ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ดันออมสินอุ้ม NPL ข้าราชการ  5ปี"ทักษิณ"หนี้บุคคลพุ่ง 1,000,000,000,000 บาท

5 ปีระบอบทักษิณ ประชานิยมกระฉูด สินเชื่ออุปโภคบริโภคทะลัก ยอดหนี้พุ่งกว่า 1 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 20% ของสินเชื่อทั้งหมด ล่าสุดอาการเริ่มส่อเค้าวิกฤต ก.พ.เตรียมหามาตรการอุ้มหนี้ข้าราชการ 4 แสนราย ออมสินอ่วม รับรีไฟแนนซ์ทั้งครูและข้าราชการอื่นๆ

"ประชาชาติธุรกิจ" ได้ตรวจสอบข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยในการปล่อยสินเชื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคลของธนาคารพาณิชย์ไทยและธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ พบว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาสินเชื่อขยายตัวค่อนข้างรวดเร็ว จากปี 2544 สินเชื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคลอยู่ที่ 494,790 ล้านบาท คิดเป็น 11.5% ของสินเชื่อทั้งระบบ (4,309,360 ล้านบาท) มาเป็น 1,043,773 ล้านบาท ณ มีนาคม 2549 คิดเป็น 18% ของสินเชื่อทั้งระบบ (5,784,783 ล้านบาท)

ก่อนหน้านี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้แสดงความเป็นห่วงต่อการมุ่งเน้นการเติบโตของจีดีพีมากกว่าที่จะมุ่งในเรื่องความยั่งยืนของเศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2549 ในงานของมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ โดยได้ยกตัวอย่างถึงมาตรการที่ ธปท.ไม่ส่งเสริมให้เกิดการใช้จ่ายเกินตัวในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะในเรื่องการกำกับดูแลการขยายตัวของบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ว่า ธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลเป็นช่องทางที่ทำให้ประชาชนใช้จ่ายเกินความจำเป็น และไม่รู้ว่าจะมีความสามารถในการชำระหนี้ได้หรือไม่ ตามปกติจะต้องส่งเสริมให้คนออมก่อนและใช้จ่ายทีหลัง แต่ในภาวะที่เป็นอยู่กลับตรงกันข้าม ให้ใช้จ่ายก่อนและออมทีหลัง ซึ่งวัฒนธรรมเช่นนี้เหมาะกับประเทศที่พัฒนาแล้ว คนมีงานที่ดีและมีโอกาสที่ดี และด้วยความเป็นห่วงว่าประชาชนที่ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้จะมีหนี้มากขึ้น ทาง ธปท.ได้ออกเงื่อนไขคุณสมบัติผู้ที่มีบัตรเครดิตได้ต้องมีเงินเดือนไม่น้อยกว่า 15,000 บาท/เดือน ในปี 2545 และจะต้องชำระหนี้ขั้นต่ำ 10% ของวงเงินใช้จ่ายทั้งหมดในปี 2547 ส่งผลให้การขยายตัวของบัตรเครดิตจาก 40% เหลือ 17%

ล่าสุดจากรายงานของคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) มีนโยบายปรับโครงสร้างหนี้ให้ข้าราชการจำนวน 4 แสนคน ซึ่งเป็นหนี้ที่อยู่อาศัย 4,774 ล้านบาท หนี้เช่าซื้อ/ซ่อมรถ 1,636 ล้านบาท และหนี้อุปโภคบริโภค 1,143 ล้านบาท โดยจะรวบรวมหนี้มาอยู่ที่เดียว ทั้งนี้มีธนาคารออมสินเสนอตัวที่จะปรับโครงสร้างหนี้ให้

 คลิกที่นี่ เพื่อไปดูข่าวฉบับเต็ม (http://www.matichon.co.th/prachachart/prachachart_detail.php?s_tag=02fin01220649&day=2006/06/22)


เอาขี้ เยี่ยว มาลงที่ "อมสิน" ให้หมด เพื่อให้รอดจากการควบคุมของแบงก์ชาติ เลวมาก แล้วไอ้เลวหน้าไหนบอกให้ "นิรโทษกรรม" เพื่อ happy ending
เศรษฐกิจไทยใต้อุ้งteenหน้าเหลี่ยม ----> บึ้ม !

ภาวะผู้นำของคุณทักษิณ คือการโฆษณาชวนเชื่อทุกวิถีทาง ให้ชาวบ้านกู้ๆๆๆ และบริโภคๆๆๆๆ
เพื่อสร้างบรรยากาศว่าเศรษฐกิจดี และคนไทยกำลังจะรวย จนกระทั่งชาวบ้านพากันหลงเชื่อว่า
คุณทักษิณคืออัศวินม้าขาวที่จะมานำประเทศไทยไปสู่ความเป็นมหาอำนาจเศรษฐกิจในภูมิภาค
และในโลก

แต่ในความเป็นจริงของการแข่งขันทางเศรษฐกิจแล้ว ชาติที่จะได้ชัยชนะและก้วขึ้นมา
มีบทบาทสำคัญในเวทีโลกได้ ต้องมีต้นทุนทรัพยากรมนุษย์ที่สูงกว่าชาติคู่แข่ง หมายถึงประชากร
ส่วนใหญ่ของประเทศต้องรู้จักคิด รู้จักใฝ่หาความรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันของตนเองก่อน
ไม่ใช่วันๆเอาแต่ดูละครน้ำเน่ากับรายการนายกหลอกประชาชนแล้วก็หลับหูหลับตาเชื่อว่านายก
ที่สุดและเป็นคนเดียวที่จะนำประเทศไปสู่ความรุ่งเรืองได้

สิ่งที่นักวิชาการทางเศรษฐศาสตร์หลายท่านเคยเตือนภัยเอาไว้ตั้งแต่ตอนคุณทักษิณเริ่มเข้ามา
ปั่นเศรษฐกิจด้วยนโยบายประชานิยม กำลังค่อยๆปรากฏขึ้นเป็นรูปธรรมแล้วครับ ขึ้นอยู่กับว่า
แต่ละคนแต่ละครอบครัวจะมีภูมิคุ้มกันแค่ไหน แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงคือวิธีสร้าง
ภูมิคุ้มกันระยะยาวให้แก่คนไทยทุกคน แต่หน้าเศร้าใจที่น้อยคนสามารถเข้าใจและน้อมรับไป
ปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม ตอนนี้ก็คงได้แต่บอกว่าตัวใครตัวมันไปก่อนหละครับ    :mrgreen:  :mrgreen:

เห็นด้วยมากๆ ครับ

ในสายตาผมคนไทยใช้เงินเก่งขี้น

แต่ทำงานเก่งเท่าเดิม  :?

ผมคาดการณ์นะครับ ยอดหนี้ส่วนบุคคล ไม่น่าจะแค่ 1,000,000,000,000 เพราะว่ายังมีตัวเลขหนี้เงินกู้ตามเสาไฟฟ้า แจกหน้าสถานีรถไฟฟ้าอีกมากมาย และพวกนี้น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับพรรคชินลักไทยอยู่ด้วย เพราะว่าการตามกวดขันไม่น่าจะยาก แต่ทำไมเจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่ทำ แต่ปล่อยให้ผุดเต็มเมือง ถ้าไม่ใช่การคอรับชั่นแบบกินหลายเด้ง (ส่งเสริมคนกู้กินใช้ ได้กำไรจากการขายของตัวเอง เด้งที่ 1 ........ ตัวเองปล่อยกู้ได้กำไร เด้งที่ 2 ......... เอาเงินออมประชาชนไปช่วยใช้หนี้นอกระบบ เด้งที่ 3 ....... ได้รับเสียงเยินยอจากพวกสิ้นคิด แปรเป็นคะแนนเสียง เด้งที่ 4)

ใครที่อยากรุ่งในอนาคตอันใกล้ ต้องเปิดบริษัทรับทวงหนี้ครับ สิ้นปีนี้งานจะล้นมือจนคุณทำไม่ทัน

 :oops: :oops: :oops:บอกแล้วว่าข้าราชการยังเป็นหนี้...มากซะด้วย...จะเพราะอะไร...ความฟุ้งเฟ้อ...บริโภคนิยม...
รัฐบาลและเจ้ากระทรวงมีวิธีแก้ไขปัญหาหนี้สินเหมือนกัน...แต่ไม่ได้แบ่งเบาภาระเลย  เพียงแค่เป็นการนำหนี้จากหลายๆเจ้า มารวมไว้ที่ธนาคารออมสิน  ดอกเบี้ยก็เป็นอัตราของธนาคารตามปกติ "เศรษฐกิจพอเพียง"เท่านั้นที่จะช่วยบรรเทาภาระหนี้สินข้าราชการได้ :mozilla_sealed: :mozilla_sealed: