ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

(http://picdb.thaimisc.com/mscc2/1065.jpg)

นายสมัคร กล่าวในรายการวิทยุ ถึงกรณีการประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก ว่า "...กรณีที่เกิดขึ้นอย่างนี้แล้วจะทำให้ตนทำอย่างไร ตนเป็นนายกรัฐมนตรี สื่อมวลชนก็จับจ้องกันแต่รัฐบาลนี้ ตั้งแต่เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของรัฐมนตรี แต่รัฐบาลก็ยังไม่ไป จนมีเหยื่อชิ้นใหม่คือเรื่องประสาทพระวิหารเข้ามา ก็ล่อกันไป ซึ่งก็ทำได้ แต่มันเกินเหตุ ซึ่งตนขออ่านคำแถลงส่วนตัวที่เขียนมา เพราะไม่อยากให้ผิดพลาด โดยคำแถลงเขียนไว้ว่า “ทุกฝ่าย รวมทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เท่าเทียมกัน บัดนี้เรื่องนี้อยู่ที่คนกลางที่จะเป็นผู้ตัดสิน รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติตามคำสั่งของศาลปกครอง แต่ขณะเดียวกันรัฐบาลต้องคำนึงถึงความสัมพันธ์อันดีทั้งระหว่างรัฐบาล และระหว่างประชาชนไทยกับกัมพูชาด้วย....”


“......เรื่องทั้งหมดก็มีอยู่เท่านี้ ไม่มีใครเสียอะไร ทางโน้นก็ไม่ได้ ทางเราก็ไม่เสีย แต่เอามาใช้เอามาเล่น เอามาถล่มกันในสภาฯ เหตุการณ์ครั้งที่แล้วเกิดมา 45 ปี ที่ละครเอาไปเล่นว่าจะเอานครวัดนครธมคืน จนเกิดการเผาสถานทูตกัน นี่นายกฯกับนายกฯก็ต้องโทรศัพท์พูดกัน ผมไม่ได้ไปขอร้องเขา แต่บอกว่าคุณช่วยดูสถานทูตไทยให้ดี เราก็จะดูสถานทูตของเขาให้ดี ต้องเท่าเทียมกัน เพราะเสียรังวัด เสียหายทั้งคู่ ทางโน้นมีพรรคการเมืองฝ่ายค้านซึ่งก็ไม่อยากให้รัฐบาลอยู่ ทางนี้ก็มีพรรคการเมืองฝ่ายค้านซึ่งก็ต้องซัดรัฐบาลนี้ รัฐบาลเสียรังวัดทั้งคู่ ไม่มีใครคิดได้ทั้งคู่ ทางโน้นก็อยากได้ชื่อเสียงขึ้นทะเบียนมรดกโลกได้ในสมัยรัฐบาลตัวเอง การขึ้นจะสำเร็จหรือไม่ยังไม่รู้ คนตัดสินเขาก็ยังไม่ได้ตัดสิน แต่ก็มีการว่ากล่าวกันจนกระทั่งฮึ่ม ๆกันแล้ว เอามาปลุกปั่นแสดงความเห็นจนกระทั่งบ้านเมืองจะต้องเผชิญหน้ากัน รัฐบาลกับรัฐบาลคงพอเจรจากันได้เพราะวงเล็ก แต่ประชาชนกับประชาชนจะแห่กันไป แบกศาลากันอีกแล้ว แสดงความรักชาติรักแผ่นดินกันตารางนิ้วเดียวเท่านั้น ก็มันไม่เสียอะไรไปสักนิ้ว สักเซ็น จะแสดงกันทำไม หรือต้องการแสดงความรักเพื่อให้คนชื่นชม ผมเองก็รัก ห่วง และหวง ทางเขาก็คิดเหมือนกัน และไป ๆ มา ๆ เรื่องนี้ก็โยงใยไปถึงอำนาจ 3 อำนาจของเรา นักวิชาการบอกว่าถ้าอำนาจตุลาการล้ำอำนาจบริหารอย่างนี้ ก็จะบริหารไม่ได้เลย มันไม่ได้ถ่วง แต่มันขัดกันเลย แล้วเราจะอยู่ในโลกนี้ บริหารได้อย่างไร ในเมื่ออีกอำนาจหนึ่งจับแขนไว้อย่างนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าคิด....”

คนที่อายุ 70 กว่า หากใครจะเรียก ป๋า....ก็ถือว่าเป็นการยกย่องว่ายังหนุ่ม..!!

ป๋า.. พูดแบบลอยตัวเหนือปัญหา เหมือนกับข้าไม่รู้เรื่องรู้ราว เป็นผู้บริสุทธิ์เต็มร้อย แต่ต้องมาถูกด่าว่าเป็นคนขายชาติ แถมรัฐบาลยังถูกไล่ออก

....ฟังแล้วน่าฉงฉาน สำหรับผู้ที่ไม่รู้เบื้องหลัง ว่า ความจริงแล้ว เรื่องเขาพระวิหารนั้น นายนพดล ปัทมะ เป็นเพียงแพะที่ถูกตราหน้าว่าขายชาติ แต่คนที่ขายชาติตัวจริง คือ ป๋านี่แหละ.....

ป๋าไหนล่ะ ??? เดี๋ยวจะเกิดข้อสงสัยว่าเป็น ป๋าบ้านสี่เสา ไม่ช่าย....

ก็..ป๋าหมาก...ที่จัดรายการ .." สนทนาประสาป๋าหมาก " นั่นแแหละ ไม่ใช่อื่นไกล



งานนี้มีใบเสร็จ.... จะนำมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบ ต่อไป