ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ย้อนไปในช่วงที่คนในตระกูล “ชินวัตร” และ “ดามาพงศ์” ขายหุ้นชินคอร์ป ผลพวงที่เกิดขึ้นจากการทำธุรกรรมครั้งนั้น ก่อให้เกิดผลกระทบกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เหนือคณานับ เหตุการณ์ครั้งนั้นหลายคนเชื่อว่า หัวหน้าพรรคไทยรักไทยน่าจะนำมาเป็นบทเรียน และหาทางป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก
 
แต่ในที่สุดรักษาการนายกฯก็ทำให้เกิดปัญหาขึ้นมาอีกจนได้ เป็นปัญหาที่เกิดจากคำพูดของตัวเองที่วันนี้ยังมีเสียงวิจารณ์ในทางลบอย่างต่อเนื่อง “ผู้มากบารมีทำตัวเหนือรัฐธรรมนูญ” คือปริศนาที่วันนี้แทบทุกคนต้องการคำชี้แจงว่า บุคคลนั้นเป็นใคร มีพฤติกรรมอย่างไรที่เข้าข่ายมีอำนาจเหนือกฎหมายรัฐธรรมนูญ   
 
ที่ผ่านมาแม้ว่า คนในรัฐบาลและในพรรคไทยรักไทย จะพยายามออกมาแก้ต่างหรือหาทางที่จะทำให้คนในสังคมเข้าใจว่าบุคคลผู้มากบารมีเป็นใคร แต่การดำเนินการดังกล่าวกลับทำให้เกิดผลลัพธ์ตรงกันข้าม ไม่ว่าจะเป็นความเห็นของนายสุรชัย เบ้าจรรยา มือกฎหมายของพรรคไทยรักไทย ที่ระบุว่า บุคคลที่สังคมกำลังตั้งคำถามอยู่นั้น หมายถึงบุคคล 3 กลุ่ม ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อดีตพรรคร่วมฝ่ายค้าน และกลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาล เพราะที่ผ่านมาได้ใช้ทุกวิถีทางเพื่อโจมตีรัฐบาลและไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ทำตัวอยู่นอกเหนือกฎหมาย
 
ขณะที่ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกรัฐบาล ชี้แจงในประเด็นผู้มากบารมีว่า รัฐบาลได้ยืนยันชัดเจนแล้วบุคคล   ที่นายกฯพูดถึงคือสามัญชนที่อยากเป็นนายกฯ พระราชทาน แต่ไม่สามารถระบุออกมาเป็นตนได้ในขณะนี้ เพราะเป็นข้อมูลทางสายข่าว หากไม่   มีหลักฐานชัดเจนเพียงพอคงไปดำเนินการอะไร ไม่ได้ 
 
แต่ข้อมูลที่คนในรัฐบาลและในพรรคไทยรักไทยออกมาพูดยิ่งกลับทำให้กระแสวิจารณ์ในทางลบกับรักษาการนายกฯมีมากขึ้น เพราะด้วยเงื่อนไขและสิ่งปรากฏอยู่ในสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่มีความเป็นไปได้เลย แทนที่ข้อสงสัยจะหมดไปจากสังคม กลับมีกระแสรุกไล่พ.ต.ท.ทักษิณมากขึ้นกว่าเดิม และยิ่งเป็นการซ้ำเติมรักษาการนายกฯ ให้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ดูจะเลวร้ายยิ่งขึ้น
 
จึงเป็นเรื่องไม่แปลกที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะอาศัยเงื่อนไขที่เกิดจากคำพูดผู้นำรัฐบาลเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา มาเป็นประเด็นสำคัญในการนัดชุมนุมใหญ่วันที่ 14  ก.ค เพื่อจี้ถามเจ้าของคำพูด “ผู้มากบารมีทำตัวเหนือรัฐธรรมนูญ” ว่า บุคคลดังกล่าวเป็นใคร พร้อมทั้งเรียกร้องให้พ.ต.ท.ทักษิณ ลาออกจากการรักษาการตำแหน่งนายกฯ เพราะยิ่งอยู่จะยิ่งสร้างความเสียหายให้กับบ้านเมือง
 
แต่ที่น่าสนใจคือการใช้วันที่ 14 ก.ค. ซึ่งตรงกับวันก่อตั้งพรรคไทยรักไทยเป็นการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มพันธมิตรฯ หรือว่าครบรอบ 8 ปีของพรรคการเมืองใหญ่ จะมีเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้การเมืองไทยต้องจารึกไว้อีกครั้งหนึ่ง.
 
 
http://www.dailynews.co.th/dailynews/pages/front_th/popup_news/Default.aspx?ColumnId=24264&NewsType=2&Template=1