ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ปะทะเดือดแล้ว! ฝ่ายต้านไล่ตีพันธมิตรฯเลือดนองถนนราชดำเนิน ตร.หายหัวหมด
มติชน วันที่ 25 พฤษภาคม 2551 เวลา 23:33:33 น.

ฝ่ายต้านไล่ตีพันธมิตรฯปะทะเดือด! เลือดนองถนนราชดำเนิน ดุเดือดแยกมิสกวัน 2ฝ่ายเจ็บระนาว ตร.หายหัวไปหมด ปาหินพิธีกรASTVเลือดอาบ ขณะพันธมิตรนับหมื่นเคลื่อนขบวนบุกทำเนียบฯกลางดึก กดดัน'สมัคร' พันธมิตรตั้งเวทีมัฆวาน (รอดูภาพชุดปะทะกันดุเดือด)

ตร.ปล่อยกลุ่มต้านตามมาปะทะเดือดแยกมิสกวัน เจ็บระนาวหามส่งรพ.

ล่าสุดเกิดเหตุปะทะกัน โดยในเวลา 22.45 น. ขณะที่ท้ายขบวนพันธมิตรฯมาถึงหน้ากระทรวงคมนาคม  ตำรวจได้ปล่อยให้กลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯออกจากจุดสกัดบริเวณสะพานผ่านฟ้าฯ จนมาทันกลุ่มพันธมิตรฯที่หน้ากระทรวง ทั้งสองฝ่ายระดมขว้างปาก้อนหิน ขวดน้ำ และสิ่งของใส่กัน ต่างฝ่ายต่างใช้ไม้ ท่อนเหล็ก แป๊บ กรูเข้ามาตะลุมบอนกันอย่างดุเดือด ทำให้ฝ่ายต่อต้านพันธมิตรฯอายุ 30 และ 50 ปีถูกรุมตีจนสลบ ระหว่างนั้นแก๊งมอเตอร์ไซด์ประมาณ 30-40 คันเข้ามาช่วยฝ่ายต่อต้านซึ่งมีประมาณ 100 คน ขณะที่พันธมิตรฯมีประมาณ 500 คน

ทั้งสองฝ่ายปะทะกันจนมาถึงแยกมิสกวัน หน้าโรงเรียนนายร้อย จปร. มีการขว้างระเบิดควันใส่กัน รวมถึงใช้อิฐหนอนปูพื้นถนนขว้างใส่กันราวห่าฝน มีการดึงป้ายจราจร ป้ายบอกทางมาใช้เป็นอาวุธ การปะทะกันกินเวลานาน 20 นาที มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งศรีษะแตก แขนหัก แพทย์วชิระพยาบาลต้องลำเลียงผู้บาดเจ็บออกจากจุดเกิดเหตุ ผู้ไม่เกี่ยวข้องพยายามหลบอยู่ข้างทาง การจราจรติดขัดอย่างหนัก ระหว่างนั้น ไม่มีตำรวจในเครื่องแบบเข้ามาระงับเหตุแต่อย่างใด

ฉุนตร.คุมสถานการณ์ไม่อยู่ปล่อยปะทะกัน

หลังความวุ่นวายยุติลง ตำรวจเพิ่งเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ของฝ่ายต่อต้านพันธมิตรเสียหายยับเยิน 2 คัน พบกระสุนดินหนังสติ๊กตกเกลื่อน มีเศษแก้วเต็มไปหมด มีผู้บาดเจ็บสาหัส 10 ราย บาดเจ็บเล็กน้อยเกือบร้อยราย แม่ค้าขายน้ำได้ร้องเรียนตำรวจว่าสามีโดนตีแต่ไม่มีตำรวจมาช่วยเหลือเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งสองฝ่าย ต่างไม่พอใจกับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ เนื่องจากไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ไม่ให้ทั้งสองฝ่ายปะทะกันได้ ต่างฝ่ายต่างก็ด่าทอว่า ทำไมตำรวจไม่ห้ามปราบหรือเอาผิดฝ่ายตรงข้าม ขณะที่ฝ่ายต้าน ถึงกับประกาศด้วยความไม่พอใจว่าจะเผาสน.นางเลิ้ง
ข่าวแจ้ง พ.ต.อ.วิบูลยุทธ สันทัดเวช ผกก.สน.นางเลิ้ง ได้พยายามชี้แจงกับม็อบต้านพันธมิตรฯ ที่หลายคนไม่พอใจกับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ โดยกล่าวว่า ตอนนี้กำลังพยายามแจ้งให้มีการเสริมกำลังจากหน่วย191 เนื่องจากตอนนี้ ช่องว่างระหว่างแนวทั้งสองกลุ่ม ทีด้านหน้าที่สน.นางเลิ้งมีกำลังตำรวจเพียง 30 นาย เท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอ และได้ขอให้หน่วยกู้ภัยวชิระประมาณ 100 นาย ยกแผงเหล็กกั้นแนว ตรงบริเวณ หน้าสน.นางเลิ้งด้วย

พันธมิตรแถลงย้ำบุกทำเนียบแน่

เวลา 22.50 น. แกนนำกลุ่มพันธมิตรออกแถลงการณ์ที่จะชุมนุมต่อเนื่องด้วยความสงบ อหิงสา ปราศจากอาวุธ เพื่อเรียกร้องและกดดันให้นายกสมัคร สุนทรเวช แสดงความรับผิดชอบต่อความมุ่งหมายที่จะล้มล้างรัฐธรรมนูญ เพื่อปกป้องความผิดของคนในระบอบทักษิณ โดยจะไปยื่นหนังสือในเช้าวันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม เวลา 06.00 น. ณ หน้าทำเนียบรัฐบาล หลังจากนั้นจะเดินทางไป หน้ารัฐสภา เวลา 07.00 น. เพื่อยื่นหนังสือต่อประธานวุฒิสภา ในการถอดถอนสมาชิกรัฐสภา

พันธมิตรนับหมื่นบุกยึดทำเนียบฯชุมนุมยืดเยื้อ เช้านัดไปสภาถอดส.ส.

ทั้งนี้ ในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่บริเวณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อเวลา 19.30 น. คืนวันที่ 25 พฤษภาคม ทางพันธมิตรได้ประกาศแถลงการณ์ ฉบับที่ 10 ''เคลื่อนไหวต่อเนื่อง เพื่อกำจัดผู้ล้มล้างรัฐธรรมนูญ'' โดยสาระสำคัญ คือ พันธมิตรมีมติเคลื่อนมวลชนคืนนี้เวลา 21.00 น. เพื่อเดินทางไปหน้าทำเนียบรัฐบาล และปักหลักพักค้างอย่างต่อเนื่อง และเช้าวันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม เวลา 06.00 น. ตัวแทนของพันธมิตรจะร่วมเดินทางไปพร้อมกันกับพี่น้องประชาชนไปที่หน้ารัฐสภา เวลา 07.00 น. เพื่อยื่นถอดถอนส.ส.-ส.ว. ที่ยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ

แกนนำ แถลงประณามกลุ่มป่วน

นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯขึ้นกล่าวบนเวทีอ่านแถลงการณ์ของแกนนำพันธมิตรฉบับที่ 10/2551 เรื่อง '' เคลื่อนไหวต่อเนื่องเพื่อกำจัดผู้ล้มล้างรัฐธรรมนูญ '' ว่า พันธมิตรขอประกาศกำหนดเป้าหมายต่อไปดังต่อไปนี้ 1.พันธมิตรขอแถลงผลการดำเนินการว่าการชุมนุมครั้งนี้มีประชาชนผู้รักชาติได้ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ เข้าร่วมชุมนุมจำนวนหลายหมื่นคน ด้วยความสงบ อหิงสา และปราศจากอาวุธ แม้ว่าจะถูกอันธพาลที่ถูกจ้างมาจากคนในฝ่ายรัฐบาลทำการยั่วยุ ขว้างปาสิ่งของ และทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ก็ตาม ประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมก็ยังคงมีจิตใจที่มุ่งมั่นแสดงพลังของประชาชนต่อไป เพื่อคัดค้านการทำงานของรัฐบาลที่ไร้ซึ่งความรับผิดชอบต่อวิกฤตการณ์ของ สถาบันชาติ สถาบันศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ จงใจและตั้งใจล้มล้างรัฐธรรมนูญที่มาจากการลงประชามติประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศกว่า 14 ล้าน 7 แสนเสียง เพียงเพื่อลบล้างความผิดของตัวเอง ตัดตอนกระบวนการยุติธรรมอย่างไร้จริยธรรม

ชุมนุมยืดเยื้อที่ทำเนียบไล่รบ.

2.พันธมิตรมีมติที่จะเคลื่อนมวลชนในคืนนี้เวลา 21.00 น. เพื่อเดินทางไปหน้าทำเนียบรัฐบาล และปักหลักพักค้างอย่างต่อเนื่อง เพื่อเรียกร้องและกดดันให้นายสมัคร สุนทรเวช ในฐานะนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชาชน และคณะรัฐมนตรี แสดงความรับผิดชอบ ต่อความมุ่งหมายที่จะล้มล้างรัฐธรรมนูญเพื่อฟอกความผิดของคนในระบอบทักษิณเพียงอย่างเดียว จนเกิดจากภัยคุกคามต่อ สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ล้มเหลวต่อการบริหารราชการแผ่นดิน จนเกิดภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ ข้าวยากหมากแพง จนประชาชนเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสไปทั่วประเทศ
3.พันธมิตรขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทั่วประเทศให้มารวมตัวกันเพิ่มมากขึ้น เพื่อไปยื่นหนังสือแจ้งความจำนงต่อประธานวุฒิสภาในการถอดถอนสมาชิกรัฐสภาที่ล้มล้างรัฐธรรมนูญ ในเช้าวันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม 2551 ในตอนเช้าเวลา 06.00 น. ณ หน้าทำเนียบรัฐบาล หลังจากนั้นตัวแทนของพันธมิตรจะร่วมเดินทางไปพร้อมกันกับพี่น้องประชาชนไปที่หน้ารัฐสภา เวลา 07.00 น.

''หนุ่มวัย20'' โดนตีกระดูกหัก


ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า มีรายงานผู้บาดเจ็บจากการปะทะกันเพิ่มอีก 1 ราย ชื่อ นายจารุวัฒน์ บาลนคร อายุ 20 ปี ผู้มาร่วมชุมนุมกับฝ่ายพันธมิตร ถูกตีด้วยไม้ที่หน้าขา จนกระดูกหัก ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล
ด้าน
พล.ต.ท.ระพีพัฒน์ ปาละวงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล กล่าวว่า สันติบาลประเมินยอดผู้ชุมนุมเวลา 20.45 น.  มีประมาณ 8,000-9,000 คน ประเมินสถานการณ์แล้วไม่มีอะไรมีปัญหา มีเพียงการเคลื่อนขบวน คงไม่มีปัญหาอะไรน่ากังวล  ส่วนกลุ่มที่มาก่อกวนเล็กๆ น้อย ก็ควบคุมได้ มีการจับกุมดำเนินคดีไปแล้ว ตำรวจจัดการได้

ตร.เตรียมกำลัง1,500นาย ปักหลักสกัดพันธมิตร

ข่าวแจ้งว่า พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รอง ผบ.ตร.ได้สั่งการให้กำลังตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-2-7 จำนวนทั้งหมด 1,500 นาย เข้าประจำการเพื่อรอการสั่ง อยู่ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกำลังตำรวจจำนวน 1 กองร้อย ได้ตรึงกำลังอยู่บริเวณทำเนียบรัฐบาลแล้ว ภายหลังจากที่แถลงการณ์ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ระบุว่า จะเคลื่อนพลไปชุมนุมกันที่บริเวณทำเนียบรัฐบาล ซึ่งตำรวจได้สั่งการให้มีการดูแลรักษาความปลอดภัยกลุ่มพันธมิตรฯอย่างใกล้ชิด
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ตำรวจค่อนข้างวิตกในการเคลื่อนพลของกลุ่มพันธมิตรฯ โดยเฉพาะเมื่อเคลื่อนขบวนผ่านบริเวณกองบัญชาการกองทัพบก อาจจะมีเหตุที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ โดยได้จัดเตรียมกำลังไว้ควบคุมสถานการณ์จำนวนหนึ่งด้วย

'ยุทธิยง' พิธีกรASTV ถูกหินปาหน้าเลือดอาบ

เวลา 21.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่หัวขบวนของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถูกตำรวจสกัดอยู่ที่บริเวณสะพานผ่านฟ้านั้น ที่ท้ายขบวน ซึ่งควบคุมการเคลื่อนไหวโดยนายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที พิธีกรของเอเอสทีวี ถูกกลุ่มผู้ต่อต้าน ที่ข้ามฝากมาจาก หน้าภัตตาคารเมธาวลัย ศรแดง มาปักหลังบริเวณหน้าศึกษาภัณฑ์พาณิชย์นั้น นายยุทธิยง ถูกขว้างด้วยของแข็งเข้าบริเวณโหนกแก้มขวาจนแตกเลือดอาบ กลุ่มผู้ชุมนุมได้เข้าไปปฐมพยาบาลในเบื้องต้นแล้ว
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณท้ายขบวนนั้น กลุ่มผู้คัดค้านการชุมนุม ได้ขว้างปาสิ่งของ ทั้งน้ำส้มสายชู น้ำปลาร้าที่เตรียมมาเข้าใส่ท้ายขบวน รวมทั้งได้เข้าไปกระโดดถีบผู้ร่วมขบวน โดยที่ไม่มีตำรวจเข้าไปดูแล จนกระทั่งนายยุทธิยง ถูกขว้างปาจนโหนกแก้มแตก ทางตำรวจคอมมมานโด จึงเข้าไปควบคุมสถานการณ์

ตร.ขวางไม่ให้ไปทำเนียบ พันธมิตรเตรียมตั้งเวทีแยกมัฆวาน

เวลา 22.00 น. ตำรวจยอมเปิดทางให้กลุ่มพันธมิตรฯเคลื่อนจากสะพานผ่านฟ้าฯไปได้จนถึงสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยมีกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ และแนวร่วมรัฐบาล เคลื่อนขบวนตามติดไปตลอด
เวลา 22.30 น. เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 8,000 คน มาถึงสะพานมัฆวานฯ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ และนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำพันธมิตรฯ ใช้ไมโครโฟนพูดบนรถนำขบวน เพื่อต่อรองขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลประมาณ 500 คน ยอมเปิดทางให้ผ่านไปยังทำเนียบฯ สำหรับตำรวจอยู่ในชุดพร้อมจะสลายปืนกระสุนยาง กระบอง โล่พลาสติก และแก๊สน้ำตา ซึ่งทางพันธมิตร หากเคลื่อนขบวนไม่ได้เตรียมตั้งเวทีปักหลักที่ แยกสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยท้ายแถวอยู่แยกมิสกวัน

พันธมิตร'แต่งเหลือง'ชุมนุม

ก่อนหน้านี้ เวลา 14.00 น. วันที่ 25 พฤษภาคม ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลุ่มพันธมิตรเริ่มกิจกรรมชุมนุมอย่างเป็นทางการ โดยตั้งเวทีขนาดใหญ่บนถนนราชดำเนินกลาง บริเวณหน้าสภาทนายความ หันหลังให้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หันหน้าไปทางสะพานผ่านฟ้าลีลาศ กลุ่มแรกที่มาปักหลักบนถนนเป็นสมาชิกกองทัพธรรมของสำนักสันติอโศกประมาณ 300 คน ตามมาด้วยกลุ่มพัทยานาเกลือบ้านบึง, กลุ่มพันธมิตรภูเก็ต, พันธมิตรเพชรบุรี, พันธมิตรสระบุรี และกลุ่มรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ฯลฯ รวมแล้วประมาณ 1,000 คน ส่วนใหญ่นำอาหารเย็นเครื่องดื่มมารับประทานเอง
กลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ใส่เสื้อสีเหลืองมีตราสัญลักษณ์ครบรอบ 60 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โพกศีรษะและผูกผ้าพันคอสีเหลืองพิมพ์คำว่า ''กู้ชาติ''  นอกจากนี้ ยังมีเสื้อยืดสีขาวสกรีนคำว่า ''หยุดทรราชล้มรัฐธรรมนูญ''  จำหน่าย มีการตั้งจุดล่ารายชื่อประชาชนยื่นถอดถอน ส.ส. และ ส.ว.ที่ลงชื่อในญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญบริเวณหน้าอาคารสภาทนายความ

ตร.ต้องปิดการจราจรตั้งแต่ถ.ดินสอ - ราชดำเนินกลาง

กลุ่มพันธมิตรยังจัดกิจกรรมเผาพริกเผาเกลือ เผารูปภาพของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้รถบรรทุก 6 ล้อ บรรทุกกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 20 คน ขับรถวนรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ชูป้ายและตะโกนว่า ''จะคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ''
ทางด้านการจราจรนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดถนนดินสอตั้งแต่เสาชิงช้าถึงสะพานวันชาติ และบริเวณถนนราชดำเนินกลางขาเข้าตั้งแต่สี่แยกคอกวัวจนถึงสะพานผ่านฟ้า มีกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบประมาณ 300 นาย ดูแลความสงบเรียบร้อย

มติพันธมิตรนับหมื่น ปักหลักถึงเช้า

เวลา 16.30 น. มีประชาชนจำนวนประมาณ 10,000 คน มาร่วมชุมนุม จนต้องปิดถนนราชดำเนินฝั่งหนึ่งไปโดยปริยาย ทางด้านโฆษกเวทีพันธมิตรได้ประกาศเป็นระยะๆ ขอให้ผู้ชุมนุมคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญใจเย็นๆ อดทนต่อการยั่วยุของฝ่ายตรงข้าม ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่ควบคุมความสงบ
ต่อมา นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตร เปิดเผยผลการหารือของแกนนำพันธมิตร ว่าจะชุมนุมค้างคืน และยืดเยื้ออย่างน้อยไปจนถึงเวลา 10.00 น. วันที่ 26 พฤษภาคมนี้ จากนั้น จะไปยื่นหนังสือถอดถอน ส.ส. และ ส.ว.ที่ร่วมลงชื่อยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อประธานวุฒิสภา

ชุลมุนรอบ2ขวดไม้ปลิวว่อน

เวลา 18.00 น. กลุ่มพันธมิตรและฝ่ายต่อต้านยังเผชิญหน้ากันอยู่ตลอดเวลา ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเพิ่มกำลังอีก 1 กองร้อย พร้อมนำแผงเหล็กมากั้นระหว่างกันเพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งอีก กลุ่มผู้ชุมนุมฝ่ายพันธมิตรมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และนั่งบนถนนราชดำเนินกลางจนยาวเหยียดไปจนถึงสะพานผ่านพิภพลีลาศ

เวลา 19.30 น. นายสำราญ รอดเพชร ประกาศบนเวทีถามผู้ชุมนุมว่าจะเคลื่อนขบวนไปทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ ผู้ชุมนุมปรบมือตะโกน ''เดินๆๆ'' พร้อมปรบมือตอบรับดังกึกก้อง นายสำราญจึงกล่าวว่า เมื่อมีมติเช่นนี้ พันธมิตรก็จะเดินไปทำเนียบในเวลา 21.00 น.
ในเวลาไล่เรี่ยกันนั้นเอง ได้เกิดเหตุกลุ่มต่อต้านพันธมิตรได้ระดมขว้างปาสิ่งของใส่ผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรส่วนใหญ่เป็นขวดน้ำพลาสติค ขวดแก้ว และไม้ ฝ่ายพันธมิตรก็ขว้างของกลับมา เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามห้าม และไล่ตะครุบตัวผู้ก่อเหตุ เกิดความชุลมุนวุ่นวายเป็นเวลานานหลายนาที

'ประชา' ขู่ใช้3มาตรการเล่นงาน

สำหรับความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ นั้น ปรากฏว่า เวลา 15.00 น. ที่ท้องสนามหลวง ฝั่งศาลฎีกา นายสุชาติ นาคบางไทร แกนนำกลุ่มฅนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ เปิดเวที ''สภาสนามหลวงต่อต้านพันธมิตรเผด็จการและความไม่เป็นธรรม''  พร้อมกางเต๊นท์ ตั้งตู้ลำโพงกลางท้องสนามหลวง ปราศรัยโจมตีกลุ่มพันธมิตรที่ชุมนุมคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 มีผู้ฟัง 60-70 คน มีตำรวจในและนอกเครื่องแบบประมาณ 30 นาย คอยดูแล
นายประชา ประสพดี แกนนำกลุ่มมหาประชาชนฯให้สัมภาษณ์ว่า ตนและทีมงานประจำการอยู่ที่รถตู้ 'วอร์รูม' จอดอยู่บริเวณสนามหลวง ในรถมีอุปกรณ์บันทึกเทป คอมพิวเตอร์ออนไลน์ คอยสังเกตการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร ใช้กฎหมายจัดการกับแกนนำ ได้แก่ 1.จับตาดูว่าหากนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรปราศรัยหรือมีส่วนเกี่ยวข้อง จะบันทึกเทปเสียงใช้ยื่นคำร้องขอให้ศาลยกเลิกการปล่อยตัวชั่วคราว 2.ขอมติจากประชาชนทั่วประเทศดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น การประณาม ประจาน ต่อต้านโดยสงบ อาจขอประชามติโดยใช้ช่องทางผ่านไปรษณียบัตร 3.หากกลุ่มพันธมิตรปิดถนนสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเมื่อใด จะดำเนินการกับกลุ่มพันธมิตรขั้นเด็ดขาด คือนัดชุมนุมใหญ่ที่ท้องสนามหลวงขับไล่ทันที

ฝ่ายต้านฝ่าตร.ประชิดพันธมิตร

เวลา 16.00 น. กลุ่มต่อต้านพันธมิตร อันประกอบด้วย กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.), กลุ่มฅนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ, กลุ่มมหาประชาชนเพื่อพิทักษ์ประชาธิปไตย ภายใต้การนำของนายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน รวมแล้วประมาณ 100 คน ได้เคลื่อนขบวนจากสนามหลวงไปตามถนนราชดำเนินกลาง เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสกัดกั้นกลุ่มก่อกวนดังกล่าวให้หยุดอยู่แค่บริเวณสี่แยกคอกวัว แต่ในที่สุดก็ไม่สามารถควบคุมได้ จนต้องปล่อยให้เข้ามาตั้งเวทีย่อยบนรถ 6 ล้อที่หน้าบริษัท เบนซ์ธนบุรี ใกล้กับจุดชุมนุมพันธมิตร
ต่อมา กลุ่มธรรมาธิปไตยฯได้ทำพิธีเผาหุ่น 5 แกนนำพันธมิตร นำผ้าพันคอ 'กู้ชาติ' ของกลุ่มพันธมิตรมาเผาไฟ พร้อมตั้งเวทีปราศรัยโจมตีอย่างต่อเนื่อง

ปา'ขวดน้ำ-ถุงฉี่' ปะทะเจ็บ2

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีคนของกลุ่มต่อต้านพันธมิตรพยายามฝ่าแนวกั้นของตำรวจเข้ามายั่วยุกลุ่มพันธมิตร มีการขว้างปาขวดน้ำและถุงใส่ปัสสาวะเข้าใส่ผู้มาร่วมชุมนุมกับพันธมิตร จนเกิดการขว้างปาขวดน้ำใส่กัน และตะลุมบอนเล็กน้อย มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย ทราบชื่อเพียงรายเดียวคือ นายวีรยุทธ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา อายุ 48 ปี ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะกกหูด้านซ้าย ตำรวจเข้ามาระงับเหตุ และนำตัวนายวีรยุทธออกมาส่งให้เจ้าหน้าที่พยาบาลรับตัวไปดูแล
เป็นที่น่าสังเกตว่า แม้กลุ่มคนดังกล่าวพยายามยั่วยุฝ่ายพันธมิตร แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เข้าไปสลายกลุ่มก่อกวนดังกล่าวแต่อย่างใด อ้างว่ายังไม่ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา

'ประชา' ยันไม่เกี่ยวตะลุมบอน

นายประชา ประสพดี กล่าวถึงการปะทะกันว่า แกนนำกลุ่มพันธมิตรพยายามยั่วยุอารมณ์ของผู้เข้าร่วมชุมนุมให้ร้อนแรงขึ้น จนทำให้เกิดการตะลุมบอน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บถึง 2 คน ขอยืนยันว่าการกระทำดังกล่าวไม่ใช่ฝีมือกลุ่มมหาประชาชนฯหรือกลุ่มอื่นๆ แน่นอน แต่เป็นฝีมือ นอมินีŽ ของกลุ่มพันธมิตร ที่ต้องการสร้างสถานการณ์ขึ้น ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องติดตามดูแลอย่างเข้มงวด ไม่เช่นนั้นประชาชนจะได้รับความเดือดร้อนจากการชุมนุมดังกล่าวอีก สำหรับการปิดถนนราชดำเนินฝั่งหนึ่งนั้น คงจะมีคนไปแจ้งความอย่างแน่นอน

'รัตนพล' ยกพวกไปสมทบ

หลังเกิดเหตุปะทะกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ทางด้านสนามหลวง มีคนมาแจ้งข่าวในหมู่ผู้ชุมนุมว่า กลุ่มพันธมิตรก่อเหตุทำร้ายร่างกายกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลได้รับบาดเจ็บ และตะโกนชักชวนให้ไปช่วยเหลือเพื่อนที่สี่แยกคอกวัว แต่ผู้นำบนเวทีประกาศให้ตรวจสอบข่าวก่อน กลัวจะตกหลุมพรางของมือที่ 3 จนกระทั่งผู้นำบนเวทีตรวจสอบข่าวแล้วแจ้งว่า เป็นเหตุชกต่อยกันตัวต่อตัว ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย เหตุการณ์ยุติแล้ว แต่มีบางส่วนรวมถึงรัตนพล ส.วรพิณ อดีตนักมวยสากลแชมป์โลกที่มาฟังปราศรัยด้วยไม่เชื่อฟัง จึงพาผู้ชุมนุมประมาณ 40-50 คน ไปสี่แยกคอกวัว จนเหลือคนฟังเพียงไม่ถึง 20 คน

สาวใหญ่ร้องโดนตบหน้า

น.ส.ระรินทิพย์ ฐิตานุวงศ์ อายุประมาณ 50 ปี กล่าวว่า ขณะเดินผ่านโรงเรียนสตรีวิทยาจะกลับบ้านได้ถูกชายวัยกลางคนคนหนึ่งเข้ามาทำร้ายร่างกายด้วยการตบหน้าโดยไม่รู้สาเหตุ หลานสาวพยายามเข้ามาช่วย แต่ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 10 คน เตรียมจะเข้ามารุมทำร้าย ตำรวจไม่น้อยกว่า 5 นาย เห็นเหตุการณ์แต่ไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือแต่อย่างใด แม้หลานได้ตะโกนเรียกตำรวจแล้วก็ตาม แต่ตำรวจไม่สนใจ และว่า ที่มาวันนี้มาเพียงลงชื่อสนับสนุนการถอดถอน ส.ส.-ส.ว.ที่ร่วมลงญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ยุ' ตื้บเลย' ไม่ต้องกลัวถูกจับ


นายสุชาติ นาคบางไทร แกนนำกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ ปราศรัยบนเวทีที่ท้องสนามหลวง ซึ่งมีคนฟังประมาณ 80 คนว่า หากกลุ่มพันธมิตรเคลื่อนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปยังทำเนียบรัฐบาล กลุ่มตนจะเดินไปยึดที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยแทน
อย่างไรก็ตาม มีผู้นำปราศรัยบางคนได้พูดจาสนับสนุนและยั่วยุให้ผู้ชุมนุมใช้กำลังกับกลุ่มพันธมิตรหากเผชิญหน้ากัน พร้อมบอกว่าให้เตรียมขวด ก้อนอิฐ หรือไม้ติดตัวไปด้วย เพื่อป้องกันตัว ตีได้เลย กระทืบได้เลย ไม่ต้องกลัวตำรวจจับ ถ้าจับไม่ต้องบอกว่าอยู่ฝ่ายไหน

ตร.ใช้ดาวเทียมเฝ้าระวังม็อบ

ส่วนการเตรียมพร้อมของตำรวจ เพื่อรับมือกับม็อบทั้ง 2  ฝายนั้น ปรากฏว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 พฤษภาคม ที่ห้องประชุมปารุสกวัน 1 กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำหน้าที่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายความมั่นคง เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมรักษาความสงบเรียบร้อย และอำนวยความสะดวกการจราจรในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่นัดรวมตัวแสดงพลังคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และล่ารายชื่อถอดถอน ส.ส. ส.ว.ที่ยื่นญัตติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มี พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. พร้อมนายตำรวจในพื้นที่ กองทัพภาคที่ 1 และ กทม. ร่วมประชุม

พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวก่อนเข้าประชุมว่า ถ้ามีการเผชิญหน้าจนเกิดการกระทำผิดหรือทำร้ายกันก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ตำรวจขอใช้โรงเรียนสตรีวิทยาที่อยู่ใกล้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เป็นศูนย์อำนวยการควบคุมสั่งการ จะพยายามขอร้องไม่ให้ชุมนุมยืดเยื้อ กฎหมายไม่อนุญาตให้ชุมนุมบนถนน

ด้าน พล.ต.ท.อัศวินกล่าวว่า จะพยายามพูดคุยกับผู้ชุมนุมให้ปิดถนนเพียงครึ่งเดียว หากปิดหมดจะทำให้การเดินรถต้องปิดไปโดยปริยาย ทำให้ผู้ใช้ถนนเดือดร้อนได้ ฝนจะเป็นตัวทำให้ผู้ชุมนุมเดินทางมาร่วมน้อยและไม่ยืดเยื้อ
รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากติดกล้องโทรทัศน์วงจรปิดทั่วบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยแล้ว บช.น.จะใช้กล้องผ่านดาวเทียมเพื่อติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อีกทางหนึ่งด้วย

เตรียม1พันสกัดม็อบบุกทำเนียบ

เวลา 12.30 น. หลังการประชุม พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี แถลงว่า เป้าหมายหลักคือไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ละเมิดผู้อื่น กรณีมีการทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกายกัน จะมีชุดการจับกุมให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้เหตุการณ์บานปลายหรือลุกลามออกไป เพื่อไม่ให้ตำรวจตกเป็นจำเลยสังคมเสียเอง ในชั้นนี้ตำรวจดูแลได้ ไม่ต้องใช้กำลังฝ่ายทหารเข้ามาช่วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า พันธมิตรมีแผนจะเคลื่อนไปปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลเพื่อกดดัน พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า คงทำไม่ได้ถึงขั้นนั้น ตำรวจเตรียมกำลังไว้กว่า 1 พันนาย และสำรองเอาไว้เสริมอีก หากจำเป็นต้องเข้าไประงับเหตุ

'อัศวิน' ให้เคลื่อนได้แต่อย่าป่วน

ด้าน พล.ต.ท.อัศวิน ผบช.น. กล่าวว่า ฝ่ายข่าวกองทัพภาคที่ 1 ได้ส่งตัวแทนมาร่วมประชุมด้วย ถ้ามีข่าวใดก็จะประสานแจ้งให้ตำรวจทราบ ส่วนใหญ่ขอความร่วมมือเฉพาะเรื่องการข่าวเท่านั้น เพราะตำรวจเอาอยู่ รับมือได้ ไม่มีปัญหา นอกจากนี้ ตำรวจได้เจรจากับพันธมิตรไว้แล้วระดับหนึ่งเพื่อขอไม่ให้เคลื่อนขบวน พันธมิตรพูดว่าถ้ามีความจำเป็นต้องเคลื่อนขบวน ตนได้บอกว่า ถ้าเคลื่อนก็อย่าให้เกิดความเดือดร้อน เพราะวันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม เป็นวันทำงาน
'' เราไม่หนักใจเรื่องเคลื่อนขบวน จะพยายามแยกสองฝ่ายไว้ บางครั้งอาจจะมีไม่เจตนา แต่ถ้ามีการยั่วยุขึ้นมาก็อาจเป็นเหตุให้เกิดเรื่องลุกลามได้ ผมยังบอกกลุ่มพันธมิตรด้วยว่าหากการชุมนุมยืดเยื้อไป สิ่งที่จะได้ก็จะไม่ได้อะไร ประชาชนจะเดือดร้อนเรื่องทางสัญจรไปมา จะเป็นฝ่ายเสียเปล่าๆ''  พล.ต.ท.อัศวินกล่าว และว่า ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ รอง ผบช.น. เป็น ผบ.เหตุการณ์ มีอำนาจตัดสินใจแทนทั้งหมดขณะที่ตนไม่อยู่

กอ.รมน. 'ตั้งวอร์รูม' เฝ้า

พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) กล่าวว่า กอ.รมน.ได้ตั้งวอร์รูมรับรายงานสถานการณ์การชุมนุมจากหน่วยงานต่างๆ หากมีเหตุไม่สงบขึ้น บช.น.เป็นผู้รับผิดชอบหลัก ทุกข้อมูลจะรายงานมาที่ กอ.รมน.ส่วนกลางก่อนรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ จากการรายงานยังไม่พบข้อมูลมือที่ 3 เข้ามาสร้างสถานการณ์ คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ในส่วนแต่ละเหล่าทัพคงเฝ้าดูสถานการณ์ ไม่ได้เตรียมกำลังอะไร เพราะขณะนี้ไม่มีอะไรที่กองทัพต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยว

ปชป.ไฟเขียวส.ส.ร่วมพันธมิตร

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ยกระดับการต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ให้เป็นเรื่องหลักเทียบเท่ากับการคว่ำบาตรการเลือกตั้ง พ.ศ.2549 และการต่อสู้คดียุบพรรค พรรคมีมติตั้งคณะทำงานยุทธศาสตร์เพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน และตั้งคณะทำงานศึกษาข้อมูลร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2550 มีนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.สัดส่วน เป็นประธาน ส.ส.ทั้ง 164 คน จะผนึกกำลังต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์กรประชาชนที่มีแนวความคิดต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เบื้องต้นพรรคสนับสนุนให้สมาชิกพรรคเข้าร่วมกิจกรรมวิชาการของกลุ่มต่างๆ และจะไม่ปิดกั้น ส.ส.เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรแต่ต้องเป็นในนามส่วนตัว
'' รัฐบาลคงเคยชินกับการใช้เงินซื้อทุกอย่าง ผมคิดว่ารัฐบาลใช้เงิน 2,000 ล้านบาททำประชามติรัฐธรรมนูญ เพื่อเอาทรัพย์สินที่ถูกอายัดจำนวน 70,000 ล้านบาทคืน ถือเป็นการใช้กุ้งฝอยตกปลากะพง'' นายเทพไทกล่าว

2กลุ่มปะทะเดือด เผชิญหน้า เคลื่อนบุกทำเนียบ  
ไทยรัฐ [26 พ.ค. 51 - 04:07]
(http://www.thairath.com/2551/hotnews/May/library/26/pic_4.jpg)
 
หลังจากแกนนำกลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยประโคมเรียกคนมาตลอดสัปดาห์ ให้ออกมาชุมนุมใหญ่ เพื่อต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาล โดยนัดดีเดย์ ในช่วงบ่าย วันที่ 25 พ.ค. นั้น

กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนพลยึดราชดำเนินตั้งเวที

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 25 พ.ค. ว่า กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมมวลชนที่ให้การสนับสนุน ได้นำ รถบรรทุก 6 ล้อ ซึ่งดัดแปลงเป็นเวทีเคลื่อนที่ 2 คัน ติดป้าย ข้อความว่า “รักชาติไม่แก้รัฐธรรมนูญ” และ “รัฐโจรแก้ รธน. เพื่อนักการเมืองโจร” ทำการปิดกั้นถนนราชดำเนินฝั่งขาเข้า พร้อมนำแผงเหล็กมากั้นเพื่อยึดพื้นที่ ตั้งแต่ถนนดินสอ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไปจดสะพานผ่านฟ้า เป็น พื้นที่จัดปราศรัย ก่อนจัดตั้งเวทีปราศรัยบริเวณฝั่งถนนราชดำเนินขาเข้า ก่อนถึงสำนักงานสภาทนายความ หันหลัง ให้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หันหน้าไปสะพานผ่านฟ้า เยื้อง กับร้านอาหารเมธาวลัยศรแดง โดยมีเหล่าพันธมิตรจากจังหวัดต่างๆ อาทิ ชลบุรี เพชรบุรี กำแพงเพชร บุรีรัมย์ ภูเก็ต ฯลฯ เดินทางเข้ามาสมทบ ท่ามกลางการรักษาความ ปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลกว่า 1 พันนาย ทั้งใน และนอกเครื่องแบบ ที่กระจายกันป้องกันเหตุทั่วบริเวณ

ประเดิมเผาพริกเกลือแช่ง “ทักษิณ”

ส่วนบริเวณฟุตปาทฝั่งถนนราชดำเนินขาเข้า หน้าสภาทนายความ กลุ่มพันธมิตรฯ ยังได้ตั้งเต็นท์พร้อมนำ เครื่องถ่ายเอกสารมาชักชวนประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้ ร่วมกันเข้าชื่อ เพื่อยื่นถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.ที่เข้าชื่อยื่น ญัตติสนับสนุนแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนที่ให้การสนับสนุน ต่างนำบัตรประชาชน มาถ่ายเอกสาร และร่วมลงชื่อถอดถอนกันอย่างคึกคัก นอก จากนี้ ยังมีการนำเสื้อยามเฝ้าแผ่นดิน ผ้าพันคอกู้ชาติ และ เสื้อยืดที่มีข้อความหยุดทรราชล้มรัฐธรรมนูญ มาจำหน่าย ให้กับเหล่าผู้ชุมนุม ขณะเดียวกันบริเวณลานอนุสาวรีย์ ประชาธิปไตย แนวร่วมพันธมิตรกลุ่มหนึ่ง นำโดยนาย สมัยศึก ศรศิริ ชาว กทม.วัย 76 ปี ได้นำภาพถ่าย พ.ต.ท. ทักษิณมาทำพิธีเผาพริกเกลือสาปแช่ง ท่ามกลางเหล่าผู้ สนับสนุนโห่ร้องด้วยความสะใจ จากนั้นเวทีปราศรัยของพันธมิตรฯได้เปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยมีแนวร่วม คนสำคัญๆ อาทิ นายไชยวัฒน์ สินธุวงศ์ นายสำราญ รอดเพชร ขึ้นเวทีกล่าวโจมตีรัฐบาลอย่างดุเดือด

ฝ่ายต้านกลุ่มผู้ชุมนุมเอาบ้างตั้งเวทีประชัน

ขณะเดียวกัน กลุ่มมวลชนที่อยู่ตรงข้ามกับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ใช้ชื่อว่า “กลุ่มพลังประชาธิปไตยต่อต้านพันธมิตร” “กลุ่มธรรมาธิปไตย” และ “กลุ่มคนวันเสาร์ ไม่เอาเผด็จการ” ก็รวมตัวกันตั้งเวทีปราศรัยบริเวณหน้าอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา เชิญชวนประชาชนราว 300 คน มารวมตัวกันก่อนเคลื่อนขบวนมายังหน้าบริษัทธนบุรีประกอบยนต์ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณวงเวียนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินฝั่งขาออก พร้อมปราศรัยโจมตีกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า เป็นพวกทำลายชาติ จากนั้นมีการเผาหุ่นแกนนำพันธมิตรฯ และนำมากระทืบด้วยความโกรธแค้น ทั้งนี้ แนวร่วมบางส่วน ยังประกาศกร้าวว่า หากพันธมิตรฯไม่เลิกชุมนุมจะฆ่าให้ หมด ต่อมา สถานการณ์เริ่มตึงเครียดขึ้นเมื่อกลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯเคลื่อนขบวนมายังฝั่งอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ทำท่าเหมือนกับจะบุกเข้าไปในบริเวณการปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯ โดยมีการนำผ้าพันคอกู้ชาติมาพันที่เท้า และชูใส่กลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อเป็นการยั่วยุ ขณะที่มวลชนผู้สนับสนุนพันธมิตรฯ ก็ฮือกันมามุงดูด้วยความโกรธแค้น ทำให้ทั้งสองฝ่ายตั้งกลุ่มมาประจันหน้าโห่ร้อง และด่าทอ กัน โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 20 นาย ตั้งแถวเรียง สกัดไว้ตรงกึ่งกลาง เพื่อกันไม่ให้มีการปะทะ

ต่างยั่วยุขว้างขวดน้ำใส่กัน
(http://www.thairath.com/2551/hotnews/May/library/26/pic_5.jpg)

กระทั่งเวลา 16.00 น. ได้มีรถบรรทุกของกลุ่มพันธมิตรติดหมายเลข 3 พร้อมติดป้ายข้อความต่อต้านการแก้ รัฐธรรมนูญ แล่นผ่านเข้ามาในบริเวณวงเวียนอนุสาวรีย์ ประชาธิปไตย สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มต้านพันธมิตรฯที่รวมตัวกันอยู่หน้าธนบุรีประกอบยนต์ จึงพากันฮือเข้าไปที่รถ ดึงป้ายผ้าดังกล่าวจนฉีกขาด ซึ่งในเวลาไล่เลี่ยกันได้มีกลุ่มสนับสนุนพันธมิตรฯที่นั่งรถมาด้วย กระโดดลงมาปรี่เข้าไปตอบโต้ จนทำให้ทั้งสองฝ่ายเกิดการชกต่อยชุลมุนกลางถนนวงเวียนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จากนั้น มีการ ระดมขว้างปาขวดนํ้าใส่กัน แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าควบคุมสถานการณ์ไว้ และแยกทั้งสองกลุ่มออกจากกัน แต่ยังมีการตั้งกลุ่มมวลชนมาประจันหน้ากันและด่าทอกันอย่างไม่ลดละ

แยกหลายกลุ่มรุมเป้าหมายเดียว

ส่วนที่บริเวณท้องสนามหลวง ตั้งแต่ช่วงบ่าย 3 เป็นต้นมา กลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ และกลุ่มสภาสนามหลวงต่อต้านพันธมิตรฯ เผด็จการและความไม่เป็นธรรม นำโดยนายสุชาติ นาคบางไทร ได้มาเปิดเวทีที่บริเวณสนามหลวง หน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กล่าวโจมตีแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คน ท่ามกลางผู้สนใจร่วมฟังราว 150 คน พร้อมกันนี้นายสุชาติยังได้กล่าวปลุกเร้าให้คนที่มาฟัง เตรียมตัวที่จะเดินทางไปสมทบกับกลุ่ม นปช. ที่บางส่วนได้ไปอยู่ที่สี่แยกคอกวัว เพื่อต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ โดยมีการนำวีดิโอภาพการรวมตัวของกลุ่มพันธมิตรฯ มาเปิดให้ประชาชนชมด้วย

อดีต นปก.ชี้เหตุตีกันสุดแปร่ง

จากนั้นเมื่อเวลา 18.15 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะอดีตแกนนำกลุ่ม นปก. กล่าวถึงเหตุการณ์ปะทะกันของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กับกลุ่มผู้ชุมนุมสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่าแกนนำ นปก. ไม่ได้จัดคนไปสร้างความวุ่นวายในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ และขอตั้งข้อสังเกตว่า การที่มีคนเข้าไปในสถานที่ชุมนุมแล้วมีเหตุ เป็นวิธีปกติสมเหตุสมผลตามความเป็นจริงหรือไม่ ที่คนจำนวนน้อยกว่าจะเข้าไปหาคนจำนวนมากกว่าหลายเท่าตัว เป็นวิธีการเหมือนหนังไทยสมัยโบราณ ที่มีคนคลุมหน้าแล้วประกาศว่าเป็นเสือนั่นเสือนี่เพื่อจะป้ายสีคนอื่น

น้องปุระชัยเอาด้วยค้านแก้ รธน.

