ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

[/color]

ไม่รู้จริงๆ หรือว่าแกล้งถามค่ะ

แต่ถ้าเข้าใจเจตนาของคุณผิดก็ขออภัยด้วย

คือเราไม่ใช่คนเก่งอะไร ไม่ใช่คอการเมืองเท่าไหร่ แต่สนใจบ้างและแยกแยะได้

เป็นคนอุบลค่ะ..อีสานโดยรวมไม่แน่ใจ
แต่เสียงที่อุบลมักไปตามกระแสมากกว่า
อย่างคราวที่แล้ว สส..จาก ปชป..ก็เบียดเข้ามาได้ 2 คน ในเขต 1 อ.เมือง
นอกนั้นไม่รู้ว่าพรรคไหนได้บ้าง
แต่ที่แน่ๆ สส. อุบล ได้แบบกระจายมากกว่า

คนอีสาน ตามความรุ้สึกของเรา คือ ค่อนข้างรอโชค วาสนา คนมาหยิบยื่นมือเข้ามาช่วย ไม่ค่อยคิดที่จะพึ่งตัวเองเท่าไหร่..
ถ้าวันนี้คุณเดินเข้าไปถามอะไรเขา คำถามแรกที่มักจะเจอคือ เอาอะไรมาแจก ((เจอมาเองกับตัวมาแล้ว เข้าไป 10 หลังคาเรื่อน เจอถามแบบนี้ไม่น้อยกว่า 5 หลังคาเรื่อน))

ฉะนั้นไม่แปลกหรอกค่ะ ที่คนในชนบทจะชอบทักษิณ เพราะเค้าแจก แจกมากด้วย
มีเพื่อนสนิท ทำงานอยู่ในกรมบังคับคดี บอกว่า มีพี่คนนึงย้ายมาจากอีสาน บอกว่าที่คนอีสานรักทักษินเพราะเค้าแจกเงิน
ในขณะที่.......(ไม่กล้าเติมเพระไม่รุ้ว่าจะเป็นการหมิ่นหรือเปล่า...ถ้ายังไงก้ลบได้นะคะ)
ไม่เคยเอาเงินมาให้....

ได้ฟังแล้วก็ได้แต่นั่งถอนใจ นี่แหล่ะค่ะ ความคิดตื้นๆๆ...ของคนที่คิดได้แค่นั้น

สิ่งที่ท่านให้นั้น มากมายมหาสาล เราเองถึงแม้จะไม่ได้รับจากพระองค์ท่านโดยตรงก็แต่ก้รับรู้ได้ว่าสิ่งนั้นลำค่ามากแค่ไหน

[/b]

สาว ๆ ก็เป็นกะหรี่  หรืออย่างดีหน่อยก็รอจับผู้ชายรวย ๆ เอาเป็นผัว ( เป็นเมียน้อยเขาก็ไม่เป็นไร )
หนุ่ม ๆ แข็งแรงหน่อยก็เป็นกุ๊ย
หนุ่ม ๆ ขี้โรค - ขี้ยา - ขี้เมา ก็เป็นขี้ข้าอย่างเลวให้เขาอุปถัมปด้วยความสมเพชเวทนา
ผู้หญิงแก่ ๆ ก็เป็นขอทาน
ผู้ชายแก่ ๆ ก็อาศัยผ้าเหลืองขอข้าวชาวบ้านแดกไปจนกว่าจะตาย

กลุ่มคนแบบนี้ล่ะคือเสียงส่วนใหญ่ของประเทศ
เป็นกลุ่มคนผู้กำหนดชะตากรรมให้แผ่นดิน
1 แมน 1 โหวต  เท่ากัน

 :slime_sentimental

ได้ผลประโยชน์เข้าตัว

เงินทองชาติก็ไม่สำคัญ

ก็เค้าคิดว่า รับมาแล้ว ก็ต้องเลือกไง บุญคุณน่ะ รู้จักอ๊ะป่าววว  :slime_bigsmile:

ว่าแต่ว่าคุณเลิกใช้ตัววิ่งเหอะ อ่านยากมาก  :slime_dizzy:

ผมคิดว่าก็เป็นเรื่องจริงน่ะครับ จะทำอย่างไรดี คนจนบ้านเราจะมีการพัฒนาศักยภาพเทียบ กับต่างประเทศได้หนอ 

ก็คงต้องทำความเข้าใจว่ คนส่วนใหญ่ของประเทศ ยังคิดว่าตัวเองอยู่ในระบบอุปถัม แต่คนบางพวกกับเอาเสียงเหล่านี้มาอ้างความเป็นเสรีประชาธิไตย

ก็ต้องยอมรับว่าเศษเงินที่โปรยลงไปมันทำให้เค้ารู้สึกได้ว่า ทักษินดีจริง แต่คนมองภาพใหญ่แล้วเห้นผลสะท้อนย่อมไม่ปลื้ม

ใช้ชื่อว่าป๋าเปรมสู้ มาด่าคนอีสานมันหมายความว่าอย่างไร

ด่านักการเมืองโกงชาติสิ อย่าเล่นด่าคนทั้งภาค

 :slime_mad:

ไอ้เหลิมก็อ้าง "อีสาน"
สส.พลังประชาชนทั้งหมดก็อ้าง "อีสาน"
ลิ่วล้อไอ้แม้ว  อย่างไอ้สุชาติ อีดา ก็อ้าง "อีสาน"

ถ้าจะปกป้องอีสาน
คนอีสานก็ต้อง "ถีบ" ไอ้พวกกองเชี่ยขี้ข้าหน้าเหลี่ยมเหล่านี้ออกจาก "เกราะกำบัง" ที่เรียกว่า "อีสาน" เสียก่อน
ไม่เช่นนั้นแล้วก็เท่ากับว่ายินดีให้พวกมัน "ใช้อีสาน" หาผลประโยชน์

ถ้ากำลังพูดถึง "ประเทศ"
ความเป็นคน "เหนือ - ใต้ - อีสาน - อีถัก - อีทอ"
ไม่ได้มีคุณค่าอะไร

อย่าโกรธถ้ามีใครบอกว่า
"เสื้อผ้าที่คุณใส่มาสกปรกว่ะ"
เพราะในความหมาย - นัยยะของคนที่พูด  เขาอาจหมายถึง
"เฮ้ย...ไปอาบน้ำซะ"
เพราะหลังจากนั้น คุณ เขา และใคร ๆ ต่างต้อง "ผลัดเสื้อผ้า" เพื่อมาสวมเสื้อ "ทีมเดียวกัน"

เพราะปี ๒๕๔๘ คนอีสานกาเบอร์ ๔

พอมาปี ๒๕๕๐ คนอีสานก็กาเบอร์ ๑๒

ผลที่ออกมาก็คือปี ๒๕๔๘ เลือกทักษิณ ปี ๒๕๕๐ เลือกพลังประชาชน แค่นี้... :slime_sentimental: :slime_sentimental: :slime_sentimental:

สาเหตุเป็นอย่างที่หลายท่านพูดมาจริง กลับบ้าน (ขอนแก่น) ที่ไรก็เก็บ
ความคับข้องใจจากชาวบ้านกลับมาทุกที่ค่ะ ตราบใดที่พวกมันยังแจกไม่เลิก
เขาให้ของฟรีก็ว่าเขาทำดี ต้องตอบแทน ตามความความคิดตื้นๆ พวกเขา
คิดเท่านี้จริง และเชื่อว่ากลุ่มที่ให้ (แจก)พวกเขา คงจะเข้ามาทำให้พวกเขา
อยู่ดีกินดีต่อไป ด้วยความชื่อจึงไม่คิดแม้แต่น้อยว่าพวกมันจะถอนทุนคืนอีก
เป็นร้อยเท่าพันเท่า ลมปากพวกนี้มันดี โกหกไอ้นั่น หลอกไอ้นี่
จากที่เคยพูดคุยด้วย ชาวบ้านชื่อๆ พวกนี้ไม่คิดและไม่เชื่อว่าจะมีคนชั่วและ
กล้าทำกับบ้านเมือง)

