ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

บทความดีๆ จากคุณ บอนกาฬสินธุ์

http://mblog.manager.co.th/bonkalasin/anti-PAD-girl-in-Pantamitr/

ครับ

เป็นความจริงทีเดียวที่ หลายคนเมื่อกล้าที่จะเปิดใจ เก็บความโกรธและขุ่นมัวในใจ
นัดแนะกันไป ฟังสิ่งที่สนธิ หรือสิ่งที่แกนนำ ผู้ชุมนุมพันธมิตร เขาพูดกันว่า มันมีอะไร
พอได้ไปฟังครั้งแรก หรือไม่กี่ครั้ง หากเป็นวิญญูชน คิดอ่านเองอะไรได้ พิจารณาเองอะไรได้

มักจะเป็นแบบนี้ครับ
ผมเองแต่เริ่มต้น เมื่อได้ชมรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ก็เริ่มเป็นแบบนี้

ผมเองสมัยเมื่อมาทำงาน ASTV แรกๆ ก็ยังชมชอบทักษิณ
มาทำกับ ASTV ( ช่วงแรกที่ทำ news1 และ astv ยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง )

ยังนึกชมในใจว่า
เออ... คุณทักษิณใจกว้างดี ที่หลังๆ ขนาดสนธิ ด่าออกรายการ ก็ยังปล่อยให้ออกมาวิจารณ์แรงๆอยู่ได้
นี่สิ ... ผู้นำที่มีจิตวิญญานประชาธิปไตย มันต้องแบบนี้

ตอนนั้น ผมทราบดีครับ ถึงเรื่อง 11NEWS1 การวิจารณ์จากเนชั่น อจ.สมเกียรติ ดร.เจิมศักดิ์
ความสัมพันธ์ระหว่างวิโรจน์ นวลแข กับสนธิ ที่ แกออกมาวิจารณ์แรงๆในระยะหลัง เพราะวิโรจน์แกโดนปลดจากกรุงไทย
แต่ครั้นเริ่มแรงๆ มากๆขึ้น เราฟังแล้วก็ เอ... มันมีเรื่องอย่างนั้น อย่างนี้ จริง ความคิดดีๆ กับทักษิณและไทยรักไทยก็เริ่มเปลี่ยน

ถ้าไม่มีรายการเมืองไทยรายสัปดาห์
และเหตุการณ์ลูกแกะจนโดนปลดจากช่องเก้า
ผมคงไม่เปลี่ยนมาจนถึงทุกวันนี้

ยิ่งเข้าฟังรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ในฐานะคนธรรมดาประชาชนทั่วๆไป
เราได้ไปคุย กับคนอื่นๆที่มาฟัง ในฐานะคนไทย ประชาชนทั่วๆไปเสมอๆกัน
ไม่ใช่ในฐานะคนที่อยู่ในวงการสื่อ เราจะยิ่งทราบซึ้งมากขึ้น หลายคนไม่เคยรู้เลย
จนมีคนชวนให้มา

หลายคนครั้งแรกที่มา ก็ยังไม่ชอบฟังสนธิ บางคนเขาเล่าว่า ทนฟังไปโกรธไป
แต่ก็เริ่มฉุกคิด กลับไปบ้านเขาก็เล่าว่า ก็พยายามหาข่าวอ่านให้มากกว่าที่เมื่อก่อนฟังแค่ฟรีทีวี
หรือสื่อที่โปรไทยรักไทย โปรคุณทักษิณ

พอเริ่มมีเหตุการณ์มากๆ หลายๆครั้ง หลายๆเหตุการณ์เข้า และไทยรักไทย ทักษิณแก้ตัวไม่ได้
หรือไม่ก็ไม่สนใจจะแก้ไข ซ้ำยังให้คนมาปั่นป่วนการชุมนุม หลายคนก็เริ่มรับไม่ได้ แล้วก็เปลี่ยนใจ

ยิ่งเหตุการณ์การชุมนุมของปี 2551 นี้
หลายเหตุการณ์ หลายคำตัดสิน การกระทำของ พปช. นปช. นปก. แม้แต่ตัวทักษิณ และลิ่วล้อเอง
ถ้าคนที่เขามี วิจารณญานพอ ไม่มีอคติ เมื่อได้มาเข้าชุมนุม มารับฟัง หลายคน มักจะเปลี่ยนแปลงความคิด
เกือบทั้งนั้น .....

---

ถ้าฟรีทีวี ไม่มีอคติกับแกนนำ การชุมนุม หรือแม้แต่ความกลัว ตัดความอิจฉาริษยา หมั่นไส้ ไม่ชอบขี้หน้าสนธิ
ละทิ้งการใส่ใจกับสำนวนการใช้ภาษา หันแต่พิจารณา ในเนื้อหาสิ่งที่เขาพูด หลายๆครั้ง ถ้าใจไม่มืดบอด
จะได้แนวคิดหรือสิ่งดีๆที่สนธิพยายามจะถ่ายทอดให้ประชาชนคนไทย รู้จักตื่นขึ้นมาจากภาพมายาทั้งหลายทั้งปวง

---

มีสิ่งที่ดีๆ เกืดขึ้นในการชุมนุมตั้งแต่รายการเมืองไทยรายสัปดาห์
นานมาแล้วครับ ขอรับรอง
เพราะอยู่ในตอนที่เกิดเหตุการณ์ใหญ่ๆ เกือบทุกครั้ง
สมัยทำงานช่อง7 มีเหตุการณ์พฤษภาทมิฬการชุมนุมหน้ารัฐสภาก็ไม่เคยไป
พึ่งเคยเข้าร่วมการชุมนุมของประชาชน ก็ตั้งแต่มาทำที่ ASTV
หัวจิตหัวใจจึงเริ่มเข้าใจการชุมนุมของภาคประชาชน มากกว่าแต่เมื่อก่อนที่เห็นแค่ภาพลบครับ :slime_sentimental:
:slime_sentimental:

ก็เล่นปิดหูปิดตาประชาชนนี่สิคนถึงไม่เข้าใจ   ข่าวสารก็บิดเบือนกัน     เจ้ากรมข่าวลือก็พยายามสร้างสถานการณ์เพื่อลดความเชื่อถือของฝ่ายพันธมิตร
เราก็ไม่เคยร่วมกับพันธมิตรในการชุมนุมประท้วง     แต่ก็ไม่เคยอคติและเข้าใจ  สังคมไทยเดี๋ยวนี้เท่าที่เห็นตัวใครตัวมัน  เห็นแก่เงิน   เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน
และสังคมแห่งการตอแหลของผู้กลัวเสียผลประโยชน์


เรามองอีกมุมจากการติดตามข่าวสารเรื่อยมาในการชุมนุมของทางพันธมิตร   รู้สึกได้ถึงความน่ารัก   มีน้ำใจ  และเรารู้สึกได้ว่าดูพวกเขารักและห่วงใยกันเป็นอย่างดี   เราก็ช่วยเหลือได้เท่าที่เราทำได้   แต่อย่างไรก็เป็นกำลังใจให้ทุกท่านนะ


คงมีอีกหลายๆ คนเข้าใจพวกท่าน   ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ โดยไม่เสียอะไร  ไม่ว่าจะเสียเลือดเนื้อและน้ำตา

ท้อได้แต่อย่าถอย

โอ้โห

สุดยอดครับ

ทำงานได้เร็วจริงๆ (หมายถึงอ.จ๊ะนะครับ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าตัวจริงตัวปลอม ฮ่าๆ)

ปล.ไปอ่านในบทความนะครับ

ท่านใดมี blog น่าจะนำไปเผยแพร่ต่อนาคับ :slime_agreed:

เ_ล_ว ทันใจดีแท้ TLE แหย่ได้ทุกซอกจริงๆ   :slime_evil:

55555 ขำมากๆ  :slime_v: :slime_bigsmile:

ปรบมือดังๆๆ ครับ แล้วสิ้นเดือนนีน่าจะว่างไป เที่ยวทำเนียบ อยากไปถ่ายรูปคู่กับนาข้าว จริงๆ

เชื่อง่ายกันอย่างนี้ไง ไม่สงสัยเล้ยทำไมเชื่อสนธิ แค่เรื่องแต่งเชื่อกันเป็นวักเป็นเวน 555555   :slime_smile2: :slime_smile2:

เคี้ยวง่าย เหมาะเป็นอาหารเต่าปลา  :slime_smile2: :slime_smile2:

 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_smile2: :slime_smile2:


ไปดูที่ blog คุณบอนกาฬสินธุ์  งงเลย :slime_doubt: :slime_doubt:  TLE  ช่างไวจริงๆ  :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:

วันนี้นั่งดู  TLE   โพสช่างขยันขันแข็งๆๆ  อิอิ :slime_smile2: :slime_smile2: :slime_doubt: :slime_doubt:

ก็ดี เราเป็นคนเชื่อง่ายโง่เต่าตุ่น เหมาะเป็นอาหารปลา

แต่คิดว่าคงจะไม่เป็นประเภทกระโหลกหนาปัญญาควายจนต้องกินหญ้าหรอก

 :slime_doubt: :slime_doubt:แถไม่เลิกอีกแล้ว

:slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:

อาจจะเป็นเรื่องแต่งก็เป็นได้

วิธีพิสูจน์ที่ได้ผลที่สุดก็คือ

ไปดูของจริงกันเลย

 :slime_smile:

ไปมาแล้วหลายครั้ง ทุกคนมีน้ำใจมากๆครับ

ทั้งการ์ดและนักรบศรีวิชัยก็คุยด้วยดีแต่มีแค่บางคนที่ขี้หลีไปหน่อย :slime_hmm:

:slime_bigsmile: :slime_bigsmile:

วันก่อนอ่านเรื่องอะไรน่ะ "รูป 1 นิ้วหาย"(เขียนถึงการ์ดพันธมิตรคนหนึ่งมาจากอิสาน มาทำงานรับจ้างกทม. แล้วเข้าร่วมเป็นการ์ดพันธมิตร

พกรูปแม่ 1 นิ้ว แล้วหายตอนตำรวจสลายชุมนุม )  ประมาณนี้ รู้สึกจะเจ้าเดียวที่เขียนเรื่องนี้ (ถ้าจำไม่ผิด ถ้าผิดขออภัยด้วย)

คล้ายกันเลย แต่งมากไปจนไม่เป็นธรรมชาติ  จริงอยู่ที่การชุมนุมของพันธมิตรเป็นเช่นนั้นจริง แต่คนเขียนเอามาสร้างเป็นนิยาย มากเกินไป

แต่ก็ดูดีน่ะ เห็นภาพจริงหมดเลย เพียงแต่การเขียนบางประโยคอ่านแล้วมันชอบกลอยู่..

น้องแถวบ้านเคยพูดประชดเล่นๆ ไปรึปล่าวคนละห้าร้อย (พูดกับผู้ที่เห็นด้วยกับพันธมิตร พวกลุงๆ ป้าๆ ขาประจำร้านน้ำเต้าหู้น้องเกตุ)

แต่ลืมสังเกตุไปว่ามีลุงท่านหนึ่งมาซื้อของด้วย แกเลยบอกว่า ไปสิ ไปแล้วได้ตั้งห้าร้อย ทำไมจะไม่มีใครไปล่ะ ไอ้เล็ก มันยังได้มาเลย

แต่ระวังหน่อยนะเห็นเขาบอกว่ามีพวกเสพยามาสุมหัวอยู่กันเยอะ ไอ้พวกบอดี้การ์ดหน้าพวกมันยังกะโจร เดี๋ยวเถอะ เข้าไปแล้วจะออกไม่ได้

น้องก็เลยบอกว่า ไอ้ที่บอกว่าห้าร้อยเนี่ย เป็นค่าเหมารถไปคนละร้อย ส่วนอีกสี่ร้อยเอาไปบริจาคให้เขานะ เราไปเสียตังค์นะไม่ใช่ได้

แกก็เลยบอกว่า เมื่อวานนั่งมอไซด์วินเข้าบ้าน คนขับยังเล่าให้ฟังเลยว่า ไอ้เล็ก มันไปพันธมิตรมาได้มาห้าร้อย ไม่เชื่อก็เดินไปถามมันสิ

ผมยืนรอน้ำเต้าหู้อยู่ ได้ยินแกพูดถึงได้เล็ก ก็เลยบอกแกว่า ไม่ต้องเดินไปถามหรอก ได้เนี่ยมันเพื่อนผม ทั้งบ้านมันเป็นหัวคะแนนให้

พรรค........... เลือกตั้งคราวที่แล้วผมยังบอกเลยว่าไม่ต้องเสือกมาบ้านกูนะกูไม่เลือกพรรคนี้หรอก แล้วมันจะไปพันธมิตรได้ยังไง

ลุงท่านนั้นก็อึ้งไป แล้วก็ทำหน้าโกรธผมเล็กน้อย แล้วแกก็บอกว่า ก็ไม่รู้นี่ วินมอไซด์มันเล่าให้ฟังเมื่อวาน มันยังบอกว่าบางคนได้เป็นพัน

ผมกับน้องและอีกหลายท่านมองหน้ากัน แล้วก็แยกย้ายดีกว่า วงแตก

ตามลิงค์เข้าไปอ่านแล้ว คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องแต่งมากกว่าเรื่องจริงนะครับ
อย่างไรก็ตามบรรยากาศตามที่บรรยายในเรื่อง ไม่ผิดจากบรรยากาศจริง

น่าเสียดายที่ตอนท้ายเรื่องมีอะไรหลุดๆ เพราะตามท้องเรื่องแล้วตัวละคร
ที่เป็นมือโพสต์ป่วนพกเงินไปแค่ 100 บาท แต่กลับมีเงินบริจาคถึง 5 พัน!!!
ถ้าไม่ใช่เรื่องแต่ง ก็ควรระบุว่ายืมใครหรือไปกดเงินจากตู้ในทำเนียบ?  :slime_smile:

อาจจะยืมเพื่อนที่ไปด้วยกัน หรืออาจจะรูดที่เอทีเอ็มก็เป็นได้คับ

ในนั้นมี 2-3 ตู้มั้งคับ พอดีผมเคยไปตอนกลางคืนอาจเห็นไม่ทั่วถึง

ไปดูลีลาของคนเขียน ..นิยาย..นิยาย

รูปถ่าย ๑ นิ้วที่หายไปกับน้ำใจยามยากของเพื่อนการ์ดอาสาพันธมิตร

http://mblog.manager.co.th/bonkalasin/th-29317/

                                     สำนวนคล้ายไอ้โลนคังดิกคู

อ่านแล้วดูเกินจริงไปเหมือนกัน

แต่มีความจริงหลายอย่างอยู่ในนั้น

อย่างเรื่องน้ำใจของคนในนั้น เป็นเรื่องจริงครับ

ตอนที่ผมไปทำหน้าที่เป็นการ์ด ก็จะมีคนไปซื้ออาหาร ซื้อน้ำมาให้บ่อย ๆ

โดยไม่ต้องร้องขอ ทั้ง ๆ ที่มีคนมาบริจาคให้อยู่แล้ว

เรื่องการเข้าห้องน้ำก็เป็นเรื่องจริง เค้าทำโดยไม่ต้องมีใครบอกในเรื่องมารยาทการเข้าเข้าแถว


และเวลาถามเรื่องเหตุการณ์ ต่าง ๆ แต่ละคนที่มีข่าวอะไรก็เอามาแลกเปลี่ยนกัน

มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอยู่ตลอดเวลา คนแบบนี้เรียกว่าคนไม่รู้จักคิดเหรอครับ :slime_sentimental:

ผมว่าตอนจบลงไม่สวยแฮะ เรื่องบริจาคเงิน คนอ่านที่มีข้อกังขาจับผิดง่ายไปครับ

แต่จริงๆ เขียนไปก็ได้ว่า หลังจากกลับไปบ้าน จึงโอนเงินให้ ASTV  5000 บาท

หรือจะกด ATM แถวนั้น อย่างที่คุณ jerasak บอกก็ได้

TLE นั่งโพสต์ทั้งวันเลยเหรอ

นายบอนโทรไปสอบถามกับเจ้าของเรื่องแล้วครับ
จากเมล์ที่เค้าส่งมาให้ เป็นการเขียนที่รวบรัดตัดตอนไปหน่อย จากการสอบถามเรื่ิองราวเพิ่มเิติมนั้น....

เพื่อนพันธมิตรที่กล่าวถึง ก็เป็นแฟนหนุ่มของเธอคนนี้นี่เอง หาใช่เพื่อนธรรมดาไม่

เื่รื่องเงิน 5,000 บาท ก็ไม่ได้ระบุในเนื้่อความที่ส่งเผยแพร่ทางเมล์ ว่าืคือเงินที่แฟนหนุ่มของเธอ บอกให้เธอไปเข้าแถวเพื่อบริจาคด้วยตัวเอง แฟนหนุ่มของเธอมักจะบริจาคครั้งละ 5000 ทุกครั้งที่มาชุมนุม แต่ก็ลืมที่จะระบุไว้ในเืนื้อหาเมล์ที่ส่งเผยแพร่ออกไป คาดว่า คนที่ได้รับเมล์ีที่เผยแพร่ออกไป ก็คงตั้งข้อสังเกตเช่นกันว่า ทำไมพกเงินไป 100 ถึงมีเงินบริจาคมาถึง 5000 บาท

ดีนะครับที่ไม่ได้เขียนไว้ว่า ตอนที่เดินทางมาจากขอนแก่น เธอกับแฟนหนุ่มเดินทางมาโดยรถโดยสาร บริษัทนครชัยแอร์ รถ VIP ค่ารถร่วมพันบาท มาถึงหมอชิตแล้วนั่งแท็กซี่มายังที่ชุมนุม แต่ตัวเธอมีเงินแค่ 100 บาทติดกระเป๋า ซึ่งเงินในส่วนนี้ แฟนหนุ่มของเธอ ควักเงินจ่ายให้.....

....สรุปว่า เมื่อกลับถึงขอนแก่น เธอคนนี้ยังไม่ได้ใช้้เงิน 100 บาทนั้นเลย เพราะแฟนหนุ่มเป็นคนจ่ายทุกอย่าง รวมทั้งซื้อเสื้อนักรบมือตบ, เสื้อการเมืองใหม่, สงครามครั้งสุดท้าย และอีกหลายอย่าง (ได้ของฝากกลับไปเพียบ)

หลังจากคุยทางโทรศัพท์แล้ว มีรายละเอียดอีกเยอะ ดูเหมือนว่า เธอจะเขียนใหม่ แล้วส่งทางอีเมล์ไปเผยแพร่ให้กับพรรคพวกอีกหลายเมล์ ซึ่งสำนวนการเขียน จะเป็นในแบบของเรื่องสั้น...นวนิยายอย่างที่ได้อ่านในนิตยสาร ในแบบที่เธอชอบเขียนนั่นเลย ซึ่งคงจะลงรายละเอียด บรรยากาศ คำพูดจายิ่งกว่าที่ได้อ่านนี้อีกครับ เพราะนักเขียนตัวจริงเสียงจริงจะเขียนเอง..และยังมีประเด็นที่ไม่ได้เล่าอีก หลายเรื่องครับ

ถ้าเธอไปชุมนุมบ่อยๆ คงเขียนเล่า้เป็นพ็อคเกตบุคส์เล่มหนึ่งได้เลยกระมัง

ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องแต่งหรือไม่
 
แต่เรามองว่าถ้าเป็นเรื่องแต่งจริง
เรื่องเงิน 5 พัน คงจะถูกแต่งให้
เนียนกว่านี้เป็นแน่


ที่ไปเห็นมาบรรยากาศที่พันธมิตร
ก็ไม่แตกต่างจากเรื่องเล่านี้ ยืนยันค่ะ

แม้ว่าคุณจะไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมของพันธมิตร
ถ้าคุณอ้างว่าตัวคุณเป็นคนรักความยุติธรรมอยากให้คุณลอง
ไปพิสูจน์ด้วยตัวเองค่ะ
"10 ปากว่าไม่เท่าตาเห็น"  

ผมก็ไม่ได้อยู่ข้างพันธมิตรมากหรอกนะ แต่เคยไปหนนึงเพราะพ่อมาจากต่างจังหวัดเพื่อมาบริจาคเงินให้โดยตรง ก็เลยพาไปเพราะพ่ออายุมากแล้ว (78ปี) พอไปถึงก็เจออะไรหลายๆ อย่างที่ซูฮกในน้ำใจของคนที่นั่นเลย อัธยาศัยกันดีทุกคน แต่ก็มีปัญหากับการ์ดบางเรื่องเหมือนกันนะที่พูดจาแรงกับคนที่มาชุมแล้วนั่งเกินที่ๆ เขาจำกัดไว้

อยู่แต่ในโลกอินเตอร์เน็ทมันก็ไม่ได้ความจริงทั้งหมดหรอก ลองไปดูสักครั้งจะได้เห็นกับตาจะดีกว่าครับ ว่างๆ ผมก็ว่าจะลองแวะไป นปก. ดูเหมือนกัน

สนับสนุนให้ลองแวะไปทาง นปก. ดูนะครับ
รับรองว่าแตกต่างกันอย่างชัดเจนเลย

จากการสังเกตแล้วคิดว่าคนที่ไปชุมนุม นปก.
มีมากที่ไปกันเองแบบพันนธมิตร สิ่งที่แตกต่าง
คือกลุ่มคนที่ไปชุมนุมเป็นคนละกลุ่มกันชัดเจน
และระบบความคิด+ทัศนคติต่างกับชาวพันธมิตร
แบบสุดกู่ (เช่น "โกงแต่มีผลงานก็ OK แล้ว"
ซึ่งเป็นแนวคิดทางการเมืองยุคก่อน)

อีกอย่างคือเนื้อหาบนเวทีที่บิดเบือนกันสุดๆ
และฟังหลายชั่วโมงก็ไม่ได้ความรู้อะไรเลย
มีแต่คำหยาบคายสุดๆ เยอะมาก

มีข้อสังเกตอีกอย่างคืออาหารที่ชุมนุม นปก.
ราคาถูกกว่าแถวที่ชุมนุมพันธมิตร 30-50%
ทั้งที่ รสชาติ+ความสะอาดไม่ต่างกันเด่นชัด
คงเป็นการปรับราคาให้เข้ากับผู้ชุมนุม

น่าสังเกตด้วยว่ามีคนจำนวนมากที่อาศัยนอน
อยู่ที่สนามหลวงอยู่แล้ว ทำให้ดูเหมือนเป็น
ผู้มาชุมนุม นปก. แต่ความจริงไม่เกี่ยวกันก็มี

แวะไปดูชุมนุม นปก. เป็นเรื่องที่ควรทำครับ
จะทำให้เข้าใจสังคมการเมืองของเรามากขึ้น
่ว่ามีความแตกต่างของกลุ่มคนจริงๆ

ทุกคนดี มีน้ำใจต่อกัน
ลำบากด้วยกัน เกิดเป็นความสามัคคีเหนียวแน่น
ไหนจะฝนตก แดดร้อน ก็ยังช่วยกัน
คนจากทุกภาค ทุกจังหวัด หลากอาชีพและอายุ
บ้างก็ไปเดิน ไปนั่งฟัง เอาของ เอาน้ำ ข้าวส่งมาให้
แม้กระทั่งที่จอดรถก็ยังมีน้ำใจช่วยกันเฝ้าดูแลกันและกัน
เวลาการ์ด นักรบเดินผ่าน เราจะยิ้มและปรบมือให้เสมอ :slime_v:

เรื่องเงินจ้างคนไปม๊อบ พธม. ผมก็ยังได้ยินอยู่บ่อยๆ ครับตอนนี้
แถมยังบอกอีกว่าเป็นแหล่งมั่วสุมเด็กติดยา เพราะเค้าดูจากทีวีแล้วเห็นมีคนเต้นไปเต้นมา เต้นได้ทั้งวันทั้งคืน ก็เลยสงสัย
แต่พอถามๆ ดู ว่าพี่ไปได้ยินข่าวมาจากไหน ส่วนใหญ่ก็ตอบว่าเค้าเล่ามาให้ฟังอีกทีนึง แทบทั้งนั้น
ถ้าผมเจอพวกแนวๆ นี้ ผมก็จะนิ่งครับ ไม่พูดอะไรต่อ เพราะคิดว่าพูดไปมันก็คงไม่ฟังเราแน่ๆ เดี๋ยวจะทะเลาะกันเปล่าๆ

แล้วก็พี่ที่ทำงานผมอีกเช่นกัน อายุก็ห้าสิบกว่าๆแล้วละ แต่ผมเรียกพี่หมดในที่ทำงาน เค้าก็ไม่ชอบ พธม.
พูดถึง พธม. ที่ไรเป็นต้องด่า  ผมก็เฉยๆ เพราะที่ทำงานส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดก็ว่าได้ไม่ชอบ พธม. กันเลย
จนวันนึง ผมไปดู พธม. ชุมนุม ที่ทำเนียบ ซึ่งตอนนั้น คนยังไม่เยอะ เพราะยังไม่มีการสลายของ จนท. ตำรวจ
พอสักหกโมงเย็นผมก็เดินกลับบ้านจะไปขึ้นรถ มาถึงสนามม้า ก็มาเจอะพี่แกคนที่ว่านี้ กำลังเดินมา

ผมก็เข้าไปทักแก ถามว่า "พี่จะไปไหน"
แกตอบว่า "จะไปดูม๊อบ พธม. ซะหน่อย วันมันเป็นยังไง เพราะเห็นแต่ข่าว"
ผมก็ยิ้มๆ แต่ไม่ได้พูดอะไรมาก แล้วก็ขอตัวกลับไปก่อน
พอวันรุ่งขึ้นมาถึงที่ทำงาน ผมก็ถามแกว่า "เป็นไงบ้างพี่"
แกก็อึ้งๆ แล้วตอบว่า " พี่ไม่รู้จะเชื่อใครดี เพราะต่างฝ่ายต่างก็มีเหตุผลด้วยกันทั้งคู่ พอมาอยู่ในม๊อบ แกก็บอกมันก็รู้สึกคล้อยตามไปเหมือนกัน"
ผมก็บอกไปว่า "ผมก็ไม่ได้เชื่อใครหรอกครับพี่ แต่ถ้าผมฟังอะไรจากใครมาผมก็ต้องไปหาข้อมูลก่อน ว่ามันจริงหรือเปล่า โทรทัศน์หนังสือพิมพ์ บางทีมันก็เขียนข่่าวไม่ได้ตรงกับความจริงเท่าไร เราต้องหาข้อมูลจากหลายๆ ที่จึงค่อยตัดสินใจว่าจะเชื่อใครดี"
แกก็ตอบ "เออจริงๆ"
หลังจากนั้นแกก็ไม่ค่อยจะด่า พธม. บ่อยเหมือนแต่ก่อน 
ไม่รู้ว่าช่่วงนี้ยังจะไปอยู่อีกหรือเปล่า ไม่ค่อยได้เจอแกเลย

ชาวพันธมิตรยินดีต้อนรับ

น้องหมาน้อยสุชาติ(ชั่ว)  นาคบางไทร

จับได้ตั๋งๆยังจะไถไปได้เอากับเขาดิ 5555

ไปคุ้นหาตังในกระทง ไม่เจอถามเพืนอไหนล่ะตัง มีคนโง่งั้นด้วยเหรอ 5555

แล้วไอคนเล่ามีไปรู้จิตใจด้วยนะว่าอนไหนเค้าคิดอะไร โห มีพลังจิตแน่ๆพวกพันธมิตร

ส่งประกวดนิทานระดับอนุบาลยังไม่ได้เลยมั้ง 55555555  :slime_smile2: :slime_smile2: :slime_smile2:



ถึงว่าทำไมเชื่อสนธิกันเป็นตุเป็นตะ  :slime_smile2: :slime_smile2:

ท่าทางจะอ่อน EQ นะเรา  :slime_smile2:

แฟนมาด้วยแต่ไปให้คนอื่นออกค่าหมูปิ้ง มาด้วยจริงเขาก็ฝากไว้ก่อนแล้วไปเอาตังที่แฟนก็ได้ โอว นักเขียนอ่อนโลก หลอกได้แค่กระบือล่ะงานนี้  :slime_smile2:

อยากฟังเรื่อง นปก. แย่งกล่องบริจาคเหมือนหมากัดกันมากกว่า  :slime_bigsmile: