ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: ผู้ทำลาย ที่ 28-06-2006, 10:37



หัวข้อ: แถลงการณ์ พรรคประชาธิปัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ทำลาย ที่ 28-06-2006, 10:37
(http://www.freephotopost.com/uploads/c62a3639e3.gif) (http://www.freephotopost.com)

แถลงการณ์ พรรคประชาธิปัตย์

ตามที่พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ได้ส่งคำร้องถึงอัยการสูงสุดกล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ว่ากระทำผิดพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 มาตรา 66(2) และ (3) ระบุว่า เป็นการกระทำที่อาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข มีการกระทำอันอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐหรือขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และคณะอนุกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีพรรคการเมืองใหญ่ว่าจ้างพรรคการเมืองเล็กลงสมัครรับเลือกตั้ง ของสำนักงานอัยการสูงสุดที่มีนายชัยเกษม นิติศิริ เป็นประธาน มีมติเป็นเอกฉันท์ว่าพรรคประชาธิปัตย์มีความผิดตามคำร้อง นั้น

พรรคประชาธิปัตย์ขอชี้แจงข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อพี่น้องประชาชนและสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทั่วประเทศ ดังต่อไปนี้

1) การดำเนินการของกกต.ต่อกรณีดังกล่าว มีความไม่ชอบมาพากลตลอดมา นับตั้งแต่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากพรรคไทยรักไทยให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์  กกต.ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมาชุดหนึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบเรื่องนี้ มีนายสุริยา ทรงวิทย์ เป็นประธาน ซึ่งได้ตั้งประเด็นการสอบสวนความผิด 6 ข้อต่อพรรคประชาธิปัตย์ แต่ในการเรียกหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ไปให้ปากคำในฐานะพยาน ปรากฎว่าคณะอนุกรรมการฯกลับซักถาม สอบสวน ในประเด็นทั่วไปที่ไม่ตรงกับข้อกล่าวหาแต่อย่างใด อีกทั้งเมื่อตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องขอดูสำเนาเอกสารคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการชุดดังกล่าว เพื่อดูว่าจะสอบสวนเรื่องใดบ้างก็ได้รับการปฏิเสธ

2) การดำเนินการของคณะอนุกรรมการฯ ของกกต. ต้องตกอยู่ภายใต้ความกดดันจาก คณะกรรมการการเลือกตั้งในฐานะผู้มีอำนาจเต็มต่อการชี้ความผิดในกรณีนี้ โดยเฉพาะก่อนที่พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง จะส่งเรื่องไปยังอัยการสูงสุด เพียงไม่กี่ชั่วโมง นายสุริยา ทรงวิทย์ ยังให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนระบุชัดเจนว่า คณะอนุกรรมการฯยังสอบสวนไม่เสร็จ จะส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดได้อย่างไร ทั้งยังยอมรับด้วยว่า ตนเองพูดอะไรมากไม่ได้ ขอให้สอบถามกับประธานกกต. (พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ) เพราะที่ผ่านมาถูกกำชับเรื่องการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในเรื่องนี้ สะท้อนให้เห็นว่า กกต.ได้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างรวบรัด ตัดตอน มีพิรุธ ทำให้กระบวนการสืบสวน สอบสวนข้อเท็จจริง ในชั้นของกกต. ไม่โปร่งใส และขาดความเที่ยงธรรม

3) ข้อกล่าวหาทั้ง 6 ข้อ ที่กกต.ตั้งเป็นประเด็นเพื่อกล่าวโทษพรรคประชาธิปัตย์ ตามคำร้องของพรรคไทยรักไทย ล้วนเป็นข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอย ใส่ร้ายป้ายสี และปราศจากมูลความจริงโดยสิ้นเชิง ซึ่งผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ได้ให้ถ้อยคำต่อคณะอนุกรรมการฯพร้อมแนบเอกสารคำชี้แจงไปแล้ว ดังนี้

3.1) พรรคประชาธิปัตย์ขอปฏิเสธว่า มิได้เข้าร่วมหรือมีมติให้เข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเพื่อล้มล้างรัฐบาลแต่อย่างใด สำหรับการเดินทางไปพบนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้บริหารสื่อมวลชนในเครือผู้จัดการของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และคณะ เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2548 เป็นการไปรับฟังความเดือดร้อนของสื่อมวลชนที่ได้รับผลกระทบจากการแทรกแซงสื่อเท่านั้น

3.2) การเสนอขอนายกรัฐมนตรีพระราชทาน มิได้เป็นไปเพื่อล้มล้างรัฐบาล หรือเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายแต่ประการใด หากแต่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้นำเสนอแนวทางของการแก้ไขปัญหาของประเทศเพื่อให้เกิดความปรองดอง และเพื่อให้การเมืองการปกครองเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ สอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตย มิใช่เป็นการกระทำนอกเหนือรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย โดยข้อเสนอที่ชัดเจนคือ เสนอให้นายกรัฐมนตรีนำคณะรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง และขอพระราชทานนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลใหม่ อันจะเป็นไปตามเงื่อนไขของบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 7 มิได้เสนอขอให้มีนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีในขณะที่ยังมีนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีอยู่

3.3) การที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ส่งสมาชิกลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ไม่ได้เป็นความผิดตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา ทั้งนี้มติของพรรคประชาธิปัตย์เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2549 ที่ไม่ส่งสมาชิกลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 328 (2) อีกทั้งไม่มีกฎหมายฉบับใดระบุว่าการไม่ส่งสมาชิกลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการทำผิดกฎหมาย หรือล้มล้างระบอบประชาธิปไตย เพราะไม่เช่นนั้นแล้วพรรคการเมืองที่ไม่ส่งสมาชิกลงสมัครรับเลือกตั้งทุกพรรคต้องถือว่ากระทำผิดกฎหมายด้วยเช่นกัน



หัวข้อ: Re: แถลงการณ์ พรรคประชาธิปัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: p ที่ 28-06-2006, 10:45

ผมไม่แน่ใจว่าท่านประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)
ยึกหลักการหรือยึดตัวบุคคลในการทำหน้าที่นี้

 :mozilla_yell:


หัวข้อ: Re: แถลงการณ์ พรรคประชาธิปัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ทำลาย ที่ 28-06-2006, 10:45
3.4) พรรคประชาธิปัตย์ขอยืนยันว่า การรณรงค์ให้ผู้ใดไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงในช่องไม่ประสงค์จะลงคะแนน กฎหมายอนุญาตให้กระทำได้ การรณรงค์ของสมาชิกพรรคมิได้กระทำผิดรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายอื่นใด ทั้งนี้ในพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา มาตรา 51 กำหนดให้บัตรเลือกตั้งต้องมีช่องทำเครื่องหมายว่าไม่ประสงค์จะลงคะแนนไว้ และมาตรา 56 ให้สิทธิกับผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่ไม่ประสงค์ลงคะแนนให้ผู้สมัครคนใดทำเครื่องหมายกากบาทในช่องไม่ลงคะแนนในบัตรเลือกตั้งดังกล่าวได้ด้วย

3.5) กรณีข้อกล่าวหาว่า พรรคประชาธิปัตย์จ้างพรรคชีวิตที่ดีกว่า พรรคพัฒนาชาติไทย และพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ให้ใส่ร้ายพรรคการเมืองอื่น ขอยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยมีพฤติการณ์ หรือมีมติ หรือมอบหมายให้คณะกรรมการบริหารพรรค หรือสมาชิกพรรคคนใดคนหนึ่งหรือหลายคนไปดำเนินการจ้างพรรคการเมืองทั้งสามดังกล่าวให้ใส่ร้ายการเมืองอื่นตามข้อกล่าวหาแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกรณีการจ้างพรรคการเมืองขนาดเล็กเป็นเรื่องของพรรคการเมืองบางพรรคที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในระบบเขตเพียงพรรคเดียวและวิตกว่าจะได้คะแนนเสียงไม่ถึงร้อยละ 20 อาจจะส่งผลให้กกต.ไม่สามารถประกาศรับรองผลการเลือกตั้งได้ จึงพยายามจ้างพรรคการเมืองเล็กๆให้ส่งผู้สมัครลงแข่งขัน เพื่อจะได้ไม่ต้องใช้วิธีคำนวณเอาคะแนนร้อยละ 20 มาเป็นเกณฑ์ในการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ซึ่งเรื่องนี้มีข้อมูลหลักฐานชัดเจนจากการสรุปผลการสอบสวนของคณะอนุกรรมการชุดหนึ่งที่กกต.แต่งตั้ง และส่งผลให้กกต.ต้องชี้มูลความผิดและส่งเรื่องถึงอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินการพิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญตามกระบวนการอยู่ในขณะนี้

3.6) ในเรื่องข้อกล่าวหาว่า ขัดขวางการลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์ขอชี้แจงว่าไม่ได้มีพฤติกรรมดังกล่าวแต่ประการใด ข้อเท็จจริงคือ มีการชุมนุมของผู้รักประชาธิปไตย และไม่ต้องการให้มีการเลือกตั้งที่เป็นไปโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม มิได้มีการขัดขวางการลงสมัครรับเลือกตั้ง ตามที่มีผู้ร้องเรียน พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ได้กระทำผิดกฎหมายด้วยการขัดขวางการลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนั้นด้วยเช่นกัน

4) ข้อกล่าวหาของกกต.ที่ส่งไปยังอัยการสูงสุด ขมวดปมใน 2 ประเด็นสำคัญคือ กรณีการเสนอใช้มาตรา 7 และ การจ้างพรรคเล็กไม่ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่ภาคใต้ พรรคประชาธิปัตย์ขอยืนยันว่า การเสนอใช้มาตรา 7 เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายทุกประการตามคำชี้แจงข้างต้น อีกทั้งยังสอดคล้องกับความเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิ เช่น นายสุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ยอมรับว่าเงื่อนไขที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เสนอเรื่องการใช้มาตรา 7 เป็นไปตามรัฐธรรมนูญทุกประการ  จึงเป็นเรื่องไร้เหตุผลที่จะกล่าวหาว่า เป็นข้อเสนอที่ขัดกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย

ส่วนกรณีการจ้างพรรคเล็กให้ล้มเลือกตั้ง เป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริง และไม่ได้อยู่ในข้อกล่าวหาที่แจ้งให้พรรคประชาธิปัตย์ทราบก่อนหน้านี้ ทั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีเหตุผลใดๆที่จะไปจ้างให้พรรคการเมืองขนาดเล็กล้มการเลือกตั้ง เพราะขัดกับแนวทางและอุดมการณ์ของพรรคที่ยึดมั่นการทำงานการเมืองด้วยความซื่อสัตย์สุจริตมาตลอด 60 ปี อีกทั้งถ้าต้องจ้างเพื่อล้มการเลือกตั้งก็ต้องจ้างทุกพรรคการเมืองซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะทำเช่นนั้น

พรรคประชาธิปัตย์พร้อมที่จะแสดงข้อมูลหลักฐานเพื่อยืนยันถึงความบริสุทธิ์ต่อข้อกล่าวหาทั้งหลายข้างต้น และขอให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนและสมาชิกพรรคทั่วประเทศว่า พรรคประชาธิปัตย์จะยืนหยัดต่อสู้กับการใส่ร้ายป้ายสีและขบวนการล้มล้างทำลายพรรคประชาธิปัตย์อย่างเด็ดเดี่ยว เพื่อธำรงไว้ซึ่งความถูกต้องและแบบอย่างที่ดีงามในระบอบประชาธิปไตยต่อไป
            
พรรคประชาธิปัตย์
            27 มิถุนายน 2549


หัวข้อ: Re: แถลงการณ์ พรรคประชาธิปัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: แอ่นแอ๊น ที่ 28-06-2006, 11:50
กำลังรอประธานศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่ เพราะศาลที่มาจากศาลปกครองกำลังจะเข้าถวายสัตย์ เมื่อเช้าผัน เพิ่งจะออกมาให้ข่าวว่าจะลงจากตำแหน่งเพื่อจะได้คัดเลือกประธานคนใหม่ การประลองกำลังกันในศาล รธน กำลังน่าจับตามองอย่างยิ่ง ในขณะที่ค่าตัวและอัตราการต่อรองก็สูงยิ่งเช่นกัน
เสียดาย ไม่ได้เห็นตอนนายกฯ ได้ยินข่าว เพราะตอนนั้นอยู่ในห้องประชุมพรรค แมงหวี่รายงานมาว่า หน้าสลดไปพักนึง แต่สงสัยที่พี่มากขายิ้มได้ และหนักแน่นมากๆ ทีแรกนึกว่าแกจะไม่รอดซะแระ แบบนี้ใช้ได้ เกมยังต้องสู้กันอีก ถ้าถอดใจตอนนี้ก็ไม่สมควรเป็นแคนดิเดตนายกฯ  :mrgreen:

งานนี้คนที่วางตัวดีที่สุด และอยู่ในจุดที่ดูดียังเป็นป๋าเติ้ง แม้ในเวลานี้ก็ยังบอกว่า ไม่ควรจะมีการเลือกตั้งที่มีพรรคเดียว (ทั้งๆ ที่น่าจะดีใจที่คู่แข่งตายเรียบ)  :mrgreen:

เดี๋ยวก็รู้ว่าสมมุติข้อที่สี่จะจริงมั้ย อิอิ  :mrgreen:  :mrgreen: (แต่ตามที่ได้ตั้งสมมุติฐานไว้นั้น ต่อให้เป็นก็ไม่นานหรอก ไม่น่าจะเกิน 1 ปี)