ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: นทร์ ที่ 10-07-2006, 10:02



หัวข้อ: ผลประลองกำลังเรื่องผู้มีบารมี
เริ่มหัวข้อโดย: นทร์ ที่ 10-07-2006, 10:02
      การประกาศสงครามและการประลองกำลังในประเด็นเรื่องผู้มีบารมีผ่านพ้นไปขั้นตอนหนึ่งแล้ว เหลือแต่ควันหลงบ้า ๆ บอ ๆ เลอะ ๆ เทอะ ๆ ที่เปรอะบ้านเปรอะเมืองอยู่เท่านั้น
       
       พวกอำนาจนิยมประเมินว่าการประลองกำลังเรื่องผู้มีบารมีครั้งนี้ได้ผลเกินคุ้ม เพราะได้แลเห็นว่ามีแต่เสียงเจี๊ยวจ๊าวหนวกหูเท่านั้น ไม่มีการขยับกำลังอะไรกันเลย
       
       พูดง่าย ๆ ก็คือเล่นกันถึงขนาดนี้แล้วก็ไม่มีการปฏิวัติรัฐประหาร
       
       บางคนถึงกับลำพองกล่าวว่าพวกผู้มีบารมีนั้นล้วนไม่มีน้ำยาทั้งสิ้น พูดแล้วก็หัวเราะกันเอิ๊กอ๊าก
       
       อีกพวกหนึ่งกลับประเมินว่าการประลองกำลังเรื่องผู้มีบารมีครั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เสียหายยับเยิน และได้เปลือยตัวเองล่อนจ้อน ต้องเผชิญกับวิกฤตและแรงกดดันอย่างหนักจนไม่อาจพาพรรคพวกไปดูฟุตบอลโลกได้
       
       ก็ว่ากันไป! ใครอยู่มุมไหนและใส่แว่นสีอะไรก็มองกันไปได้ทั้งนั้น
       
       ในสายตาของเรา เรามองอย่างไร เราเห็นอย่างไรย่อมเป็นเรื่องที่ต้องนำมาบอกกล่าวให้คนทั้งหลายได้รู้กัน
       
       สิ่งแรกที่อยากจะชี้ให้เห็นก็คือการพูดเรื่องผู้มีบารมีนั้นไม่ได้พูดโดยพลั้งเผลอ แต่เป็นการพูดโดยจงใจและมีการเตรียมการเป็นอย่างดี
       
       เป็นการเตรียมการหลังจากประเมินสถานการณ์แล้วว่าถึงพูดขนาดนี้ก็จะไม่มีการปฏิวัติรัฐประหาร
       
       เราชี้ตรงนี้ก็เพราะว่าการประเมินแบบนี้ถือเอาผลแพ้ชนะตรงที่การปฏิวัติรัฐประหาร แล้วมันถูกเสียที่ไหนล่ะพระคุณท่าน!
       
       บ้านเมืองและการเมืองจะเป็นไปในทางไหน ไม่ได้ถูกกำหนดโดยการปฏิวัติรัฐประหารหรือไม่ แต่กำหนดอยู่ที่ความร่มเย็นเป็นสุข ความอยู่ดีกินดีของประชาชนและความรุ่งเรืองของประเทศชาติ
       
       การใช้หลักประเมินแบบนี้จึงไม่ต่างกับผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งเห็นควายลากเกวียนที่หนักมาก แล้วบอกว่าสมภารวัดในหมู่บ้านนี้สู้ควายไม่ได้เพราะลากเกวียนขนาดนั้นไม่ได้
       
       มันเป็นคนละเรื่อง ที่ตรงกับเรื่องก็คือการประเมินว่าคนในหมู่บ้านนับถือศรัทธาควายมากกว่าสมภารหรือไม่
       
       ดังนั้นการจุดประเด็นเรื่องผู้มีบารมีจะออกผลหัวก้อยประการใดจึงอยู่ที่การจุดประเด็นนี้ได้มิตรเพิ่มขึ้น ได้พวกเพิ่มขึ้น หรือว่าได้ศัตรูมากขึ้น และได้ความชิงชังรังเกียจมากขึ้น
       
       ผลโพลหลายสำนักและแม้แต่การวิเคราะห์จากการประมวลข่าวของเราเองก็บ่งชี้ชัดเจนว่าการจุดประเด็นเรื่องผู้มีบารมีครั้งนี้ได้เกิดความเสียหายใหญ่หลวงกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
       
       คนส่วนใหญ่เชื่อการวิเคราะห์และการชี้ประเด็นของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ แต่ไม่เชื่อถือการวิเคราะห์ของทีมที่ปรึกษากฎหมายพรรคไทยรักไทย ที่วิเคราะห์ว่าผู้มีบารมีหมายถึงพวกพันธมิตร พวกฝ่ายค้าน และพวกราชนิกูล
       
       ประชาชนในชนบทที่ไม่เคยรับรู้ข้อมูลข่าวสารและถูกอ้างว่าเป็นฐานของพรรคการเมืองมาก่อนนั้น มาครั้งนี้ก็ได้ตื่นขึ้นรู้ความจริงว่าปฏิญญาฟินแลนด์เป็นอย่างไร มีใครคิดทำมิดีมิร้ายกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และเขาทำกันไปถึงไหนแล้ว
       
       ผลสรุปก็คือการจุดประเด็นเรื่องผู้มีบารมีครั้งนี้ทำให้ภาพลักษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เปลือยล่อนจ้อนในสายตาของประชาชน ได้มิตรน้อย ได้ศัตรูมาก ได้ความรักน้อย ได้ความชิงชังมาก
       
       เรียกว่าขาดทุนยับเยิน เสียหายยับเยิน และจะส่งผลให้แผนการกดดันต่าง ๆ ที่เตรียมการกันไว้ต้องตะกุกตะกัก หรือมีปัญหามากขึ้น และถูกจับตาเพ่งเล็งมากขึ้น
       
       สรุปง่ายที่สุดก็คือชาวบ้านนับถือสมภารมากกว่านับถือควาย!
       
       เราได้ยินมาว่าความพยายามที่จะกดดันให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 15 ตุลาคม 2549 ล้มเหลวแล้ว! และแผนที่จะระดมคนเข้ามากดดันก็หยุดชะงักไปแล้ว
       
       เราได้ยินมาอีกว่าร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดการเลือกตั้งวันที่ 15 ตุลาคม 2549 ที่ส่งไปยังสำนักราชเลขาธิการนั้นถูกส่งกลับมาแล้ว โดยที่ไม่มีการลงพระปรมาภิไธย
       
       อาจจะเนื่องจากเหตุผลที่กกต.ขาดคุณสมบัติและหมดความชอบธรรมแล้ว
       
       เรื่องอย่างนี้กลับปกปิดไม่ให้ประชาชนรู้ แต่ปิดไม่มิดหรอก! จึงเป็นอันว่าตราบใดที่สามหนาห้าห่วงยังอยู่จะยังไม่มีการเลือกตั้งทั่วไป ที่เตรียมกดดันกันจึงได้แต่เป็นการชกลมเท่านั้น
       
       ใครที่ดูหนังกำลังภายในก็คงจะพบว่านักสู้ระดับกระจอก ๆ นั้นจะวัดฝีมือกันด้วยกำลังหมัด แรงกระบี่ หรืออาวุธอื่น
       
       แต่ถ้าเป็นระดับปรมาจารย์ชั้นยอดเชิงยุทธ์แล้วเขาไม่จำเป็นจะต้องใช้สิ่งเหล่านี้ แค่ยืนเฉย ๆ ให้อีกฝ่ายชกลม หรือเตะขาตัวเองจนกระทั่งล้มตายไปเอง
       
       ไม่จำเป็นจะต้องขยับตัวหรือยืดเส้นยืดสายให้เมื่อยเอ็นดอก!
       
       แค่ยืนเฉย ๆ ใครต่อใครก็ไปดูฟุตบอลโลกไม่ได้แล้ว
       
       นั่นเป็นผลสรุปของการประลองกำลัง แต่ผลของการประลองกำลังในครั้งนี้เกิดผลอะไรขึ้นบ้าง
       
       ต้องบอกว่ายับเยินและยับเยินในทุก ๆ ด้าน
       
       ประเทศไทยยับเยินเพราะบรรยากาศแห่งความเชื่อมั่นที่เกิดขึ้นจากงานมหามงคลตกดิ่งลงอย่างรวดเร็ว
       
       ภาคธุรกิจทั้งหมดยับเยินทั้งภาคอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม บริการ ทรุดตัวครืนลงมาอย่างรวดเร็วและลุกลามถึงภาคธนาคารและสถาบันการเงิน ดังที่คนสำคัญในสำนักงานเศรษฐกิจการคลังแถลงว่าลูกหนี้ส่วนใหญ่เริ่มการชักดาบแล้ว
       
       วิกฤตทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ปรากฏตัวขึ้นชัดเจนแล้ว ขื่อแปของบ้านเมืองกำลังทยอยพังทะลายลงมาโดยลำดับแล้ว
       
       นี่คือผลิตผลของระบอบทักษิณที่ดิ้นรนเพื่อจะสืบทอดอำนาจต่อไป แต่ประเทศไทยและคนไทยทั้งประเทศต้องรับชะตากรรม.

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000088347

สรุปผล ตั้งแต่วันที่แม้วเปิดศึก จนถึงวันนี้  :D