ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

พปช.จี้พันธมิตรฯหยุดการชุมนุมตามคำสั่งศาล

ร.ท. กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ตามปกติแล้วทุกคนต้องเชื่อฟังและเคารพคำวินิจฉัยของศาล ซึ่งกลุ่มพันธมิตรฯเอง ก็ต้องหยุดการชุมนุมในเวลาที่ศาลกำหนดทันที และควรสำนึกด้วยว่าการชุมนุมนี้ทำความเดือนร้อนให้กับประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะเด็กนักเรียนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ตนอยากให้พันธมิตรฯหันมาต่อสู่ในระบบรัฐสภา ซึ่งที่ผ่านรัฐบาลก็ได้เปิดให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้ว และทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี ตนเห็นว่าที่จริงแล้วกลุ่มพันธมิตรฯ ควรหยุดชุมนุมไปเลย ไม่ใช่หยุดเพียงเวลาที่ศาลสั่งเท่านั้น เพื่อเปิดโอกาสให้รัฐบาลมีเวลาบริหารประเทศแก้ปัญหา มากกว่ามาดูแลความขัดแย้งที่กลุ่มพันธมิตรฯเคลื่อนไหว

“กลุ่มพันธมิตรฯประกาศตัวอยู่เสมอว่า ดำเนินการเพื่อประชาธิปไตย ดังนั้นเมื่อมีคำสั่งศาลออกมาให้หยุดการชุมนุม กลุ่มพันธมิตรฯ จึงต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาล หรือให้ดีควรหยุดการชุมนุมทั้งหมด เพราะต้องมีความสำนึกว่าจะต้องไม่สร้างความเดือนร้อนแก่ประชาชน ” ร.ท.กุเทพ กล่าว

เมื่อถามว่า หากเปรียบเทียบกับกรณีที่ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวกรณีปราสาทพระวิหาร รัฐบาลควรเคารพศาลแสดงความรับผิดชอบอย่างไร ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา เพราะรัฐบาลเคารพคำสั่งศาลอยู่แล้ว ตอนนี้เรื่องปราสาทพระวิหาร ก็หยุดชะงักตามคำสั่งศาล ไม่มีการดำเนินการใดๆ  โดยลำดับต่อไป รมว.ต่างประเทศ ก็จะต้องไปอธิบายทำความเข้าใจกับประเทศกัมพูชา ว่ารัฐบาลต้องดำเนินการตามระบบยุติธรรมในประเทศ ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ดื้อแพ่งแน่นอน

http://www.komchadluek.net/2008/06/30/x_main_a001_209405.php?news_id=209405


นอกจากพวก'บัตรเติมเงิน'ในเวบเสรีไทยแล้ว ผู้ใดคิดว่าแนวร่วมเป็ดไก่ นรกป่วนกรุง พรรคปล้นชาติ และรัฐบาลลูกกรอก เคารพเชื่อฟัง ปฎิบัติตามคำสั่งศาลยุติธรรม โดยเฉพาะสมเด็จแม๊ว สมเด็จหมัก เมถุน สมเด็จสัปดน.....

วันนี้รัฐบาลลูกกรอก ยังพยายามหาหนทางยกเขาพระวิหารให้สมเด็จฮุนเซนตามข้อตกลงระหว่าง สมเด็จแม๊วและสมเด็จฮุนเซนใช่ไหม.... :?:

โกหกตั้งแต่คำแรก ยันคำสุดท้าย

ดูแล้วคำสั่งศาลก็ไม่ได้ให้เลิกชุมนุม
จึงไม่รู้จะเลิกชุมนุมตามคำสั่งศาลได้อย่างไร
คิดว่าคงไม่หยุดชุมนุมหรอก น่าจะใช้มาตรการอื่นๆมาแก้เกม
โดยที่ไม่ขัดคำสั่งศาลเช่นการขยับเวที
การปิดลำโพงบางช่วง และหันลำโพงไปทางอื่น
(อยู่ในศรีธนญชินแลนก็ต้องรู้จักใช้ปัญญาแก้ปัญหากันแบบแหละ)

เรื่องเขาพระวิหาร พูดออกมาได้อย่างไรว่าดำเนินการคำสั่งศาล
ก็ไอ้เหล่นั่นมันยังออกมาแย้งอยู่เหยงๆ
และก็ไม่ได้ออกมาชี้แจงอย่างที่กุเทพพูดซักนิด

ศาลสั่งแกนนำพันธมิตร ทั้งหกคน  ก็เปลี่ยนแกนนำสิคะ  :slime_smile2:

แกนนำทั้งหก เดินทางไปต่างจังหวัดเสีย ไประดมพันธมิตรที่ต่างจังหวัด ตามแผนดาวกระจาย ส่วนในกรุงก็รื้อเวทีตามคำสั่งห้ามปิดถนน เก็บกวาดให้เรียบร้อย ตามคำสั่งศาล

แล้วก็ตั้งใหม่ แกนนำกลุ่มใหม่ ไม่เกี่ยวกลุ่มเดิม

ศรีธนนชัยซะมั่ง ท่าจะดี  :slime_smile2:

เยี่ยมครับ  :slime_agreed:

สมควรแล้วหาทางลงไม่ได้ ประชาชนเขาไม่เอาด้วย เฉือกม๊อบไม่ดูตาม้าตาเรือ

บอกตรง ๆ คนอื่น ๆนอกจากไอ้แป๊ะลิ้ม พวกมันอยากเลิกจะแย่อยู่แล้ว แต่ไอ้ลิ้มคนเดียวไม่ยอม เพราะมันได้เงิน

ยิ่งม๊อบนานคนยิ่งเกลียด รัฐบาลมันยิ่งโกยคะแนนนิยม เวรกรรม

แล้วเมื่อไหร่พี่มาร์คกูจะถึงฝั่งฝันได้เป็นนายกกะเขามั่งวะเนี่ย

ยิ่งเศรษฐกิจแย่ ๆ แถมมีม๊อบ คนมันยิ่งจะเรียกหาทักษิณดังขึ้นทุกวัน ๆ เฮ้อ....แม้วกลับมาแหง ๆ  

"ศาลแพ่งมีคำสั่งให้พันธมิตรเปิดถนนบริเวณ พระราม 5 -ถนนพิษณุโลก และให้ ประชาชนเดินผ่าน ไปมาได้โดยสะดวกและ ห้ามใช้เครื่องขยายเสียงซึ่งจะก่อความเดือดร้อนให้แก่ครู นักเรียน ราชวินิตฯ ในการเรียนการสอน ตั้งแต่วันจันทร์ - ศุกร์ ช่วงเวลา 07.30 น. -16.30 น."


ไม่ทราบว่าศาลสั่งให้เลิกชุมนุมตรงไหน :slime_doubt:

สงสัยจะแกล้งโง่หรือคิดว่าคนอื่นโง่ถึงพูดแบบนี้

ศาลเขาไม่ได้ห้ามชุมนุม แต่แค่ห้ามใช้เครื่องขยายเสียง

รอดูต่อไปว่าพรุ่งนี้ศาลจะเพิกถอนคำสั่งรึเปล่า

 :slime_worship:

อ่านแล้วอยากถ่มน้ำลายรดหน้าคนพูด  :slime_hmm:

กุเทพ อ่านกฎหมายไม่รู้ ดูกฎหมายไม่เป็น

ศาลบอกว่าให้เปิดทางจราจร กับ งดใช้เสียงเครื่องขยายเสียง ตามเวลาที่กำหนดเท่านั้น

ก็เขาบอก "ก็ต้องหยุดการชุมนุมในเวลาที่ศาลกำหนดทันที" เวลาอื่นก็ไม่เห็นกุเทพบอกให้หยุดนี่ 

