ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: ปุถุชน ที่ 11-08-2008, 18:59



หัวข้อ: ทักษิณหนีเป็นตัวอย่างเด็กทำผิดไม่ต้องรับโทษ
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 11-08-2008, 18:59
 ทักษิณหนีเป็นตัวอย่างเด็กทำผิดไม่ต้องรับโทษ
 
 
กรรมการคุ้มครองเด็กฯชี้ "ทักษิณ"ไม่มารายงานตัวศาล หล่อหลอมพฤติกรรมผิดกฎหมายให้เด็ก สร้างบรรทัดฐานทำผิดไม่ต้องรับโทษ จิตแพทย์แนะต้องสอนให้เด็กรู้จักหยุดยั้งตัวเองกับสถานการณ์เสี่ยง ขณะที่เด็กก่อคดีเกือบ 40 %มีความรู้ระดับม.ต้น ไอคิวปานกลาง 


เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 11 ส.ค.2551 ที่สถานสงเคราะห์บ้านราชวิถี มีการจัดเวทีสาธารณะ “เด็กกระทำความผิด สังคมจะมีทางออกอย่างไร” นายสรรพสิทธิ์ คุมพ์ประพันธ์   คณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ และผู้อำนวยการมูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก กล่าวว่า นักการเมืองตั้งแต่ระดับท้องถิ่นถึงระดับชาติปัจจุบันเลี้ยงลูกให้เด็กมีปัญหาพฤติกรรมมาก

โดยเฉพาะการกระทำรุนแรงล่วงเกินทางเพศเด็กผู้หญิง เพราะย่ามใจว่ามีอิทธิพลจะไม่ถูกลงโทษ โดยเด็กกลุ่มนี้จะไม่ได้รับการเลี้ยงดูให้รู้จักยับยั้งชั่งใจหรือส่งเสริมให้ทำดี แต่จะสอนลูกให้เอาเปรียบข่มเหงรังแกคนอื่น โดยพ่อแม่ให้ท้าย เป็นสาเหตุขิงปัญหาทำให้ลูกนักการเมืองยิ่งโตขึ้นมีลักษณะ เที่ยวผับบาร์  ทำร้ายร่างกายคนอื่น จนถึงขั้นฆ่าทิ้ง เพราะเติบโตมาท่ามกลางอิทธิพลอำนาจเถื่อนและการทำผิดทางอาญา

“ขณะนี้มีการสร้างบรรทัดฐานใหม่ ว่าจะเป็นนักเมืองต้องมีคดีติดตัว มีความสามารถในการหลบเลี่ยงกฎหมาย จนกลายเป็นกติกาการเมือง ว่านักการเมืองต้องก้าวร้าว ทำผิด ต่อต้านสังคม และถึงขั้นสร้างสถาบันการเมืองและสถาบันทางสังคมที่หล่อหลอมว่าการทำผิดกฎหมายไม่เรื่องเสียหาย ดูได้จากนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในรัฐบาลปัจจับนล้วนมีคดีติดตัว แต่ไม่ยอมออกจากตำแหน่งโดยอ้างคดียังไม่ถึงที่สุด หรือแม้แต่ศาลตัดสินว่าเลี่ยงภาษีก็ยังใช้อำนาจทางการเมืองมากด กลไกศาล หรือล่าสุดไม่ยอมมารายงานตัวต่อศาล ทำให้นักการเมืองอื่นเอาอย่าง ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้จะตกทอดมาถึงเด็กในปัจจุบัน ทำให้มาตรฐานทางสังคมหรือการบริหารบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไป “ นายสรรพสิทธิ์ กล่าวและว่า

กระบวนการทางกฎหมาย โดยเฉพาะในขั้นตอนการสอบสวนเด็กที่กระทำความผิด ตนอยากเสนอให้นอกจากใช้นักสังคมสงเคราะห์แล้ว ควรใช้นักจิตวิทยาคลินิกหรือจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น ในการสอบถามถึงความเป็นมาก่อนการกระทำผิด เพื่อให้เห็นความเป็นมาของเห็นการณ์ที่เด็กที่กระทำผิดต้องเผชิญ จะได้ให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายตามเหตุปัจจัย

นอกจากนี้ การควบคุมตัวเด็กระหว่างการพิจรารณาคดี ตนไม่เห็นด้วยที่ส่งไปสถานพินิจ แต่ควรส่งไปสถานพยาบาล ให้ได้รับการบำบัดฟื้นฟูเยียวยาด้านจิตใจใน 2 แง่ ทั้งที่เป็นผู้ถูกกระทำมาก่อนและผู้กระทำ เพราะเด็กไม่ได้ทำความผิดด้วยความมชั่วร้ายในตัว 

พญ.พรรณพิมล   หล่อตระกูล ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล กล่าวว่า เด็กที่ก่อความรุนแรงมาจากวัยและความสามารถในการจัดการกับสถานการณ์ โดยเฉพาะเด็กวัยรุ่นจะมีพฤติกรรมเลียนแบบ ถูกกระตุ้นจากสิ่งเร้า และภาวะกดดันทำให้เด็กรู้สึกด้อยค่าและเสียศักดิ์ศรี การแสดงออกของเด็กจึงแยกเป็น 2 ลักษณะ คือ แสดงออกทันทีจนถูกมองว่าก้าวร้าว เป็นตัวปัญหา และไม่แสดงออก จนมองว่าเป็นเด็กปกติ ซึ่งเป็นกลุ่มที่น่าห่วงอย่างยิ่ง หากมีเครื่องมือตรวจสอบจะพบสัญญาณของเด็กที่บ่งบอกถึงการขอความช่วยเหลือก่อนที่จะกระทำความรุนแรง แต่ที่ผ่านมามักจะไม่มีใครมองเห็นจนมองเป็นเรื่องปกติ ทำให้เด็กอยู่ในภาวะกดดันเป็นภาวะเสี่ยง ภาวะทางอารมณ์จนควบคุมไม่ได้ และแสดงออกมาด้วยความรุนแรงที่ไม่คาดคิด 

“จำเป็นอย่างยิ่งที่พ่อแม่ ครูอาจารย์ ต้องเรียนรู้ถึงสัญญาณของเด็กที่บ่งบอกและให้ความช่วยเหลือ รวมถึงศึกษาภูมิหลังของเด็กและสิ่งแวดล้อมที่หล่อหลอม นอกจากนี้ เด็กก็ต้องได้รับการพัฒนามิติของการหยุดตนเอง ในขณะที่อยู่ในสถานการณ์เสี่ยงที่อาจจะก่อความรุนแรง อย่างไรก็ตามสภาพแวดล้อมมีส่วนสำคัญที่จะผลักดันให้เด็กก่อความรุนแรงคือ การถูกรังแก ภาวะสารเสพติด การถูกลงโทษรุนแรงภาวะที่ไม่ยุติธรรมกับเด็ก อาวุธ และพื้นที่เสี่ยงที่ก่อให้เด็กใช้ความรุนแรง”พญ.พรรณพิมลกล่าว 

น.ส.อรพรรณ เลาหัตถะพงษ์ภูริ นักจิตวิทยา กลุ่มพัฒนาระบบงานจิตวิทยา กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กล่าวว่า ปี 2550 มีเด็กก่อคดีจำนวน51,128 คดีที่อยู่ในความคุ้มครองของสถานพินิจ โดยส่วนใหญ่ 28% เป็นคดีลักทรัพย์ รองลงมาเป็นคดียาเสพติด การทำร้ายร่างกาย พกพาอาวุธและวัตถุระเบิด ในจำนวนเด็กดังกล่าวพบอยู่กับพ่อแม่และครอบครัว 48% และ 52% ครอบครัวแยกกันอยู่

นอกจากนี้ ยังพบเด็กที่ก่อคดีส่วนใหญ่ เกือบ 40% มีพื้นฐานความรู้ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เมื่อวิเคราะห์ถึงปัญหาพฤติกรรมเด็กพบว่า 40% ขาดความภูมิใจในตนเอง 32% มีลักษณะหุนหันพลันแล่น 26% มีพฤติกรรมก้าวร้าว 20% มีอาการโกรธเกลียด และ 8% มีอาการซึมเศร้า 

นักจิตวิทยา กล่าวอีกว่า สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลให้เด็กมีพฤติกรรมรุนแรง พบมาจากปัญหาการควบคุมพฤติกรรมเด็กของครอบครัว 65% ความสัมพันธ์กับเพื่อน 25% สัมพันธภาพกับพ่อแม่และครอบครัว 23% การศึกษา 15% ยาเสพติด 10% การใช้ความรุนแรงในครอบครัว 3% ขณะที่ในปี 2550 มีเด็กที่ก่อคดีและถูกส่งมาพบนักจิตวิทยา จำนวน 3,671 คน พบว่า เป็นเด็กที่มีไอคิว ปานกลาง 70 % ระดับฉลาด 17 % ปัญญาทึบ 8.5 % และต่ำกว่าทึบ 4.5 % ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเด็กที่ก่อคดีไม่ใช่ด้อยปัญญาที่จะถูกชักจูงได้ง่าย

http://www.komchadluek.net/2008/08/11/x_main_a001_215673.php?news_id=215673


'กำนันเปาะ' 'วัฒนา' 'แม๊ว' ล้วนแต่เป็นนักการเมืองท้องถิ่น นักการเมืองระดับชาติที่มีพฤติกรรมทำร้ายความสำนึก ผิดชอบชั่วดี คุณธรรมประจำใจของเยาวชนรุ่นใหม่เสียไปแล้ว.....

นอกจากนี้ การสร้างทัศนคติ 'โกงแต่ทำงาน'  'นักธุรกิจใครๆ ก็เป็นอย่างนี้' 'บกพร่องโดยสุจริต' ฯลฯ ล้วนแต่ทำร้ายจิตใจของเด็กไทย เยาวชนไทย โดยเฉพาะลูกหลานนักการเมืองใหญ่ที่ คิดว่า 'ติ๊กผิด' 'ขายหุ้น6-70,000ล้านบาทไม่ต้องเสียภาษี' ลำพอง เหิมเกริม ผลาญทรัพยากรของชาติให้ย่อยยับ....!!!







 


หัวข้อ: Re: ทักษิณหนีเป็นตัวอย่างเด็กทำผิดไม่ต้องรับโทษ
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 11-08-2008, 19:10
ลิ่วล้อ ออกมุกใหม่

ออก "พรบ.นิรโทษกรรม" ให้ทักษิณ

สส.คนนั้นชื่อ ประชา ประสพดี


หัวข้อ: Re: ทักษิณหนีเป็นตัวอย่างเด็กทำผิดไม่ต้องรับโทษ
เริ่มหัวข้อโดย: Solidus ที่ 11-08-2008, 19:16
ถ้าเด็กเลียนแบบนี้ต้องจัดการเหมือนกรณีเกม GTA รึเปล่านี่ :slime_smile2:


หัวข้อ: Re: ทักษิณหนีเป็นตัวอย่างเด็กทำผิดไม่ต้องรับโทษ
เริ่มหัวข้อโดย: boyk ที่ 11-08-2008, 19:20
โจรทำผิด ก็แก้กฎหมายให้โจรดีมั้ยคับ

18:18 น.



นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า
เพื่อสร้างความสมานฉันท์ต่อวิกฤตการณ์การเมือง ทางออกขณะนี้
จะต้องอออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับ พ.ต.ท ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสงบศึก
เพราะคดีที่พ.ต.ท.ทักษิณ เผชิญอยู่นั้น ไม่ได้ร้ายแรงเช่น ฆ่าคนตาย หรือ ค้ายาเสพติด ที่จะยอมความกันไม่ได้

ทั้งนี้ หากการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลก็ไม่จบอีกเพราะจะถูกต่อต้านจากชาวรากหญ้าไม่จบสิ้น
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมาไทยแน่ในช่วงวันที่ 5 ธ.ค.นี้ เพราะปีนี้เป็นปีมหามงคล
(เนชั่นทันข่าว)




หัวข้อ: Re: ทักษิณหนีเป็นตัวอย่างเด็กทำผิดไม่ต้องรับโทษ
เริ่มหัวข้อโดย: see - u ที่ 11-08-2008, 20:15
*  มาตราฐานการเมืองแบบไทย ๆ ...... ทำผิดแค่ไหนก็หลบหนีได้  ไม่ติดคุก

    ไอ้คนหนีก็ว่ามันชั่วแล้ว ..... ยังมีคนที่ชั่วกว่าอีก  คือ  คนที่เสนอ  นริโทษกรรม  !!!


หัวข้อ: Re: ทักษิณหนีเป็นตัวอย่างเด็กทำผิดไม่ต้องรับโทษ
เริ่มหัวข้อโดย: เอกราช ที่ 11-08-2008, 20:27
เห่า ขออาหาร ไปเรื่อยเปื่อย
หอนให้เจ้าของมันหันมามอง
 :slime_p: :slime_p: :slime_p:


หัวข้อ: Re: ทักษิณหนีเป็นตัวอย่างเด็กทำผิดไม่ต้องรับโทษ
เริ่มหัวข้อโดย: Crystal Castle ที่ 12-08-2008, 20:39
มันไม่ใช่ลูกผู้ชาย

น่าสมเพช


หัวข้อ: Re: ทักษิณหนีเป็นตัวอย่างเด็กทำผิดไม่ต้องรับโทษ
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 12-08-2008, 20:49
ทักษิณหนีเป็นตัวอย่างเด็กทำผิดไม่ต้องรับโทษ
 
 
กรรมการคุ้มครองเด็กฯชี้ "ทักษิณ"ไม่มารายงานตัวศาล หล่อหลอมพฤติกรรมผิดกฎหมายให้เด็ก สร้างบรรทัดฐานทำผิดไม่ต้องรับโทษ จิตแพทย์แนะต้องสอนให้เด็กรู้จักหยุดยั้งตัวเองกับสถานการณ์เสี่ยง ขณะที่เด็กก่อคดีเกือบ 40 %มีความรู้ระดับม.ต้น ไอคิวปานกลาง 


เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 11 ส.ค.2551 ที่สถานสงเคราะห์บ้านราชวิถี มีการจัดเวทีสาธารณะ “เด็กกระทำความผิด สังคมจะมีทางออกอย่างไร” นายสรรพสิทธิ์ คุมพ์ประพันธ์   คณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ และผู้อำนวยการมูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก กล่าวว่า นักการเมืองตั้งแต่ระดับท้องถิ่นถึงระดับชาติปัจจุบันเลี้ยงลูกให้เด็กมีปัญหาพฤติกรรมมาก

โดยเฉพาะการกระทำรุนแรงล่วงเกินทางเพศเด็กผู้หญิง เพราะย่ามใจว่ามีอิทธิพลจะไม่ถูกลงโทษ โดยเด็กกลุ่มนี้จะไม่ได้รับการเลี้ยงดูให้รู้จักยับยั้งชั่งใจหรือส่งเสริมให้ทำดี แต่จะสอนลูกให้เอาเปรียบข่มเหงรังแกคนอื่น โดยพ่อแม่ให้ท้าย เป็นสาเหตุขิงปัญหาทำให้ลูกนักการเมืองยิ่งโตขึ้นมีลักษณะ เที่ยวผับบาร์  ทำร้ายร่างกายคนอื่น จนถึงขั้นฆ่าทิ้ง เพราะเติบโตมาท่ามกลางอิทธิพลอำนาจเถื่อนและการทำผิดทางอาญา

“ขณะนี้มีการสร้างบรรทัดฐานใหม่ ว่าจะเป็นนักเมืองต้องมีคดีติดตัว มีความสามารถในการหลบเลี่ยงกฎหมาย จนกลายเป็นกติกาการเมือง ว่านักการเมืองต้องก้าวร้าว ทำผิด ต่อต้านสังคม และถึงขั้นสร้างสถาบันการเมืองและสถาบันทางสังคมที่หล่อหลอมว่าการทำผิดกฎหมายไม่เรื่องเสียหาย ดูได้จากนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในรัฐบาลปัจจับนล้วนมีคดีติดตัว แต่ไม่ยอมออกจากตำแหน่งโดยอ้างคดียังไม่ถึงที่สุด หรือแม้แต่ศาลตัดสินว่าเลี่ยงภาษีก็ยังใช้อำนาจทางการเมืองมากด กลไกศาล หรือล่าสุดไม่ยอมมารายงานตัวต่อศาล ทำให้นักการเมืองอื่นเอาอย่าง ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้จะตกทอดมาถึงเด็กในปัจจุบัน ทำให้มาตรฐานทางสังคมหรือการบริหารบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไป “ นายสรรพสิทธิ์ กล่าวและว่า

กระบวนการทางกฎหมาย โดยเฉพาะในขั้นตอนการสอบสวนเด็กที่กระทำความผิด ตนอยากเสนอให้นอกจากใช้นักสังคมสงเคราะห์แล้ว ควรใช้นักจิตวิทยาคลินิกหรือจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น ในการสอบถามถึงความเป็นมาก่อนการกระทำผิด เพื่อให้เห็นความเป็นมาของเห็นการณ์ที่เด็กที่กระทำผิดต้องเผชิญ จะได้ให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายตามเหตุปัจจัย

นอกจากนี้ การควบคุมตัวเด็กระหว่างการพิจรารณาคดี ตนไม่เห็นด้วยที่ส่งไปสถานพินิจ แต่ควรส่งไปสถานพยาบาล ให้ได้รับการบำบัดฟื้นฟูเยียวยาด้านจิตใจใน 2 แง่ ทั้งที่เป็นผู้ถูกกระทำมาก่อนและผู้กระทำ เพราะเด็กไม่ได้ทำความผิดด้วยความมชั่วร้ายในตัว 

พญ.พรรณพิมล   หล่อตระกูล ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล กล่าวว่า เด็กที่ก่อความรุนแรงมาจากวัยและความสามารถในการจัดการกับสถานการณ์ โดยเฉพาะเด็กวัยรุ่นจะมีพฤติกรรมเลียนแบบ ถูกกระตุ้นจากสิ่งเร้า และภาวะกดดันทำให้เด็กรู้สึกด้อยค่าและเสียศักดิ์ศรี การแสดงออกของเด็กจึงแยกเป็น 2 ลักษณะ คือ แสดงออกทันทีจนถูกมองว่าก้าวร้าว เป็นตัวปัญหา และไม่แสดงออก จนมองว่าเป็นเด็กปกติ ซึ่งเป็นกลุ่มที่น่าห่วงอย่างยิ่ง หากมีเครื่องมือตรวจสอบจะพบสัญญาณของเด็กที่บ่งบอกถึงการขอความช่วยเหลือก่อนที่จะกระทำความรุนแรง แต่ที่ผ่านมามักจะไม่มีใครมองเห็นจนมองเป็นเรื่องปกติ ทำให้เด็กอยู่ในภาวะกดดันเป็นภาวะเสี่ยง ภาวะทางอารมณ์จนควบคุมไม่ได้ และแสดงออกมาด้วยความรุนแรงที่ไม่คาดคิด 

“จำเป็นอย่างยิ่งที่พ่อแม่ ครูอาจารย์ ต้องเรียนรู้ถึงสัญญาณของเด็กที่บ่งบอกและให้ความช่วยเหลือ รวมถึงศึกษาภูมิหลังของเด็กและสิ่งแวดล้อมที่หล่อหลอม นอกจากนี้ เด็กก็ต้องได้รับการพัฒนามิติของการหยุดตนเอง ในขณะที่อยู่ในสถานการณ์เสี่ยงที่อาจจะก่อความรุนแรง อย่างไรก็ตามสภาพแวดล้อมมีส่วนสำคัญที่จะผลักดันให้เด็กก่อความรุนแรงคือ การถูกรังแก ภาวะสารเสพติด การถูกลงโทษรุนแรงภาวะที่ไม่ยุติธรรมกับเด็ก อาวุธ และพื้นที่เสี่ยงที่ก่อให้เด็กใช้ความรุนแรง”พญ.พรรณพิมลกล่าว 

น.ส.อรพรรณ เลาหัตถะพงษ์ภูริ นักจิตวิทยา กลุ่มพัฒนาระบบงานจิตวิทยา กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กล่าวว่า ปี 2550 มีเด็กก่อคดีจำนวน51,128 คดีที่อยู่ในความคุ้มครองของสถานพินิจ โดยส่วนใหญ่ 28% เป็นคดีลักทรัพย์ รองลงมาเป็นคดียาเสพติด การทำร้ายร่างกาย พกพาอาวุธและวัตถุระเบิด ในจำนวนเด็กดังกล่าวพบอยู่กับพ่อแม่และครอบครัว 48% และ 52% ครอบครัวแยกกันอยู่

นอกจากนี้ ยังพบเด็กที่ก่อคดีส่วนใหญ่ เกือบ 40% มีพื้นฐานความรู้ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เมื่อวิเคราะห์ถึงปัญหาพฤติกรรมเด็กพบว่า 40% ขาดความภูมิใจในตนเอง 32% มีลักษณะหุนหันพลันแล่น 26% มีพฤติกรรมก้าวร้าว 20% มีอาการโกรธเกลียด และ 8% มีอาการซึมเศร้า 

นักจิตวิทยา กล่าวอีกว่า สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลให้เด็กมีพฤติกรรมรุนแรง พบมาจากปัญหาการควบคุมพฤติกรรมเด็กของครอบครัว 65% ความสัมพันธ์กับเพื่อน 25% สัมพันธภาพกับพ่อแม่และครอบครัว 23% การศึกษา 15% ยาเสพติด 10% การใช้ความรุนแรงในครอบครัว 3% ขณะที่ในปี 2550 มีเด็กที่ก่อคดีและถูกส่งมาพบนักจิตวิทยา จำนวน 3,671 คน พบว่า เป็นเด็กที่มีไอคิว ปานกลาง 70 % ระดับฉลาด 17 % ปัญญาทึบ 8.5 % และต่ำกว่าทึบ 4.5 % ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเด็กที่ก่อคดีไม่ใช่ด้อยปัญญาที่จะถูกชักจูงได้ง่าย

http://www.komchadluek.net/2008/08/11/x_main_a001_215673.php?news_id=215673


'กำนันเปาะ' 'วัฒนา' 'แม๊ว' ล้วนแต่เป็นนักการเมืองท้องถิ่น นักการเมืองระดับชาติที่มีพฤติกรรมทำร้ายความสำนึก ผิดชอบชั่วดี คุณธรรมประจำใจของเยาวชนรุ่นใหม่เสียไปแล้ว.....

นอกจากนี้ การสร้างทัศนคติ 'โกงแต่ทำงาน'  'นักธุรกิจใครๆ ก็เป็นอย่างนี้' 'บกพร่องโดยสุจริต' ฯลฯ ล้วนแต่ทำร้ายจิตใจของเด็กไทย เยาวชนไทย โดยเฉพาะลูกหลานนักการเมืองใหญ่ที่ คิดว่า 'ติ๊กผิด' 'ขายหุ้น6-70,000ล้านบาทไม่ต้องเสียภาษี' ลำพอง เหิมเกริม ผลาญทรัพยากรของชาติให้ย่อยยับ....!!!





โจรทำผิด ก็แก้กฎหมายให้โจรดีมั้ยคับ

18:18 น.



นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า
เพื่อสร้างความสมานฉันท์ต่อวิกฤตการณ์การเมือง ทางออกขณะนี้
จะต้องอออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับ พ.ต.ท ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสงบศึก
เพราะคดีที่พ.ต.ท.ทักษิณ เผชิญอยู่นั้น ไม่ได้ร้ายแรงเช่น ฆ่าคนตาย หรือ ค้ายาเสพติด ที่จะยอมความกันไม่ได้ 


ทั้งนี้ หากการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลก็ไม่จบอีกเพราะจะถูกต่อต้านจากชาวรากหญ้าไม่จบสิ้น
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมาไทยแน่ในช่วงวันที่ 5 ธ.ค.นี้ เพราะปีนี้เป็นปีมหามงคล
(เนชั่นทันข่าว)






บัตรเติมเงิน เป็นอย่างนี้เอง.....

หมัก เมถุน ว่าเลว ยังไม่เลวสถุน กเฬวรากเท่า 'สส.พปช.ประชา ประสพดี'........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า




หัวข้อ: Re: ทักษิณหนีเป็นตัวอย่างเด็กทำผิดไม่ต้องรับโทษ
เริ่มหัวข้อโดย: H-edge ที่ 12-08-2008, 21:13
โจรทำผิด ก็แก้กฎหมายให้โจรดีมั้ยคับ

18:18 น.



นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า
เพื่อสร้างความสมานฉันท์ต่อวิกฤตการณ์การเมือง ทางออกขณะนี้
จะต้องอออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับ พ.ต.ท ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสงบศึก
เพราะคดีที่พ.ต.ท.ทักษิณ เผชิญอยู่นั้น ไม่ได้ร้ายแรงเช่น ฆ่าคนตาย หรือ ค้ายาเสพติด ที่จะยอมความกันไม่ได้

ทั้งนี้ หากการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลก็ไม่จบอีกเพราะจะถูกต่อต้านจากชาวรากหญ้าไม่จบสิ้น
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมาไทยแน่ในช่วงวันที่ 5 ธ.ค.นี้ เพราะปีนี้เป็นปีมหามงคล
(เนชั่นทันข่าว)




สส. คนนี้ช่างกล้าพูด  ทุกคำพูดแสดงถึงวุฒิภาวะทางความคิด และการได้มาซึ่งตำแหน่ง สส.
ว่าได้มาเพราะซื้อเสียงเป็นแน่  เพราะแค่จิตสำนึกทางจริยธรรม และคุณธรรม ก็สอบตกสะแล้ว
คุณสมบัติที่บกพร่องข้อนี้ ก็ไม่น่าจะทำให้ประชาชนเลือกเข้ามาเป็นตัวแทนได้เลย
การโกงชาติโกงแผ่นดิน ได้ทรัพย์สินมาเป็นของตัวมูลค่ามหาศาล และทำให้ประชาชน
แตกแยกเป็นสองฝ่ายถึงกับห่ำหั่น ฟาดฟันกันถึงชีวิตเรียกว่าไม่ร้ายแรงหรือ ...??? 
พอถูกจับได้ ไล่ทัน ก็บอกให้ยอมความกันได้  แต่ตอนที่ยังจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน
ก็ทั้งเถียง ทั้งแถ เพื่อนายหญ่ายยยยย....
ท่าน สส. พูดได้ช่างไม่อายเด็ก


หัวข้อ: Re: ทักษิณหนีเป็นตัวอย่างเด็กทำผิดไม่ต้องรับโทษ
เริ่มหัวข้อโดย: DESICION ที่ 12-08-2008, 23:41
ใครว่าทักษิณหนีเค้าโดนซื้อตัวไปตั่งหาก  :slime_smile2:

(http://postto.me/ii/8c140b1d2f.jpg)


หัวข้อ: Re: ทักษิณหนีเป็นตัวอย่างเด็กทำผิดไม่ต้องรับโทษ
เริ่มหัวข้อโดย: moon ที่ 13-08-2008, 02:55
เด็กธรรมศาสตร์บอก ถ้าไม่เชื่อในกระบวนการยุติธรรม ก็ไม่ควรกลับมาตั้งแต่แรก แล้วก็ไม่ควรไปฟ้องคนอื่น
เด็กจุฬาบอกว่า มันเป็นสิทธิส่วนบุคคลท่านหนีก็ได้ แล้วก็ให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินต่อไป

จากไทยทีบีเอสเมื่อวันที่ 11 ไม่แน่ใจว่าช่วงข่าว หรือว่าตอบโจทย์


หัวข้อ: Re: ทักษิณหนีเป็นตัวอย่างเด็กทำผิดไม่ต้องรับโทษ
เริ่มหัวข้อโดย: GODFATHER ที่ 13-08-2008, 08:26
ก็คงคล้ายกับกรณีญาติพี่น้องเจ้าชวน ศิษย์สปก. ที่หนีคดีจนหมดอายุความนั้นแหละ....ก็ว่ากันไปตามหลักการที่วางใว้เป็นอย่างดีก็สิ้นเรื่อง...เขามีสิทธิ์ของเขาน่า...หรือว่าคุณ....