ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: In The Name Of Justice. ที่ 23-06-2006, 09:31



หัวข้อ: FTA : ไทย - ญี่ปุ่น เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล (ขอสอบถามข้อมูล + ความเห็น)
เริ่มหัวข้อโดย: In The Name Of Justice. ที่ 23-06-2006, 09:31
เมื่อวานนี้ ได้ฟังคลื่น 92.25 ช่วงหนึ่งพูดเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของญี่ปุ่น ที่ประชาชนเขามีประกันชีวิตทุกคน

ประกอบกับโรงบาลที่ญี่ปุ่นเองนั้น มีระบบที่เป็นมาตรฐานที่เสมอภาคกันทุกคน (ไม่รู้จริงไหม?)

ทำให้คนญี่ปุ่นที่พอมีเงิน มารักษาตัวที่เมืองไทย แล้วกลับไปเบิกเงินที่ประเทศตัวเอง..

ทำให้อาจารย์หมอ และหมอ จำนวนมากย้ายตัวเองไปอยู่โรงบาลเอกชนเพราะได้ตังเยอะกว่า (ซึ่งเจ้าของคือใครไม่รู้หน้าเหลี่ยมๆ)

ถ้าเกิดหมอเก่งๆออกจากโรงบาลรัฐไปจำนวนมากแล้ว คุณภาพของ 30 บาทและประกันสังคม จะเป็นอย่างไรครับ?

________________________________

ปล. ผมเจ็บปากมาร่วมเดือนแล้ว ไปหาหมอใช้ประกันสังคม หมอตรวจเสร็จภายใน 1 นาที บอกว่าต่อมน้ำลายอักเสบ

ยาที่ได้มาคือ ยาแก้ปวด กับ ยาคลายกล้ามเนื้อ หามา 2 รอบแล้วก็ได้ยาเดิมๆมาตลอด สรุปแล้วผมจะหายไหมครับ?


หัวข้อ: Re: FTA : ไทย - ญี่ปุ่น เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล (ขอสอบถามข้อมูล + ความเห็น)
เริ่มหัวข้อโดย: เจนจิรา ที่ 23-06-2006, 09:53

ก็เพราะอย่างนี้โรงพยาบาลเอกชนถึงคิดค่ารักษาแพงกว่าเดิมมาก

จนไม่กล้าไปรักษา  ถ้าเป็นอะไรไม่มากก็เลยไปตรวจตามคลีนิค

เจ็บปากเพราะต่อมน้ำลายอักเสบ แต่ไม่ให้ยาอักเสบ แล้วจะหาย

ได้ยังไงล่ะค่ะ...  :mrgreen: คงต้องเปลึ่ยนหมอน่าจะดีกว่าน่ะ...  :roll:


หัวข้อ: Re: FTA : ไทย - ญี่ปุ่น เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล (ขอสอบถามข้อมูล + ความเห็น)
เริ่มหัวข้อโดย: In The Name Of Justice. ที่ 23-06-2006, 10:58
30 บาทตายทุกโรค...

ประกันสังคม (ประนาม)

เฮ้อ...

กลับไปอนาถาอย่างเดิมดีกว่าไหมครับ?


หัวข้อ: Re: FTA : ไทย - ญี่ปุ่น เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล (ขอสอบถามข้อมูล + ความเห็น)
เริ่มหัวข้อโดย: ภูพาน ที่ 23-06-2006, 11:51
สำหรับเรื่องประกันสุขภาพในญึ่ปุ่น
ต้องขอความคิดเห็นกับเพื่อนๆ ที่เคยไปสัมผัสมา
ผมก็อยากรู้เช่นกัน

หมอดีมีเยอะ....หมอไม่เก่งก็มีเช่นกัน....
หมอเก่งไม่ใส่ใจรายละเอียดก็มี...
แล้วหมอบอกว่าคุณ In The Name Of Justice เป็นอะไรครับ
นานแล้วยังไม่หาย....(ถ้าบอกไม่ได้ก็ไม่ต้องนะครับ)


หัวข้อ: Re: FTA : ไทย - ญี่ปุ่น เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล (ขอสอบถามข้อมูล + ความเห็น)
เริ่มหัวข้อโดย: In The Name Of Justice. ที่ 23-06-2006, 11:55
สำหรับเรื่องประกันสุขภาพในญึ่ปุ่น
ต้องขอความคิดเห็นกับเพื่อนๆ ที่เคยไปสัมผัสมา
ผมก็อยากรู้เช่นกัน

หมอดีมีเยอะ....หมอไม่เก่งก็มีเช่นกัน....
หมอเก่งไม่ใส่ใจรายละเอียดก็มี...
แล้วหมอบอกว่าคุณ In The Name Of Justice เป็นอะไรครับ
นานแล้วยังไม่หาย....(ถ้าบอกไม่ได้ก็ไม่ต้องนะครับ)


บอกว่าเป็น ต่อมน้ำลายอักเสบ ครับ สงสัยบ้าน้ำลายมากไปหน่อย

แค่ฟังอาการ แล้วบอกได้ทันทีเหมือนอัปดุลเลยครับ หมอท่านนี้

เบื้องต้นหมอแนะนำว่า อย่าพูดมาก... ครับ

ไปหามา 2 รอบแล้ว ไม่เปลี่ยนคำวินิจฉัย ไม่ตรวจใหม่

ยาเดิม อาการเดิม ตอนนี้กินยาหมดไป 2 ชุดแล้ว ไม่หาย เลิกหาหมอแล้วครับ

จนปัญญาจริงๆ  :mozilla_surprised:


หัวข้อ: Re: FTA : ไทย - ญี่ปุ่น เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล (ขอสอบถามข้อมูล + ความเห็น)
เริ่มหัวข้อโดย: จ้าวผิงกว่อ ที่ 23-06-2006, 12:00
คุณ In The name of Justice คะ JaoPing ขอแนะนำว่าพูดให้น้อยลงตามที่หมอสั่งอ่ะค่ะ น่าจะทำให้หายเร็วขึ้น เปลี่ยนจากพูด มาเป็นใช้มือพิมดีกว่าค่ะ.....แต่ระวังมืออักเสบอีกนะ  :D :D


หัวข้อ: Re: FTA : ไทย - ญี่ปุ่น เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล (ขอสอบถามข้อมูล + ความเห็น)
เริ่มหัวข้อโดย: จ้าวผิงกว่อ ที่ 23-06-2006, 12:01
คุณ In The name of Justice คะ JaoPing ขอแนะนำว่าพูดให้น้อยลงตามที่หมอสั่งอ่ะค่ะ น่าจะทำให้หายเร็วขึ้น เปลี่ยนจากพูด มาเป็นใช้มือพิมดีกว่าค่ะ.....แต่ระวังมืออักเสบอีกนะ  :D :D


หัวข้อ: Re: FTA : ไทย - ญี่ปุ่น เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล (ขอสอบถามข้อมูล + ความเห็น)
เริ่มหัวข้อโดย: ภูพาน ที่ 23-06-2006, 12:03
ผมคิดเหมือนคุณราชาวดีนะที่ว่า
ถ้าอักเสบทำไมไม่ให้ยาแก้อักเสบ ?
อาจลองถามหมอคนเดิม ?
หรือเปลี่ยนหมอดูนะครับ
อย่าไปซื้อยาทานเองเด็ดขาด...กรณีนี้
เพราะผมว่ามันสำคัญนะต่อมน้ำลายอักเสบ
อาจมีผลต่อระบบอื่นด้วย


หัวข้อ: Re: FTA : ไทย - ญี่ปุ่น เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล (ขอสอบถามข้อมูล + ความเห็น)
เริ่มหัวข้อโดย: นทร์ ที่ 23-06-2006, 12:46
เปลี่ยนไปหาหมอโรงพยาบาลเอกชน (ดังๆยิ่งดี)

แป๊บเดียวหาย


หัวข้อ: Re: FTA : ไทย - ญี่ปุ่น เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล (ขอสอบถามข้อมูล + ความเห็น)
เริ่มหัวข้อโดย: In The Name Of Justice. ที่ 23-06-2006, 13:05
คุณ In The name of Justice คะ JaoPing ขอแนะนำว่าพูดให้น้อยลงตามที่หมอสั่งอ่ะค่ะ น่าจะทำให้หายเร็วขึ้น เปลี่ยนจากพูด มาเป็นใช้มือพิมดีกว่าค่ะ.....แต่ระวังมืออักเสบอีกนะ  :D :D

มือไม่อักเสบง่ายๆหรอกครับ ผมทนเหมือนกระบืออยู่แล้ว

ถึงเจ็บจริงๆ ขออนุญาตใช้ส่วนอื่นพิมพ์คุยกับทุกคนนะครับ

ผมคิดเหมือนคุณราชาวดีนะที่ว่า
ถ้าอักเสบทำไมไม่ให้ยาแก้อักเสบ ?
อาจลองถามหมอคนเดิม ?
หรือเปลี่ยนหมอดูนะครับ
อย่าไปซื้อยาทานเองเด็ดขาด...กรณีนี้
เพราะผมว่ามันสำคัญนะต่อมน้ำลายอักเสบ
อาจมีผลต่อระบบอื่นด้วย

ตอนนี้น้ำลายท่วมปากครับ ไม่รู้เกี่ยวกันไหม?

เปลี่ยนไปหาหมอโรงพยาบาลเอกชน (ดังๆยิ่งดี)

แป๊บเดียวหาย

ติดตรงที่ไม่มีเงินเนี้ยสิครับ

ลองเห็นใบเสร็จผมคงช็อคตายแน่ครับ


หัวข้อ: Re: FTA : ไทย - ญี่ปุ่น เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล (ขอสอบถามข้อมูล + ความเห็น)
เริ่มหัวข้อโดย: ภูพาน ที่ 23-06-2006, 13:59
ไม่ทราบว่าคุณ In The Name Of Justice มีบัตร 30 บาทไหม.
ถ้ามีน่าจะไปลองตรวจดูนะ  หมออาจต่างจากประกันสังคม


หัวข้อ: Re: FTA : ไทย - ญี่ปุ่น เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล (ขอสอบถามข้อมูล + ความเห็น)
เริ่มหัวข้อโดย: In The Name Of Justice. ที่ 23-06-2006, 14:02
ถ้าใช้ประกันสังคม จะใช้ 30 บาทไม่ได้อ่ะครับ

ไม่รู้ว่าเพราะโรงบาลบัตรทอง กับ ประกันสังคมเป็นที่เดียวกันด้วยหรือไม่นะครับ


หัวข้อ: Re: FTA : ไทย - ญี่ปุ่น เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล (ขอสอบถามข้อมูล + ความเห็น)
เริ่มหัวข้อโดย: The Last Emperor ที่ 23-06-2006, 14:15
คนที่ใช้ 30 บาทนั้นมีแต่คนจนครับ
พวกที่มีตังค์แต่ทะลึ่งไปใช้บัตรทอง.......แล้วจะไปโวยวายทำไม


ประเด็นก็คือ คนจนสมัยนี้ไม่ต้องกำเงินสดๆเข้าโรงพยาบาลเพื่อให้หมอรักษาเหมือนสมัยก่อน


คนเมืองอย่าหาเรื่องคนจนเลยครับ คนในเมืองใช้ทรัพยากรมากกว่าคนตจว.ไม่รู้กี่เท่า หัดใจกว้างกันบ้างเถิดครับ


หัวข้อ: Re: FTA : ไทย - ญี่ปุ่น เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล (ขอสอบถามข้อมูล + ความเห็น)
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกไทย หลานไทย ที่ 23-06-2006, 14:26

ปล. ผมเจ็บปากมาร่วมเดือนแล้ว ไปหาหมอใช้ประกันสังคม หมอตรวจเสร็จภายใน 1 นาที บอกว่าต่อมน้ำลายอักเสบ

ยาที่ได้มาคือ ยาแก้ปวด กับ ยาคลายกล้ามเนื้อ หามา 2 รอบแล้วก็ได้ยาเดิมๆมาตลอด สรุปแล้วผมจะหายไหมครับ?

เป็นไปได้ว่าหมอเขากำลังรอให้เชื้อโรคมันค่อยๆทยอยแก่ตายไปเองครับ

ผมเคยรักษาด้วยประกันสังคมเหมือนกันครับ ตัวแดงไข้ขึ้นมีน้ำมูก พอเข้าไปยกมือหวัดดีแล้วนั่งหมอเขาก็พูดขึ้นมา เอ้า ไม่สบายเป็นไข้ ไอ มีน้ำมูกใช่ไหม เดี๋ยวหมอจะจัดยาให้นะ แล้วผมก็เดินออกจากห้องไปรับยาโดยที่หมอไม่ได้สัมผัสตัวผมเลยสักนิด

งานนั้นปรากฎว่าผมเป็นไข้หวัดใหญ่ครับ น้ำหนักลงไป 10 โล สารรูปเหมือนคนติดยาเสพติด จนอีกสองอาทิตย์ต่อมาโดนตม.ที่ new zealand กักตัวเป็นชั่วโมงคงนึกว่าผมเป็นพวกแอบอพยพเข้ามาขายยาเพราะรูปร่างมันโทรมเต็มทน เกือบไม่ได้เที่ยวประเทศเขาแล้ว

30 บาทรักษาทุกโรค ประกันสังคม หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เป็นการรักษาโรคฟรี หรือเกือบฟรี หากจะมีอยู่ต่อไปต้องปรับปรุงในจุดอ่อนที่มีอยู่ในปัจจุบันครับ อันดับแรกคือเรื่องคุณภาพการบริการ อันดับที่สองคือเรื่องเงินทุนในการให้บริการ


หัวข้อ: Re: FTA : ไทย - ญี่ปุ่น เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล (ขอสอบถามข้อมูล + ความเห็น)
เริ่มหัวข้อโดย: In The Name Of Justice. ที่ 23-06-2006, 14:31
คนที่ใช้ 30 บาทนั้นมีแต่คนจนครับ
พวกที่มีตังค์แต่ทะลึ่งไปใช้บัตรทอง.......แล้วจะไปโวยวายทำไม


ประเด็นก็คือ คนจนสมัยนี้ไม่ต้องกำเงินสดๆเข้าโรงพยาบาลเพื่อให้หมอรักษาเหมือนสมัยก่อน


คนเมืองอย่าหาเรื่องคนจนเลยครับ คนในเมืองใช้ทรัพยากรมากกว่าคนตจว.ไม่รู้กี่เท่า หัดใจกว้างกันบ้างเถิดครับ

ผมถามหาคุณภาพครับ เพราะผมเสียเงินค่าประกันสังคมไปแล้วนะครับ

แต่ว่ารักษาแบบขอไปที อย่างดีก็ตายคามือหมอ ผมว่าไม่ยุติธรรมครับ

ไม่ได้หาเรื่องคนจนนะครับ คุณอย่ามองพันธมิตรด้วย อคติ สิครับ

หรือถ้าเห็นว่าคำไหนที่ว่ามามันเป็นอย่างนั้น ยกตัวอย่างด้วยครับ

____________________________________________


ปล. ผมเจ็บปากมาร่วมเดือนแล้ว ไปหาหมอใช้ประกันสังคม หมอตรวจเสร็จภายใน 1 นาที บอกว่าต่อมน้ำลายอักเสบ

ยาที่ได้มาคือ ยาแก้ปวด กับ ยาคลายกล้ามเนื้อ หามา 2 รอบแล้วก็ได้ยาเดิมๆมาตลอด สรุปแล้วผมจะหายไหมครับ?

เป็นไปได้ว่าหมอเขากำลังรอให้เชื้อโรคมันค่อยๆทยอยแก่ตายไปเองครับ

ผมเคยรักษาด้วยประกันสังคมเหมือนกันครับ ตัวแดงไข้ขึ้นมีน้ำมูก พอเข้าไปยกมือหวัดดีแล้วนั่งหมอเขาก็พูดขึ้นมา เอ้า ไม่สบายเป็นไข้ ไอ มีน้ำมูกใช่ไหม เดี๋ยวหมอจะจัดยาให้นะ แล้วผมก็เดินออกจากห้องไปรับยาโดยที่หมอไม่ได้สัมผัสตัวผมเลยสักนิด

งานนั้นปรากฎว่าผมเป็นไข้หวัดใหญ่ครับ น้ำหนักลงไป 10 โล สารรูปเหมือนคนติดยาเสพติด จนอีกสองอาทิตย์ต่อมาโดนตม.ที่ new zealand กักตัวเป็นชั่วโมงคงนึกว่าผมเป็นพวกแอบอพยพเข้ามาขายยาเพราะรูปร่างมันโทรมเต็มทน เกือบไม่ได้เที่ยวประเทศเขาแล้ว

30 บาทรักษาทุกโรค ประกันสังคม หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เป็นการรักษาโรคฟรี หรือเกือบฟรี หากจะมีอยู่ต่อไปต้องปรับปรุงในจุดอ่อนที่มีอยู่ในปัจจุบันครับ อันดับแรกคือเรื่องคุณภาพการบริการ อันดับที่สองคือเรื่องเงินทุนในการให้บริการ

แปลกครับว่า ทำไมคนจ่าย 30 บาทผ่าไส้ติ่งได้ แล้วผมจ่ายทุกเดือน รักษาไม่หาย

หรือว่าเพราะผมไม่ได้เลือกท่านนายกครับ เลยไม่ได้รับการดูแล  :mozilla_yell:


หัวข้อ: Re: FTA : ไทย - ญี่ปุ่น เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล (ขอสอบถามข้อมูล + ความเห็น)
เริ่มหัวข้อโดย: The Last Emperor ที่ 23-06-2006, 14:43
"ผมถามหาคุณภาพครับ เพราะผมเสียเงินค่าประกันสังคมไปแล้วนะครับ"


ประสพการณ์1-2ครั้ง....คงสรุปไม่ได้หรอกครับว่าคุณภาพการรักษาคุ้มค่ากับเงินประกันสังคมที่จ่ายไปหรือไม่ อย่าลืมเป็นอันขาดครับว่าทุกบาทที่พวกเราจ่ายเงินประกันสังคมไป สวัสดิการหลายอย่างที่ประกันสังคมมี...คุณต้องศึกษาเอาเอง อย่างน้อยที่เห็นเป็นเนื้อเป็นหนัง หากคุณตกงาน...เบิก 50% ของเงินเดือนล่าสุดได้ 6 เดือน

อีกประการ....ความคาดหวังเรื่องคุณภาพการรักษาของแต่ละคนย่อมไม่เท่ากันอยู่ดี ลองถาม 100 คนซิครับว่าจะได้รับคำตอบเหมือนกันมั้ย...ขนาดเสียเงินรักษาในร.พ.เอกชน ยังไม่มีคนไข้100%เลยที่พอใจเหมือนกันหมด เช่น บางคนคาดหวังว่าไปหาหมอได้ยามาแล้ว 2 วันต้องหาย ในขณะที่คนอื่นๆอาจคาดหวัง 5 วัน 7 วัน หรือ 1 วันอาการป่วยต้องหาย เป็นต้น

ผมว่าเรามองภาพรวมดีกว่าครับว่า 30 บาท หรือประกันสังคมดีต่อคนจนและมนุษย์เงินเดือนไหม...ถ้าข้อดีมีมากกว่าข้อเสีย ก็ต้องยอมรับ แต่ถ้าเห็นว่าข้อเสียมีมากกว่าก็ต้องช่วยกันผลักดันผ่านพรรคการเมืองให้เลิกสนับสนุนนโยบายดังกล่าว


หัวข้อ: Re: FTA : ไทย - ญี่ปุ่น เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล (ขอสอบถามข้อมูล + ความเห็น)
เริ่มหัวข้อโดย: In The Name Of Justice. ที่ 23-06-2006, 14:57
ก็คงต้องยอมรับครับเรื่องความคาดหวัง ว่ามันไม่เท่ากัน

แต่หลายๆคน ก็ต้องเคยผ่านการรักษาแบบนี้มาแล้วทั้งนั้นครับ

ปัญหาที่แท้จริงคือ คุณภาพยา และ คุณภาพหมอ ครับ...

ต้องขอบอกเลยนะครับว่า นี้ไม่ใช่การใช้ประกันสังคมครั้งแรกของผมครับ

ที่ผ่านมา เคยเจ็บตรงท้องน้อย เจ็บแบบเดินไม่ได้เลย

ไปหาหมอก็ได้ ยาคลายกล้ามเนื้อ+ยาแก้ปวด มากินเท่าไรก็ไม่หายครับ

จนผมต้องรอให้มันหายเอง ร่วม 2 เดือนครับ

อันนี้คือตัวอย่างของผม ซึ่งมีทั้ง ประกันสุขภาพ และ ประกันสังคมอยู่ที่เดียวกัน

สำหรับที่อื่นผมคงเถียงไม่ได้ครับว่ามัน ดีหรือไม่ดีอย่างไรนะครับ...

แต่อยากบอกคุณ อะไรจ๊ะว่า แนวโน้มมันเปลี่ยนไปแล้วครับ

หมอที่อยากได้ค่าตอบแทนสูง ก็ออกไปอยู่กับโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งคอยให้บริการชาวต่างชาติ

แต่คนไทยกำลังจะได้การรักษาเยียวยาแบบ ขอไปทีครับ

จะถามหาคุณภาพ แบบตอนที่ 30 บาทมาใหม่ๆแทบไม่ได้แล้วครับ


หัวข้อ: Re: FTA : ไทย - ญี่ปุ่น เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล (ขอสอบถามข้อมูล + ความเห็น)
เริ่มหัวข้อโดย: The Last Emperor ที่ 23-06-2006, 15:09
ทางเลือกของคนจนมีไม่มากครับ...ไม่งั้นจะมี 30 บาท หรือประกันสังคมทำไม? ประเด็นสำคัญก็คือ ทุกรัฐบาลพยายามปรับปรุงการรักษาให้ดีขึ้นเรื่อยๆเพราะต้องการคะแนนเสียงของชาวบ้านนั่นเอง ส่วนตัวผมเองมีทั้งประกันสุขภาพ+ประกันสังคม แต่ผมใช้บริการแต่ประกันสุขภาพก็เลยไม่ต้องไปปวดหัวกับประกันสังคม แต่ผมยินดีจ่ายประกันสังคมเพื่อให้คนจนอื่นๆได้รับยา/การบริการที่ดีขึ้น

อีกนัยหนึ่ง....ทำบุญเงินประกันสังคมไปเถอะครับ เมื่อคุณตกงาน...ผลบุญก็จะบังเกิดแก่ตัวคุณเอง


คิดแบบนี้จะได้สบายใจอ่ะครับ :lol:


หัวข้อ: Re: FTA : ไทย - ญี่ปุ่น เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล (ขอสอบถามข้อมูล + ความเห็น)
เริ่มหัวข้อโดย: In The Name Of Justice. ที่ 23-06-2006, 15:32
ถ้าอย่างนั้น ผมว่า รื้อระบบนี้จะดีไหมครับ?

คนจนเสีย 30 บาท

มนุษย์เงินเดือน เสียประกันสังคม

ผมเชื่อว่าเงินที่ผมเสียประกันสังคมนั้น ก็กลับไปแชร์ส่วนของคนจนด้วยเหมือนกัน

ไม่เป็นไร!!! เราอยู่ร่วมสังคมเดียวกัน ยังไงผมก็ต้องจ่ายเอาไปทำอะไรให้เป็นประโยชน์เถอะ

แต่ว่ามาตรฐานตอนนี้มันไม่เท่าเทียมกันครับ ไม่ต้อง30บาทเท่ากันได้ไหม

ผมป่วย ก็ต้องการหายป่วยครับ เพราะอย่างนั้นขอราคายุติธรรมครับ

ไม่ใช่ประกันสังคม รักษาไม่หาย 30 บาท รักษาไม่หาย

จะเอาให้หายจ่ายเป็นพัน ผมว่าแย่ครับ   :(


หัวข้อ: Re: FTA : ไทย - ญี่ปุ่น เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล (ขอสอบถามข้อมูล + ความเห็น)
เริ่มหัวข้อโดย: ภูพาน ที่ 24-06-2006, 11:28
ต้องขอโทษคุณ In The Name Of Justice. ด้วยครับ
ที่ให้ความเห็นผิดๆ ไปเรื่องต่อมน้ำลายอักเสบ
ถามจากผู้รู้ใกล้ตัว (พยาบาล)
เขาว่า การอักเสบมี 2 แบบคือแบบติดเชื่อโรค และแบบไม่ติดเชื่อโรค
ดังนั้นแล้วแผลอักเสบไม่ทุกกรณีที่ต้องกินยาแก้อักเสบ (ยาปฏิชีวนะ)
เช่นการอักเสบจากการเล่นกีฬาหนักๆ
และสำหรับการติดเชื้อโรค  ถ้าเป็นเชื้อแบคทีเรีย อันนี้มียากิน
แต่ถ้าเป็นติดเชื้อไวรัส ยังไม่มียารักษานะครับ เป็นเพียงการรักษาตามอาการเท่านั้น