อ่านข่าวให้ดี อย่ามั่ว
 

เอาที่เหลือมาด้วยสิ พี่มะเเอ :slime_bigsmile:

แหม สงสัยมันจะโง่จริงๆไอ้หมอนี่
ไม่เห็นศาลสั่งแบบที่มันว่าเลย
แถมมันยังไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่า
กฏหมายไหนใหญ่กว่ากัน
ระหว่างกฏหมายแพ่งและกฏหมายรัฐธรรมนูญ
ไอ้ขี้ข้าเขมร !
 :slime_evil: :slime_evil: :slime_evil:


เอามาให้ขี้ข้าเขมรอ่านครับ
:slime_fighto: :slime_fighto: :slime_fighto:

ตรงไหนครับที่ศาลให้หยุดชุมนุมในเวลาที่กำหนด เห็นมีแต่ให้เปิดถนนและงดใช้เครื่องขยายเสียงตามเวลาที่กำหนด


ศาลแพ่งมีคำสั่งให้พันธมิตรเปิดถนนบริเวณ พระราม 5 -ถนนพิษณุโลก และให้ ประชาชนเดินผ่าน ไปมาได้โดยสะดวกและ ห้ามใช้เครื่องขยายเสียงซึ่งจะก่อความเดือดร้อนให้แก่ครู นักเรียน ราชวินิตฯ ในการเรียนการสอน ตั้งแต่วันจันทร์ - ศุกร์ ช่วงเวลา 07.30 น. -16.30 น.

ไอ้นี่ก็โง่อีกคน
แหกตาอ่านซะจะได้ดีขึ้นบ้าง
:slime_evil: :slime_evil: :slime_evil:

ศาลสั่งแค่ 2 ประเด็นคือให้เปิดการจราจร และให้งดใช้เครื่องขยายเสียงเท่านั้น

ท่านไม่ได้มีคำสั่งใดๆ เกี่ยวกับการห้ามชุมนุม เพราะรัฐธรรมนูญให้สิทธิ์นั้นอยู่แล้ว

แสดงว่าไอ้กุเทพกว่ามั่วนิ่ม อยากให้ประชาชนได้รับข่าวสารคลาดเคลื่อนไปแบบผิดๆ

อย่างน้อยก็มีลิ่วล้อตัวนึงในบอร์ดนี้กำลังพยายามแถกแถแทนเจ้านายของพวกมันอยู่

 :slime_bigsmile:

ระหว่างโฆษกพรรคกับโฆษกส่วนตัวไอ้แม้วนี่.....

ตัดสินยากมาก.....ว่าใครเบ๊อะบ๊ะกว่ากัน !!!

ขุดกระทู้ขึ้นมาให้ไอ้บังมาแก้ตัวครับ เห็นมันเงียบไปเลย

ตกลงคำสั่งศาลว่าไงแน่ครับ ไอ้คุณบัง

 :slime_smile2:

มานไปแล้ว

ไปแล้ว ไปลับ

ไม่กลับมาสู้เลย ควายเอ๊ย

ศาลไม่ได้สั่งให้ยุติการชุมนุม แค่ให้ปิดเสียงและเปิดเส้นทางตั้งแต่เวลา 7.30 - 16.30  ในวันจันทร์ - ศุกร์ หลัง 16.30 ก็ชุมนุมกันได้เหมือนเดิม แต่พวกหอกหักมันบิดเบือนข้อเท็จจริง หาว่าศาลสั่งยุติการชุมนุม

โง่กันทั้งพรรคเลย พังประชาชนเนี่ย ถึงว่าเรื่องง่ายๆถึงไม่เข้าใจ เค้าบอกว่าแม้วโกง

ก็ยังบอกว่านายแม้วเก่ง แม้วดี แต่ไม่ได้โกงน่ะ เพราะว่าโกงประเทศ แปลว่าอะไรอะ

พรรคเราไม่เข้าใจ

***ฝากบอกจตุพรด้วยน่ะ ว่าลาออกได้แล้ว ลูกผู้ชายพูดแล้วต้องทำ ยกเว้น เป็นตุ๊ด

ระบบรัฐสภา?   เห็นๆกันแล้วนิครับว่าช่วยได้แค่ไหน  :slime_bigsmile:

ผีเน่าอุ้มผีเน่าเหมือนเดิม หลักฐานชัดเจนยังไงไม่สน

มันเป็นสัตว์ตัวผู้
ไม่ใช่ลูก ( มนุษย์ ) ผู้ชาย

07   กรกฎาคม   2551   17:52:15 
ศาลแพ่ง ให้พันธมิตรฯเปิดถนน 05.00-18.00 น.จ-ศ.พร้อมรื้อเวที
 
ศาลแพ่งสั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้กลุ่มพันธมิตรฯ เปิดการจราจรบนถนนพิษณุโลกทุกช่องทาง จันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่ 05.00-18.00 น.พร้อมให้ย้ายเวที ออกจากผิวจราจร

ศาลแพ่งรัชดามีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดช่องทางจราจรบริเวณถนนพิษณุโลก ตั้งแต่ช่วงสนามม้านางเลิ้งถึงแยกสวนมิสกวัน และถนนพระราม 5 ตั้งแต่แยกวัดเบญจมพิตร ถึง สะพานชมัยมรุเชฐ ทุกช่องจราจรตั้งแต่วันจันทร์ - วันศุกร์ ระหว่างเวลา 05.00 - 18.00 น. เพื่อให้รถโดยสาร ประชาชน สามารถสัญจรไปมาได้โดยสะดวก ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวห้ามไม่ให้มีเวทีหรือสิ่งกีดขวางในพื้นผิวจราจรและห้ามมิให้บุคคลใดใช้พื้นที่ดังกล่าวในการชุมนุมและให้คำสั่งมีผลตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค.นี้ ส่วนกรณีที่โจทก์ยื่นคำร้องขอตั้งพนักงานบังคับคดีนั้นศาลเห็นว่า นอกจากศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวออกมาแล้วก็ไม่จำเป็นต้องมีการตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีจึงให้ยกคำร้อง ทางด้าน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรกล่าวเพียงสั้น ๆ ว่าเตรียมหารือกับแกนนำพันธมิตรในคืนนี้ว่าจะดำเนินการแบบใดต่อไป  

ชัดยังครับ  :slime_v: :slime_v: :slime_v: :slime_v: :slime_v: :slime_v:
http://www.innnews.co.th/crime.php?nid=120260
 

ถึงผมจะไม่เห็นด้วยกับแกนนำบางคน และบทบาทบางตอนของพันธมิตร แต่ผมก็เห็นสมควรที่พันธมิตรจะชุมนุมต่อไปนะ

ก็ระบบการตรวจสอบถ่วงดุลย์มีปัญหา ... การเมืองก็ต้องมาเล่นนอกระบบอย่างนี้นี่เอง

นี่เป็นผลจากความหน้าด้านของรัฐบาล



อีกอย่างศาลสั่งห้ามชุมนุม ไม่ได้แน่นอนครับไม่ว่าเวลาไหน (ถ้าการชุมนุมไม่ได้ไปละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของใคร) ผมว่าถ้าพันธมิตรเปลี่ยนท่าที แล้วทำให้กระทบกับผู้คนในบริเวณนั้นน้อยลง ก็สามารถชุมนุมต่อไปได้เรื่อย ๆ ทุกเวลา

ถอยหางจุกตูดกลับไปมัฆวานเลยครับ

นึกถึงตอนพระเจ้าปดุงของพม่าทำสงครามเก้าทัพแล้วแพ้ ยกกลับแทบไม่ทัน


หลังจากนั้น พม่าก็ฟ่อลง ไม่กล้าบุกสยามประเทศ จนต่อมาเสียเมืองให้บริเตนในที่สุด  :slime_fighto: :slime_fighto: :slime_fighto: :slime_fighto: :slime_sentimental: :slime_sentimental:

 

สงสัยจะอ่านไม่ศัพท์จริงๆนะคุณมะแอ

ศาลแพ่งรัชดามีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดช่องทางจราจรบริเวณถนนพิษณุโลก ตั้งแต่ช่วงสนามม้านางเลิ้งถึงแยกสวนมิสกวัน และถนนพระราม 5 ตั้งแต่แยกวัดเบญจมพิตร ถึง สะพานชมัยมรุเชฐ ทุกช่องจราจรตั้งแต่วันจันทร์ - วันศุกร์ ระหว่างเวลา 05.00 - 18.00 น. เพื่อให้รถโดยสาร ประชาชน สามารถสัญจรไปมาได้โดยสะดวก ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวห้ามไม่ให้มีเวทีหรือสิ่งกีดขวางในพื้นผิวจราจรและห้ามมิให้บุคคลใดใช้พื้นที่ดังกล่าวในการชุมนุมและให้คำสั่งมีผลตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค.นี้ ส่วนกรณีที่โจทก์ยื่นคำร้องขอตั้งพนักงานบังคับคดีนั้นศาลเห็นว่า นอกจากศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวออกมาแล้วก็ไม่จำเป็นต้องมีการตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีจึงให้ยกคำร้อง ทางด้าน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรกล่าวเพียงสั้น ๆ ว่าเตรียมหารือกับแกนนำพันธมิตรในคืนนี้ว่าจะดำเนินการแบบใดต่อไป

คุณลองตีความตรงแถบสีแดงดีๆนะครับ อย่าทำเป็นศรีธนนชัย ศาลมีคำสั่งว่ายังไง
1.ให้เปิดช่องทางจราจรบริเวณถนนพิษณุโลกช่วงสนามม้านางเลิ้งถึงแยกสวนมิสกวัน และถนนพระราม 5 ตั้งแต่แยกวัดเบญจมพิตร ถึง สะพานชมัยมรุเชฐ ทุกช่องจราจรตั้งแต่วันจันทร์ - วันศุกร์ ระหว่างเวลา 05.00 - 18.00 น. เพื่อให้รถโดยสาร ประชาชน สามารถสัญจรไปมาได้โดยสะดวก

2.ช่วงเวลาดังกล่าวห้ามไม่ให้มีเวทีหรือสิ่งกีดขวางในพื้นผิวจราจรและห้ามมิให้บุคคลใดใช้พื้นที่ดังกล่าวในการชุมนุม
-หมายถึงบนพื้นผิวถนนที่เปิดการสัญจรตามข้อ1นะครับ ที่ห้ามใช้พื้นที่ตรงนั้นชุมนุม แต่ถ้าบนฟุตบาตที่ไม่ใช่พื้นผิวถนนที่เปิดให้รถสัญจรก็ไม่เข้าข่ายตามนี้ ซึ่งทางพันธมิตรก็เคารพคำสั่งศาลเรื่อยมา
3.ให้คำสั่งมีผลตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค.นี้

ตีความก็ยังผิดๆถูกๆ หัดอ่านแล้วใช้ปัญญาตรึกตรองไปด้วยจะดีกว่าโพสไปตามใบสั่งนะครับ

 :slime_bigsmile:

ก็ถ้าตามศาลแล้วชุมนุมได้ ไงต้องย้ายไปมัฆวานละครับ อย่าทำเป็นศรีธนนชัยไปเลยครับ   อยู่ชุมนุมที่หน้าทำเนียบต่อเลยซิ เวทีก็ไม่ต้องรื้อ

ทั้งนี้เพราะมัฆวาลเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ดีกว่า การสัญจรไปมาในการชุมนุมสะดวก

อีกทั้งศาลยังคุ้มครองเฉพาะบริเวณหน้าทำเนียบ แต่ไม่ได้คุ้มครองครอบคลุมไปถึงสะพานมัฆวาลย์ ก็สามารถชุมนุมไปได้เรื่อยๆ

ต้องถือว่าพันธมิตรปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของศาลแล้ว แต่การชุมนุมที่คนเยอะๆโดยไม่ลงมาบนพื้นผิวถนนทำให้ชุมนุมลำบาก ย้ายไปที่อื่นก็เป็นเรื่องปกติของม็อบ

เข้าใจ บ่ บังโม

กรุณากลับไปดูชื่อหัวข้อของกระทู้นี้ด้วยครับ    :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:

ก็บอกแต่แรกแล้วไง ตามคำสั่งศาล พธม. ชุมนุมไม่ได้ เพราะเวทีมันอยู่บนถนน .........ยังแถอยู่นั่นแหละ  

เขาก็ย้ายเวทีไปจากถนนแล้วไง พอตอนเย็นพ้นเวลาที่ศาลกำหนด ก็ย้ายกลับมาที่เดิม

ศาลไม่ได้ห้ามไม่ให้ชุมนุมหรือเลิกการชุมนุมหรือหยุดการชุมนุม

โง่หรือบ้ากันแน่ครับนี่

 :slime_smile2:

ชุมนุมได้ แต่ไม่สะดวกที่จะชุมนุมไง เลยต้องย้าย


ใครกันแน่ที่เป็นศรีธนญชัย

วันอังคาร ที่ 8 กรกฎาคม 2551
กรณีศึกษาคำสั่งศาลแพ่ง สิทธิการชุมนุมตามมาตรา 63 ของพันธมิตร  
Posted by Canไทเมือง , ผู้อ่าน : 18 , 04:44:10 น.   


ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก

วันที่ 7 กรกฏาคม เวลา 13.30 น. ศาลแพ่งนัดไต่สวนคำร้องนางวรรธนันท์ ครูโรงเรียนราชวินิตมัธยม กับพวกรวม 10 คน ที่ยื่นคำร้องขอศาลแต่งตั้งเจ้าพนักงานงานบังคับคดีให้แกนนำพันธมิตรกับพวก จำเลย ปฏิบัติตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาล ที่ให้เปิดถนนพิษณุโลก และถนนพระราม 5 ทุกช่องทางจราจรตลอดทั้งสาย และห้ามใช้เครื่องขยายเสียงรบกวนการเรียนการสอนตั้งแต่เวลา 07.30-16.30 น. วันจันทร์-ศุกร์ โดยฝ่ายพันธมิตรได้ยื่นคำร้องคัดค้านตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี โดยศาลมีหมายเรียก พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.1 และ ผอ.ขสมก. เข้าไต่สวนด้วย ขณะที่ฝ่ายจำเลยมี พล.ต.จำลอง และนายสุวัตร ทนายความร่วมชี้แจงต่อศาล

ศาลได้ทำความเข้าใจกับคู่ความทั้งสองฝ่ายว่า ศาลในฐานะคนกลาง ยึดหลักประนีประนอม หากศาลมีคำสั่งใดๆ ออกมาย่อมแน่นอนว่าจะมีฝ่ายหนึ่งได้ประโยชน์ และอีกฝ่ายเสียประโยชน์ แต่ศาลยึดหลักสิทธิเสรีภาพของการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 วรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นหลักการใหญ่ แต่ต้องทำโดยปราศจากอาวุธ แต่วรรคสอง และ มาตรา 63 เป็นข้อยกเว้น เป็นการจำกัดการใช้สิทธิเสรีภาพไม่ให้เกินขอบเขต ซึ่งเรื่องนี้ยากต่อการจัดสรรความขัดแย้งระหว่างสิทธิเสรีภาพการชุมนุม กับผู้ได้รับความเดือดร้อนไม่สะดวกในการใช้ถนนสาธารณะ จึงอยากให้คู่ความทั้งสองตกลงกันเรื่องเวลาการใช้ถนน แต่ในการเจรจาตกลงกันทั้งโจทก์และจำเลยไม่สามารถตกลงกันได้

ต่อมาเวลา 17.00 น. ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำสั่ง ระบุว่า ศาลได้ให้ทั้งสองฝ่ายชี้แจงแสดงเหตุผล รวมทั้งแสดงพยานหลักฐานต่อศาลแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายมีความเข้าใจเกี่ยวกับคำสั่งศาลไม่ตรงกันและมีปัญหาด้านการปฏิบัติตามคำสั่งศาล ศาลจึงเห็นควรอธิบายคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาให้คู่ความฟัง โดยศาลได้แจ้งให้คู่ความทั้งสองฝ่ายทราบว่า ในการอธิบายคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาของศาลหรือชี้ขาดปัญหาข้างต้น ศาลยึดหลักกฎหมายว่า เสรีภาพในการชุมนุมเป็นหลักการสำคัญในรัฐธรรนูญ 2550 มาตรา 63 วรรคหนึ่ง แต่การใช้สิทธิเสรีภาพในการชุมนุมโดยเฉพาะในกรณีการชุมนุมสาธารณะมีข้อจำกัดตามรัฐธรรม มาตรา 63 วรรคสอง ซึ่งบัญญัติให้จำกัดเสรีภาพในการชุมนุมได้ ทั้งนี้เพื่อคุ้มครองความสะดวกแของประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะ ขณะเดียวกันการจำกัดเสรีภาพในการชุมนุมสาธารณะตาม มาตรา 63 วรรคสอง ซึ่งเป็นข้อยกเว้นต้องไม่เป็นการลบล้างหลักการเสรีภาพการชุมนุม

ศาลเห็นว่า เพื่อเป็นการรักษาหลักการแห่งเสรีภาพในการชุมนุมกับการคุ้มครองความสะดวกของประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะตามหลักกฎหมายดังกล่าว  ประกอบกับเมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงที่ได้จากการสอบถามพยานที่มาศาล รวมทั้งตรวจดูพยานหลักฐานต่างๆ และคำชี้แจงของฝ่ายจำเลยทั้งหกแล้ว จึงอธิบายคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาและมีคำสั่งเพิ่มเติมรวม 3 ข้อดังนี้

1.ระหว่างพวกจำเลยยังชุมนุมกันอยู่บริเวณถนนพระราม 5 จากแยกวัดเบญจมพบิตรไปทางสะพานชมัยมรุเชฐ และถนนพิษณุโลก จากแยกนางเลิ้งไปทางสะพานชมัยมรุเชฐ จนถึงแยกมิกสกวัน ให้จำเลยทั้ง 6 กับพวก เปิดพื้นที่การจราจรบนถนนพระราม 5 กับถนนพิษณุโลกทุกช่องทาง เฉพาะในวันจันทร์-ศุกร์ ระหว่างเวลา 05.00-18.00 น. เพื่อให้ประชาชนรวมทั้งพวกโจทก์ รถประจำทาง รถยนต์ พาหนะอื่นๆ สัญจรได้สะดวก โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะจัดการจราจรให้แล่นผ่านทางเดียวหรือสวนกันก็ได้ตามความเหมาะสม และเพื่อให้ประชาชนสัญจรไปมาได้สะดวก ในการเปิดพื้นที่ทุกช่องทางจราจรในช่วงเวลาข้างต้นนั้น

1.1 หากเวทีปราศรัย หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของเวทีตั้งอยู่บนถนนและกีดขวางช่องทางจราจรบนถนนที่ต้องเปิด ให้จำเลยทั้งหกกับพวกดำเนินการหรือจัดการย้ายเวทีปราศรัยออกไป เพื่อไม่ให้กีดขวางช่องทางจราจร

1.2 หากช่องทางจราจรที่ต้องเปิด มีวัตถุหรือสิ่งใดอยู่ในลักษณะกีดขวางการจราจร และวัตถุหรือสิ่งนั้น จำเลยทั้งหกกับพวกจัดสร้างขึ้นไม่ว่าเพื่อประโยชน์ในการชุมนุม หรือเพื่อการอื่นใด ให้พวกจำเลยทั้งหกกับพวกดำเนินการหรือจัดการย้ายวัตถุ สิ่งกีดขวางนั้นออกไปจากช่องทางจราจรบนถนนที่ต้องเปิด

1.3 คำสั่งศาลที่ให้พวกจำเลยทั้งหกกับพวกเปิดถนนในช่วงวันเวลาข้างต้น หมายความรวมถึง ห้ามมิให้บุคคลใดใช้พื้นที่ช่องทางจราจรบนถนนที่ต้องเปิดเพื่อประโยชน์ในการชุมนุมหรือเพื่อการอื่นใดในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ในการสัญจรไปมาได้โดยสะดวก

2.คำสั่งศาลที่ให้จำเลยทั้งหกกับพวกปฏิบัติตามข้อ 1.ให้เริ่มมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคมเป็นต้นไป และให้ยึดปฏิบัติต่อไปจนกว่าคดีจะถึงที่สุด หรือศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นหากมีพฤติการณ์เปลี่ยนแปลงไป

3.การใช้เครื่องขยายเสียงของจำเลยทั้งหกกับพวก เป็นเรื่องเกี่ยวเนื่องกับการใช้สิทธิเสรีภาพในการชุมนุมและตั้งเวทีปราศรัย และคำสั่งศาลที่ห้ามมิให้จำเลยทั้งหกกับพวกใช้เครื่องขยายเสียงนั้น มีหมายความว่าในระหว่างที่จำเลยทั้งหกกับพวกยังชุมนุมอยู่บนถนนพระราม 5 ถนนพิษณุโลก ห้ามมิให้จำเลยทั้งหกกับพวกใช้เครื่องเสียง ในลักษณะเป็นการรบกวนการเรียนการสอนของโรงเรียนราชวินิตมัธยม เฉพาะในช่วงวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.30-16.30 น.เท่านั้น และให้คำสั่งนี้ยังมีผลต่อไปจนกว่าคดีจะถึงที่สุดหรือจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นหากพฤติการณ์เปลี่ยนแปลงไป

ส่วนคำร้องที่โจทก์ทั้งสิบที่ขอให้ศาลหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีนั้น ในชั้นนี้ ศาลเห็นว่า เมื่อได้อธิบายคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาให้ทั้งสองฝ่ายแล้ว และยังต้องรอฟังว่าได้มีการปฏิบัติตามคำสั่งศาลหรือไม่เพียงใด ในชั้นนี้จึงไม่มีความจำเป็นต้องดำเนินการทางเจ้าพนักงานบังคับคดี ให้ยกคำร้องส่วนนี้

ศาลยังระบุว่าสุดท้ายในการปฏิบัติต่อกัน ศาลขอให้ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นฝ่ายโจทก์ จำเลย รวมถึงตำรวจผู้รักษากฎหมาย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตลอดจนประชาชน ให้คำนึงถึงหลักสิทธิเสรีภาพของประชาชนภายใต้กรอบแห่งกฎหมาย คำนึงถึงหลักความสมานฉันท์ คำนึงถึงวัฒนธรรมของ สังคมไทย ที่ถ้อยทีถ้อยปฏิบัติต่อกัน เพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างปกติสุข และให้นัดชี้สองสถานในวันที่ 18 สิงหาคม  เวลา 13.30 น. ตามที่ได้นัดไว้เดิม

.................................................................

พันธมิตรพลิกเกม เปลี่ยนกลยุทธ์ "รุกด้วยการถอย "

http://www.oknation.net/blog/canthai/2008/07/07/entry-3