ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: Can ไทเมือง ที่ 28-06-2008, 19:32



หัวข้อ: ฟ้องติงเหล่และ ครม. มาตรา 157,119,120 โทษถึงประหารชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 28-06-2008, 19:32
'ทนายพันธมิตร'ดี๊ด๊าศาลระงับมติครม. ลั่นฟ้องต่อรายตัว

นายสุวัฒน์ อภัยภักดิ์ ทนายความพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ภายหลังที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ระงับการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีเขาพระวิหาร จากการยื่นฟ้องโดยพันธมิตรฯ ว่า

รู้สึกภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่เพื่อประชาชนไทย เนื่องจากยังสามารถรักษาปราสาทเขาพระวิหารไว้ได้

และต่อจากนี้ ตนจะเตรียมดำเนินคดีกับนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและครม. อธิบดีกรมสนธิสัญญา และเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในความผิดทำให้เสียดินแดน ( ป.อาญามาตรา 119 )  และทำให้รัฐต่างประเทศเป็นปฏิปักษ์กับรัฐไทย(ป.อาญามาตรา 120 )

นอกจากนี้ จะร้องเรียนกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ดำเนินคดีกับครม. ในความผิดปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ( ม. 157 )

จากรายการเก็บตกเนชั่น ทนายสุวัฒน์ อภัยภักดิ์ บอกว่าจะยื่นคำฟ้องให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า โดยจะร้องผ่าน ปปช. เพราะกรณีนี้ประชาชนฟ้องเองไม่ได้


หัวข้อ: Re: ฟ้องติงเหล่และ ครม. มาตรา 157,119,120 โทษถึงประหารชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: คนไทยคนหนึ่ง ที่ 28-06-2008, 20:00
ฝักถั่วในสภา ที่ไปยกมือไว้วางใจ ก็อาจจะโดนด้วย

งานนี้ จะมีคนหมดอนาคตไม่สามารถกลับไปสู้หน้าประชาชนในพื้นที่เพียบ

เราเตือนไว้ก่อนหน้านี้แล้วไม่ยอมฟังกันเอง สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

ใครทำอะไรไว้ กรรมมันติดจรวดจริงๆ เพราะมีคนเป็นแสนแช่งอยู่ทุกวัน


หัวข้อ: Re: ฟ้องติงเหล่และ ครม. มาตรา 157,119,120 โทษถึงประหารชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 28-06-2008, 20:02
ช่วยค้น 157, 119, 120 กันหน่อยครับ อิ อิ

 :slime_inlove: :slime_inlove:


หัวข้อ: Re: ฟ้องติงเหล่และ ครม. มาตรา 157,119,120 โทษถึงประหารชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: ผมเองครับ ที่ 28-06-2008, 20:04
ของให้ ติงเหล่ กรมสนธิสัญญา และ กระทรวงการต่างประเทศ ตะแบง ต่อไป นะ ตะแบงจนอยู่ในคุกนะ :slime_bigsmile: :slime_evil:


หัวข้อ: Re: ฟ้องติงเหล่และ ครม. มาตรา 157,119,120 โทษถึงประหารชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: AsianNeocon ที่ 28-06-2008, 20:11
ประมวลกฎหมายอาญา

มาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาทหรือ ทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 119 ในกรณีผิดสัญญาประกันต่อศาล ศาลมีอำนาจสั่ง บังคับตามสัญญาประกันหรือตามที่ศาลเห็นสมควรโดยมิต้องฟ้อง เมื่อศาลสั่งประการใดแล้ว ฝ่ายที่ถูกบังคับตามสัญญาประกันหรือ พนักงานอัยการมีอำนาจอุทธรณ์ได้ คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ให้ เป็นที่สุด"

มาตรา 120 ผู้ใดคบคิดกับบุคคล ซึ่งกระทำการเพื่อ ประโยชน์ ของรัฐต่างประเทศ ด้วยความประสงค์ที่จะก่อให้เกิดการดำเนินการรบต่อรัฐ หรือทางอื่นที่เป็นปรปักษ์ต่อรัฐ ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือ จำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี


http://www.lawyerthai.com/law/articles.php?articleid=9&cat=524

ทำไมมาตรา 119 แปลกๆ????


หัวข้อ: Re: ฟ้องติงเหล่และ ครม. มาตรา 157,119,120 โทษถึงประหารชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 28-06-2008, 20:17
119 น่าจะเกี่ยวกับการทำให้สูญเสียดินแดนหรืออธิปไตย


หัวข้อ: Re: ฟ้องติงเหล่และ ครม. มาตรา 157,119,120 โทษถึงประหารชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: AsianNeocon ที่ 28-06-2008, 20:19
เจอแล้ว

มาตรา 119  ผู้ใดกระทำการใด ๆ เพื่อให้ราชอาณาจักรหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของราชอาณาจักรตกไปอยู่ใต้อำนาจอธิปไตยของรัฐต่างประเทศ หรือเพื่อให้เอกราชของรัฐเสื่อมเสียไป ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต

 :slime_fighto: :slime_fighto: :slime_fighto:


หัวข้อ: Re: ฟ้องติงเหล่และ ครม. มาตรา 157,119,120 โทษถึงประหารชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 28-06-2008, 20:24
ขอดี๊ด๊าด้วยคนค่ะ  :slime_v: :slime_smile: :slime_v:

