ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: oho ที่ 10-06-2008, 17:08



หัวข้อ: "เหลิมปากสั่น"หลักสูตรรามฯไม่บังคับ..สนธิ แฉหลักสูตรตามกระทรวงศึกษาธิการบังคับ
เริ่มหัวข้อโดย: oho ที่ 10-06-2008, 17:08
“เหลิม” หน้าแหกรับไม่ผ่านมาตรฐานโทเฟล ปากสั่นหลักสูตรไม่บังคับ   
 
10 มิถุนายน 2551 12:30 น.
 
 
(http://pics.manager.co.th/Images/551000007370501.JPEG)
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง

 
  มท.1 ยอมรับไม่ผ่านมาตรฐานการสอบภาษาอังกฤษ (โทเฟล) ตามคำท้าทายของ “สนธิ”       แต่ยังอ้างน้ำขุ่นๆ หลักสูตรด็อกเตอร์ทางกฎหมายไม่ได้บังคับให้ต้องสอบ   เล่นลิ้นให้พันธมิตรฯ ยึดแบบอย่าง ส.ว.เปิดอภิปรายในสภา
       

       วันนี้ (10 มิ.ย.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวขอบคุณสมาชิกวุฒิสภาที่ยื่นขอเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาล เพราะถือเป็นแบบอย่างที่ดีในระบอบประชาธิปไตยที่ควรนำไปเป็นบรรทัดฐาน ขณะเดียวกันได้แนะให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยดูเป็นตัวอย่างเก็บไปสอนลูกสอนหลาน และหากพันธมิตรฯ มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ก็ควรจะนำไปให้ ส.ว.หรือ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการอภิปราย โดยหากรัฐบาลทุจริตตามที่พันธมิตรฯ กล่าวหา ไม่สามารถตอบชี้แจงได้ ประชาชนก็จะหมดศรัทธา และรัฐบาลก็จะอยู่ไม่ได้
       
       รัฐมนตรีมหาดไทย ยังกล่าวถึงกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ได้กล่าวท้าบนเวทีสะพานมัฆวานฯ ว่า ให้เปิดเผยผลการสอบ TOEFL ในการทำปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงว่าได้ถึง 550 คะแนน ตามเกณฑ์หรือไม่    โดย ร.ต.อ.เฉลิมอ้างว่า หลักสูตรปริญญาเอกนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ศึกษาไม่ได้บังคับให้ต้องสอบคะแนน TOEFL แต่มีเงื่อนไขต้องจบปริญญาตรี และปริญญาโททางด้านกฎหมาย เกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.5
       
       ร.ต.อ.เฉลิม ทำดุษฎีนิพนธ์ปริญญาเอกเรื่อง ปัญหาการบังคับใช้บทบัญญัติรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา : ศึกษากรณีอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง คณะกรรมการที่ปรึกษาดุษฎีนิพนธ์ ประกอบด้วย ศาสตราจารย์ประจำรังสรรค์ แสงสุข เป็นประธาน พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.มัลลิกา พินิจจันทร์ รองศาสตราจารย์พูนศักดิ์ วรรณพงษ์


(http://pics.manager.co.th/Images/551000007370501.JPEG)
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง

     
       ทั้งนี้เมื่อทีมงานผู้จัดการออนไลน์ดำเนินการสอบถามเจ้าหน้าที่โครงการปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ด้านสังคมศาสตรื มหาวิทยาลัยรามคำแหง ก็พบว่า มหาวิทยาลัยรามคำแหงhttp://www.phd.ru.ac.th/light/?pageid=3 (http://www.phd.ru.ac.th/light/?pageid=3) ได้กำหนดคุณสมบัติของผู้เข้าศึกษาระดับ โครงการดุษฎีบัณฑิตทางสังคมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง    ว่า ผู้สมัครต้องมีความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษ ได้ TOEFL ไม่ต่ำกว่า 550 หรือ ต้องผ่านการทดสอบภาษาอังกฤษจากสถาบันภาษา   ม.รามคำแหงโดยได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 กรณีไม่ผ่านเกณฑ์ดังกล่าว จะต้องเข้ารับการอบรมภาษาอังกฤษตามเงื่อนไขที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนด หรือ ต้องสอบผ่านความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษก่อนสำเร็จการศึกษา :slime_bigsmile:
       

       นอกจากนั้น ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา พ.ศ.2548http://www.graduate.kmutnb.ac.th/news/002/notice01.pdf (http://www.graduate.kmutnb.ac.th/news/002/notice01.pdf) ในหัวข้อ 13.3 คือ "สอบผ่านภาษาต่างประเทศอย่างน้อย 1 ภาษาตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขสถาบันอุดมศึกษากำหนด" และปฏิบัติตามเงื่อนไขตามข้อ 13.3.2 ที่กำหนดว่า ผลงานวิทยานิพนธ์ต้องได้รับการตีพิมพ์ หรืออย่างน้อยดำเนินการให้ผลงานหรือส่วนหนึ่งของผลงานได้รับการยอมรับให้ตีพิมพ์ในวารสาร หรือสิ่งพิมพ์ทางวิชาการที่กรรมการภายนอกมาร่วมกลั่นกรอง(Peer Review) ก่อนการตีพิมพ์และเป็นที่ยอมรับในสาขาวิชานั้น :slime_v:

       

       ซึ่งจะเห็นได้ว่า เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา พ.ศ.2548 ในหัวข้อ 13.3 ระบุไว้ชัดว่า "สอบผ่านภาษาต่างประเทศอย่างน้อย 1 ภาษา"   ดังนั้นการเข้ารับการอบรมภาษาอังกฤษตามเงื่อนไขมหาวิทยาลัยรามคำแหงกำหนดในข้อ 2 จึง " ขั ด " กับหลักเกณฑ์ของกระทรวงด้วย
       


       ทั้งนี้ นายสนธิได้ปราศรัยบนเวทีพันธมิตรฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา ในเชิงท้าทายไปถึง ร.ต.อ.เฉลิม 2 เรื่อง คือ 1.ให้เปิดเผยเรื่องที่พูดจาข่มขู่เรื่องที่อุดรธานี และ 2.เรื่องมาตรฐานการสอบภาษาอังกฤษ (โทเฟล) ในการทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก ว่าทำคะแนนได้ถึง 550 ตามมาตรฐานหรือไม่ ถ้าพิสูจน์ว่าทำได้จะเอาอะไรก็ได้ แต่ตนเองไม่เชื่อว่า ร.ต.อ.เฉลิมจะสอบด้วยตัวเอง พร้อมกันนี้ยังท้าให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเป็นภาษาอังกฤษด้วย เพื่อพิสูจน์ว่าไม่ใช่พูดภาษาอังกฤษ ได้แค่ เยส, โน-โอเค และโคคา-โคล่า
       
อ้างถึง
.
.
       โครงการดุษฎีบัณฑิตทางสังคมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง
       คุณสมบัติของผู้สมัคร
       1.ผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท ในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องจากสถาบันอุดมศึกษาที่ทบวงมหาวิทยาลัยรับรองและมหาวิทยาลัยรามคำแหงให้ความเชื่อถือภายใต้เงื่อนไขอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้
       (1) ปริญญาตรีตรงสาขาและปริญญาโทตรงสาขา เคยทำวิทยานิพนธ์ปริญญาโทมาก่อน
       (2) ปริญญาตรีตรงสาขาและปริญญาโทตรงสาขา ไม่เคยทำวิทยานิพนธ์ปริญญาโทมาก่อน
       (3) ปริญญาตรีไม่ตรงสาขาแต่ปริญญาโทตรงสาขาและเคยทำวิทยานิพนธ์
       (4) สาขาวิชาที่มีความหลากหลาย เช่น สังคมวิทยาพิจารณาจากพื้นฐานการศึกษาและหัวข้อดุษฎีนิพนธ์ที่ผู้สมัครสนใจเข้าศึกษา
       (5) คุณสมบัติพิเศษอื่นที่คณะกรรมการบริหารให้ความเห็นชอบ ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำหนด
       หมายเหตุ: สำหรับสาขาวิชานิติศาสตร์จะรับตามเงื่อนไข (1) และ (2)
       2. ผู้สมัครต้องมีความรู้ทางด้านภาษอังกฤษ ได้ TOEFL ไม่ต่ำกว่า 550 หรือ ต้องผ่านการทดสอบภาษาอังกฤษจากสถาบันภาษา ม.รามคำแหงโดยได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80% กรณีไม่ผ่านเกณฑ์ดังกล่าว จะต้องเข้ารับการอบรมภาษาอังกฤษตามเงื่อนไขที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนด หรือ ต้องสอบผ่านความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษก่อนสำเร็จการศึกษา
       
       เกณฑ์การสำเร็จการศึกษา
       นักศึกษาจะต้องปฏิบัติดังนี้
       
       หลักสูตรแบบ 1
       (1) สอบผ่านภาษาอังกฤษ หรือสถิติ หรือคอมพิวเตอร์ ตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขที่มหาวิทยาลัยกำหนด
       (2) ผ่านการสอบประเมินคุณสมบัติ (Qualifying Examination) เพื่อเป็นผู้มีสิทธิขอทำดุษฎีนิพนธ์
       (3) เสนอดุษฎีนิพนธ์
       (4) สอบผ่านการสอบปากเปล่าป้องกันดุษฎีนิพนธ์ โดยคณะกรรมการ ซึ่งจะต้องประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจากภายใน และ ภายนอกมหาวิทยาลัย
       (5) ผลงานดุษฎีนิพนธ์ ต้องผ่านการเสนิต่อที่ประชุมสัมมนาทางวิชาการ และได้รับการตีพิมพ์ หรืออย่างน้อยดำเนิการให้ผลงานหรือส่วนหนึ่งของผลงานได้รับการยอมรับให้ตีพิมพ์ในวารสารหรือสิ่งพิมพ์ทางวิชาการ ซึ่งเป็นที่ยอมรับในสาขาวิชานั้น จึงจะถือว่าสำเร็จการศึกษา
       
       หลักสูตรแบบ 2
       (1) ศึกษารายวิชาครบถ้วนตามที่กำหนดในหลักสูตร โดยต้องได้แต้มระดับคะแนนเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.00 จากระบบ 4 แต้มระบบคะแนนหรือเทียบเท่า
       (2) สอบผ่านภาษาอังกฤษ หรือสถิติ หรือคอมพิวเตอร์ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่มหาวิทยาลัยกำหนด
       (3) ผ่านการสอบประเมินคุณสมบัติ (Qualifying Examination) เพื่อเป็นผู้มีสิทธิขอทำดุษฎีนิพนธ์
       (4) เสนอดุษฎีนิพนธ์
       (5) สอบผ่านการสอบปากเปล่าป้องกันดุษฎีนิพนธ์ โดยคณะกรรมการ ซึ่งจะต้องประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจากภายในและตายนอกมหาวิทยาลัย
       (6) ผลงานดุษฎีนิพนธ์ต้องผ่านการเสนอต่อที่ประชุมสัมมนาทางวิชาการ และได้รับการตีพิมพ์หรืออย่างน้อยดำเนินการให้ผลงานหรือส่วนของผลงานได้รับการยอมรับให้ตีพิมพ์ในวารสารหรือสิ่งพิมพ์ทางวิชาการ ซึ่งเป็นที่ยอมรับในสาขาวิชานั้นก่อน จึงจะถือว่าสำเร็จการศึกษา
.
.

 **********************************************************
 :slime_bigsmile: :slime_smile2: :slime_v:

อิอิ+ สติปัญญามันสมองไหวพริบมันต่างกันระดับเทพประทะระดับอั้ยปื้ด

แก๊งอั้ยเหลี่ยมเอ๋ย  เข้ามา แถ แถ ช่วยโคดแก๊งพ่อเหลี่ยมหน่อยเร็ว!!

อิอิ+

TOEFL = Test of English as Foreign Language (การทดสอบภาษาอังกฤษสำหรับคนต่างชาติผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในสหรัฐอเมริกา)

TOFEL(โทเฟล)=Test of English as a foreign Language (การทดสอบภาษาอังกฤษสำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาประจำชาติ)


 :slime_bigsmile: :slime_smile2: :slime_v:


หัวข้อ: Re: "เหลิมปากสั่น"หลักสูตรรามฯไม่บังคับ..สนธิ แฉหลักสูตรตามกระทรวงศึกษาธิการบังค
เริ่มหัวข้อโดย: Cherub Rock ที่ 10-06-2008, 18:32
 
ฟายเอ๊ย เสียสถาบันหมด

คนเค้าจะดูถูกเอาสิ ว่าหลักสูตรระดับ ป.เอก รามฯ

เรียนแต่ตำราภาษาไทย  :slime_surrender:







มีบัณฑิตสติปัญญาเท่านี้ ต่อไปใครจะอยากไปเรียน :slime_hitted:




หัวข้อ: Re: "เหลิมปากสั่น"หลักสูตรรามฯไม่บังคับ..สนธิ แฉหลักสูตรตามกระทรวงศึกษาธิการบังค
เริ่มหัวข้อโดย: qazwsx ที่ 10-06-2008, 18:55
ปริญญาเอกนิติศาสตร์แหม้งทำปริญญาตรีนิติศาสตร์เสื่อมเสียหมด
อาจารย์ห่านไหนปั้นปริญญาแจกให้แหม้งวะ

อาจารย์เอ๊ยยยย ( เชื่อว่าไม่ใช่อาจารย์ที่สอนนิติ ฯ  รุ่นผมแน่นอน )
...ผมว่ามึงไปขอคืน "นิติศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต" จากไอ้เป็ดกร่างซะเหอะ
อย่าให้พวกผมต้องอับอายมากไปกว่านี้เลย
ถึงอาจารย์เสี้ยนมาก - เงี่ยนจัด
อยาก "ได้รับการเอ็นดู" จากนักการเมือง
ประเภทเผื่อว่าจะได้ไปร่วมสังวาสกับรัฐบาล ( เหียก ๆ - ไม่ว่่าพรรคไหน ) บ้าง
อาจารย์ก็อย่าได้ใช้สถาบันและศิษย์นิติศาสตร์  มร. เป็น "แท่นรองตีน" ให้คนอย่างไอ้เป็ดกร่างเลย

ทำแบบนี้ "ไร้จริยธรรม - ไร้จรรยาบรรณ" ว่ะ
ขายศักดิ์ศรีแลกโอกาสในอนาคต
...พฤติกรรมเยี่ยงนี้
ขนาด เหี้e ยังไม่ทำเลยนะจารย์
อาจารย์รู้ไหมว่า เหี้e น่ะ
เวลาถูกจับได้  มันจะขย้อน คายสิ่งที่มันเข้ามาลัก - เข้ามากิน คืนออกมาจนหมด
...อาจารย์ล่ะ  ทำได้ไหม
ขยอก "เกียรติ - ศักดิ์ศรี และศรัทธา" ของบัณฑิตนิติศาสตร์ มร. "ธรรมดา ๆ" คืนกลับมาให้พวกผมได้ไหม ??


คิดเองก็แล้วกันนะ'จารย์
เราต่างเป็นวิญญูชนกันทั้งนั้น


หัวข้อ: Re: "เหลิมปากสั่น"หลักสูตรรามฯไม่บังคับ..สนธิ แฉหลักสูตรตามกระทรวงศึกษาธิการบังคับ
เริ่มหัวข้อโดย: พรรณชมพู ที่ 10-06-2008, 19:32
วันนี้ เด็กรามคำแหง ทนอับอายไม่ไหว  ออกมาขอร้อง ให้พันธมิตรหยุดพูดเรื่องนี้

คือว่า ความจริงเป็นอย่างไร เด็กรามคำแหงกลุ่มนั้นเขาไม่อยากทราบ ขอให้หยุดพูดเป็นพอ

มาตรฐานจะต่ำ จะชั่วปานใด ไม่อยากฟัง ทนฟังไม่ได้ บาดหู หยุดพูดเดี๋ยวนี้

 :slime_smile2: :slime_bigsmile: :slime_v:

http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=166701&NewsType=1&Template=1

อ้างถึง
ร้องผบ.ตร.พันธมิตรฯพาดพิงรามฯ
 
 
 
 
 นศ.รามฯ เข้ายื่น "พัชรวาท" ช่วยคุมม็อบพันธมิตรฯ หลังพูดปราศรัยซัดกับ "เฉลิม" กระทบมหาวิทยาลัย กล่าวหาดูหมิ่นว่าไม่มีมาตรฐานส่งจบด๊อกเตอร์ได้แต่สอบภาษาอังกฤษไม่ผ่าน เล็งแจ้งเอาผิดดำเนินคดี

วันนี้ (10 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายสุเมธี คำลือ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ในฐานะประธานสภานักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง พร้อมนักศึกษา ม.รามคำแหง กว่า 10 คน เป็นตัวแทนสภานักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.โดยมี พล.ต.ต.เรืองศักดิ์ จริตเอก รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นตัวแทนรับมอบ

นายสุเมธี กล่าวว่า การเดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง ผบ.ตร.ก็เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหามาตรการขอความร่วมมือกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือดูแลไม่ให้กลุ่มพันธมิตรพูดปราศรัยพาดพิงสถาบันทางสังคมต่างๆ ให้เกิดความเสียหาย เหมือนที่กล่าวพาดพิงมหาวิทยาลัยรามคำแหงว่าไม่มีมาตรฐาน ไร้คุณภาพบนเวที เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่กล่าวหา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่จบปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ว่าทำข้อสอบภาษาอังกฤษไม่ได้ตามเกณฑ์แน่ และบอกว่าอย่าให้คนที่จบด๊อกเตอร์จากมหาวิทยาลัยนี้ ซึ่งพวกเราเชื่อมั่นในสถาบันว่ามีมาตรฐานในการตรวจสอบ

“ที่ผ่านมามหาวิทยาลัยรามคำแหงผลิตนักศึกษาออกมารับใช้สังคม กว่า 3-4 ล้านคนมาแล้ว และมีมาตรฐานควบคุมดูแล พวกเราเชื่อมั่นและศรัทธาในการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยแห่งนี้มาโดยตลอด  นักศึกษารามคำแหงที่ได้อ่านข่าวเรืองนี้ต่างรู้สึกไม่พอใจ ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯ จึงอยากให้ตำรวจช่วยดูกลุ่มพันธมิตรไม่ให้กล่าวพาดพิงสถาบันทางสังคมมากไปกว่านี้ และพวกเราที่มาในวันนี้มาในนามที่นักศึกษารามคำแหงส่วนใหญ่สั่งให้มา ไม่ได้ใครอยู่เบื้องหลังสั่งให้มา”นายสุเมธี กล่าว

นายสุเมธี กล่าวต่ออีกว่า  ส่วนเรื่องจะดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับทางมหาวิทยาลัย เพราะมหาวิทยาลัยมีสภาพเป็นนิติบุคคล แต่อย่างไรก็ตามพวกเราต้องการให้ทางมหาวิทยาลัยดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯที่ทำให้ทางมหาวิทยาลัยเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งการดำเนินดคีก็คงต้องใช้ระยะเวลา แต่ที่พวกเรามายื่นหนังสือถึง ผบ.ตร.เพื่อให้ดำเนินการหามาตรการดำเนินการโดยเร็ว.
 


หัวข้อ: Re: "เหลิมปากสั่น"หลักสูตรรามฯไม่บังคับ..สนธิ แฉหลักสูตรตามกระทรวงศึกษาธิการบังค
เริ่มหัวข้อโดย: มารุจัง ที่ 10-06-2008, 19:41
โค ตะ ระ เสียชื่อเลย
เสียไปหมด เซ็ง
โชคดีหน่อย ที่ไ่ม่ใช่คณะที่เรียน
เหอเหอเหอ.. เซ็ง :slime_hmm:


หัวข้อ: Re: "เหลิมปากสั่น"หลักสูตรรามฯไม่บังคับ..สนธิ แฉหลักสูตรตามกระทรวงศึกษาธิการบังคับ
เริ่มหัวข้อโดย: ฟ้าเข้ม ที่ 10-06-2008, 19:52
เฮ้อ เหลิมเอ้ย โง่แล้วยังเสือ-กอวดโง่อีก


หัวข้อ: Re: "เหลิมปากสั่น"หลักสูตรรามฯไม่บังคับ..สนธิ แฉหลักสูตรตามกระทรวงศึกษาธิการบังคับ
เริ่มหัวข้อโดย: รวงข้าวล้อลม ที่ 10-06-2008, 20:02
คุณเจ้าของกระทู้คะ  ( คุณ oho )  ขออนุญาตนำกระทู้นี้  ไปขยายต่อที่โอเคนะคะตามลิงค์ข้างล่างนี้ค่ะ

http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/06/10/entry-1


หัวข้อ: Re: "เหลิมปากสั่น"หลักสูตรรามฯไม่บังคับ..สนธิ แฉหลักสูตรตามกระทรวงศึกษาธิการบังค
เริ่มหัวข้อโดย: jrr. ที่ 10-06-2008, 20:32

น่าจะส่งมันขึ้้นเขียง.....ให้มันไปนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีต่างประเทศ !!!


หัวข้อ: Re: "เหลิมปากสั่น"หลักสูตรรามฯไม่บังคับ..สนธิ แฉหลักสูตรตามกระทรวงศึกษาธิการบังค
เริ่มหัวข้อโดย: มารุจัง ที่ 10-06-2008, 20:54
“ที่ผ่านมามหาวิทยาลัยรามคำแหงผลิตนักศึกษาออกมารับใช้สังคม กว่า 3-4 ล้านคนมาแล้ว และมีมาตรฐานควบคุมดูแล พวกเราเชื่อมั่นและศรัทธาในการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยแห่งนี้มาโดยตลอด  นักศึกษารามคำแหงที่ได้อ่านข่าวเรืองนี้ต่างรู้สึกไม่พอใจ ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯ จึงอยากให้ตำรวจช่วยดูกลุ่มพันธมิตรไม่ให้กล่าวพาดพิงสถาบันทางสังคมมากไปกว่านี้ และพวกเราที่มาในวันนี้มาในนามที่นักศึกษารามคำแหงส่วนใหญ่สั่งให้มา ไม่ได้ใครอยู่เบื้องหลังสั่งให้มา”นายสุเมธี กล่าว


หากฝากไปถึงนายสุเมธีได้
อยากจะบอก นายสุเมธีว่า ดิฉันเป็นศิษย์เก่ารามคำแหง
หลังจากอ่านข่าวนี้ ไม่ได้รู้สึกไม่พอใจพันธมิตร หากแต่ไม่พอใจคำตอบของนายเฉลิมมากกว่า

นายเฉลิม ควรจะแสดงหลักฐาน เพื่อพิสูจน์มาตรฐานของ ม.รามฯ ซึ่งอ้างว่า จบ ดร.จากรามฯ ไม่ต้องสอบ Toefl ต่างหาก
มิใช่ ให้นักศึกษามาช่วยแก้ต่างแทนให้เช่นนี้

ดังนั้นคุณสุเมธี ไม่ควรจะกล่าวอ้างแทน นักศึกษารามคำแหงทั้งหมดนะคะ...


หัวข้อ: Re: "เหลิมปากสั่น"หลักสูตรรามฯไม่บังคับ..สนธิ แฉหลักสูตรตามกระทรวงศึกษาธิการบังค
เริ่มหัวข้อโดย: Cherub Rock ที่ 10-06-2008, 21:33
 
จำได้ว่า ด๊อกเหลิม บอกว่ากรุงโคลอมโบ อยู่ประเทศโคลัมเบีย

ด๊อกเตอร์ทั่นนี้ อ่านหนังสือเกินปีละ 6 บรรทัดแน่ๆ :slime_bigsmile:



หัวข้อ: Re: "เหลิมปากสั่น"หลักสูตรรามฯไม่บังคับ..สนธิ แฉหลักสูตรตามกระทรวงศึกษาธิการบังคับ
เริ่มหัวข้อโดย: DAWN ที่ 10-06-2008, 22:19
 :slime_smile2: :slime_smile2:ถึงว่า อาเหลิมจึงต้องเป็น
รมต.มหาดไทย ไม่ใช่ มหาดอังกฤษ เน๊าะ ...
:slime_bigsmile: :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: "เหลิมปากสั่น"หลักสูตรรามฯไม่บังคับ..สนธิ แฉหลักสูตรตามกระทรวงศึกษาธิการบังคับ
เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 10-06-2008, 22:57
ดร.เฮี่ยอะไร สอบโทเฟลไม่ผ่าน

ซื้อเอาแหง ไม่งั้นก็มีเด็กทำข้อสอบให้ เข้าเรียนให้ :slime_surrender:


หัวข้อ: Re: "เหลิมปากสั่น"หลักสูตรรามฯไม่บังคับ..สนธิ แฉหลักสูตรตามกระทรวงศึกษาธิการบังคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Scorpio6 ที่ 11-06-2008, 01:32
รัฐมนตรีแต่ละคน..งามหน้าจริงๆให้ตายเหอะ :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: "เหลิมปากสั่น"หลักสูตรรามฯไม่บังคับ..สนธิ แฉหลักสูตรตามกระทรวงศึกษาธิการบังคับ
เริ่มหัวข้อโดย: ABCAB ที่ 11-06-2008, 02:14
ช่วงนี้เหลิมเฮงจริงๆ

"งานเข้า" ตลอด


 :slime_bigsmile: :slime_o:


หัวข้อ: Re: "เหลิมปากสั่น"หลักสูตรรามฯไม่บังคับ..สนธิ แฉหลักสูตรตามกระทรวงศึกษาธิการบังคับ
เริ่มหัวข้อโดย: คนเดินดิน ที่ 11-06-2008, 02:22
ประชากร รามคำแหง น่าจะมีการเคลื่อนไหวเรื่องนี้ให้สังคมได้รู้ความจริงบางนะ


รู้สึกแย่จัง  ที่เรา กว่าจะจบ นิติ มร. เล่น เอาแทบแย่

รมต.เป็ดง่อย  มานเรียนยังไงวะ ตรี-โท-เอก ได้จาก รามฯ ตลอด


หัวข้อ: Re: "เหลิมปากสั่น"หลักสูตรรามฯไม่บังคับ..สนธิ แฉหลักสูตรตามกระทรวงศึกษาธิการบังคับ
เริ่มหัวข้อโดย: จะบ้าตาย ที่ 11-06-2008, 06:38
เป็ด มันก็ย่อมเป็น เป็ด วันยันค่ำ   เจือกจะทำตัวเป็น อินทรี   :slime_smile2:


หัวข้อ: Re: "เหลิมปากสั่น"หลักสูตรรามฯไม่บังคับ..สนธิ แฉหลักสูตรตามกระทรวงศึกษาธิการบังคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Caocao ที่ 11-06-2008, 07:09
มิน่าหล่ะ ถึงได้หยุด แอ็คอาร์ต ในช่วงนี้ :slime_hitted:


หัวข้อ: Re: "เหลิมปากสั่น"หลักสูตรรามฯไม่บังคับ..สนธิ แฉหลักสูตรตามกระทรวงศึกษาธิการบังคับ
เริ่มหัวข้อโดย: boyk ที่ 11-06-2008, 07:24
ฟังจากนี้ถึงกึ๋นจริงๆคับ.. :slime_agreed:
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ภูวดล” ชำแหละวิทยานิพนธ์ “ดร.เหลิม” โหลยโท่ย จี้ ม.ราม ถอดวุฒิฯ 
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 11 มิถุนายน 2551 00:00 น.
 
 
  "ภูวดล ทรงประเสริฐ" ชำแหละวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก "ดร.เป็ดเหลิม" สุดโหลยโท่ย ไร้มาตรฐาน แค่ชื่อยาวก็เป็นกิโล แถมบทคัดย่อภาษาไทยกับอังกฤษแปลความหมายคนละเรื่อง เรียกร้อง ม.รามฯทบทวนใหม่ ขณะเดียวกันยังชี้ว่าเรื่องดังกล่าวสะท้อนความล้มเหลวของระบบการศึกษาไทยที่มากับระบอบทักษิณ
       
        คลิกที่นี่ เพื่อฟัง ศ.ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ ปราศรัย
 http://www.managerradio.com/Radio/DetailRadio.asp?program_no=1002&mmsID=1002%2F1002%2D3433%2Ewma&program_id=15291
       
       วันนี้ (10 มิ.ย.) เวลาประมาณ 22.00 น.ที่เวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เชิงสะพานมัฆวาน ศ.ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เปิดโปงวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอกของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ว่า เป็นวิทยานิพนธ์กำมะลอ และไร้มาตรฐานของวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอกในมหาวิทยาลัยมาตรฐานทั่วไป
       
       อย่างไรก็ดี ก่อนจะกล่าวถึงเรื่องวิทยานิพนธ์ ดร.ภูวดล ได้เปิดโปงประวัติการศึกษาของ ร.ต.อ.เฉลิม ว่า ปกปิดวุฒิการศึกษาระดับโรงเรียนนายสิบทหารบก โดยเริ่มจากระดับประถมศึกษาแล้วข้ามไประดับปริญญาตรี และระดับปริญญาโท ส่วนประวัติการทำงานก็เช่นเดียวกัน ไม่กล่าวถึงช่วงรับราชการเป็นนายสิบทหารบก และสารวัตรทหาร แต่เริ่มที่สารวัตรแผนก 4 กองปราบปรามเลย
       
       นอกจากนี้ ดร.ภูวดล ยังได้แฉประวัติวันเกิดของ ร.ต.อ.เฉลิม ว่า เกิดเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2491 ดังนั้น การจัดงานวันเกิดเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ที่ผ่านมา น่าจะเป็นการหวังผลอะไรบางอย่าง เพราะมีการเลี้ยงโต๊ะจีนถึง 150 โต๊ะ
       
       ดร.ภูวดล ซึ่งเป็นอาจารย์สอนระดับปริญญาโทและเอก ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ด้วย ได้วิจารณ์วิทยานิพนธ์ปริญญาเอกของ ร.ต.อ.เฉลิม ว่า ทั้งหมด 200 กว่าหน้า แต่มีสาระแค่ 80 กว่าหน้าเท่านั้น ขณะเดียวกัน ยังเป็นวิทยานิพนธ์ที่มีชื่อยาวที่สุดในโลก เพราะยาวถึง 3 บรรทัด ว่า “ปัญหาการบังคับใช้บทบัญญัติรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา : ศึกษากรณีอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง” ส่วนเป็นภาษาอังกฤษกลับยาวถึง 5 บรรทัด ซึ่งผิดวิสัยหัวข้อวิทยานิพนธ์ที่ดีที่ต้องสั้นกระชับและเข้าใจง่ายที่สุด
       
       ดร.ภูวดล ย้ำว่า ตนเองไม่ได้ตั้งใจดูแคลนมหาวิทยาลัยรามคำแหง เพราะเป็นมหาวิทยาลัยของประชาชน อีกทั้งตัวเองยังเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ด้วย แต่ตนรับไม่ได้ที่มีผู้บริหารมหาวิทยาลัยบางคนไปรับใช้นักการเมืองบิดเบือนหลักการศึกษา และเปลี่ยนแปลงมาตรฐานการศึกษาจนบิดเบี้ยว
       
       ดร.ภูวดล ยังได้เปิดโปง นายรังสรรค์ แสงสุข อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่มีชื่อเป็นกรรมการที่ปรึกษาดุษฎีนิพนธ์ของ ร.ต.อ.เฉลิม โดยระบุว่า เป็นศาสตราจารย์ประจำ ทั้งที่ยังไม่เคยเป็นแม้กระทั่ง รองศาสตราจารย์ หรือผู้ช่วยศาสตราจารย์ แต่กลับแต่งตั้งตัวเองเป็นศาสตราจารย์ประจำ ซึ่งไม่มีที่ใดในโลก
       
       ขณะเดียวกัน ดร.ภูวดล ยังระบุอีกว่า นายรังสรรค์ เป็นนักประสานผลประโยชน์และสมคบกับระบอบทักษิณ และสร้างเครือข่ายเพื่อรับใช้พรรคไทยรักไทยในอดีต ขณะที่ นายกสภามหาวิทยาลัย คนปัจจุบัน คือ นายประจวบ ไชยสาส์น ซึ่งเป็นอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ดังนั้น จึงไม่มีความชอบธรรมที่จะเป็นนายกสภามหาวิทยาลัย และในยุคของคนเหล่านี้มีลูกชายของ “ไอ้หน้าเหลี่ยม” มาเรียน และโกงข้อสอบด้วย
       
       ดร.ภูวดล วิจารณ์วิทยานิพนธ์ของ ร.ต.อ.เฉลิม อีกว่า มี นายรังสรรค์ เป็นประธานกรรมการวิทยานิพนธ์ ส่วนกรรมการส่วนใหญ่ก็เป็นคนในระบอบทักษิณแทบทั้งนั้น เช่น พล.อ.ดร.จารุภัทร เรืองสุวรรณ อดีต กกต.ยุค 3 หนาห้าห่วง รวมทั้งนักวิชาการอีกคนที่ต้องเปลี่ยนชื่อและนามสกุล เพราะเขียนบทความหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ รวมอยู่ด้วย
       
       ดร.ภูวดล ตั้งข้อสังเกตอีกว่า ในบทคัดย่อภาษาไทย ระบุว่า วิทยานิพนธ์นี้เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ แต่ในบทคัดย่อภาษาอังกฤษกลับแปลได้ความว่าเป็นการวิจัยเชิงปริมาณ ซึ่งเป็นคนละเรื่อง นอกจากนี้ ภาษาอังกฤษยังมีที่ผิดมากมาย ไม่ทราบว่า วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ปล่อยให้ผ่านออกมาได้อย่างไร เพราะถ้าพิจารณาโดยทั่วไปแล้วอย่าว่าแต่ระดับปริญญาเอกเลย แต่ระดับปริญญาตรี ปริญญาโทยังไม่ให้ผ่านเลย และถ้าดูกันจริงๆ รายงานของลูกศิษย์ระดับปริญญาตรีของตนยังทำได้ดีกว่านี้
       
       ดร.ภูวดล ชี้อีกว่า วิทยานิพันธ์ของ ร.ต.อ.เฉลิม อ้างว่า เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ แต่ทั้งหมดกลับเป็นการอ้างอิงผลงานจากนักวิชาการคนอื่นๆ ที่ทำไว้แล้ว หรือที่เรียกว่า เป็นการอ้างอิงจากเอกสารชั้นรอง ไม่มีการอ้างอิงจากเอกสารชั้นแม้แต่ชิ้นเดียว จึงไม่ทราบว่าเรียกงานวิจัยนี้เป้นการวิจัยเชิงคุณภาพได้อย่างไร ขณะที่ในบรรณานุกรมได้อ้างอิงงานวิจัยของชาวต่างประเทศอย่างยาวเหยียดถึง 3 หน้า ทั้งที่อ่านภาษาอังกฤษไม่ออก
       
       ดร.ภูวดล ได้เรียกร้องให้อาจารย์ในมหาวิทยาลัยรามคำแหง และสภามหาวิทยาลัยรามคำแหงถอดถอนวิทยานิพนธ์ของ ร.ต.อ.เฉลิม เสียใหม่ เพื่อศักดิ์ศรีของชาวรามคำแหง อย่าปล่อยให้นักการเมืองชั่วเข้ามาหากินกับมหาวิทยาลัย ขณะเดียวกัน เรียกร้องให้ นายกสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ลาออกด้วย
       
       “ถ้ามีวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกแบบนี้ มหาวิทยาลัยรามคำแหงแห่งนี้ก็สามารถผลิตดุษฎีบัณฑิตได้อีกปีละนับ 1 ล้านคน พร้อมทั้งเรียกร้องให้ สตง.ไปตรวจสอบงบการเงินของโครงการภาคพิเศษของมหาวิทยาลัยรามคำแหงและมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศด้วย เพราะมีการใช้เงินจากการรูดรีดประชาชน” ดร.ภูวดล ระบุ
       
       ดร.ภูวดล กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนจะขอเรียก ร.ต.อ.เฉลิม ว่า ดอกเตอร์กำมะลอ เพราะแค่บอกว่าจบปริญญาตรี ยังน่าสงสัยเลยว่าจบมาได้อย่างไร

 http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000068197


หัวข้อ: Re: "เหลิมปากสั่น"หลักสูตรรามฯไม่บังคับ..สนธิ แฉหลักสูตรตามกระทรวงศึกษาธิการบังค
เริ่มหัวข้อโดย: ScaRECroW ที่ 11-06-2008, 08:46
“ที่ผ่านมามหาวิทยาลัยรามคำแหงผลิตนักศึกษาออกมารับใช้สังคม กว่า 3-4 ล้านคนมาแล้ว และมีมาตรฐานควบคุมดูแล พวกเราเชื่อมั่นและศรัทธาในการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยแห่งนี้มาโดยตลอด  นักศึกษารามคำแหงที่ได้อ่านข่าวเรืองนี้ต่างรู้สึกไม่พอใจ ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯ จึงอยากให้ตำรวจช่วยดูกลุ่มพันธมิตรไม่ให้กล่าวพาดพิงสถาบันทางสังคมมากไปกว่านี้ และพวกเราที่มาในวันนี้มาในนามที่นักศึกษารามคำแหงส่วนใหญ่สั่งให้มา ไม่ได้ใครอยู่เบื้องหลังสั่งให้มา”นายสุเมธี กล่าว


หากฝากไปถึงนายสุเมธีได้
อยากจะบอก นายสุเมธีว่า ดิฉันเป็นศิษย์เก่ารามคำแหง
หลังจากอ่านข่าวนี้ ไม่ได้รู้สึกไม่พอใจพันธมิตร หากแต่ไม่พอใจคำตอบของนายเฉลิมมากกว่า

นายเฉลิม ควรจะแสดงหลักฐาน เพื่อพิสูจน์มาตรฐานของ ม.รามฯ ซึ่งอ้างว่า จบ ดร.จากรามฯ ไม่ต้องสอบ Toefl ต่างหาก
มิใช่ ให้นักศึกษามาช่วยแก้ต่างแทนให้เช่นนี้

ดังนั้นคุณสุเมธี ไม่ควรจะกล่าวอ้างแทน นักศึกษารามคำแหงทั้งหมดนะคะ...


ผมก็ศิษย์เก่ารามคำแหง แล้วผมก็ไม่ถือว่าถ้าจะมีคนชั่ว ๆ จบออกมาจากมหาวิทยาลัยสักคนหนึ่งหรือสักร้อยคน หรือแม้ตอนนี้จะมีนักศึกษาชั่ว ๆ แฝงตัวอยู่สักกี่คนก็ตาม ผมก็ไม่รู้สึกว่าคนเหล่านั้นทำให้สถาบันเสื่อมเสียชื่อเสียงแต่อย่างไร