ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ลำพังนายสมัครที่เป็นหัวหน้ารัฐบาลปิดหู-ปิดตาตัวเองคนเดียวคงไม่น่ากลัวนัก แต่ผู้หลักผู้ใหญ่ทางการเมืองของพรรคร่วมรัฐบาล 5 พรรคอยู่ในสภาพไม่ต่างกันคือ "ปิดหู-ปิดตา" ตัวเอง

          ไม่คิดช่วยกันหาทางออกให้บ้านเมืองผ่านพ้นภาวะกลียุค ห่วงแต่ผลประโยชน์ของตัวเองไม่ยินยอมให้ยุบสภา กลับเห็นดีเห็นงามกับ "ผู้นำป่วย" นายสมัครที่บริภาษผู้คนทั่วบ้านทั่วเมืองและยังซื้อเวลาขอ "ประชามติ" จากประชาชนว่าจะเอากับตัวเองหรือกลุ่มพันธมิตร ทำตัวเป็นเสาผุค้ำยัน "ผู้นำป่วย" เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองจนนาทีสุดท้าย

          พรรคชาติไทยที่มีคุณบรรหาร ศิลปอาชา เป็นหัวหน้าพรรค หวังแต่ "ส้มหล่น" รอเป็นนายกรัฐมนตรีรอบ 2 จึงทำทีเออออทุกครั้งกับวาจาเน่าๆ ของผู้นำป่วยที่เอ่ยอ้างว่า "เจ้านาย" ต้องการให้อยู่ทำงานเพื่อบ้านเมือง

          พรรคเพื่อแผ่นดินที่มีคุณสุวิทย์ คุณกิตติ เป็นหัวหน้าพรรค ที่แม้ตัวเองจะไม่เอากับนายสมัครไปแล้ว แต่กลับไม่สามารถสั่งลูกพรรค

          พรรครวมใจไทยชาติพัฒนาที่ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร เป็นหัวหน้าพรรค เสมือน "หัวตอ" ประจำพรรคที่มีแต่ลูกพรรคยกมือไหว้ปลกๆ ในวันประชุมพรรค แต่หลังจากนั้นอาจจะแอบยืนฉี่ใส่หัวตอ

          พรรคมัชฌิมาธิปไตยที่คุณอนงค์วรรณ เทพสุทิน เป็นหัวหน้าพรรคแต่ในนามแทนสามีที่ยัง "เอ็นจอย" กับเศษๆ เงินจากโครงการต่างๆ

          พรรคประชาราชที่มีคุณเสนาะ เทียนทอง เป็นหัวหน้าพรรค แสดงวาจากลับกลอกเล่นลิ้นแบบนักการเมืองรุ่นเก่าขนานแท้ ให้ตีความเองระหว่าง "ธรรมะกับอธรรม" ว่าควรจะเป็นใคร เมื่อยังได้ประโยชน์จากตำแหน่งก็ไม่ได้รู้สึกรู้สากับความเป็นไปของบ้านเมือง

          เจ้าของและหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทั้งห้า กลับไม่ได้รู้สึกรู้สาว่าจะต้องเข้ามาช่วยหาทางออกให้ประเทศ เพื่อออกจากวิกฤติอย่างสันติให้ได้ ซึ่งยังมีหนทางทำได้ไม่ยากเพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตย เช่น ประกาศถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล, การไม่เห็นด้วยกับมาตรการประหลาดๆ ของผู้นำป่วยในการซื้อเวลาขอประชามติเพื่อต่ออายุตัวเอง ฯลฯ

          ผู้นำป่วยกับผู้หลักผู้ใหญ่พรรคร่วมรัฐบาล "เห็นแก่ตัว" ไม่ต่างจาก "ผีเน่า" กับ "โลงผุ"   ประเทศไทยคงหนีไม่พ้นกลียุคเลือดนองทั้งแผ่นดินในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

http://www.oknation.net/blog/adisak/2008/09/08/entry-1

สันดานนักการเมืองไทย :slime_bigsmile:

*  ตอนนี้ ผู้นำป่วย  กระเด็นออกจากตำแหน่งแล้วค่ะ  .............( คงจะมีเวลาไปหาหมอโรคจิต )

    หลังจากศาลท่านมีมติ 9 : 0 ว่าผิดจริงเรื่องรายการ ชิมไปบ่นไป

    และ หลังจากศาลตัดสินปุ๊ป  ก็มีการนำเสนอชื่อของ ผู้นำป่วย  กลับมาบริหารบ้านเมืองอีกครั้งทันที ( วันศุกร์คงรู้ผล )

    นี่คือ ปรากฎการณ์ที่แสดงให้เห็นถึง ความ อุบาทว์ ของคนที่มาดำรงตำแหน่ง  สส. ในบ้านเมืองเรา

    ที่คิดจะเล่นแต่เกมส์การเมือง ..... โดยไม่สนใจที่จะทำงานเพื่อบ้านเมืองอย่างจริงจัง

    พรรคร่วมต่าง ๆ ก็เป็นเหมือน เห็บ หมัด  ที่คอยเกาะหลังหมานะแหละค่ะ ..... ผลประโยชน์ล้วน ๆ !!!

นี่แหละการเมื่องแบบไทยๆ  ไม่มีเหมือนชาติใดในโลก ไอ้นักวิชาการต่างประเทศที่วิจารณ์ประเทศไทยเสียๆ หายๆ
มันเคยเข้าใจการเมืองไทยจริงๆ แล้วหรือยังว่า ระบบรัฐสภาของไทยมันเป็นแบบนี้ มันไม่ได้มีคนคุณภาพมาเป็น สส.
มาทำงานในสภา ปัญหาทุกปัญหามันจะแก้ได้เหมือนระบบรัฐสภาของพวกอเมริกา อังกฤษได้อย่างไร  ถ้าตราบใดที่
ระบบตัวแทนของไทยเป็นแบบนี้ สามีไม่ได้ก็เอาภรรยามานั่งแทน ความรู้ความสามารถไม่ต้องคำนึงถึง เขาให้มารักษาผล
ประโยชน์ส่วนตัวก็เท่านั้น  อย่าว่าแต่ภรรยาเลย แม้แต่ตัวสามีเอง ที่ได้ตำแหน่งมาไม่ใช่เพราะเงินและอิทธิผลหรอกหรือ
ลองทำการสำรวจดูได้  ว่า สส. ที่นั่งอยู่ในสภา มีกี่เปอร์เซ็นต์ ที่เป็นพวกมีอิทธิพลในท้องถิ่น  บางคนมีเงินไม่มีอิทธิพล ก็ต้องมาเป็น สส. เพื่อสร้างอิทธิพล ก็มี  โดยไม่สำนึกเลยสักนิดว่า ตำแหน่ง สส. นั้นมีหน้าที่อย่างไรตามกฎระเบียบของ
รัฐธรรมนูญ และยังได้รับผลตอบแทนจากเงินภาษีของราษฎรทั้งนั้น  นี่เงินของประชาชนก็จะเอา แถมยังเอาอำนาจที่เขาให้ ไปอวดเบ่งคับจังหวัดกับประชาชนให้ประชาชนยกมือไหว้พินอบพิเทา เสมือนเป็นเจ้าใหญ่นายโต เอาสิ่งที่ประชาชน
ได้รับความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดๆ ที่ สส. มีหน้าที่ทีจะต้องทำให้ มาเป็นบุญคุณส่วนตัว ที่ประชาชนต้องตอบแทน ด้วยการเลือกเข้ามาทุกสมัย  แล้วอย่างนี้จะเรียกว่า "ประชาธิปไตย"  ตามแบบฉบับฝรั่งมังค่า ได้อย่างไร

ไอ้นักการเมืองจั*** พวกนี้ชาติไทยไม่ต้องการ  แต่เราจะล้างบางมันยังไงดี ให้รัฐสภาไทย เป็นรัฐสภาทีมีคุณภาพ  ประเทศชาติจะได้เจริญจริงๆ สะที  ไม่ใช่เจริญแบบมายา ด้วยวาจาหลอกลวงของพวกทุนนิยม