ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: นทร์ ที่ 21-06-2006, 17:28



หัวข้อ: โสภณ-บัวสอน” เฉียดคุกจ๋อยสนิท-ศาล ปค.คาดโทษชี้เจตนาหมิ่นชัด
เริ่มหัวข้อโดย: นทร์ ที่ 21-06-2006, 17:28
    2 ส.ส.ไทยรักไทย “โสภณ-บัวสอน” จ๋อยสนิท บอกเข็ดแล้ว ต่อไปจะหุบปากไม่กล้าทำอีก หลังศาลปกครองพิพากษาเฉียดคุกฐานทำปากดีวิจารณ์หมิ่นศาล ปรานีแค่สั่งสอนตักเตือนคาดโทษ ระบุเป็นการพูดเพื่อหาประโยชน์ทางการเมืองส่วนตัว และมีเจตนาไม่สุจริตและข่มขู่ชัดเจน
       
       วันนี้ (21 มิ.ย.) เวลา 13.45 น. ที่ศาลปกครองกลางมีการอ่านคำสั่งคดีดำ ล 1/2549 คดีละเมิดอำนาจศาล ของนายโสภณ เพชรสว่าง และนายบัวสอน ประชามอญ อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย กรณีวิพากษ์วิจารณ์การพิจารณาคดีของศาล ระหว่างคดีที่ นายโพธิพงศ์ บันลือวงศ์ กับพวก 11 คนร่วมกันฟ้องคดีคณะกรรมการการเลือกตั้งดำเนินการเลือกตั้งในวันที่ 2 เมษายน ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ในการหันคูหาเลือกตั้ง และมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวระงับการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 29 เมษายน
       
       โดยศาลวิเคราะห์เห็นว่า คำแถลงข่าวของนายโสภณ เมื่อวันที่ 1-3 พฤษภาคม ที่แถลงที่รัฐสภาเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ศาลที่อยู่ระหว่างดำเนินคดีของศาล และยังไม่มีคำพิพากษา ถือเป็นการชี้นำศาลในการพิจารณาคดี ในฐานะ ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เป็นการวิจารณ์เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ไม่สุจริตและยังกล่าวหาศาลว่าไม่มันใจในการทำงาน ที่ระบุว่า ศาลปกครอง บางคนมีความผูกพันกับฝ่ายค้าน จะให้ประโยชน์กับบางพรรคการเมืองเป็นการทำงานที่เอนเอียง ตลอดจนการให้สัมภาษณ์ จะพิจารณา และตรวจสอบการทำงานของศาล แต่นาย โสภณไม่ได้ยืนยันว่าคำกล่าวอ้างมีข้อมูล หรือได้ข้อมูลมาจากแหล่งใด และจากใคร เป็นการกล่าวอ้างแบบลอยๆ โดยไม่ใช้สิทธิที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น การร้องสอดมาในคดี แต่เป็นการกระทำ และการกล่าวอ้างลอยๆ ดังนั้น การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอำนาจศาล
       
       ส่วน นายบัวสอน ที่ได้มีการแถลงผ่านสื่อว่า หากศาลมีคำสั่งให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ และเป็นผลให้บ้านเมืองวุ่นวาย แล้วศาลจะรับผิดชอบอย่างไร และจะยื่นถอดถอนศาลปกครอง แม้คดีดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ดังนั้น คำแถลงดังกล่าวมีเจตนาข่มขู่ เพื่อให้มีอิทธิพลเหนือศาล เพื่อหวังผลไม่ให้ศาลพิจารณาคดีเป็นอย่างที่ตนไม่ต้องการ แม้จะขออภัย และรับผิดชอบ ตามข้อกล่าวหา แต่การกระทำดังกล่าวก็ถือว่าเป็นการละเมิดอำนาจศาล
       
       ดังนั้น ศาลปกครองมีอำนาจในการลงโทษตักเตือน จนถึงสั่งจำคุก แต่พฤติการณ์มีเจตนาข่มขู่คุกคาม แต่นายโสภณ และนายบัวสอน มีความสำนึก พยายามผ่อนคลายและขออภัยต่อหน้าศาล พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งศาล ศาลจึงเห็นว่าไม่จำเป็นต้องจำคุก แต่ลงโทษตำหนิไว้เป็นลายลักษณ์อักษร
       
       นายโสภณ กล่าวภายหลังมีคำสั่งศาลว่า หลังจากเหตุการณ์นี้จะนำไปทำงานให้เป็นประโยชน์กับส่วนร่วม โดยถ้าไม่จำเป็นก็จะไม่ไปวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของศาล และอยากฝากเตือนนักเมืองไม่ควรตกใจ และไปวิจารณ์การทำงานของศาล แต่ควรศึกษาในรายละเอียดให้รอบคอบ จึงต้องขอขอบคุณศาล แม้จะไม่ลงโทษ และสื่อก็เช่นเดียวกันในการนำคำให้สัมภาษณ์ลงตีพิมพ์ อาจมีความคลาดเคลื่อน ซึ่งนี่เป็นบทเรียนที่ดีสำหรับตน
       
       ก่อนหน้านี้ เมื่อนายโสภณถูกหมายเรียกจากศาลให้ไปให้ปากคำ นายโสภณได้ปฏิเสธว่าไม่ได้ให้สัมภาษณ์อย่างนั้น พร้อมทั้งโทษว่าสื่อมวลชนเสนอข่าวบิดเบือน สรุปคำพูดผิดความหมาย

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000080414

เตือนถึงคนที่กำลังทำหรือคิดจะทำแบบ 2 คนให้ระวังมากขึ้น