สะใจจริง ๆ ทั้งเรื่อง เขาพระวิหาร กับ ถุงขนม ๒ ล้านนี่

ทั่นเหลี่ยมขาสั่น ยืนไม่อยู่แล้วมั้งเนี่ยะ  :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen:



หัวข้อ: Re: ฟ้องติงเหล่และ ครม. มาตรา 157,119,120 โทษถึงประหารชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: คนไทยคนหนึ่ง ที่ 28-06-2008, 20:24
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติ ให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2499"
มาตรา 3  ประมวลกฎหมาย อาญาท้ายพระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2500 เป็นต้นไป

หมวด 3 ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร

มาตรา 119  
ผู้ใดกระทำการใด ๆ เพื่อให้ราชอาณาจักรหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของราชอาณาจักรตกไปอยู่ใต้อำนาจอธิปไตยของรัฐต่างประเทศ หรือเพื่อให้เอกราชของรัฐเสื่อมเสียไป ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต

มาตรา 120  
ผู้ใดคบคิดกับบุคคล ซึ่งกระทำการเพื่อ ประโยชน์ ของรัฐต่างประเทศ ด้วยความประสงค์ที่จะก่อให้เกิดการดำเนินการรบต่อรัฐ หรือทางอื่นที่เป็นปรปักษ์ต่อรัฐ ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือ จำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี


หมวด 2 ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ

มาตรา 157  
 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาทหรือ ทั้งจำทั้งปรับ









หัวข้อ: Re: ฟ้องติงเหล่และ ครม. มาตรา 157,119,120 โทษถึงประหารชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 28-06-2008, 20:26
เจอแล้ว

มาตรา 119  ผู้ใดกระทำการใด ๆ เพื่อให้ราชอาณาจักรหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของราชอาณาจักรตกไปอยู่ใต้อำนาจอธิปไตยของรัฐต่างประเทศ หรือเพื่อให้เอกราชของรัฐเสื่อมเสียไป ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต

 :slime_fighto: :slime_fighto: :slime_fighto:

ช่าย..เลย...ตรงนี้แน่นอน...

 :slime_inlove: :slime_inlove:


หัวข้อ: Re: ฟ้องติงเหล่และ ครม. มาตรา 157,119,120 โทษถึงประหารชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: see - u ที่ 28-06-2008, 20:31
*  ขอให้ได้รับโทษ   ม.119   มาตราเดียวก็พอค่ะ    :slime_smile:



หัวข้อ: Re: ฟ้องติงเหล่และ ครม. มาตรา 157,119,120 โทษถึงประหารชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: AsianNeocon ที่ 28-06-2008, 20:33
อยากเห็นคนชั่วที่สมคบต่างชาติทำลายอธิปไตยแผ่นดินตัวเองโดนประหารชีวิตจัง

ประหารชีวิตเสร็จ ให้สร้างรูปปั้นเหมือนมันขึ้นมาแล้วจารึกชื่อมันไว้ แล้วให้คนรุ่นหลังถ่มน้ำลายใส่

แบบ "ฉินไคว่ 秦桧 & เมีย" ที่หังโจว (Hangzhou) มณฑลเจ้อเจียง (Zhejiang)   มันวางอุบายฆ่าแม่ทัพงักฮุยที่ปกป้องอธิปไตยของชาวจีน จนเป็นเหตุให้แผ่นดินชาวฮั่นสูญเสียแก่ชนต่างชาติ



(http://www.shanping.cn/c/showimg?picdir=property/img/20070210/m_1171040190670_-1169566329.jpg)


หัวข้อ: Re: ฟ้องติงเหล่และ ครม. มาตรา 157,119,120 โทษถึงประหารชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: justy ที่ 28-06-2008, 20:34
"มาตรา 119  ต้องระวางโทษประหารชีวิต "

อย่าลืมถ่ายทอดสดผ่านทีวีทุกช่องด้วยน่ะค่ะ  

ดี๊ด๊า..ดี้ด๊า..ดี้ด๊า

 :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: นพดล ปัทมะ รวมทั้งผู้สมคบคิด ต้องเจอมาตรา 119
เริ่มหัวข้อโดย: personal jesus ที่ 28-06-2008, 20:41



ขอให้เจอแบบนี้ จะได้ไม่เป็น
เยี่ยงอย่างแก่ผู้อื่น แบบนี้ต้องเล่นแรง
ต้องเจอของจริง ไม่งั้นยังมีคนคิดที่จะทำอีก


หัวข้อ: Re: ฟ้องติงเหล่และ ครม. มาตรา 157,119,120 โทษถึงประหารชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: fineday ที่ 28-06-2008, 20:43

ดีใจที่ไม่ลืมพ่วงอธิบดีกรมฯไปด้วย  :slime_fighto:



หัวข้อ: Re: ฟ้องติงเหล่และ ครม. มาตรา 157,119,120 โทษถึงประหารชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 28-06-2008, 20:44
พรุ่งนี้เช้าต้องกินปาท่องโก๋จิ้มนมข้ม เพื่อระลึกถึงฉินไคว่กับเมียที่แสนร้ายกาจหน่อยแล้ววว   :mrgreen: :mozilla_yell: :mrgreen:











หัวข้อ: ~@@ นำพี่ นพดล เที่ยว..กิจกรรมของคนในอดีต ก่อน พระวิหารเป็นของเขมร @@~
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหินฮะ๛ ที่ 28-06-2008, 21:03

วิธีประหารชีวิต กบฎ ในสมัย รัชกาลที่ 5  


(http://www.stonekid.com/uploads/gallery/24.jpg)

::::: อ่านแล้วขนลุก :::::
วิธีการประหารชีวิตตามพระไอยการกระบถศึก
 บันทึกและอธิบายเอาไว้อย่างละเอียดถึงวิธีการลงโทษประหาร 21 วิธีหรือ 21 สถาน ดังนี้





สถาน 1 คือ ให้ต่อยกระบานศีศะ (กบาลศีรษะ) เลิกออก (เปิดออก) เสียแล้ว เอาคีมคีบก้อนเหล็กแดงใหญ่ใส่ลงไปในมันสะหมอง (มันสมอง) ศีศะพลุ่งฟู่ขึ้นดั่งม่อ (หม้อ) เคี่ยวน้ำส้มพะอูม

สถาน 2 คือ ให้ตัดแต่หนังจำระ (จาก) เบื้องหน้าถึงไพรปากเบื้องบนทั้งสองข้างเป็นกำหนด ถึงหมวกหู (ใบหู) ทั้งสองข้างเป็นกำหนด ถึงเกลียวคอชายผมเบื้องหลังเป็นกำหนด (หนังบริเวณคอถึงท้ายทอย) แล้วให้มุ่นกระหมวดผมเข้าทั้งสิ้น (ม้วนเข้าหากัน) เอาท่อนไม้สอดเข้าข้างละคน โยกคลอนสั่นเพิกหนังทั้งผมนั้นออกเสียแล้วเอากรวดทรายหยาบขัดกระบานศีศะชำระให้ขาวเหมือนพรรณศรีสังข์

สถาน 3 คือ ให้เอาขอเกี่ยวปากให้อ้าไว้ แล้ให้ตามประทีบ (ดวงไฟ) ไว้ในปาก
ไนยหนึ่ง (นัยหนึ่ง) เอาปากสิวอันคมนั้นแสะแหวะผ่าปากจนหมวกหู (ใบหู) ทั้งสองข้าง แล้วเอาขอเกี่ยวให้อ้าปากไว้ให้โลหิตไหลออกเต็มปาก

สถาน 4 คือ เอาผ้าชุบน้ำมันพันให้ทั่วร่างกายแล้วเอาเพลิงจุด

สถาน 5 คือ เอาผ้าชุบน้ำมันพันนิ้วทั้งสิบนิ้วแล้วเอาเพลิงจุด

สถาน 6 คือ เชือดเนื้อให้เป็นแรงเป็นริ้วอย่าให้ขาดจากกัน ตั้งแต่ใต้คอลงไปถึงข้อเท้าแล้วเอาเชือกผูกจำ ให้เดินเหยียบริ้วเนื้อริ้วหนังแห่งตน ให้ฉุดคร่าตีจำให้เดินไปกว่าจะตาย

สถาน 7 คือ เชือดเนื้อให้เนื่องด้วยหนังเป็นแร่งเป็นริ้ว ตั้งแต่ใต้คอลงมาถึงเอวและให้เชือดตั้งแต่เอวให้เนื่องด้วยหนังเป็นแร้งเป็นริ้วลงมาถึงข้อเท้ากระทำหนังเบื้องบนให้คลุมลงมาเหมือนนุ่งผ้า

สถาน 8 คือ ให้เอาห่วงเหล็กสวมข้อศอกทั้งสองข้าง ข้อเข่าทั้งสองข้างให้มั่นแล้วเอาหลักสอดในวงเหล็กแย่งขึงตรึงลงไว้กับแผ่นดินอย่าให้ไหวตัวได้ แล้วเอาเพลิงรน (ลน)ให้รอบตัวจนกว่าจะตาย

สถาน 9 คือ ให้เอาเบ็ดใหญ่ที่มีคมสองข้างเกี่ยวทั่วร่างเพิก (เปิด) หนังเนื้อและเอ็นน้อยใหญ่ให้หลุดขาดออกมาจนกว่าจะตาย

สถาน10 คือ ให้เอามีดที่คมเชือดเนื้อให้ตกออกจากกายแต่ทีละตำลึง(นำเนื้อมาชั่งให้ได้น้ำหนักหนึ่งตำลึง:มาตราวัดสมัยโบราณ) จนกว่าจะสิ้นมังสา (เนื้อ)

สถาน 11 คือ ให้แล่สับทั่วร่างแล้ว เอาแปรงหวีชุบน้ำแสบกรีดค! รูดขูดเสาะหนังและเนื้อแลเอ็นน้อยใหญ่ให้ลอกออกให้สิ้นให้อยู่แต่ร่างกระดูก

สถาน 12 คือ ให้นอนลงโดยข้างๆ หนึ่งแล้วให้เอาหลาวเหล็กตอกลงไปโดยช่องหูให้แน่นกับแผ่นดินแล้วจับขาทั้งสองข้างหมุนเวียนไปดังบุคคลทำบังเวียน (เวียนเทียน)

สถาน 13 คือ ทำมิให้หนังพังหนังขาด แล้วเอาลูกสีลา (ลูกหิน) บดทุกกระดูกให้แหลกย่อย แล้วรวบผมเข้าทั้งสิ้น ยกขึ้นหย่อนลงกระทำให้เนื้อเป็นกองเป็นลอม แล้วพับห่อเนื้อหนังกับทั้งกระดูกนั้นทอดวางไว้ดั่งตั่งอันทำด้วยฟางซึ่งเอาไว้เช็ดเท้า

สถาน 14 คือ ให้เคี่ยวน้ำมันให้เดือดพลุ่งพล่าน แล้วลาดสาดลงมาแต่ศีศะ (ศีรษะ) จนกว่าจะตาย

สถาน 15 คือ ให้กักขังสุนัขร้ายทั้งหลายไว้ อดอาหารหลายวันให้เต็มอยากแล้วปล่อยให้กัดทึ้งเนื้อหนังกินให้เหลือแต่ร่างกระดูกเปล่า

สถาน 16 คือ ให้เอาขวานผ่าอกทั้งเป็นแหกออกดั่งโครงเนื้อ

สถาน 17 คือ ให้แทงด้วยหอกทีละน้อยๆ จนกว่าจะตาย

สถาน 18 คือ ให้ขุดหลุมฝังเพียงเอว แล้วเอาฟางปกลงคลุมร่างก่อนคลอกด้วยเพลิงพอหนังไหม้แล้วไถด้วยไถเหล็ก ให้เป็นท่อนน้อยท่อนใหญ่เป็นริ้วน้อยริ้วใหญ่

สถาน 19 คือ ให้เชือดเนื้อล่ำออกทอดด้วยน้ำมัน เหมือนทอดขนมให้ กินเนื้อตัวเองจนกว่าจะตาย

สถาน 20 คือ ให้ตีด้วยตะบองสั้นตะบองยาวจนกว่าจะตาย

สถาน 21 คือ ตีด้วยหวายที่มีหนามจนกว่าจะตาย




(http://www.stonekid.com/uploads/tak.bmp)



หัวข้อ: ~@@ นำพี่ นพดล เที่ยว..กิจกรรมของคนในอดีต ก่อน พระวิหารเป็นของเขมร @@~
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหินฮะ๛ ที่ 28-06-2008, 21:05
ภาพ ..สมัย โบราณ..
การประหารชีวิต  นักโทษ..ขายแผ่นดิน..


(http://www.stonekid.com/uploads/gallery/225.jpg)


(http://www.stonekid.com/uploads/gallery/226.jpg)


(http://www.stonekid.com/uploads/gallery/227.jpg)


(http://www.stonekid.com/uploads/gallery/228.jpg)



(รูปนี๊ ม่ายเกี่ยวนะฮะ..เห็นบรรยากาศ คล๊ายๆกัน เจ๋ยเจ๋ย.....ตัวอย่างบรรยากาศ ภาพสีไง)
(http://www.stonekid.com/uploads/political/70287028.jpg)



หัวข้อ: ~@@ นำพี่ นพดล เที่ยว..กิจกรรมของคนในอดีต ก่อน พระวิหารเป็นของเขมร @@~
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหินฮะ๛ ที่ 28-06-2008, 21:17


. พิพิธภัณฑ์ราชทัณฑ์
Corrections Museum 
(เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร)

(http://www.correct.go.th/demo/museum/images/pic4.jpg)

 :slime_smile2:   พอดี๊..มีโอกาส..ไปเที่ยวชม "พิพิธภัณฑ์ราชทัณฑ์" พิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่ที่ ถนนมหาไชย บริเวณเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร (เดิม)
หรือสวนสาธารณะ "สวนรมณีนาถ" มีอาคารเหลืออยู่ 3 หลัง และอาคารแดน 9 (เรือนนอน)
ซึ่งกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแล้วจัดสร้างเป็น..  พิพิธภัณฑ์แสดงประวัติความเป็นมาของกิจการราชทัณฑ์
... โดยมีจัดแสดงเครื่องพันธนาการในสมัยโบราณ, เครื่องมือลงทัณฑ์สมัยโบราณ, จัดแสดงอาวุธปืน ดาบ,  
วิธีและขั้นตอนการประหารชีวิตด้วยดาบ ปืน และการฉีดยาเข้าเส้น (ซึ่งเป็นวิธีการประหารชีวิตแบบปัจจุบัน)  

โดยสามารถ เพื่อนๆ สามารถ นำผู้ใหญ่ ปายเข้าชมได้... โดยไม่เสียค่าเข้าชม และสามารถถ่ายรูปได้
หากเพื่อน ๆ สนใจก็สามารถเข้าชมได้ในวันอังคาร - ศุกร์ เวลา 08.30 - 16.30 น. นะฮะ


(http://www.stonekid.com/uploads//gallery/0001501.jpg)



หัวข้อ: Re: ฟ้องติงเหล่และ ครม. มาตรา 157,119,120 โทษถึงประหารชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: กระดานดำออนไลน์ ที่ 28-06-2008, 21:43
^
^
^
 :slime_o: :slime_o: :slime_o:


หัวข้อ: Re: ฟ้องติงเหล่และ ครม. มาตรา 157,119,120 โทษถึงประหารชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: 西施无情 ที่ 28-06-2008, 21:45
สยอง  :slime_dizzy:


หัวข้อ: Re: ฟ้องติงเหล่และ ครม. มาตรา 157,119,120 โทษถึงประหารชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: nominee ที่ 28-06-2008, 22:03
ถ้าเป็นรายการโทรทัศน์ ก็ติดเรต (เฉพาะผู้ใหญ่) ได้เลย

คุณลูกหินช่วยทำ Mosaic แปะ
ลดระดับเหลือซัก (เด็ก 6-13 ขวบ) จะดีไม๊คับ
ผมจะได้พอดูได้  :slime_smile2:


หัวข้อ: Re: ฟ้องติงเหล่และ ครม. มาตรา 157,119,120 โทษถึงประหารชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: นักปฏิวัติ ที่ 29-06-2008, 00:55
ส่งไปให้ ครม.ทุกคนเลย จะได้เป็นมรณสติ (เป็นการทำบุญนะครับ) แต่จริงๆกะขู่ :slime_worship:

เตือนสติให้เกิด หิริ(ละอายชั่ว) โอตตัปปะ (กลัวบาป ผลของบาป)


หัวข้อ: Re: ฟ้องติงเหล่และ ครม. มาตรา 157,119,120 โทษถึงประหารชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: นักปฏิวัติ ที่ 29-06-2008, 00:56
ปรินท์สี ส่งไปให้ ครม.ทุกคนเลย จะได้เป็นมรณสติ (เป็นการทำบุญนะครับ) แต่จริงๆกะขู่ :slime_worship:

เตือนสติให้เกิด หิริ(ละอายชั่ว) โอตตัปปะ (กลัวบาป ผลของบาป)


หัวข้อ: Re: ฟ้องติงเหล่และ ครม. มาตรา 157,119,120 โทษถึงประหารชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 29-06-2008, 03:08
ทนายเล็งฟ้องผิดอาญา'นพดล-ครม.'ชี้โทษถึงขั้นประหารหลังศาคปค.สั่งคุ้มครอง'เขาพระวิหาร'
มตืชน  วันที่ 28 มิถุนายน 2551 - เวลา 21:13:00 น. 
 
ศาลปกครองสั่งห้าม'นพดล-ครม.'ยกมติ ครม. เห็นชอบแถลงการณ์ร่วม'ไทย-กัมพูชา'ยื่นขึ้นทะเบียนมรดกโลก ชี้ ข้อ1 และ 4 ไทยต้องยอมรับเขตรอบปราสาทตามแผนที่แนบท้ายกัมพูชาโดยปริยาย  ทนายความเล็งฟ้องผิดอาญา 'นพดล-ครม.' มาตรา 119 – 120 อันเป็นความผิดต่อความมั่นคงของรัฐโทษสูงสุดประหารชีวิต
 

http://www.matichon.co.th/news_title.php?id=2378

 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ฟ้องติงเหล่และ ครม. มาตรา 157,119,120 โทษถึงประหารชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: Register_AC ที่ 29-06-2008, 05:35
 :slime_fighto: เชียร์ๆ ... เอาเลยครับ เชือดเหล่ให้เหลี่ยมดู


หัวข้อ: Re: ฟ้องติงเหล่และ ครม. มาตรา 157,119,120 โทษถึงประหารชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: Limmy ที่ 29-06-2008, 11:28
โหวตให้ S2 สถาน 2 ครับ :slime_fighto:


หัวข้อ: Re: ฟ้องติงเหล่และ ครม. มาตรา 157,119,120 โทษถึงประหารชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: บักหัวเถิก ที่ 29-06-2008, 14:19
ขึ้นศาลจริงๆๆไอ่เหล่เก่งกฎหมายเดี๋ยวมันแมร่งก็หาเหตุบรรเทาโทษลงอีก เช่น เคยทำคุณความดีแก่ประเทศชาติ ฯลฯ


แบบนี้ทุกราย รอดูพี่เหลี่ยมก็เหมือนกันมันคงอ้างแบบนี้ละครับ คิดเองนะเท่าที่รู้มา


หัวข้อ: Re: ฟ้องติงเหล่และ ครม. มาตรา 157,119,120 โทษถึงประหารชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: 西施无情 ที่ 29-06-2008, 14:40
    
13:39 น.

    นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา แกนนำกลุ่ม 61 ส.ว.ที่ยื่นอภิปรายรัฐบาลเมื่อวันจันทร์ที่ 23 มิ.ย.กล่าวถึงความคืบหน้าในการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมติคณะรัฐมนตรีที่อนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาเพื่อให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ขัดต่อรัฐธรรมนูญ 190หรือไม่ว่า ขณะนี้มีส.ว.ร่วมลงชื่อเกิน 70 คนแล้ว และจะยื่นเรื่องให้ประธานวุฒิสภา ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญในเวลา11.00 น. วันที่ 30 มิ.ย.นี้
    "ตรงนี้ชัดเจนว่าเป็นการทำสัญญาระหว่างประเทศเพราะคำสั่งระงับยับยั้งของศาลปกครองที่ออกมาก็ชัดเจน
    นอกจากนี้ยังมีส.ว.บางส่วนหารือกันว่าจะเข้าแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับ ครม.ทั้งคณะ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานะปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยเพราะเป็นการลงมติโดยครม.ทั้งคณะ"


หัวข้อ: Re: ฟ้องติงเหล่และ ครม. มาตรา 157,119,120 โทษถึงประหารชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: 1ktip ที่ 29-06-2008, 16:42
ลงฑัณท์ตามลูกหินฯ เสนอเสร็จแล้ว ช่วยเก็บซากไปทำมัมมี่พลาสติก เอาไปตั้งแสดงหน้ารัฐสภา

หรือจะหล่อใส่แท่งแก้ว เอาไปปักแทนหมุดเขตแดนไทย-กัมพูชาก็ไม่เลว


หัวข้อ: Re: ฟ้องติงเหล่และ ครม. มาตรา 157,119,120 โทษถึงประหารชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: สมชายสายชม ที่ 29-06-2008, 18:04
ผมมีความเห็นว่า "ไม่ควรประหารชีวิตไอ้พวกขายชาติ .. เอาแค่จำคุกตลอดชีวิตก็พอ"

โดยสร้างกรงขังไว้ที่หน้าทางขึ้นปราสาทเขาพระวิหาร และตั้งเพิงขายกล้วยขายผลไม้ไว้ใกล้ๆ

เพื่อให้นักท่องเที่ยวซื้อเป็นอาหารไว้ป้อนให้ไอ้พวกขายชาติมันได้กินประทังชีวิตไปจนกว่าจะตาย

หลังจากตายไปแล้ว ก็ให้ขุดหลุมฝังไว้ตรงนั้น ให้เฝ้าปราสาท

...


หัวข้อ: "สุวัฒน์"เตือน"นพดล"อย่าละเมิดคำสั่งศาล กรณีเขาพระวิหาร
เริ่มหัวข้อโดย: 西施无情 ที่ 29-06-2008, 19:37
    
18:58 น.

    นายสุวัฒน์ อภัยภักดิ์ ผู้ฟ้องคดีเขาพระวิหารต่อศาลปกครอง กล่าวว่า ขอบเขตที่นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ต้องปฏิบัติ คือการทำหนังสือถึงรัฐบาลกัมพูชา ว่าไทยไม่สามารถปฏิบัติได้ตามการลงนามแถลงการณ์ร่วม และต้องทำหนังสือแจ้งไปที่คณะกรรมการมรดกโลก และยูเนสโก ถ้าผู้ถูกฟ้องไม่ปฏิบัติตามแนวทางนี้ ถือว่ายังไม่ได้ดำเนินการให้สอดคล้องกับคำสั่งของศาล อย่างนี้ก็มีเหตุที่ในฐานะเป็นผู้ฟ้องจะยื่นคำร้องต่อศาลว่า ผู้ถูกฟ้องละเมิดอำนาจศาล ซึ่งมีโทษจำคุกด้วย ไม่แค่ขอให้ศาลมีคำสั่งบังคับให้ปฏิบัติคำสั่งศาล


หัวข้อ: Re: ฟ้องติงเหล่และ ครม. มาตรา 157,119,120 โทษถึงประหารชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: qazwsx ที่ 29-06-2008, 19:45
ผมมีความเห็นว่า "ไม่ควรประหารชีวิตไอ้พวกขายชาติ .. เอาแค่จำคุกตลอดชีวิตก็พอ"

โดยสร้างกรงขังไว้ที่หน้าทางขึ้นปราสาทเขาพระวิหาร และตั้งเพิงขายกล้วยขายผลไม้ไว้ใกล้ๆ

เพื่อให้นักท่องเที่ยวซื้อเป็นอาหารไว้ป้อนให้ไอ้พวกขายชาติมันได้กินประทังชีวิตไปจนกว่าจะตาย

หลังจากตายไปแล้ว ก็ให้ขุดหลุมฝังไว้ตรงนั้น ให้เฝ้าปราสาท

...

ไม่เห็นชอบครับ
ผู้คนทั่วทั้งโลกจะหาว่ารัฐบาลไทยส่งเสริมให้รังแกสัตว์


หัวข้อ: Re: ฟ้องติงเหล่และ ครม. มาตรา 157,119,120 โทษถึงประหารชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหินฮะ๛ ที่ 29-06-2008, 19:56
ไม่เห็นชอบครับ
ผู้คนทั่วทั้งโลกจะหาว่ารัฐบาลไทยส่งเสริมให้รังแกสัตว์

:slime_smile2:  ตัดจู๋ ..เสียบประจาน เร๊ยยยฮะ
 ( :mrgreen:เอารูปตัวอย่างไหมฮะ)
เอาให้สูญพันธ์ ..ปายเลย
ลูกหินหมั่นใส้ ...พี่เหล่ ที่จีบสาวๆ... ฟันแล้วทิ๊ง .. :slime_slapped:


หัวข้อ: Re: ฟ้องติงเหล่และ ครม. มาตรา 157,119,120 โทษถึงประหารชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: An.mkII ที่ 29-06-2008, 20:15
ไม่เห็นชอบครับ
ผู้คนทั่วทั้งโลกจะหาว่ารัฐบาลไทยส่งเสริมให้รังแกสัตว์

เเถมยังไม่ใช่สัตว์ธรรมดาๆ

แต่เป็นสัตว์ ที่โลกต้องการเอาไว้ให้คนทั่วโลกดูแบบเป็นๆ....

ว่าไอ้สัตว์แบบนี้ คนดีๆ อย่าได้รึเอาเป็นเยี่ยงอย่าง


หัวข้อ: Re: ฟ้องติงเหล่และ ครม. มาตรา 157,119,120 โทษถึงประหารชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 30-06-2008, 14:19
อยากเห็นคนชั่วที่สมคบต่างชาติทำลายอธิปไตยแผ่นดินตัวเองโดนประหารชีวิตจัง

ประหารชีวิตเสร็จ ให้สร้างรูปปั้นเหมือนมันขึ้นมาแล้วจารึกชื่อมันไว้ แล้วให้คนรุ่นหลังถ่มน้ำลายใส่

แบบ "ฉินไคว่ 秦桧 & เมีย" ที่หังโจว (Hangzhou) มณฑลเจ้อเจียง (Zhejiang)   มันวางอุบายฆ่าแม่ทัพงักฮุยที่ปกป้องอธิปไตยของชาวจีน จนเป็นเหตุให้แผ่นดินชาวฮั่นสูญเสียแก่ชนต่างชาติ



(http://www.shanping.cn/c/showimg?picdir=property/img/20070210/m_1171040190670_-1169566329.jpg)

อ๊ะ สถานที่นี่ผมเคยไปมาครับ อยู่ริมทะเลสาบซีหูตรงศาลเจ้างักฮุยใช่ไหมครับ

ผมถ่มเสลดกับน้ำลายใส่รูปปั้นสองคนนี้ด้วยนะครับ

อีกหน่อยน่าจะทำรูปปั้นไอ้เหลี่ยมบ้าง ให้คนไทยไปถ่มน้ำลายใส่ทุกวัน :slime_fighto:


หัวข้อ: Re: ฟ้องติงเหล่และ ครม. มาตรา 157,119,120 โทษถึงประหารชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: The Last Emperor ที่ 30-06-2008, 14:28
"วิพากษ์ ตุลาการภิวัฒน์

มองมุมใหม่ : รศ.ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 

ในการเสวนาทางวิชาการช่วงปลายพฤษภาคม 2549 หัวข้อเรื่อง "พิพากษาหาความยุติธรรมประเทศ เพิ่มดุลยภาพการเมืองไทย ก้าวสู่การปฏิรูปการเมืองรอบสอง" ความตอนหนึ่งเรียกร้องให้มีกระบวนการ "ตุลาการภิวัตน์" (Judicialization of politics and administrations) ซึ่งหมายถึง "การที่อำนาจตุลาการเข้าตรวจสอบการออกกฎหมาย และการใช้อำนาจของนักการเมือง" "การให้อำนาจแก่ฝ่ายตุลาการในการตรวจสอบถ่วงดุลสองอำนาจใหญ่คือ ฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ"

บทบรรยายเห็นว่า ต้นตอของปัญหาการเมืองไทยปัจจุบันคือ การที่กลไกตรวจสอบถ่วงดุลของระบอบประชาธิปไตยไม่ทำงาน จนเกิดผลประโยชน์ทับซ้อน และคอร์รัปชันอย่างกว้างขวาง ฉะนั้น หนทางปฏิบัติขององค์กรตุลาการคือ เติมเต็มข้อบกพร่องดังกล่าวด้วยการให้มีการถ่วงดุลตรวจสอบอย่างเข้มงวด จริงจัง และต่อเนื่อง ไม่ใช่เพียงแค่จัดการเลือกตั้งให้ยุติธรรมเท่านั้น

บทความดังกล่าวอ้างที่มาของ "ตุลาการภิวัตน์" ว่า เริ่มต้นจากผู้พิพากษาสูงสุดของสหรัฐอเมริกาชื่อ จอห์น มาร์แชล ซึ่งได้ตัดสินไว้ตั้งแต่ปี 1803 ว่า ศาลสูงสหรัฐมีอำนาจตัดสินคดีเกี่ยวกับการใช้อำนาจของฝ่ายบริหารหรือสภาคองเกรส ว่า เป็นไปตามครรลองรัฐธรรมนูญหรือไม่

ปรากฏว่า ข้อเสนอ "ตุลาการภิวัตน์" ดังกล่าวได้รับเสียงสะท้อนอย่างต่อเนื่อง มีผู้นำไปต่อเติมขยายความเพิ่ม กระทั่งเป็นหนังสือชื่อเดียวกัน เรียกร้องให้องค์กรตุลาการลงมาแก้ปัญหาวิกฤติการเมืองไทยปัจจุบัน "อย่างเป็นฝ่ายรุก" ข้อเสนอบางข้อมีนัยที่เรียกร้องให้องค์กรตุลาการออกมาเลือกข้างคู่ขัดแย้งทางการเมือง และ "ตั้งธง" ให้ตุลาการวินิจฉัยอรรถคดีการเมืองไปในทิศทางที่พวกตนต้องการ

แต่ทั้งหมดนี้ ก็มิใช่อะไรมากไปกว่าจุดเริ่มที่เป็นบทบรรยายที่สับสนด้วยข้อมูลวิชาการ โยงใยกับทัศนะการเมืองส่วนตัว แพร่ขยายไปลงท้ายเป็นกระแสความคิดที่มุ่งใช้องค์กรตุลาการมาสนองเป้าหมายทางการเมืองของพวกตน โดยไม่คำนึงถึงผลที่จะไปทำลายกฎหมายรัฐธรรมนูญ และผลกระทบต่อสถานะขององค์กรตุลาการในระยะยาว

อำนาจตุลาการในการวินิจฉัยรัฐธรรมนูญเริ่มครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา โดยคณะศาลสูงสุดที่นำโดย จอห์น มาร์แชล ได้พิพากษาคดีพิพาทระหว่างมาร์เบอรี่และแมดิสัน (Marbury v. Madison) ไว้เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 1803 มีความเดิมว่า นายมาร์เบอรี่ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้พิพากษาท้องถิ่น (justice of the peace) ในนาทีสุดท้ายโดยประธานาธิบดีอาดัมส์

แต่เมื่อเจฟเฟอร์สันเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี กลับให้รัฐมนตรีแมดิสันงดการส่งหมายแต่งตั้งออกไป มาร์เบอรี่จึงอ้างบทบัญญัติตามส่วนที่ 13 แห่งพระราชบัญญัติตุลาการซึ่งผ่านโดยสภาคองเกรสในปี 1789 ฟ้องร้องต่อศาลสูงสุดให้บังคับรัฐมนตรีส่งหมายแต่งตั้ง แต่คณะศาลสูงสุดกลับวินิจฉัยว่า ส่วนที่ 13 ของพระราชบัญญัติดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญและไม่มีผลบังคับใช้ ศาลสูงสุดไม่มีอำนาจออกคำสั่งบังคับตามที่ร้องขอ

คดีนี้ได้กลายเป็นบรรทัดฐานที่ให้ศาลสูงสุดของสหรัฐ มีอำนาจตีความรัฐธรรมนูญและตัดสินว่า กฎหมายใดที่ออกโดยฝ่ายนิติบัญญัติ และบริหาร "ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่" อำนาจดังกล่าวเรียกว่า judicial review ศาลสูงสุดของสหรัฐได้ใช้อำนาจนี้มาถึงปัจจุบัน

ช่วงที่มีชื่อเสียงคือยุค 1960 ซึ่งมีคำวินิจฉัยให้กฎหมายแบ่งแยกสีผิว "ขัดรัฐธรรมนูญและไม่มีผลบังคับใช้" ให้สิทธิเท่าเทียมแก่คนผิวสีในสหรัฐ อำนาจวินิจฉัยว่า กฎหมายใดขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่นี้ก็คือ บทบาทของฝ่ายตุลาการในการถ่วงดุลอำนาจฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติในระบอบประชาธิปไตย

หลังสงครามโลกครั้งที่สอง การให้ตุลาการวินิจฉัยรัฐธรรมนูญได้ก็แพร่ขยายไปสู่ประเทศประชาธิปไตยอื่นๆ แต่วิธีการแตกต่างไป เช่น ฝรั่งเศสใช้ระบบคณะกรรมการร่วมนิติบัญญัติ-ตุลาการ เยอรมนี ออสเตรีย อิตาลี จัดตั้งเป็นศาลรัฐธรรมนูญโดยตรง ส่วนญี่ปุ่น อินเดีย ปากีสถาน ตามอย่างสหรัฐและอังกฤษ ให้ศาลสูงสุดใช้อำนาจดังกล่าว ในประเทศไทย judicial review ตามแนวทางประชาธิปไตยก็มีอยู่แล้วในรัฐธรรมนูญปี 2540 ในรูปของศาลรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะ

ฉะนั้น บทบาทของตุลาการในการถ่วงดุลอำนาจบริหาร และนิติบัญญัติที่สำคัญที่สุดคือ การวินิจฉัยบทกฎหมาย ที่ออกโดยฝ่ายนิติบัญญัติ และบริหารโดยยึดบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญเป็นสูงสุดเท่านั้น หน้าที่ดังกล่าวเป็นของศาลรัฐธรรมนูญ ตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญเท่านั้น และเฉพาะที่เป็นคดีความเข้ามาสู่ศาลตามขั้นตอนวิธีพิจารณาความตามกฎหมาย การตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจโดยฝ่ายตุลาการจึงไม่ใช่การกระทำตามอำเภอใจที่เอากฎหมาย และองค์กรตุลาการไปรองรับเป้าประสงค์ทางการเมืองของฝ่ายใด

สิ่งที่ผู้ที่นิยม "ตุลาการภิวัตน์" ต้องการ เช่น สนับสนุนให้องค์กรตุลาการออกแถลงการณ์แสดงท่าทีการเมืองที่ไม่ใช่อรรถคดี หรือให้ตุลาการ "ตั้งธง" ไว้ล่วงหน้าในคดีการเมือง เหล่านี้ ไม่ใช่การใช้อำนาจตุลาการมาถ่วงดุลอำนาจบริหาร และนิติบัญญัติตามรัฐธรรมนูญในระบอบประชาธิปไตย แต่เป็นการผลักดันให้องค์กรตุลาการ เข้ามาพัวพันกับความขัดแย้งทางการเมือง ระหว่างพรรคฝ่ายต่างๆ โดยตรง ให้องค์กรตุลาการ "เลือกข้าง" แสดงทัศนะที่ไม่ใช่อรรถคดี กระทั่งพิพากษาคดีการเมืองไปในแนวทางที่เป็นประโยชน์แก่ฝ่ายตนและทำลายคู่ปรปักษ์

คนพวกนี้คำนึงแต่เป้าหมายเฉพาะหน้า ใช้วิธีการต่อสู้แบบไหนก็ได้ อ้างทฤษฎีแนวคิดลอยๆ ที่ปั้นขึ้นเอง หรือที่ไปบิดเบือนมาจากตำราแล้วบัญญัติเป็นศัพท์ใหม่ๆ หรูๆ มีความหมายบิดเบี้ยวอย่างไรก็ได้ ให้บรรลุเป้าหมายการเมืองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย แต่เป็นอำนาจนิยมขวาจัดของพวกตนเป็นพอ

ไม่คำนึงว่า "ตุลาการภิวัตน์" ที่พวกตนเรียกร้องจะทำลายความน่าเชื่อถือ ขององค์กรตุลาการ สั่นคลอนความเชื่อมั่น ของประชาชน ทำให้องค์กรตุลาการแปดเปื้อนทางการเมือง และอาจลงท้ายเป็น "ระบอบตุลาการธิปไตย" ที่องค์กรตุลาการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จอยู่เหนือฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ ที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน"