ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: ผู้ทำลาย ที่ 04-07-2006, 12:07



หัวข้อ: แฉบารมี10ข้อที่'แม้ว'ไม่มี
เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ทำลาย ที่ 04-07-2006, 12:07
“ประสงค์” สับ “แม้ว” คนมีอาการผิดปกติทางจิต  ชี้ไม่มีความกล้าที่จะยอมรับความจริงเรื่องที่พูด “คนมีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ” ยกเคส “บารมี 10 อย่าง” ที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ พบว่า “ทักษิณ” ทำไม่ได้สักอย่าง  เผยพวกคอมมิวนิสต์เก่าที่ทำงานในรัฐบาลมีการจัดตั้ง “มวลชน” เตรียมไว้นานแล้ว หวังนำออกมาใช้ช่วยเหลือในยามจำเป็น ลั่น “ทหาร”  หลายคนรับรู้ดี และคงยอมไม่ได้ให้เกิด  “สงครามมวลชน”  เหน็บแม้วเผ่นไปดูบอลโลก เพราะหมอดูบอกให้หนีดาวที่กำลังทับบ้านเมือง

น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและอดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรีสมัยรัฐบาลพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เปิดเผยว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีที่ออกมาพูดเรื่อง “คนมีบารมีอยู่นอกรัฐธรรมนูญ” นั้น ถือว่ามีอาการผิดปกติทางจิต บางทีก็คุ้มดี-คุ้มร้าย บางทีก็คลั่ง บางทีก็แค้น การออกมาสื่อความหมายมีทั้งทางคำพูดและร่างกาย เพราะฉะนั้น ตัวเขามีอยู่อย่างครบถ้วน ซึ่งในเรื่องที่พูดออกมา กลับไม่ยอมตอบคำถามใดๆ เมื่อมีคนไปถามว่าหมายถึงใคร ซึ่งดูแล้ว คงควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่ในฐานะที่มีหน้าที่เป็นรักษาการนายกรัฐมนตรี ก็เป็นการไม่สมควร เพราะพูดต่อหน้าที่ประชุมข้าราชการระดับสูง ซึ่งออกข่าวไปทั่วโลก

“ความสงสัยว่า หมายถึงใคร อันนี้จะไปโทษผู้คนในบ้านเมืองที่ไปจี้ถามไม่ได้ เพราะเขาอยากรู้ อีกอย่างคือ การไม่ตอบของพ.ต.ท.ทักษิณ และกลับบอกว่า “พอแล้ว ให้ทุกคนกลับไปทำหน้าที่”  ผมก็อยากบอกว่า สื่อเองก็ต้องทำตามหน้าที่ในการซักถามความจริง เพราะทุกคนอยากรู้ แต่พ.ต.ท.ทักษิณไม่ตอบ ตอนพูดก็กล้าหาญ พอถูกถามกลับก็เงียบ ทั้งนี้คำพูดที่ออกมาไม่ได้สร้างความสมานฉันท์เลย แต่กลับสร้างความแตกแยกในบ้านเมือง คำพูดพ.ต.ท.ทักษิณทำให้คนคิดว่าหมายถึงป๋าเปรม (พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี) หรือบุคคลที่อยู่สูงกว่า  ผมคิดว่า ทักษิณกำลังตีวัวกระทบคราด อยากเล่นงานก็ตีรวนซะ”น.ต.ประสงค์กล่าวและว่า พ.ต.ท.ทักษิณกับบรรดาลิ่วล้อถ้าเห็นว่า ไม่ใช่หมายถึงป๋าเปรม ก็ต้องออกมาปฏิเสธทันทีว่า ไม่ใช่หมายถึงป๋าเปรม หรือสิ่งที่เหนือกว่าป๋าเปรม จะอมพะนำไว้ทำไม ถ้าเป็นตน ต้องรีบออกมาปฏิเสธทันที เพื่อแก้ไขความเข้าใจผิด แต่นี่ไม่ยอมพูดอะไร ทำให้คนเข้าใจว่า น่าจะหมายถึงป๋าเปรม

อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวอีกว่า คำพูดเรื่องนี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เพราะผู้คนในบ้านเมืองก็จะจี้จุดนี้อยู่เรื่อยๆ อีกอย่างคือที่มีการไปแจ้งความกล่าวโทษกับตำรวจ เพื่อจี้ให้พ.ต.ท.ทักษิณตอบมาว่า เป็นใคร เพราะรู้แล้วว่า มีคนมีบารมีอยู่นอกรัฐธรรมนูญ และกล่าวหาในลักษณะกบฏนั้น แต่กลับไม่ดำเนินการอะไร ถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล ไปถามและแจ้งความนั้น ทำถูกต้องแล้ว นอกจากนี้ยังมีกลุ่มสตรีผู้สูงศักดิ์ก็ออกมาเรียกร้องอย่างกล้าหาญ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้ชายพูดออกไปแต่ไม่กล้าบอก จึงอยากถามว่า มีความกล้าหาญหรือไม่

“ทุกคนเข้าใจว่าเป็นป๋าเปรม เพราะทักษิณคงจะมีอะไรผิดใจกับป๋าเปรมหรือไม่ ผมก็ไม่ทราบ แต่ในฐานะที่รู้จักป๋าเปรมมานาน ผมไม่เคยเห็นป๋าเปรมพูดจาเป็นพิษเป็นภัย ตำหนิใคร นอกจากรับฟังอย่างเดียว เห็นด้วยก็พยักหน้า ถ้าไม่เห็นด้วยก็จะถาม ทำไมเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ ท่านเป็นคนพูดน้อย เจ้าของฉายา “เตมีย์ใบ้” การพูดน้อยเป็นคุณลักษณะประจำตัว การพูดน้อยคนอยากฟังมากกว่าคนพูดมาก”น.ต.ประสงค์กล่าวพร้อมเปรียบเทียบว่า เสียงกบเสียงเขียดอะไรที่เห่าหอน คนอาจไม่สนใจ แต่เสียงไก่ขันตอนเช้านี้มีความหมาย เพราะกำลังเช้า แต่คนบางคนอาจไม่รู้สึก ดังนั้น เสียงถ้าออกมาในจังหวะที่สมควรและถูกต้องกาลเทศะ คนจะฟัง แต่พูดพร่ำเพรื่อคนจะไม่ฟัง แต่มีคนหนึ่งในประเทศมีคุณสมบัติครบคือ “พร่ำ-โม้-โว-บ้า”

น.ต.ประสงค์ กล่าวด้วยว่า ระหว่างพ.ต.ท.ทักษิณกับป๋าเปรม ถ้าบังอาจว่าไปถึงขนาดนั้น เราต้องมาดูว่า พ.ต.ท.ทักษิณกำลังคิดอะไรอยู่ ถ้าเป็นป๋าเปรมจริง เท่ากับว่า พ.ต.ท.ทักษิณกำลังท้าทายบุคคลที่ได้รับการยอมรับนับถือ พ.ต.ท.ทักษิณคิดว่า ตัวเองมีอะไรดี แต่ตนคิดว่า สองคนนี้มันเหมือน “สวรรค์” กับ “นรก” ป๋าเปรมเคยดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี 5 เดือน สิ่งที่ทิ้งไว้ให้กับบ้านเมือง มีแต่คนยกมือไหว้ ให้ความเคารพ และเวลานี้ก็อยู่อย่างสมถะ ทรัพย์สมบัติไม่มีอะไร แต่กับพ.ต.ท.ทักษิณคนมองว่า ทำอะไรให้บ้านเมือง และได้อะไรไปจากบ้านเมืองบ้าง ไม่ต้องพูดอะไรกันมาก  

น.ต.ประสงค์ ยังตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมถึงอาจหาญชาญชัยเช่นนี้ จะใช่ป๋าเปรมหรือไม่ก็ตาม แต่ไปกล่าวหา “ผู้นั้น” โดยตรงว่า “มีบารมีอยู่นอกรัฐธรรมนูญ”  โดยคำว่า “บารมี”  ก็ไม่ได้ใช้กันอย่างพร่ำเพรื่อ เพราะในทางพุทธศาสนาที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ คำว่า “บารมี” หมายถึง การกระทำที่ประเสริฐที่ดี ถือเป็นคำที่สำคัญในการช่วยให้คนที่มีบารมีบรรลุถึงสิ่งที่ต้องการ มี 10 อย่าง ซึ่งอยากให้ทุกคนทำครบหรือมากที่สุด

1.ทานบารมี คือการรู้จักให้ เช่นถ้ามีเงิน 7.3 หมื่นล้านก็ควรให้ซะบ้าง ภาษีก็ไม่จ่าย บริจาคก็ไม่เคยเห็น
2.ศีลบารมี คือรักษาไว้ซึ่งความสะอาดของกาย วาจา ใจ...แต่คนบางคนพูดจาพล่ามตลอด
3.ธรรมะบารมี คือทำตัวให้หลุดพ้นจากความอยาก
4.ปัญญาบารมี คือให้มีการรู้แจ้งในความเป็นจริง รู้เหตุ รู้ผล
5.วิริยะบารมี คือมีความอุตสาหะ บากบั่น พากเพียร
6.ขันติบารมี คือมีความอดทน ไม่ใช่เอะอะ ก็โพล่ง ด่าคนโน้นคนนี้
7.สัจจะบารมี คือความซื่อตรง ตรงไป-ตรงมา พูดจาเชื่อถือได้ ไม่โกหก คดโกง
8.อธิษฐานบารมี คือมีความตั้งใจแน่วแน่ ทำงานให้เกิดผลดีตามที่ให้คำสัตย์ไว้...แต่บางคนมัวแต่ไปอธิษฐานให้ตัวเองพ้นทุกข์พ้นโศก หรือไปดูฟุตบอลโลก เพราะทางโหราศาสตร์บอกว่า ให้หนีดวงดาวที่กำลังทับบ้านเมือง นี่กำลังหนีดาว และได้แต่อธิษฐานให้รวย อยู่ในอำนาจนานๆ ถ้าขอในสิ่งที่ดีๆ มักจะได้ แต่ถ้าขอเรื่องเบียดเบียน เทวดาคงลงโทษ
9.เมตตาบารมี คือทำตัวให้เกิดนิสัยที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เห็นอกเห็นใจ ไม่เบียดเบียนคนอื่น
10.อุเบกขาบารมี คือมีความเป็นกลาง ไม่โอนเอนในสิ่งที่ถูกที่ควรอย่างมีเหตุผล

“หากทำตาม 10 ข้อนี้ ถ้าได้มากข้อเท่าไร จะได้ “บารมี” มากเท่านั้น ถ้ามองที่ป๋าเปรมกับพ.ต.ท.ทักษิณ ผมเชื่อว่า ป๋าเปรมมีมากกว่าลองไปไล่เรียงกันตั้งแต่ข้อ 1 ถึง 10 ได้เลย ทั้งนี้เชื่อว่า ที่พ.ต.ท.ทักษิณกล้าพูดออกมา คงคิดว่าตัวเองมีอะไรอยู่ในมือ ขณะที่คนอื่นมีน้อยกว่าตัว เช่น มีเงินมากกว่าคนอื่น...จนไม่รู้ว่าจะใช้จ่ายหมดหรือไม่ หรือมีอำนาจ จึงแจ้งไปยังพวกข้าราชการให้ต้องฟังข้านะ ล่าสุดกำลังจะสั่งโยกย้ายข้าราชการ ทางตำรวจเริ่มทำแล้ว ทั้งที่ยังไม่ถึงเวลา ปกติเค้าทำส.ค.-ก.ย. นี่รีบทำก่อน”อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรีกล่าว

น.ต.ประสงค์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีการจัดตั้งมวลชนกันไว้แล้ว โดยตระเตรียมกันไว้ตั้งแต่ปีแรกที่เข้ามาบริหาร ตนอยากเรียนว่า ประชาชนที่ถูกจัดตั้งเข้ามานั้น ได้ถูกปรนเปรอ เลี้ยงดูกันมานาน โดยกลุ่มคนที่ส่งไปวางฐานไว้ มีทั้งในเขตอีสานเหนือ-อีสานใต้ ในจังหวัดที่เคยเป็นเขตคอมมิวนิสต์เก่า และพวกนี้ออกจากป่ามา ในสมัยรัฐบาลป๋าเปรม เรื่องนี้ตนติดตามดูมาตลอด เพราะพวกนี้เขามั่นใจว่า ตัวเองต้องมีมวลชน เพื่อใช้สนับสนุนและให้มาช่วยเหลือในช่วงเวลาที่จำเป็น  

“โดยเฉพาะพวกที่มาจากอีสานใต้ ติดต่อกับเขมร มีอย่างน้อย 2-3 คนที่ทำงานเป็นมือเป็นไม้ให้กับคนที่ดูมวลชนอยู่ ซึ่งคนพวกนี้ได้วางกันไว้แล้ว จัดตั้งกันไว้แล้ว ให้ข้อมูลข่าวสารในทางที่เป็นประโยชน์กับพวกมีอำนาจทั้งสิ้น ผมมองว่าบ้านเมืองถ้ามีคนคิดชั่วขนาดนี้ จะใช้มวลชนมาปกป้องและทำร้ายคนอื่น ขีดความสามารถ เขาจะคิดว่า ทำได้ จึงกล้าพูดเช่นนี้ออกมา ผมเป็นทหารเก่า มีเพื่อนรุ่นน้องที่เป็นทหารเก่า อยากเรียนว่า ในหัวใจของคนเหล่านี้ ที่เงียบที่เฉย ไม่ใช่ว่า วางตัวเฉย เขาเฝ้าดู เราอย่าไปตำหนิ เชื่อเถอะว่า คนที่เป็นทหาร จะยอมสละชีวิตเพื่อชาติบ้านเมือง จะไม่ปล่อยให้บ้านเมืองเกิดการใช้มวลชนมาตั้งตัวเป็นใหญ่ในแผ่นดิน และคนเหล่านี้จาบจ้วง พวกทหารเข้าใจดี กำลังรวบรวมอยู่ บ้านเมืองเรื่องความมั่นคงเป็นเรื่องใหญ่ เราทิ้งไม่ได้ สภาพการณ์อาจถึงขั้นรุนแรง เพราะคนเหล่านี้ได้รับการชักจูง มันถึงกล้าท้าทายศาล อยากเรียนไว้ก่อน ถ้าถึงจุดคงปล่อยไว้ไม่ได้หรอก”น.ต.ประสงค์กล่าวและว่า ตนเป็นห่วงพลังมวลชนที่ถูกหลอกใช้ เพราะสงครามมวลชนเป็นเรื่องใหญ่ พวกคอมมิวนิสต์เก่ามันฝังหัวเรื่อง  “มวลชน” มาตลอดและเวลานี้ก็อยู่ในรัฐบาลด้วย

นอกจากนี้ น.ต.ประสงค์ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวที่มีเทปเสียงของคนบางคนที่พูดคุยกับศาล และไปตกอยู่ในมือของพรรคการเมืองเพื่อหวังดิสเครดิต ว่า โดยปกติรัฐบาลจะไม่ทำในสิ่งผิดกฎหมาย ที่บันทึกเทป ถ้านำออกมาเปิดเผยถือว่าผิดกฎหมาย แต่จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ตนไม่ทราบ อาจเป็นการขู่ก็ได้ เพราะถ้าจะดักฟังโทรศัพท์ใคร ต้องขออนุญาตนายกรัฐมนตรี ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณอาจอนุญาตเองหรือเปล่า เมื่อก่อนผอ.โทรศัพท์ต้องขออนุญาตแท็ปสาย แต่เวลานี้มีหลักฐานพบว่า บริษัทมือถือแห่งหนึ่ง สั่งเครื่อง (ดักฟังทางโทรศัพท์) แบบนี้มา 10 เครื่องแล้ว”น.ต.ประสงค์กล่าวทิ้งท้าย