ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

                        ดังที่ได้กล่าวไว้แล้วในบทความเรื่อง “อนาคตสมัครฯ” ว่า ในวันที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสินคดีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ถูกร้องว่า เป็นพิธีกรในรายการ"ชิมไปบ่นไป"และรายการ"ยกโขยงหกโมงเช้า"ของ บริษัทเฟซ มีเดีย มาหลายปีตั้งแต่ก่อนรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และหลังจากที่นายสมัครฯได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ยังคงเป็นพิธีกรต่อเนื่อง ตามที่นายเรืองไกรและ กกต.ยื่นคำร้อง เข้าข่ายการเป็นลูกจ้าง ซึ่งต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๗ (ห้าม นายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่งใดๆในห้างหุ้นส่วน บริษัท หรือองค์การที่ดำเนินธุรกิจโดยมุ่งหาผลกำไรหรือรายได้มาแบ่งปันกันหรือเป็น ลูกจ้างของบุคคลใดก็มิได้ด้วย) จึงทำให้ความเป็นรัฐมนตรี(นายกรัฐมนตรี)สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๘๒/๗ เมื่อวันอังคารที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๑ เวลา ๑๕.๔๐ น.

ตาม วันเวลาที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตัดสินคดีความดังกล่าว ดาวอังคารได้โคจรมาทับทันดาวอังคารในดวงชะตาเดิมพอดี จึงอุปมาได้ว่า ดาวอังคารซึ่งทำหน้าที่เป็นแม่ทัพหน้าได้เข้ายึดเมืองด่านหน้าของนายสมัครฯ ได้แล้ว ต่อจากนั้น ทั้งกองทัพหน้า และกองทัพหลวงซึ่งมีดาวเสาร์เป็นแม่ทัพ จึงเคลื่อนที่เข้าตีเมืองหลวงของนายสมัครฯ กำหนดวันเข้าตีพร้อมกันทั้งสองทัพ ในวันพฤหัสบดีที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๑ ซึ่งเป็นวันที่ศาลอาญาได้นัดอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ซึ่งนายสมัครฯ และนายดุสิต ศิริวรรณ ได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลอาญาคดีที่นายสมัครฯ และนายดุสิตฯ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตกเป็นจำเลยในข้อหาหมิ่นประมาทนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการ กทม.ซึ่ง ศาลอาญาพิพากษาเมื่อวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๕๐ ให้จำคุกจำเลยทั้งสอง รวม ๔ กระทง กระทงละ ๖ เดือน รวมจำคุกคนละ ๒๔ เดือน โดยไม่รอลงอาญา

เมื่อ ได้พิจารณาตรวจสอบจุดที่ตั้งของดาวเสาร์ และดาวอังคาร ซึ่งเป็นเจ้าการสำคัญ ในวันพฤหัสบดีที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๑ พบว่า ดาวอังคารได้โคจรเข้ามาอยู่ในเรือนที่ ๙ ภพเกี่ยวกับขบวนการยุติธรรม ผลการตัดสินคดีความ โดยสถิตในราศีกันย์ ๒๙ องศา ๕๔ ลิปดา ซึ่งเป็นมรณะองศาของดาวอังคารพอดี ทั้งดาวอังคารยังทำมุมเบียนประมาณ ๙๐ องศา กับราหู และดาวพลูโต ซึ่งซ้ำเติมทวีทุกข์โทษให้แก่เจ้าชะตามากขึ้น จึงพยากรณ์ได้ว่า

“จะมีการตัดสินเรื่องราว (คดีความ) ที่ยังคั่งค้างอยู่ โดยเจ้าชะตาจะเป็นผู้แพ้ มีการสูญเสียทรัพย์สิน สุขภาพร่างกายและจิตใจจะเสื่อมโทรม (ท่านปรมาจารย์ฯ ได้พยากรณ์ไว้ว่า เป็นเก้าโรคจะเร้า คนมากล่าวกล้าภิปราย)”

ส่วนดาวเสาร์ได้โคจรเข้าสถิตในราศีสิงห์ ๒๐ องศา ๓๓ ลิปดา เป็นเรือนที่ ๘  ภพมรณะของเจ้าชะตา ทำมุมเล็งประมาณ ๑๘๐ องศา กับดาวเสาร์เดิมในดวงชะตา ซึ่งท่านปรมาจารย์ฯ ได้พยากรณ์ได้ว่า

“เสาร์ถึงสถิตเสาร์ ปะทะทันและกันเอง โทษทุกข์แต่ปางเพรง ก็จะก่อจะเกิดมี

สิ่งสินระส่ายทรัพย์ ภยทับระทมทวี เกรงอายุชนม์ชี- วพินาสประไลยตู”

แปลได้ใจความว่า “เมื่อเสาร์จรถึงเสาร์เดิมในดวงชะตา อกุศลกรรมที่ทำไว้แต่เดิมจะส่งผลปรากฏ จะต้องสูญเสียทั้งทรัพย์สิน ต้องประสบภยันตรายนานา ดีไม่ดีจะตายเอา”

นอก จากนี้ ดาวเสาร์จรยังทับดาวเน็ปจูนในดวงเดิม ซึ่งพยากรณ์ได้ว่า เจ้าชะตามักจะพบกับการผิดหวังในเรื่องการทำงาน หรืออาจจะพบกับความวิบัติในทางทรัพย์สิน มีปัญหาทางการเมือง อีกด้วย

ดาว เสาร์เมื่อให้ทุกข์โทษ หมายถึง การพ่ายแพ้ทางการเมือง ความดื้อรั้นไม่รับฟังความเห็นผู้อื่น ความเป็นความตาย การล้มละลาย การสูญเสียทรัพย์สินเงินทอง ความทุกข์โศกเศร้าเสียใจ การจองเวรผูกพยาบาท การเจ็บป่วยขั้นรุนแรงโดยเฉพาะโรคทางประสาท

อนึ่ง ดาวพฤหัสบดีซึ่งถึงแม้ว่า จะเป็นดาวศุภเคราะห์ก็ตาม แต่ในวันตัดสินคดีความนี้ ดาวพฤหัสบดีได้โคจรเข้าไปอยู่ในเรือนที่ ๑๒ ภพวินาศ โดยสถิตอยู่ในราศีธนู ๑๙ องศา ซึ่งเป็นมรณะองศาของดาวพฤหัสบดีพอดี จึงส่งผลเป็นทุกข์โทษแก่เจ้าชะตาในเรื่องกฎหมายคดีความ การพลัดพรากจากคนรัก และการถูกจำขัง และ ท่านปรมาจารย์ฯ ได้พยากรณ์ไว้ว่า

“เป็นสิบสองทรัพย์วิบัติ ข้าคนพลัดกระจัดจาย”

นอกจากนี้ ดาวพฤหัสบดีจรยังทำมุมเบียนประมาณ ๙๐ องศากับดาวอังคารเดิมในดวงชะตา จึงซ้ำเติมทวีทุกข์โทษให้แก่เจ้าชะตาอีกส่วนหนึ่ง

การ เข้าตีพร้อมกันของกองทัพหน้าซึ่งมีดาวอังคารเป็นแม่ทัพ และกองทัพหลวงซึ่งมีดาวเสาร์เป็นแม่ทัพ ประกอบกับกองทัพรักษาพระนครซึ่งมีดาวพฤหัสบดีเป็นแม่ทัพยังเอาใจออกหาก เปิดประตูให้ข้าศึกเข้าเมือง แล้วจะมีอะไรเหลือ จินตนาการดูแล้ว ดูจะไม่แตกต่างกับการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ ๒ เลย

ดังกล่าวแล้วข้างต้น ท่านผู้อ่านน่าจะสรุปผลพยากรณ์ด้วยตัวเองได้ว่า เส้นทางวิบากของนายสมัครฯ เกี่ยวกับคดีนี้จะปรากฏออกมาในรูปแบบใด

ผมได้เคยศึกษาค้นคว้าวิเคราะห์ดวงชะตาบุคคลมามากพอสมควร ยอมรับว่า ผมไม่เคยพบเห็นดวงชะตาของผู้ใดที่เคราะห์ร้ายเช่นนี้มาแต่ก่อนเลย ! มหากุศลวิบาก (ผลของการทำบุญกุศลอย่างยิ่งใหญ่) เท่า นั้นที่จะช่วยให้นายสมัครฯ หลุดพ้นจากคดีนี้ได้ จึงเป็นการสมควรอย่างยิ่งที่นักศึกษาวิชาโหราศาสตร์ปัจจุบัน และในอนาคต พึงนำกรณีศึกษานี้ไปใช้ประโยชน์ในการศึกษาด้วย

อย่าง ไรก็ตาม นายสมัครฯ ก็ยังเป็นสัตว์โลกที่ร่วมทุกข์เกิดแก่เจ็บตายเช่นเดียวกับผม และท่านผู้อ่าน จึงขอเชิญชวนให้ท่านผู้อ่านช่วยกันแผ่เมตตาให้แก่นายสมัครฯ และผู้ร่วมชะตากรรมเถิด จะได้ผลานิสงส์แรงครับ

สัพเพสัตตา อเวรา โหนตุ อพยาปัชชา โหนตุ อนีฆา โหนตุ สุขี อัตตานัง ปริหรันตุ

แปล ว่า สัตว์โลกทั้งหลายที่เป็นเพื่อนร่วมทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้ง สิ้น จงอยู่เป็นสุขๆ เถิด อย่าได้มีเวรมีภัยซึ่งกันและกันเลย จงอยู่เป็นสุขๆ เถิด อย่าได้มีความอาฆาตพยาบาทซึ่งกันและกันเลย จงอยู่เป็นสุขๆ เถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด

 



 

เอกสารอ้างอิง หนังสือ”โหราศาสตร์ปริทรรศน์ภาค ๒ ครหวินิจฉัย” โดย อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร

                 Vedic System of Astrology (Goravani Jyotish 2.5 Program)

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 :slime_worship: :slime_worship: :slime_worship:

สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม
ผลของกรรม เกิดจากการกระทำ

ทำกรรมดี ย่อมได้รับผลดี
ทำกรรมชั่ว ย่อมได้รับผลชั่ว..

ดูทักษิณเป็นตัวอย่าง ถ้าทำกรรมดี
คงไม่ต้องมาระเห็จระเหิน จากบ้านเกิดเมืองนอนแบบนี้...

ก็ต้องปล่อยวาง ให้แกชดใช้กรรมของแกไป

กรรมของเราก็มี ก็รับกรรมไป

 :slime_worship:

อนาคตของสมัคร คือติดคุกตอนแก่

อายุปูนนี้แล้ว อาจต้องตายในคุกก็ได้

น่าสมเพชเวทนา คนที่เคยได้เป็นถึงนายกรัฐมนตรี

ตกต่ำกลายเป็นขี้คุกได้

ลาภยศสรรเสริญมันไม่จีรังจริงๆครับ

 :slime_worship:

อั้ยหมักหายไปจากจอโทรทัศน์ รู้สึกว่าบ้านสะอาดขึ้นเยอะเลย

บ้านเมืองวุ่นวายเพียงเพราะคนไม่กี่คน

นี่ถ้าหมักยังอยู่ พรุ่งนี้เที่ยงคงกินข้าวไม่อร่อย ฮ่า ฮ่า

คาดว่า โชคชะตาชีวิต นับจากนี้ 
น่าจะคล้ายๆกับ สามหนา กกต
คุกรอเห็นๆ สั่งสอนให้รู้ว่า บ้านเมืองเป็นของศักดิ์สิทธิ์
ทำผิดต้องได้รับโทษทัณฑ์

ขอยึนยัน
ว่า "คนคนนี้" ตลอดชั่วชีวิต เจ็ดสิบกว่าปี ไม่เคยสำนึกได้แม้แต่น้อย ว่าตนเองเคยกระทำสิ่งใดไว้

ยังหลงระเริงกับลาภยศ มาตลอด

เพราะกรรมยังไม่มาสนองให้เห็น

6 ตุลา 19   ยังรอคุณอยู่  สามสิบปีผ่านมา แม้คนส่วนใหญ่จะลืม และไม่ใส่ใจ ด้วยเห็นแก่สภาพสังขาร ซึ่งมันก็เป็นไปตามวัย
แต่จิตใจของคนคนนี้ ไม่ได้พัฒนาในทางดีขึนเลย ตรงกันข้าม กลับยิ่งต่ำลงๆๆๆๆ ด้วย โลภะ โทสะ โมหะ

นี่ถ้าไม่โดนถีบตกเก้าอี้ไป คิดหรอว่ามันจะยอมออกง่ายๆ ก็บอกแล้วไง "ผมไม่ยุบ ผมไม่ออก ผมจะอยู่มันอย่างงี้แหละ ผมจะรักษาประชาธิปไตย"  :slime_smile2: 

ถ้าใครสงสาร หนูขอแนะนำ ให้หลับตาลง ช้าๆๆ นึกถึงเช้าวันอาทิตย์อันสดใส เมื่อสองเดือนก่อน
พร้อมกับภาพและเสียงที่กวนโมโห "มันจะอะไรกันนักกันหนา จะล่อกันให้ตายเลยหรืออย่างไร ผมมันเลวนึกหรือไง มันชั่วยังไง ก็บอกแล้วไง ไม่เสียดินแดน ไม่เสียดินแดง เอ้อออออออ จะล่อกันอยู่ได้ บลา บลา บลา โครมมมม" (เสียง ถี บ ทีวี)

แล้วคุณจะลืมเค้าไม่ลง

 :slime_sentimental: :slime_sentimental: :slime_sentimental:

*  จะกี่โหร  .... กี่ดวงดาว  ก็ไม่ส่งผลเท่ากะการกระทำ  ที่ทำมา

    คดีความที่อยู่ที่ศาลคือเรื่องจริง ...... !!!

    มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ถ้าจะได้เห็นคนติดคุกตอนแก่ ... ก็ทำตัวเอง นี่นา

    จริง ๆ แล้วลุงแกอาจจะได้รับความเห็นใจมากกว่านี้ ... ถ้าที่ผ่านมาแกทำตัวน่ารักกว่านี้อ่ะนะ

     แต่นี่อะไร ... ทั้งเหิมเกริม  ทั้งเบ่งรัศมี 

     เพราะฉะนั้นมันก็ช่วยไม่ได้ที่จะมีคนสมน้ำหน้า .... ถ้าได้เห็นลูกเจ้าพระยาติดคุกจริง ๆ  

ชีวิตเหมือนเรือน้อย ล่องลอยอยู่  (หมักคงกำลังนั่งร้องเพลงนี้อยู่)  ตอนนี้ ทุกเช้าวันอาทิตย์ ผมมีความรู้สึกที่ดีขึ้นมากเลย  เกือบเสียทีวีไปเหมือนกัน

ตอนที่อ่านคำทำนายมาถึงกลางๆ ก็ตกใจแล้ว เพราะดูการเคลื่อนของดาวแล้วน่ากลัวมาก กลัวแกจะไม่รอด ตายไม่สบาย ใจนึงนึกสงสารอ่ะ แต่ไม่ใช่ว่า แกไม่ควรจะรับโทษนะ จะว่าไปยังไม่สาสมกับการกระทำของแกด้วยซ้ำ ไม่ต้องเอาอะไรมาก ลองไปฟังเทปรายการครั้งสุดท้ายในตำแหน่งนายกฯ ของแกดู แล้วจะรู้ว่า ใจแกคิดว่า ถ้ายิงกราดเข้าไปในทำเนียบได้ แกคงทำไปแล้ว โชคดีที่พี่ป๊อกไม่บ้าไปกะแกด้วย

ก็คิดซะว่า นี่คือ กฎแห่งกรรม ที่มาถึงจุดที่หมดบุญ และกรรมหนักตามมาทันแล้วก็แล้วกัน  :slime_worship:

บุคคลที่จำกัด และ กำจัด สิทธิเสรีภาพของผู้อื่น

สุดท้ายก็โดนผู้อื่น จำกัด และ กำจัด อิสรภาพของตนเอง

พรก.ฉุกเฉินอาจใช้ได้ในคุก

ขอภาวนาอย่าได้เข้าไปในคุกที่มี พธม.ก็แล้วกัน

อยู่ทำเนียบเขาใช้มือตบ อยู่ในคุกเขาใช้ดีนตบ นะคร๊าบบบ ลูกพระยาฯ

 :slime_hitted: :slime_evil: :slime_bigsmile:

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=341050&lang=T&cat=
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น กรณี"สมัคร"หมิ่นประมาท
   
10:11 น.

    ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ที่พิพากษาจำคุกนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี และนายดุสิต ศิริวรรณ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ฐานหมิ่นประมาทอดีตรองผู้ว่าการกรุงเทพมหานคร เป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา
    "พิจารณาการกระทำของจำเลยทั้งสอง ไม่มีเหตุอันสมควรให้ชะลอการลงโทษ ตามที่ยื่นอุทธรณ์ ไม่สามารถอ้างเหตุผลได้ ศาลอุทธรณ์จึงให้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น"ผู้พิพากษาศาลอาญา อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์บนบัลลังก์
    กรณีนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 12 เม.ย.50 ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำพิพากษาจำคุกนายสมัครและ นายดุสิต เป็นเวลา 24 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ในความผิดฐานหมิ่นประมาทนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่ากรุงเทพมหานคร โดยครั้งนั้นศาลอนุญาตให้บุคคลทั้งสองประกันตัวได้ และบุคคลทั้งสองได้ยื่นขออุทธรณ์ในคดีดังกล่าว
    เมื่อต้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมา นายสมัคร ซึ่งขณะนั้นยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ทนายความ ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา เพื่อขอเลื่อนฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์โดยระบุเหตุผลว่า ต้องเดินทางไปประชุมที่องค์การสหประชาชาติ(UN)ทำให้ไม่สามารถเดินทางมาฟังคำ พิพากษาศาลฯตามกำหนดนัดได้ ซึ่งศาลอาญา ได้นัดให้ฟังคำสั่งในวันนี้ ว่าจะเลื่อนอ่านคำพิพากษาหรือไม่
    แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 9 ก.ย.ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้นายสมัคร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ กรณีเป็นพิธีกรดำเนินรายการ"ชิมไปบ่นไป" และรายการ"ยกโขยงหกโมงเช้า"ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ศาลจึงไม่เลื่อนอ่านคำพิพากษาดังกล่าว