จะมีใครสามารถฉุดพวกเขาขึ้นมาจากความจมปรักนี้ได้หนอ
เศร้าใจกับบ้านเกิดจัง

ช่วงหลังนี้มีคนหูตาสว่างขึ้นเยอะค่ะ
(ดีใจที่พ่อกัแม่ตาสว่างซะที)

 :slime_bigsmile: :slime_sentimental: :slime_bigsmile:
  ก็ทักษิณจับทางถูก เขารู้ว่า ชาวบ้านพวกนี้หลอกง่าย แล้วเขาเงินหนา เลยทำให้มันได้เสียงข้างมากทุกครั้งที่เลือก
  และคนอิสาน เขาซื่อที่ ใครให้เงินก็ต้องตอบแทน พวกนี้ไม่มีเหล์เหลี่ยม ไม่งั้นรับเงินแล้วไม่ต้องไปเลือกมันเลย
  ตอนนี้คือปัญหา ที่พวกเราต้องพยายามช่วยกัน ให้ความรู้กับพ่อแม่พี่น้องชาวอิสาน เวลาจะชี้แจงอะไรอย่างไปว่า
  เขาโง่ ถ้าว่าอย่างนั้นเขายิ่งต่อต้านหนัก ที่สำคัญน่าจะติดจาน ASTV ให้เขาดูนะ เขาจะได้รับสื่อที่เป็นความจริง
  ถ้าใครมีญาติพี่น้อง ยอมเสียสละกันเถอ เสียเงิน ไม่ถึง 2000 บาท ติดให้เขา เดี๋ยวเขาก็ชักชวนคนมาดู พอดูแล้วเกิด
  ปัญญา เดี๋ยวคนอื่นก็ติดตาม ตอนนี้ต้องให้คนภาคอิสาน รับรู้ข่าวสารให้มาก ให้พวกเขาเห็นความจริง ถ้าคนกลุ่ม
  นี้ไม่สามารถซื้อได้ ประเทศไทยจะเดินไปได้สวยจริง แล้วคนอย่างทักษิณ ก็จะไม่สามารถมาหลอกพวกเขาได้อีก ช่วยๆ กันนะพี่น้อง

เอาไปใส่ไว้อีกกระทู้...เลยขออนุญาตก๊อปมาต่อก็แล้วกัน.....(เล่นดื้อ ๆ แบบนี้ล่ะ)

ผมออกไปทำงานในชนบทเคยถามชาวบ้านโดยเฉพาะผู้เฒ่า ผู้แก่ ว่าทำไมถึงรักถึงชอบ พ.ต.ท.ทักษิณฯ โดยที่ไม่ยอมรับฟังเหตุผลใด ๆทั้งสิ้น

คำตอบที่ผมเคยได้รับ คือ  ก็เผิ้นหล่อ เผิ้นรวย เผิ้นใจดี เผิ้นมีเงินเป็นแสน ๆ เป็นล้าน ๆ เอามาให้ยายตอนใกล้เลือกตั้งคนละ 200 - 300 บาท ผู่อื่นบ่เห็นไผเอามาให้จักเถื่อ เฒ่าชวนแฮ่งแล้วบ่เคยให้อีหยัง

นี่ทักษิณเงินเดือนผู้เฒ่าเผิ้นกะให้ บ่ให้แม่ฮัก แม่ชอบจั่งได๋

พอเราเริ่มบอกว่าทักษิณไม่ได้ดีอย่างที่คิดหรอก ผมโดนสวนเลย

บ่ฮู้ล่ะ..ไผซิว่าเผิ้นซั่ว เผิ้นเลว กะแม่บอกแล้วว่าแม่ฮักเผิ้น แม่ก็ต้องฮัก

พูดไม่พูดเปล่าน้ำตาหยดแหมะ พร้อมยกชายผ้าขาวผ้าขึ้นซับน้ำตา แล้วพ่วงท้ายด้วยคำพูดที่ว่า "สงสารเผิ้นหลาย ๆ "

แค่นี้ผมก็โบกมืออำลาแล้ว..เพราะไม่รู้จะพูดอะไรอีกต่อไปดี เฮ้อ..ชีวิต..   :slime_v: :slime_v: :slime_v:

ฝากลุงแคน..ถ้าแวะมาก็ช่วยแปลลาวเป็นไทยด้วยแล้วกัน

เขาฉลาดเพราะเขารู้ว่ามันซื้อเสียงกันทุกพรรค เขาก็รับเงินทุกคนที่ให้ แต่เขาเลือกพรรคที่ทำงานจริง ไม่ใช่ทำงานด้วยปาก....อย่างในรูป

ความจริง อย่างที่ปู่เย็นบอก หากอยู่ในช่วงหาเสียง ปู่เย็นจะโดนนักการเมือง(เหี้-ย)ถล่มแหลก
อย่างแน่นอน พวกมันจะเอาเรื่องนี้ไปบอกกับชาวบ้าน ว่าปู่เย็นดูถูกคนอิสาน แล้วก็จะปลุกระดมให้ชาวอิสานรุมตื๊บปู่ฯ พร้อมกับประกาศ
ห้ามไม่ให้ปู่เย็นเหยียบอิสานอีกต่อไป.......เอิ้กกกกกกก
 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:

วันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2551 เวลา 09:18:05 น.  มติชนออนไลน์

เทียบเคียง 2 ปรากฏการณ์ "ทักษิณ"หนี!หลบ"ปืน"-เลี่ยงขึ้นศาล

"ก่อนอื่นกระผมต้องกราบขอประทานอภัยต่อคณะผู้พิพากษาคดีที่ดินรัชดาและพี่น้องประชาชนผู้สนับสนุนผม ที่ผมและภรรยาได้เดินทางมาพำนักที่ประเทศอังกฤษ.... และไม่ได้ไปรายงานตัวต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง"

แถลงการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ส่งตรงมาจากประเทศอังกฤษนั้นได้ตอกย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า "ยุคทักษิณ" หนีคดี

แถลงการณ์ดังกล่าวเป็นเครื่องยืนยันอย่างชัดแจ้งว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ตัดสินใจ "หนี" คดีที่ถูกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. ฟ้องร้อง

แม้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะแสดงความนอบน้อมต่อการกระทำดังกล่าว

"ก่อนอื่นกระผมต้องกราบขอประทานอภัยต่อคณะผู้พิพากษาคดีที่ดินรัชดาและพี่น้องประชาชนผู้สนับสนุนผม ที่ผมและภรรยาได้เดินทางมาพำนักที่ประเทศอังกฤษ.... และไม่ได้ไปรายงานตัวต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง"

แต่สุดท้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ก็แสดงเหตุผลในการ "หนีคดี"

หนึ่ง คือ อ้างความไม่ปลอดภัย

"มีความต้องการขจัดผม (หมายถึง พ.ต.ท.ทักษิณ) ออกจากการเมือง ด้วยการพยายามลอบสังหาร ตามมาด้วยการปฏิวัติรัฐประหาร แต่งตั้งคณะบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์มาสอบสวนดำเนินคดีเฉพาะตัวผมและครอบครัว ร่างรัฐธรรมนูญที่สืบทอดอำนาจเผด็จการ แต่งตั้งบุคคลที่สนับสนุนการปฏิวัติรัฐประหารทั้งทางตรงและทางอ้อมเข้าไปเป็นกรรมการในองค์กรต่างๆ เพื่อดำเนินการกับผม"

และอีกหนึ่ง คือ อ้างว่ามีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม

"การแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม และการใช้ระบบ 2 มาตรฐานที่เห็นได้อย่างชัดเจน ทำให้ผมและครอบครัว พร้อมด้วยผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ได้รับความเป็นธรรม"

ด้วยเหตุนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงบอกว่า "วันนี้ยังไม่ใช่วันของผม ขอให้ผู้สนับสนุนผมอดทนอีกนิดหนึ่ง"

และ.."หากผมยังมีวาสนา ผมจะขอกลับมาตายบนผืนแผ่นดินไทยเฉกเช่นคนไทยทุกคน"

คำแถลงการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณดังกล่าวสร้างผลกระทบต่อเมืองไทย กระทั่งนายเตช บุนนาค ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ถึงกับต้องทำหนังสือชี้แจงทูตประเทศต่างๆ

ยืนยันความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรมไทย!

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น คล้ายคลึงและใกล้เคียงกับเหตุการณ์หลังวันที่ 19 กันยายน 2549

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันว่า "ทักษิณ" แพ้รอบสอง

พ่ายแพ้หลังจากที่เคยแพ้มาครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อคณะนายทหาร 3 เหล่าทัพใช้กำลังทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 

ครั้งนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องเร่ร่อนอยู่ต่างประเทศเป็นเวลานาน

แต่ความพ่ายแพ้ในรอบนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ฮึดสู้ต่อ ด้วยการเคลื่อนไหวไปมารอการเลือกตั้งทั่วไปอีกครั้ง

ขณะที่ฝ่ายรัฐประหาร พยายามลบชื่อ "ทักษิณ ชินวัตร" ออกจากการเมืองไทย โดยเสนอชื่อ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ซึ่งได้รับการยกย่องว่า "มือสะอาด" เข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

เปลี่ยนชื่อ "รากหญ้า" เป็น "รากแก้ว"

เปลี่ยนนโยบายเศรษฐกิจแบบทุน เป็นนโยบายเศรษฐกิจพอเพียง

แต่ปรากฏว่าตลอดระยะเวลา 1 ปีกว่าๆ ที่รัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ บริหารราชการแผ่นดิน
คนไทยส่วนหนึ่งยังไม่ลืมชื่อ "ทักษิณ"

ผลการเลือกตั้งทั่วไป วันที่ 23 ธันวาคม 2550 ที่พรรคพลังประชาชน ซึ่งก็คือ พรรคไทยรักไทยเดิม จึงได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง

ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้หาโอกาสกลับคืนสู่ประเทศไทยอีกครั้ง โดยอ้างว่าจะมาต่อสู้คดี

การกลับมาครั้งนั้นทำให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คู่อริ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง
และเมื่อคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. ทยอยส่งฟ้องคดีที่มี พ.ต.ท.ทักษิณเกี่ยวข้อง

เมื่อฝ่ายตุลาการสั่งให้ "ทนายความ" คดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ และลูกน้องเข้าคุกฐานละเมิดอำนาจศาล กรณีพบถุงขนมใส่เงิน 2 ล้านบาท
กระทั่งศาลอาญามีคำพิพากษาตัดสินจำคุกคุณหญิงพจมาน ชินวัตร และพวก ในคดีหลบเลี่ยงภาษีหุ้นชินคอร์ป

พ.ต.ท.ทักษิณ จึงตื่นตระหนก และถือโอกาส "หนี" ในช่วงที่ไปดูพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิคเกมส์ที่ปักกิ่ง

การกระทำครั้งนี้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งที่สอง

นับแต่นี้ไป พ.ต.ท.ทักษิณ คงต้องใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศเป็นเวลานานอีกครั้ง
และเป็นความพ่ายแพ้ที่ทำให้ "การเมืองไทย" ย้อนกาลเวลากลับไปเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 อีก

พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องหลบหนีเหมือนครั้งก่อน

ครั้งก่อนหลบหนีจากอำนาจ "ปืน" ส่วนวันนี้หลบหนี "คดี"

ครั้งก่อน พ.ต.ท.ทักษิณ มีความชอบธรรม ส่วนวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ หมดความชอบธรรม
ครั้งก่อน พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่าจะกลับมา วันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็รอจังหวะเวลากลับมา
ครั้งก่อนพรรคไทยรักไทยกำลังจะถูกยุบ วันนี้พรรคพลังประชาชนอยู่ระหว่างการพิจารณายุบพรรค
ครั้งก่อนมีข่าวว่ามีคนทรยศ พ.ต.ท.ทักษิณ วันนี้เรื่อง "มิตรเก่า" เปลี่ยนไปเริ่มหนาหูขึ้น

แต่สุดท้ายของการเมืองไทย ยังคงอยู่ที่การแสวงหาคำตอบ

ตอบว่า "ใคร" คือ คนที่จะเข้าไปนั่งในหัวใจ "รากหญ้า" ในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคอีสานแทน พ.ต.ท.ทักษิณ

"ใคร" คือ "ทุน" ที่จะมาทดแทน พ.ต.ท.ทักษิณ

และ "ใคร" คือ สิ่งที่ดีกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ

หากตอบคำถามได้ "ยุคทักษิณ" จะหมดไป

ตอนเด็กเคยอยู่ที่อุบลเป็นเวลาประมาณห้าปี คนอีสานส่วนใหญ่เป็นคนโอบอ้อมอารี มีน้ำใจ ซื่อสัตย์  แต่เนื่องจากพื้นที่ที่เขาอยู่อาศัยค่อนข้างแร้นแค้น การทำมาหากินอัตคัต การทำกินส่วนใหญ่เป็นเพื่อยังชีพ พอมีเหลือก็เก็บมาขายหารายได้  ไม่ค่อยทำหาเก็บเหมือนคนภาคอื่น ทำมาหากินเป็นวันๆ เมื่อมีคนเสนอเงินทอง ข้าวของมาให้โดยที่แลกกับคะแนนเสียง โดยอ้างว่าเป็นเงินจากทักษิณ ชาวบ้านมีแนวโน้มที่จะเชื่ออยู่แล้วค่ะ  ที่จริงแล้วการแก้ไขควรแก้โดยการใส่ข้อมูลไปเรื่อยๆ   ดิฉันว่าต้องเวลาอย่างน้อยห้าปีนับจากบัดนี้ อย่าไปประนามพวกชาวอีสานเลยค่ะ   :slime_worship:

ต้องโทษนักการเมืองเลวชั่วช้าที่หลอกลวงประชาชนชาวอีสานที่ซื่อตรง ไม่ทันคนเล่หเหลี่ยมจัด

อย่าไปโทษคนอีสานเลยครับ ลำพังชีวิตความเป็นอยู่ของคนส่วนใหญ่ก็ลำบากมากพอแล้ว

คิดว่าทำอย่างไรที่จะปลูกจิตสำนึก และทำให้ความเป็นอยู่ของคนกลุ่มนี้ให้ดีขึ้นได้ นั่นต่างหากที่สำคัญ

ปัจจุบันกำหนดจำนวน สส. ตามจำนวนประชากร

ถ้าเปลี่ยนเป็นกำหนดจำนวน สส. ตามการจัดเก็บภาษี ของแต่ละจังหวัดดูซิ

การเมืองไทยจะเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นหน้าเห็นหลังทันที

 :slime_smile2: :slime_smile2: :slime_smile2:

เห็นด้วยสุดๆ! ไม่ใช่เพราะคนเหล่านั้น"ไม่มีสิทธิ์เท่าเทียมคนอื่น"  แต่ สิทธิ(ในการเลือกตั้ง)ควรจะมีได้ก็ต่อเมื่อเข้าใจมันดีพอ
ทำไมเราไม่ให้ชาวนาหรือครูมาเปิดคลีนิกรักษาคนล่ะ? ก็เหตุผลคล้ายๆกัน
ถามว่าเป็นไปได้ไหมที่ชาวบ้านที่ไม่ได้เสียภาษีทางตรง จะมีความรู้และเข้าใจการเมืองดีกว่าชนชั้นกลางผู้เสียภาษีทางตรง?
เป็นไปได้ แต่อัตราส่วนน้อยกว่า แน่นอนครับ
เพราะในหมู่ผู้มีรายได้น้อย มีทั้งคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจการเมือง ปะปนกัน
แต่ในหมู่ชนชั้นกลาง คงไม่มีไอ้งั่งคนไหน เสียภาษีไปให้รัฐโดยไม่รู้หรอกว่าเพื่ออะไร?

^
^
เอ่อ.....มีครับ เยอะด้วย
ประเภท พวกมนุษย์เงินเดือนสนใจแต่วันนี้จะกินเที่ยวที่ไหน
ใช้บัตรเครดิตทีละห้าใบ วิ่งหาเงินมาโปะหนี้
บ้าแฟชั่น บ้าดาราเกาหลี AF
พวกไม่รู้ว่าเสีย VAT คืออะไร
รู้แค่ได้เงินมาก็ใช้ไป โดนหักอะไรไปเท่าไหร่ตอนไหนก็ไม่รู้
พวกที่ไม่สนใจการเมือง ไม่สนใจว่าเขาจะแด.กx่ากันยังไงในสภา มีเย๊อะ

เหรอ..สงสัยคนใต้ที่กี่ปีกี่ชาติก็เลือก ปชป คงฉลาด มีการศึกษาดีกว่าคนทางเหนือและอิสานมั๊ง

ท่าทางประเทศนี้คงมีแต่พวกคุณละมั๊งที่ฉลาดรู้ทันไปหมด

จะบอกให้เอาบุญ การแด.กx่าที่คุณว่าไม่ได้มีเฉพาะในสภา
ตัวที่แด.กx่าประเทศมายาวนานเรื้อรัง คือพวกศักดินา ข้าราชการ
แด.กx่ามาตั้งแต่ก่อตั้งประเทศ จนเดี๋ยวนี้ยังแด.กx่านิ่มๆไม่มีใครรบกวน(คือพวกข้าราชการ)
แถมโง่หาเงินเข้าประเทศไม่เป็นอีก

ส่วนพวกศักดินาพักหลังเริ่มคิดกลัวจะแด.กx่า ไม่ได้เหมือนเดิม
เลยปรับวิธีการให้ไอ้แป๊ะหลอกเป็นองค์ศาสดาอยู่ที่มัฆวานเบี่ยงเบนความสนใจ
ตัวมันก็กำจัดศัตรูไปพร้อมกับการแด.กx่าอย่างตะกรุมตะกรามประเทศอยู่เวลานี้

รักประเทศจริงกำจัดทักษิณแล้วก็กำจัดพวกเวรนี่ด้วยซิ
เอาให้เป็นประเทศร้างนั่งมองตากันพร้อมเอาน้ำลูบท้องก็ดีอยู่

ใครของแท้ของเทียม ไม่นานคงได้รู้กัน
หุ หุ เดี๋ยวนี้มันถึงกับขายข้าวกู้ชาติอีก เชื่อมันจริงๆ
มุขมันก็เหลือเกิน  หลอกแด.กx่าได้ตรงไปตรงมามาก...555

กรั๊กๆๆๆ จี้ใจดำหน่อยเดียว รีบร้อนตัวออกมาท่องคาถาศักดินาเชียว
ยังไม่ทันบอกว่าพรรคไหน นโยบายของใคร กินกันยังไงเลย
บอกว่า "กูเลว มรึงก็เลวเหมือนกัน ดังนั้นกรูไม่ผิด"
มุกนี้มันเก่าแล้วเดี๋ยวนี้มีแต่ "หัวไม่ส่าย หางก็ไม่กระดิก"
ข้าราชการก็แค่เครื่องมือกับแพะของนักการเมืองทั้งนั้น
อย่ามัวแต่ท่องใบบอก ศักดินาๆๆๆ มากนัก โผล่หัวออกจากกะลามาดูโลกภายนอกบ้าง

เรื่องข้าวถุง ก็แค่มุกแป๊กบนเวทีเท่านั้นแหละ
มันทำยาก ปัญหาเยอะ เดี๋ยวจะมีเรื่องความโปร่งใสอีก
และถึงไม่มีข้าวถุง พันธมิตรก็เต็มใจช่วยเหลือทุกทางอยู่แล้ว
ป่าวประกาศว่าพันธมิตรโดน แป๊ะลิ้มหลอก
อยากถามฝ่ายขี้ข้าแม้วมากกว่า ว่ามี "ใจ" แบบนี้บ้างไหม
เห็นแต่แก่งแย่ง หลอกแด.ก โกงค่าหัวคิวกันเอง
พอหมดประโยชน์ โดนคดีทีไรก็ถีบหัวส่งทุกคน
สันดานเป็นแบบนี้ทั้งครอก อีกไม่นานไอ้แม้วก็คงโดนลูกน้องถีบหัวส่งเหมือนกัน

 :slime_smile2: :slime_smile2:

ใครเหรอครับ พวกศักดินาที่คุณกล่าวถึง และที่คุณเรียกว่าตัวมัน ?
ช่างอยากรู้จักเหลือเกิน เพราะคนเหล่านั้น มีคนหนุนหลังอยู่มากกว่าครึ่งค่อนประเทศได้เลยกระมัง
นะพี่นะ บอกที ว่าพวกศักดินาที่คุณกล่าวถึง และที่คุณเรียกว่าตัวมัน คือใครครับ เห็นคนรักทักษิณพูดถึงบ่อย

ตอบก่อนแล้วค่อยสนทนาครับ
อย่ามาทำเท่ห์ทิ้งปริศนา
อย่ามาทำทีแถแล้วหาย

ไอ้ที่เราเคยท้ากันเรื่องถีบหน้าอ่ะ
ตกลงพี่เอาเอกสารเกี่ยวกับพระวิหารทั้งภาษาไทยทั้งภาษาอังกฤษ แผนที่ต่างๆ ไปให้คนอีสานที่นั่งเคี้ยวหมาก ฟังเพลงหมีแพนด้าจากรายการวิทยุ AM หรือยังฮะ
ตกลงเขาเข้าใจที่พี่พูดไหมฮะ ?

วัฒนธรรมการเลือกส.ส.ที่เคยได้ยิน
มีแจกปลาทูเค็มก็เริ่มจากที่นี่
การแจกรองเท้าแตะข้างเดียวก็เริ่มจากที่นี่
การพาไปเที่ยวกรุงเทพฯก็เริ่มจากที่นี่
พาไปเที่ยวทะเลก็เริ่มจากที่นี่

สืบทอดกันมายาวนาน
แล้ววันหนึ่งคนที่มีเงินมากจับจุดได้
แจกสดๆ แจกเชิงนโยบาย
วิวัฒนาการจนถึงบัดนี้แล
สรุปว่าผลประโยชน์มาก่อน
คุณภาพไว้ทีหลัง ...ประมาณนั้น

งั้นก็เปิดตาดู กทม. สมัยนี้กับสมัยที่แล้วก่อนก็ได้ อ้าวลืมไปว่าพวกนี้ตาบอดนี่นา :slime_whistle: