่ง ทั้งนี้ Good Government  บอกว่าเป็นความโปร่งใส หมายถึง ใสจนโกงอย่างไรก็จับไม่ได้ใช่หรือไม่ บริษัท เอ็นร่อน เป็นต้นตำรับ Good Government ก็มีการโกงกันระดับโลก ซีอีโอของบริษัทต้องติดคุก " นายสุเมธกล่าว

นายสุเมธกล่าวว่า ขอให้ยึดตามหลักทศพิธราชธรรมจะดีกว่า ซึ่งประกอบด้วย 1.ทาน คือการรู้จักให้ โดยไม่หวังประโยชน์กลับคืนมา ผู้พิพากษาต้องให้ความเป็นธรรม อัยการต้องปฏิบัติตามหน้าที่ แม้แต่ทนายความก็ต้องทำหน้าที่ให้ดี ไม่ใช่ช่วยโจรให้พ้นทุกข์ ทุกรอบไป

2.ศีล 3.บริจาค คือการเสียสละส่วนน้อย เพื่อให้ได้ประโยชน์ยิ่งใหญ่แก่ประเทศ 4.อาชชวํ คือ ความซื่อตรง ขอให้ถือว่า การกระทำทุจริตเป็นการทุจริตต่อหน้าพระพักต์ เพราะการรับเงินคอร์รัปชั่น พระพักตร์บนธนาบัตรทุกใบจ้องเขม็ง

5.มัททวํ คือ การสุภาพอ่อนโยน ไม่ใช่มีอำนาจ และเดินคอกาง การมีตำแหน่งใหญ่โต ไม่ใช่มีเกียรติ แต่คนต่างหากที่ทำให้มีเกียรติ

 6.ตป คือ ความพอเพียงแก่กิเลส 7.อนฺ โกธ คือ  ความไม่โกรธ 8.ไม่เบียดเบียนกัน อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข 9.ขันติ คือ ความอดทน เพราะชีวิตต้องมีความทุกข์ 10. การไม่ยอมทำความผิดต่อความถูกต้อง ผิดในหลักกฎหมาย ทั้งนี้ หากทุกคนปฏิบัติได้ใน 10 ข้อนี้ ก็จะดำรงอยู่ในความถูกต้อง ไม่ต้องหวั่นไหวใด ๆ ทั้งสิ้น แต่อย่าหลงว่าตัวเองทำถูกต้อง

"ตอนนี้มีคนจ้างคนมาด่าผม แต่ผมมั่นใจว่าทำถูกต้อง ก็เฉยไม่สนใจ เหมือนเห็นกองขยะกองอยู่ ไม่มีประโยชน์ที่จะลงไปคลุกในกองขยะ " เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา  

นายสุเมธ กล่าวว่า ขอให้เนติบัณฑิต ยึดตามหลักเศรษฐกหิจพอพียง ซึ่งความพอประมาณไม่ใช่รัดเข็มขัด ก่อนหน้านี้เราเคยบ้าอยากเป็นมิตร ต่อมาก็บ้าไม่อยากเป็นคน อยากเป็นเสือตัวที่ 5 ลดภาคการเกษตรไปทำอุตสาหกรรม โดยไม่มีความพร้อม ต้องกู้เงินซื้อเทคโนโลยีมาทำ แล้วก็บ้าตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ

บ้าโดยไม่ดูว่าใครได้เท่าไหร่เพราะทุก 100 บาทตัวเลขความร่ำรวย คนไม่กี่ตระกูล คว้าไป 57 บาท ประเทศไม่ได้รวย คนรวยมีอยู่ไม่กี่คน ขณะที่คนจนซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศได้ไม่กี่บาท สมัยที่ตนเป็นเลขาธิการสภาพัฒน์ฯ เคยเสนอให้พัฒนาคน แต่ไม่มีใครเอาด้วย ตอนนี้ทุกประเทศในโลก หันมาให้ความสำคัญกับคนแล้ว

"จึงขอฝากเตือนอีกครั้งว่า อย่าไปตื่นตามโลกาภิวัฒน์ ซึ่งกระตุ้นการบริโภคไม่หยุดยั้ง วันนี้มนุษย์บริโภค 3 ต่อ 1 เป็นการกินมากกว่าของที่มีอยู่ การขยายต้องไม่ขยายไปสู่ความตายและความพินาศ ปัญหาคือจะทำอย่างไร ให้บริโภคไป 1 กลับคืนมา  1

ซึ่งก็คือการพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่เราต้องเตรียมรับสถานการณ์ให้ได้ เพราะก่อนหน้านี้ในหลวง ศึกษาเรื่องไบโอดีเซล แต่ไม่มีใครสนใจ จนกระทั่งน้ำมันดีเซล ราคา 3 ลิตร 100 จึงค่อยกระตุ้นให้ปลูกปาล์ม แล้วเปิดน้ำมันไบโอดีเซล แต่กว่าจะได้ลูกปาล์ม ต้องรอถึง 5 ปี ซึ่งในปีหน้าเราอาจจะเจอกับน้ำมันดีเซล 2 ลิตร 100" นายสุเมธ กล่าว

นายสุเมธ ได้กล่าวอัญเชิญพรของในหลวง มอบให้แก่เนติบัณฑิต ก่อนจบการปราฐกถาว่า ทุกคนเป็นเหล็ก อย่าได้หมดกำลังใจเวลาทำงาน การทำงานต้องถูกทุบ ถูกตี เพื่อให้เหล็กกลายเป็นดาบ ที่มีค่า สำหรับฝ่าฟันอุปสรรค

http://www.komchadluek.net/2006/07/10/a001_26450.php?news_id=26450 

ช่วงนี้ อ.สุเมธ ปรากถฐาบ่อยนะครับ

ใครหนอ จ้างคนไปถือป้าย ด่าท่าน เลวจริงๆ  :(

ต้นเหตุของปัญหาเกิดจากตรงไหนกัน?

รักพ่อ ด้วยการดูพี่คนโตทุจริตอยู่เฉยๆ เป็นความรักที่ผิดไหม?

Kสุเมธ  ไม่มีใครอยากทะเลาะกันเหมือนแย่งของเล่นหรอกครับ
คนไทยมีความอดทนสูง และชอบประนีระนอม
ยกเว้นว่าเหลืออดจริงๆ
ที่คุณพูดมานี่หวังว่าเป็นการพูดตามสคริป ไม่ใช่เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นเพียงเท่านี้
คนตัวเล็กๆ ไม่มีอำนาจวาสนา เป็นแสนคนลุกขึ้นต่อสู้กับความฉ้อฉล
ต่างคนต่างมีงานทำกันทั้งนั้น ไ่ม่จำเป็นเราไม่ออกมาหรอก
ผู้หลักผู้ใหญ่ไม่สนับสนุน ก็อยู่เฉยๆ อย่าพูดให้เสียกำลังใจ 
เห็นพูดแบบนี้มาหลายครั้งแล้วนะ  มาเเนวพระพยอมอีกละ
"รักพ่ออย่าทะเลาะกัน"
เราไม่สมานฉันท์กับโจรนะครับ
ไม่อย่างนั้นลูกหลานและสังคมของเราในภายหน้าจะอยู่กันอย่างไร

ทักษิณ ออกไปซะ มันก็ จบ

แก้ที่ต้นตอ ง่ายนิดเดียว

เห็นด้วยกับท่านสุเมธครับ เรามาสมานฉันท์กับ "โจรหน้าเหลี่ยม" เถอะครับ

พันธมิตรน่าจะหยุดเดินขบวนไป ทรท วันศุกร์นี้ แล้วไปหาดร.สุเมธแทนเพื่อยื่นหนังสือให้ดร.สุเมธดำเนินการจัดการเรื่องทั้งหมดแทน "ตามวิธีที่ท่านเห็นสมควร" อยากจะดูว่าดร.สุเมธจะดำเนินการ "ตามระบบ" อย่างไร

ประชาชนจะบ้าตายกันอยู่แล้ว ที่จะออกมาเดินขบวนนี่เป็นการออกมาไล่ทรราช ไม่ใช่การออกมาทะเลาะกัน ประชาชนไม่มีทางออก จะให้ก้มหน้าก้มตาให้เขากดขี่ข่มเหงต่อไปเรื่อยๆ เพียงเพราะ "เพื่อพ่อ อย่าทะเลาะกัน" แค่นั้นหรือ

จริงๆแล้วต้นตอของปัญหา มันก็คือไอ้เหลี่ยมเองไม่ใช่เหรอ?

เป็นผู้ใหญ่ออกมาเตือนก็ถูกต้องแล้ว