ขณะเดียวกันในต่างจังหวัดหลายแห่ง ก็มีกลุ่มคนที่ประกาศตัวเป็นผู้คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญออกมาชุมนุมเช่นกัน โดยที่บริเวณหน้าโรงเรียนปราจีนกัลยานี จ.ปราจีนบุรี “กลุ่มคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อ พวกพ้องและตนเอง” ออกมาชุมนุมถือป้ายผ้า มีข้อความเกี่ยวกับการคัดค้านแก้ไขรัฐธรรมนูญของฝ่ายรัฐบาล ก่อนเดินข้ามสะพานปราจีนบุรีเข้าสู่ตลาดเทศบาลเมือง พร้อมเชิญชวนประชาชนให้ออกมาคัดค้านเช่นกัน ในจังหวะนี้ นายทศพล เปี่ยมสมบูรณ์ น้องชาย ร.ต.อ. ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ได้อ่านจดหมายเปิดผนึก คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากนั้นตัวแทนกลุ่มได้นำพวงหรีดระบุชื่อให้ “นายเกียรติกร พากเพียรศิลป์” ไปวางที่บริเวณป้อมยามตำรวจจราจร ซึ่งต่อมานายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี ที่ลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญได้กล่าวถึงในเรื่องนี้ว่า ตนมีหน้าที่ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และที่ร่วมลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญก็เพราะเพื่อต้องการแก้ รัฐธรรมนูญในมาตรา 265 และ 266 ที่ไม่ให้ ส.ส.ไปก้าวก่ายราชการ เนื่องจากตนต้องการจะพัฒนาจังหวัดปราจีนบุรี เมื่อไปขอข้อมูลจากทางฝ่ายราชการ จะไม่ได้รับความร่วมมือ จึงอยากแก้ไขในส่วนนี้ ส่วนการที่มีกลุ่มคัดค้านการลงชื่อตนเองออกมาเคลื่อนไหวนั้น ตามระบอบประชาธิปไตยแล้ว เป็นสิทธิที่จะทำได้

ตร.เหนื่อยคอยระวังเหตุปะทะ

ส่วนบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรในช่วงเย็น เริ่มคึกคักขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคนที่สนับสนุนกลุ่มพันธมิตรฯ เดินทางมารับฟังการปราศรัยกันเต็มพื้นที่ถนนราชดำเนินกลาง ขาเข้า ตั้งแต่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยยาวไปจนเกือบถึงสะพานผ่านฟ้า โดยมีการตั้งจอโปรเจกเตอร์ถ่ายทอดสัญญาณให้ผู้ชุมนุมได้รับฟังการปราศรัย และห้ามปรามผู้ชุมนุมไม่ให้ไปปะทะกับกลุ่มต่อต้าน ท่ามกลางบรรยากาศการปราศรัยบนเวทีที่เป็นไปอย่างดุเดือด ส่วนกลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯ ก็ยังไม่ยอมยุติการก่อกวน พากันเคลื่อนขบวนมาหน้าร้านเมธาวลัยศรแดง ฝั่งราชดำเนินกลาง ขาออก ใกล้กับเวทีใหญ่ของพันธมิตรฯ เพียงแค่อยู่คนละฝั่งถนน จากนั้นกลุ่มต้านพันธมิตรฯ ก็เริ่มตั้งเวทีกระจายเสียงชั่วคราว ตะโกนด่าทอกลุ่มพันธมิตรฯ อย่างสาดเสียเทเสีย เจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงว่าจะเกิดการกระทบกระทั่งกันอีก จึงมีการเสริมเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจล จากกองปราบปราม และหน่วยอรินทราช จำนวน 1 กองร้อย พร้อมกับนำแผงเหล็กจาก บก.จร. มากั้นไม่ให้กลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯ เคลื่อนขบวนมาปิดถนนประจันหน้ากับกลุ่มพันธมิตรฯ อย่างไรก็ตาม ได้มีชายสูงอายุคนหนึ่ง ไม่ทราบชื่อ ซึ่งเป็นลูกค้าของร้านเมธาลัยศรแดง ได้ออกมาต่อว่า กลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯ ทำให้แนวร่วมกลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯ หลายคนไม่พอใจ พยายามฮือจะเข้าทำร้าย แต่ชายคนดังกล่าวหลบกลับเข้าไปในร้านได้อย่างหวุดหวิด

“สุริยะใส” ตำหนิ ตร.คุมพวกป่วนไม่ได้  
(http://www.thairath.com/2551/hotnews/May/library/26/pic_6.jpg)

ด้านนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตร กล่าวถึงการก่อกวนของกลุ่มต่อต้านว่า อยากตำหนิเจ้าหน้าที่ตำรวจที่น่าจะมีมาตรการที่รัดกุมมากกว่านี้ เนื่องจากคนกลุ่มนี้ชัดเจนว่าต้องการมาก่อกวนการชุมนุมอย่างสันติของพันธมิตร ส่วนในวันที่ 26 พ.ค.นั้น เวลา 10.00 น. กลุ่มพันธมิตร ได้นัดประธานรัฐสภาล่วงหน้าไว้ เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญ รวมทั้งถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.ที่เข้าชื่อยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนจะเคลื่อนขบวนไปทั้งหมดหรือส่งตัวแทนไปจะมีการหารือกันอีกครั้ง

เตรียมเคลื่อนพลบุกทำเนียบ

ในช่วงค่ำ บรรยากาศการชุมนุมยิ่งคึกคักเมื่อมีคนเดินทางมาฟังการปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรอย่างล้นหลาม ตั้งแต่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปจนจดสะพานผ่านฟ้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจประเมินว่า มีผู้เข้าร่วมชุมนุมในครั้งนี้กว่า 8 พันคน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกลุ่มผู้คัดค้านที่ปักหลักหน้าร้านศรแดงนั้น ก็ยังคงก่อกวนกลุ่มพันธมิตรด้วยการขว้างปาสิ่งของใส่ ขณะที่ฝ่ายพันธมิตรเองก็ขว้างปาตอบโต้ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บหัวร้างข้างแตกกันไปทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากการปราศรัยบนเวทีแล้ว กลุ่มผู้ชุมนุมยังตะโกนขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และด่ากลุ่มผู้มาก่อกวน กระทั่งเวลา 19.30 น. นายสำราญ รอดเพชร พิธีกรบนเวที ขอมติประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมว่าจะให้มีการเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุมจากถนนราชดำเนินกลาง ไปยังทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 21.00 น. ซึ่งได้รับเสียงโห่ร้องสนับสนุนจากประชาชนเสียงดังกึกก้อง

ออกแถลงการณ์ประกาศชัย

จากนั้นแกนนำพันธมิตรฯ ประกอบด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายพิภพ ธงไชย และนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ขึ้นเวทีปราศรัย พร้อมประกาศแถลงการณ์พันธมิตร ฉบับที่ 10 เรื่อง เคลื่อนไหวต่อเนื่องเพื่อกำจัดผู้ล้มล้างรัฐธรรมนูญ มีใจความโดยย่อระบุว่า การชุมนุมครั้งนี้มีประชาชนเข้าร่วมชุมนุมหลายหมื่นคน ด้วยความสงบอหิงสา แม้ว่าจะถูกอันธพาลที่คนในฝ่ายรัฐบาลจ้างมาทำการยั่วยุ ขว้างปาทำร้ายผู้บริสุทธิ์ ประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมยังมีจิตใจมุ่งมั่นแสดงพลังประชาชนต่อไป พันธมิตรขอประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ของประชาชน

ยื้อถึงเช้าเพื่อยื่นหนังสือ ปธ.วุฒิ

นอกจากนี้ ในแถลงการณ์ระบุด้วยว่า พันธมิตร มีมติจะเคลื่อนมวลชนในเวลา 21.00 น. เพื่อเดินทางไปหน้าทำเนียบรัฐบาล และปักหลักค้างอย่างต่อเนื่อง เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี แสดงความรับผิดชอบต่อความมุ่งหมายที่จะล้มรัฐธรรมนูญ เพื่อฟอกความผิดของคนในระบอบทักษิณอย่างเดียว จนเกิดภัยคุกคามต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทั้งล้มเหลวต่อการบริหารงานแผ่นดิน จนเกิดสภาวะวิกฤติเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพง จนประชาชนเดือดร้อนแสนสาหัสไปทั่ว พันธมิตรยังขอชวนประชาชนทั่วประเทศมารวมตัวกันเพิ่มขึ้น เพื่อไปยื่นหนังสือต่อประธานวุฒิฯ ในการถอดถอนสมาชิกสภาที่ล้มล้างรัฐธรรมนูญ ในวันจันทร์ที่ 26 พ.ค. ในเวลา 06.00 น. ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล จากนั้นตัวแทนพันธมิตรฯ จะร่วมเดินทางไปพร้อมกับประชาชนที่หน้ารัฐสภาในเวลา 07.00 น.

“จำลอง” ร้องท้ารอ ตร.จับ
 (http://www.thairath.com/2551/hotnews/May/library/26/pic_7.jpg)

จากนั้น พล.ต.จำลอง ศรีเมือง กล่าวว่า อยากบอกกับตำรวจนครบาลที่เคยไปอบรมที่โรงเรียนผู้นำว่า เคยอยากถ่ายรูปกันตน ขณะนี้ตนมาให้ถ่ายรูปด้วยถึงที่แล้ว อยากบอกตำรวจด้วยว่าเตรียมจับตนได้เลย เพราะหลังจากนี้จนเสร็จศึกจะไม่มีวันถอย ที่ผ่านมาพันธมิตรเราเคยใช้เวลาปักหลักบนถนนมากว่า 34 คืน แต่ครั้งนี้จะต้องเร็วกว่าแน่นอน ด้านนายสมศักดิ์ โกศัยสุข กล่าวว่า ไม่ใช่ความขัดแย้งระหว่างทักษิณกับพันธมิตร แต่มีปัญหาเรื่องการโกงกินทรัพย์สินของแผ่นดิน เราจึงต้องออกมาปกป้อง ขอให้ร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ในการรวมชื่อ 2 หมื่นชื่อขับไล่พวกที่แก้รัฐธรรมนูญให้ได้ภายในคืนเดียว ปัญหาของแผ่นดินนี้ คือ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ที่หนักกว่าคือนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลชุดนี้ แทนที่จะแก้ ปัญหาของชาติกลับมาสร้างปัญหาซ้ำ ถ้ารัฐบาลนี้จะเดินหน้าฟอกผิดอดีตนายกฯ ไม่ให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม รัฐบาลนี้ควรจะอยู่ต่อไปหรือไม่ ถึงเวลาที่เราจะเดินไปบอกนายกฯ พร้อมๆ กัน นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ประชาชนออกมาร่วมชุมนุมให้ถึงแสนคน ดูแต่โทรทัศน์อย่างเดียวคงไม่ได้แล้ว

“สนธิ” อ้างนำกลุ่มผู้ชุมนุมมาทำเพื่อชาติฯ

ด้านนายสนธิ ลิ้มทองกุล ขึ้นเวทีกล่าวกับมวลชนว่า ยืนยันการชุมนุมครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องของการแก้ไม่แก้ รัฐธรรมนูญ แต่เป็นเรื่องของชาติ เป็นเรื่องที่เราอยากจะให้ชาติของเรายังดำรงความเป็นราชอาณาจักร หรือระบบสาธารณรัฐ การแก้รัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องพรางตา เจตนาของการแก้รัฐธรรมนูญมากกว่าการแก้ให้คนพ้นผิด แต่เพื่อกลืนชาติ ทำให้ระบบในวัฒนธรรมเดิมหายไปจากชาติเรา วันนี้ไม่ใช่เป็นวันของการแก้รัฐธรรมนูญ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการสถาปนาระบบสาธารณรัฐ ถ้าชาติของเราล่มสลายแล้ว เราจะมีอะไรให้อยู่กัน ดังนั้น นี่คือสงครามครั้งสุดท้าย เราถอยไม่ได้จริงๆ เพราะไม่มีใครฟังเรา คนที่มีอำนาจจะอ้างถึงการเลือกตั้งที่ใช้เงินซื้อเสียงมา การล้มล้างสถาบันนั้นอยู่ในหัวใจคนพวกนี้ และสร้างมานานแล้ว ที่จะมาจัดการกับนายจักรภพ เพ็ญแข เพราะพวกเรารู้ทัน และนายจักรภพเองเป็นเพียงหมากหนึ่งในกระดานที่เขาต้องการซื้อประเทศไทย ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ พวกเรายอมได้หรือ จากนั้นนายสนธิได้จุดธูปเทียน พร้อมชวนประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมร่วมพิธี อธิษฐานถึงพระสยามเทวาธิราช เพื่อขอพรและถวายสัตย์ปฏิญาณว่าจะทำงานเพื่อชาติ เพื่อศาสนา และพระมหากษัตริย์ พร้อมขอให้ประสบความสำเร็จและได้ชัยชนะจากหมู่มาร จากนั้นในเวลา 21.10 น. จึงเริ่มเคลื่อนขบวนประชาชนสู่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ทันทีที่นายสนธิขึ้นเวทีปราศรัย กลุ่มต่อต้านได้แสดงความไม่พอใจและส่งเสียงขับไล่อยู่ตลอดเวลา พร้อมขว้างปาสิ่งของใส่กันอีกรอบ

กลุ่มสนามหลวงเคลื่อนพลตาม

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวที่ปักหลักรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ และกลุ่มสภาสนามหลวงต่อต้านพันธมิตรฯ เผด็จการและความไม่เป็นธรรม ที่ยึดพื้นที่สนามหลวง ฝั่งสะพานพระปิ่นเกล้า ตั้งเวทีปราศรัยโจมตีกลุ่มพันธมิตรฯ พร้อมเชิญชวนคนมาร่วมต้านกลุ่มพันธมิตรฯ มาตั้งแต่ช่วงบ่าย ได้เริ่มมีการเคลื่อนไหวในเวลาประมาณ 20.50 น. ด้วยการเคลื่อนขบวนออกมาจากสนามหลวง ไปตามถนนราช ดำเนินกลาง เพื่อไปปักหลักที่หน้าทำเนียบรัฐบาลเช่นเดียวกัน โดยผู้ชุมนุมยังได้ตะโกนขับไล่ “สนธิออกไป” ไปตลอดเส้นทาง ก่อนที่จะไปหยุดอยู่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เนื่องจากมีตำรวจตั้งแถวพร้อมโล่สกัดการเคลื่อนขบวน ซึ่งทำให้นายสุชาติผู้นำกลุ่มคนวันเสาร์ฯ ต้องเข้าไปเจรจากับตำรวจเพื่อขอผ่านทาง

ใช้กำลัง 3 กองร้อยประกบ

ด้าน พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 กล่าวถึงมาตรการรักษาความสงบในช่วงที่กลุ่มพันธมิตรฯเดินขบวนไปปักหลักยังหน้าทำเนียบรัฐบาลว่า จะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 3 กองร้อย ตามประกบทั้ง 2 ด้าน เพื่อป้องกันกลุ่มต่อต้านขว้างปาสิ่งของ หรือยั่วยุขณะเดินขบวน นอกจากนี้ ยังพบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านพันธมิตรฯบางส่วนได้แสดงความไม่พอใจสื่อมวลชน โดยเข้าใจว่าสื่อมวลชนนำเสนอข่าวกลุ่มพันธมิตรฯเพียงด้านเดียว จนเกือบทำร้ายสื่อมวลชนด้วย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้ามาห้ามปรามไว้ได้ทัน

ปะทะกันอีกขวดหินปลิวว่อน  
(http://www.thairath.com/2551/hotnews/May/library/26/pic_8.jpg)

จากนั้นในเวลาประมาณ 21.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดการปะทะกันอีกรอบที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หน้าสภาทนายความ เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯกับกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มคนวันเสาร์ฯ และกลุ่ม นปช. ที่ตามหลังมา ได้กระทบกระทั่งด่าทอกันอีกรอบ ก่อนจะมีการขว้างปาขวดน้ำ ก้อนหิน และอิฐตัวหนอนใส่กัน ซึ่งหินบางก้อนไปโดนกระถางต้นไม้บนบาทวิถีได้รับความเสียหาย ทำให้ตำรวจที่ประจำการอยู่ต้องใช้กระบองเคาะโล่เป็นจังหวะเพื่อปรามทั้ง 2 ฝ่าย และเข้ามาสกัดไม่ให้กลุ่มกลุ่มผู้ชุมนุมต้าน เดินตามกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯไป ก่อนที่จะปล่อยให้กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ผ่านไปถึงสะพานมัฆวาน

ผบก.น.1 วอนพันธมิตรหยุดได้แล้ว

ในเวลา 22.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ตำรวจพยายามตั้งแถวสกัดกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตร ที่ตั้งเป้า เดินหน้าไปปักหลักที่ทำเนียบรัฐบาลให้ได้ ขณะเดียวกันก็ต้องคอยกั้นไม่ให้กลุ่มต้านพันธมิตรที่เดินตามหลัง ไม่ให้มาปะทะกับกลุ่มพันธมิตร ซึ่งในที่สุด ผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรจำนวนมากพยายามใช้กำลังผลักดันเจ้าหน้าที่จนสามารถเดินฝ่าแนวสกัดของตำรวจจากสะพานผ่านฟ้ามาได้ เคลื่อนไปตามราชดำเนินนอก มุ่งหน้าสะพานมัฆวานรังสรรค์ ทำให้ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.1 ได้สั่งเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลในชุดควบคุมฝูงชนพร้อมกระบองและโล่ นำรั้วเหล็กไปขวางกั้นบนสะพานมัฆวานฯ ตรึงกำลังประมาณ 2 กองร้อย เสริมด้วยรถควบคุมผู้ต้องหาจำนวน 3 คัน จอดขวางปิดกั้นถนนอยู่ด้านหลัง นอกจากนี้ ยังมีกองกำลัง ตชด.จากค่ายนเรศวร ประมาณ 1 กองร้อย ถือโล่ป้องกันตัวอยู่ด้านหลังรถควบคุมฝูงชนอีกชั้น พร้อมกันนี้ พล.ต.ต.อำนวยประกาศผ่านเครื่องกระจายเสียงเป็นระยะ ให้กลุ่มพันธมิตรหยุดการเคลื่อนไหว ขอร้องอย่าได้ก่อความเดือดร้อนกับผู้ใช้รถใช้ถนน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่ใช้ความรุนแรง หากไม่เห็นชอบด้วยความเห็นที่แตกต่าง ให้จัดตัวแทนไปยื่นเรื่องที่ทำเนียบหรือสภาอย่าใช้กำลังมากดดัน แต่หากเกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองท่านต้องรับผิดชอบ เพราะการชุมนุมเป็นการปิดกั้นจราจรทำให้เกิดความวุ่นวาย

“จำลอง” ยันให้ ตร.เปิดทาง

จากนั้น พล.ต.จำลอง ศรีเมือง หนึ่งในแกนนำพันธมิตร ที่ยืนอยู่บนรถกระจายเสียงก็ได้ประกาศให้เวลา ตร. 10 นาที ในการเปิดทางให้ผู้ชุมนุม พร้อมทั้งประกาศว่า หากผู้ชุมนุมถูก ตร.ทำร้าย ทหารรุ่นน้องตนคงไม่ยอมแน่ ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ชุมนุมได้เข้ารื้อแผงเหล็กของตำรวจออก และต่อมา พล.ต.จำลองได้ประกาศกับผู้ชุมนุมว่า จะปักหลักชุมนุมอยู่กลางสะพานมัฆวาน จนกว่าจะมีการเปิดทางให้ จากนั้นแกนนำผู้ชุมนุมได้สั่งให้ผู้ร่วมชุมนุมนั่งปักหลักกลางสะพานมัฆวานฯ อย่างไรก็ดี มีรายงานว่า ก่อนหน้านั้นมีเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมสองกลุ่ม ปรากฏว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือนายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที พิธีกรของเอเอสทีวี ถูกเขวี้ยงด้วยก้อนหินโดนศีรษะแตกเลือดอาบ

สองกลุ่มผู้ชุมนุมเจอกันปะทะเดือด

เวลา 22.40 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มต้านพันธมิตรได้เดินตามไปทันกลุ่มพันธมิตร ที่บริเวณแยก จปร. ทำให้มีการยั่วยุกันก่อนเดินหน้าเข้าประหมัด และใช้ก้อนหินอิฐตัวหนอนขว้างใส่กัน ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า ไม่มีตำรวจเข้าระงับเหตุเหมือนเคย และมีเศษขวดเศษแก้วเกลื่อนถนน
 
 

ตอนนี้คืนอันยาวนานผ่านไปได้ด้วยดี

แกนนำไม่หนีไปไหน พักผ่อนบ้าง ตรวจการณ์บ้าง อยู่กับม้อบตลอดเวลา

คำภาวนาของประชาชนทางบ้านส่งผลดี...ขอให้เป็นสุข ๆ ทุก ๆ คน

ใครว่างเชิญไปให้กำลังใจ คงอยู่แถวๆ สะพานมัฆวานกันไปก่อน

เพื่อรวมพลครั้งใหม่ ตอนนี้ก็มีผู้ชุมนุม ประมาณ 3,000 คน คงเป็นพี่น้องจาก ตจว. เป็นส่วนใหญ่

รอกำลังใจจากประชาชนทุกคน

ทำไมเวลาลงข่าว มันลงซะใ้ห้ดูเหมือนอีกฝ่ายก็สำคัญมากจัด

ไข่แม้วมาอวดเจ้าโลก ปาหิน อยู่ไม่ถึงร้อยคนเองครับ

อย่าไปเรียกมันว่า ฝ่านต้านพันธมิต
ควรเรียกว่า แก๊งม็อบถ่***หน้าเหลี่ยม นปก

ทุกท่านเข้าใจตามนี้นะครับ :slime_smile2:

ต้องถามว่าฝ่ายไหนไปกวนฝ่ายไหน

ภาพเดียวมันอธิบายอะไรไม่ได้หรอก

เห็นภาพแบบนี้แล้ว ต้องอธิบายที่ไปที่มา

ก่อนหน้าและหลังจากตีกัน

มติชนเอียงนิดๆ เข้าข้างพันธมิตร แต่ บนเวทีก็ไม่ค่อยพอใจ

ไทยรัฐ ออกกลาง ๆ ไม่ค่อยเข้าข้างพันธมิตร ลองอ่านดูสิ เค้ารายงานยังไง

ใครรุกรานใคร

เลือกมาให้อ่าน 2 สำนัก พอเป็นกระสาย

กะแล้ว

คือจะบอกว่า ผ่ายโน้นหาเรื่อง ว่างั้น

จะบอกให้

มันก็พอกันทั้งสองฝ่ายแหละ เลวพอกัน

แต่พวกที่เลวที่สุด ก็ไอ้พวกยั่วยุ พวกเสี้ยม

รู้จักมั้ย :slime_hitted:

ตลกดี ฝ่ายหนึ่งเดินเคลื่อนขบวนออกจากราชดำเนินกลาง ไปราชดำเนินนอก มุ่งทำเนียบ

แต่โดนฝ่ายต่อต้าน ตามงับขากางเกงที่ท้ายขบวน ตรงสี่แยกมิสกวัน

แบบนี้ ใครตามตีใคร ถามจริง

ตั้งแต่กลางวัน ก็ตีหลังเวที ทั้งๆที่ พันธมิตร ไม่ได้เคยไปก่อกวนม้อบ นปก.

ข่าวรายงานกันตลอดเวลา

มันพิสูจน์อะไรให้เห็นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ใครรุกรานใคร

อยู่ๆ จะให้ พันธมิตรเคาเอามือใส่กระเป๋า รอรับสิ่งของที่ขว้างมา ผมว่ามันก็เกินไปนะ

ถ้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของพันธมิตร เค้าจะลุยจริงๆ คงเจ็บกลับไปไม่ใช่น้อย

ไม่ว่าระดับฝีมือ หรือจำนวนคน พวกก่อกวน ไม่พอมือเค้าหรอกครับ

คราวก่อน (พฤษภาทมิฬ) .. ไอ้หมักบอกว่า ..
"พาคนมาตาย .. ถ้านอนอยู่กับบ้าน ไม่ออกมา จะตายไหม"   :slime_agreed:

คราวนี้ ไอ้หมัก คงจะไม่รู้ว่า พวกนักการเมืองพรรคเหี้eหลงหอ จ้างพวกกุ๊ยมาทำร้ายผู้ชุมนุม   :slime_agreed:

(http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P6642382/P6642382-58.jpg)

 :slime_cool:

จำไว้ให้ดีพวกพันธมาร..เหตุการณ์เมื่อคืนนี้เป็นเพียงน้ำย่อย ด้วยเหตุและผลว่าด้วยการใช้มาตรการเถื่อนๆทางการเมืองที่เริ่มจากฝ่ายพันธมารมาตั้งแต่ปี2548 การตีโต้ด้วยกลยุทธ์เถื่อนจากฝ่ายที่เกลียดพันธทารจักต้องดำเนินการต่อไปยิ่งกว่า 'ตาต่อตา ฟันต่อฟัน' เพราะเหตุการณ์ 19 ก.ย. 2549 จักไม่เกิดขึ้นซ้ำอีกแน่นอน

เพราะ...การชิงลงมืออ่กนอย่อมได้เปรียบ  จำไว้!!

ดี! ตรงไปตรงมาแบบนี้

ไอ้ ทาสน้ำ(...ที่ออกจากกระแป๋งไอ้แม้ว) ดูไว้เป็นตัวอย่าง อย่ามามั่วถูไถไปเลื่อยเปื่อย ไม่รู้เรื่องอะไรก็นั่งเฉย ๆ เถอะ

ขำขำนายตุ๊ดจ๊ะ ที่เล่าว่า "(หลัง 19 ก.ย. ตัวเอง)เผ่นไปตั้งหลักที่สิงคโปร์"   :slime_bigsmile:   :slime_v:

ไม่รู้ว่า ถ้ามีปฏิวัติอีก อาจารย์ตุ๊ดจ๊ะ จะเผ่นไปตั้งหลักอยู่ที่ไหน ..

อย่าลืมพาไอ้หมัก กับไอ้เหลิมไปด้วย นะจ๊ะ

...

การชิงลงมือก่อนได้เปรียบจริง
แต่ก็เพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆ
ในขณะที่่ฝ่าย"หัวเราะทีหลัง"นี่สิแย่เลย
เพราะหลังจากหัวเราะแล้ว ก็ต้องมาจัดการกับซากศพของไอ้ฝ่ายที่ชิงลงมือก่อน
ไม่ว่าจะเป็นตัวมัน ลูก เมีย หรือพ่อแม่ของมัน
โลกเราเป็นแบบนี้ทุกที
ไม่เคยปรานีและให้บทเรียนที่สวยงามน่าจดจำแก่คนชั่วช้าสามานย์
่หลอกล่อให้ปลาบปลื้มกับชัยชนะสั้นๆและไม่จีรังจากการชิงลงมือก่อน
แล้วก็มอบความพินาศฉิบหายอย่างถาวรให้ในภายหลัง

จ๊ะช่วยหน่อยก็แล้วกัน
ลดน้ำหนักและถ่ายพยาธิเสียบ้าง
ตอนเป็นซากศพให้เก็บกวาดจะได้ไม่ลำบากและน่ารังเกียจ

TLE เห็นด้วยที่ปชช.ไม่เคยชนะเลยสักครั้งเดียว  ประเด็นก็คือ มีอำนาจอะไรเหรอที่คอยสนับสนุนให้ฝ่ายทหารทำรัฐประหารมาเกือบ 20 ครั้งแล้ว? ที่สำคัญก็คือ พอรัฐประหารเสร็จก็โกงกันอย่างโจ่งครึ่มและออกกฏหมายนิรโทษกรรมให้ตัวเองเหมือนที่ผ่านๆมา หลังจากกินอิ่ม...ก็คายออกมา  ให้มีการเลือกตั้ง..แล้วปชช.ก็เลือกพรรคเดิมๆเข้าไปเป็นรัฐบาลอีก

ตกลงประเทศไทยเหมาะสมที่จะมีการปกครอง มีวงจรอุบาทว์ มีอำนาจสกปรกมาคอยกุมชะตาบ้านเมืองแบบนี้ตลอดไปหรือ!?! :slime_doubt:

ไม่ใช่ควาย จะได้ให้เขาเฆี่ยนตีแล้วก็ทนทำงานต่อไป
ไม่ใช่คนบ้า ให้เขาฉีดยา ช๊อตไฟร้องโอดโอยแล้วก็วิ่งไปซุกตัวอยู่มุมห้อง
ม็อบถ่อ-ยรุกราน ก็ต้องโต้กลับป้องกันตัว
แน่จริงเอารูปมาให้หมดสิว่ะ จะได้รู้ว่ามันควรจะตีหัวใคร
ม็อยถ่อ-ย หรือตำรวจ

ขนาดพวกพันธมิตรเดินหนีแล้ว
ยังตามไปให้พวกพันธมิตรกระทืบอีก
สรุปได้ตามแนวทางของนปกว่า พวกพันธมิตรมันเลว
 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:

*  คุณธาตุน้ำ .......  ถ้าได้ติดตามฟังรายละเอียดเมื่อคืนโดยตลอด 

    น่าจะรู้ว่า ......  คนที่ลงมือขว้างปาสิ่งของเข้ามาในกลุ่มผู้ชุมนุมก่อน  คือ  ไอ้พวก กุ๊ย นั่น

    มีคนบาดเจ็บจากเหตุการณ์จนต้องส่ง  รพ. ไปแล้วในช่วงแรก ๆ ของการชุมนุม  ........

    จนมาตอนค่ำหลังประมาณ 3 ทุ่ม กว่า ๆ ก็มีการเคลื่อนขบวน ...... ไปทำเนียบ

    ก็มีกลุ่ม  โค ต ร ถ่ อ ย  กลุ่มเดิม  ขับรถมาประชิดแล้วขว้างปาก้อนหิน + สารพัดอุปกรณ์  ใส่รถทีมงาน  ASTV

    ก้อนหิน ....  ที่ไปโดนหัวคุณ  ยุทธิยง  น่ะหนักประมาณ  2.3  กิโล นะคะ  ( ถ้าจำไม่ผิด )

    แบบนี้เรียกว่าใครเริ่มก่อนดีหล่ะ  ......  ???   

    งานนี้ต้องเรียกว่าเป็นความห่วยของตำรวจ  .........  !!!

    จะเอาเจ้าหน้าที่มาสัก 2 หมื่นคน  มาแล้วทำหน้าที่แค่ยืนดูห่าง ๆ ....  มาทำไม  เกะกะ  พื้นที่เค๊าเปล่า ๆ 

    ขอด่าไปถึง   ไอ้เหลิม  มท. 1  รวมถึง  พัชรวาท  ด้วยว่า  ...... 

    นี่หรือคือผลงานการดูแลความสงบเรียบร้อยของมหาดไทย  และ  ผบ.ตร.

    ....................  กระจอก  ว่ะ  !!!!!

เขาเห็นกันทั่วบ้านทั่วเมือง รวมถึงคลิปทีกระจายไปทั่วโลกแล้ว

ฝ่ายหนึ่งนัดชุมนุมเพื่อเรียกร้องสิทธิ์ตามระบอบประชาธิปไตย ตามกฎหมาย

ฝ่ายหนึ่ง ออกมาคอยขัดขวาง ก่อกวน ใช้กำลัง ทำร้าย
ถ้าแน่จริง หรือ มีความคิดตามระบอบประชาธิปไตย ก็ต้องชุมนุมคัดค้าน
ไม่ใช่เข้าฝูงแล้วลอบกัดเป็นระยะ ๆ แบบนี้ จะไม่ให้เขาด่าว่ารับเงินมาได้อย่างไร
ตั้งแต่คราว นปก.หน้าบ้านสี่เสาแล้ว พฤติกรรมเลว ๆ ถอดแบบเหมือนกันเลย
ถามหน่อยเหอะ พวกต่อต้าน ถ้าไม่เดินไปตีหัวเขา พันธมิตรเขาจะเดินมาทำร้ายคุณเหรอ
เขาพยายามจะไม่สนใจ ทำเป็นมองไม่เห็นคุณด้วยซ้ำ เพราะเขารู้ว่าไม่จำเป็นต้องแลกกับสวะ

ถ้าสมัครสมาชิกบอร์ดนี้ แค่เพื่อมาก่อกวน เพื่อมายั่วยุ ตามพฤติกรรมประจำตัวแล้วละก็
ขอให้ไปสู่ที่ชอบ ที่ชอบเถอะนะ เพราะพอจะเข้าใจได้ว่า ทำตามคำสั่งอย่างเดียว
คิดเองไม่เป็น สมองไม่ได้มีไว้ไตร่ตรอง คิด ทำ ดี เพราะขนาดเขาสั่งให้ทำชั่ว
ยังตะบันทำ โดยไม่กลัวบาปกรรม สงสารก็แต่ ครอบครัว วงศ์ตระกูล
คงปลื้มอกปลื้มใจ ที่มีลูกหลานไร้สมอง เป็นทาสทุนสามานย์ รับเงินมาก่อกรรมชั่ว  

ข่าวอีกสำนัก "คมชัดลึก"

"ม็อบชนม็อบ"เดือดหวิดจลาจล  7 โมงพันธมิตรฯเคลื่อนสู่รัฐสภา
 
 
(http://www.komchadluek.net/2008/05/26/images/thumbFilename2_g2507_copy.gif)

ม็อบสองฝ่ายปะทะเดือด หวิดจลาจล ชกต่อยอุตลุด "ขวดน้ำ-ก้อนหิน-ถุงอึ-น้ำปลาร้า-รองเท้า" ปลิวว่อน ตำรวจคุมสถานการณ์ไม่อยู่ สาวใหญ่สุดซวยถูกอันธพาลตบหน้าขณะกลับบ้าน พันธมิตรเคลื่อนขบวนกลางดึกไปหน้าทำเนียบ ปักหลักเชิงสะพานมัฆวานฯถึงเช้า ก่อนเคลื่อนขบวน 07.00 น. ไปหน้ารัฐสภา หนังสือถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.ที่เข้าชื่อยื่นแก้ไข รธน.ต่อประธานวุฒิฯ

การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อค้านการแก้รัฐธรรมนูญ เริ่มเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 25 พฤษภาคม โดยมีประชาชนหลายหมื่นคน ทยอยเดินทางมารวมตัวกันเต็มแนวฟุตบาทถนนราชดำเนิน ล้นออกมาริมถนน จนต้องสั่งปิดการจราจรตลอดเส้นทางเข้าสนามหลวง เปิดให้รถวิ่งฝั่งถนนราชดำเนินกลาง มุ่งหน้าราชดำเนินนอก

 กลุ่มพันธมิตรใช้วิธีตั้งเวทีปราศรัยบนรถบรรทุกสลับกันขึ้นปราศรัยโจมตีรัฐบาลและพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งตั้งเต็นท์ให้ประชาชนเข้าร่วมลงชื่อถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.ที่ร่วมลงชื่อเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งผู้ชุมนุมส่วนใหญ่สวมเสื้อสีเหลืองและมีผ้าโพกหัวสีเหลือง มีข้อความ "กู้ชาติ"

(http://www.komchadluek.net/2008/05/26/images/thumbFilename2_g2508_copy.gif)

 ในส่วนของการดูแลความปลอดภัยนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ เข้าสืบสวนหาข่าว และดูแลบริเวณโดยรอบอย่างใกล้ชิด พร้อมตรวจตราอาวุธอย่างเข้มงวด และวางแนวรั้วกั้น บริเวณสี่แยกคอกวัว ป้องกันไม่ให้กลุ่มต่อต้านการชุมนุม ที่รวมตัวกันบริเวณท้องสนามหลวง เคลื่อนขบวนมาเผชิญหน้ากับกลุ่มพันธมิตร

 หลังจากการชุมนุมผ่านมาเพียง 1 ชั่วโมง ก็เกิดเหตุการณ์วุ่นวายอันเนื่องมาจากการเผชิญหน้ากันของทั้งสองฝ่าย โดยเมื่อเวลาประมาณ 16.10 น. มีกลุ่มบุคคลใส่เสื้อยืดสีแดง ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ชุมนุมคัดค้านการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรและกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) บางส่วน เคลื่อนขบวนจากสนามหลวงมาชุมนุมกันกว่า 200 คน บริเวณใกล้โรงเรียนสตรีวิทยา ยาวมาถึงหน้าร้านอาหารเมธาวลัย นำโดยนายวรัญชัย โชคชนะ ได้นำผู้ชุมนุมบางส่วน และกลุ่มฅนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ จากนั้นเดินข้ามถนนมายังบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรปักหลักอยู่ โดยกลุ่มต่อต้านพันธมิตรได้ปราศรัยด่าทอกลุ่มพันธมิตรผ่านเครื่องโทรโข่งและแสดงท่าทียั่วยุ ท้าตีท้าต่อย อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดกำลังกว่า 30 นายมากั้นขวางแบ่งกลุ่มผู้ชุมนุม ขณะเดียวกันกลุ่มต่อต้านยังตะโกนขู่ให้กลุ่มพันธมิตรระวังตัว โดยบอกว่า "เดี๋ยวเจอระเบิดขวด เตรียมเอาไว้แล้ว"

 ต่อมาเวลา 16.15 น. มีรถบรรทุกของกลุ่มพันธมิตร ซึ่งติดป้ายผ้าข้างรถข้อความว่า "รักชาติไม่แก้รัฐธรรมนูญ"  ซึ่งเมื่อกลุ่มต่อต้านพันธมิตรเห็น ก็วิ่งตามและกระโดดดึงป้ายผ้าออก ทำให้กลุ่มพันธมิตรไม่พอใจและวิ่งฮือจะเอาเรื่อง แต่ รปภ.ของพันธมิตรพยายามขอร้องผู้ชุมนุมพันธมิตรไม่ให้ปะทะกับกลุ่มดังกล่าว

(http://www.komchadluek.net/2008/05/26/images/thumbFilename2_g2509_copy1.gif)

เปิดศึกชกต่อยกันชุลมุนวุ่นวาย  

 ระหว่างที่ชุลมุนอยู่นั้น ได้มีการขว้างปาขวดออกมาจากกลุ่มผู้คัดค้านมายังกลุ่มพันธมิตร ขณะที่ผู้สื่อข่าวสังเกตว่าขวดน้ำดังกล่าวน่าจะเป็นน้ำปัสสาวะเพราะมีสีเหลือง จนเกิดการขว้างโต้ตอบกันไปมาประมาณ 5 นาที และมีบางคนที่สะกดอารมณ์ไม่อยู่ ตรงเข้าชกต่อยกัน แต่ในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ รปภ.ของพันธมิตรได้เข้ามาแยกกลุ่มชุมนุมออกจากกัน

 หลังแยกออกจากกันพบว่า นายวีรยุทธ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านพันธมิตร ได้รับบาดเจ็บที่กกหูข้างซ้าย มีเลือดไหลออกมาเล็กน้อยจากเหตุชกต่อยกัน เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งรถพยาบาลเพื่อรักษาบาดแผลเบื้องต้น

(http://www.komchadluek.net/2008/05/26/images/thumbFilename2_g2510_copy1.gif)

ต่อมาได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลกว่า 20 นาย พร้อมด้วยโล่และกระบอง มาปักหลักอยู่บริเวณฝั่งกลุ่มต่อต้านพันธมิตร ขณะเดียวกันบริเวณฝั่งเวทีของกลุ่มพันธมิตรก็ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลกว่า 20 นายมาคอยรักษาความปลอดภัยอยู่เช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกล้องวงจรปิดประมาณ 20 ตัว มาติดรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อจับตาดูความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตร และกลุ่มต่อต้าน

 อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า มีการชกต่อยกันระหว่างม็อบสองฝ่ายหลายจุด และขว้างปาขวดน้ำบรรจุปัสสาวะ-ถุงอุจจาระ ท่อนไม้ตลอดจนสิ่งของที่หาได้ใกล้ตัว จนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องทำงานอย่างหนักเพื่อแยกทั้งสองฝ่ายออกจากกัน


(http://www.komchadluek.net/2008/05/26/images/thumbFilename2_g2511_copy.gif)


พันธมิตรประกาศบุกทำเนียบ-สภา  

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้แกนนำพันธมิตรได้ประชุมที่บ้านพระอาทิตย์ เพื่อประเมินสถานการณ์และวางรูปแบบของการเคลื่อนไหว ซึ่งหากไม่มีฝนตกลงมา จะมีการเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุมไปยังลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อที่ในวันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม จะนำขบวนผู้ชุมนุมมุ่งหน้าไปทำเนียบรัฐบาล หรือไปปักหลักที่รัฐสภา เพื่อยื่นถอดถอน ส.ส. และ ส.ว.ที่ลงชื่อญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ

 พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกล่าวว่า เตรียมเจรจากับแกนนำกลุ่มพันธมิตรอีกครั้ง เพื่อไม่ให้ปักหลักยืดเยื้อหรือเคลื่อนขบวน ภายหลังจากที่ประชุมได้ประเมินสถานการณ์ว่า มีความเป็นไปได้ที่กลุ่มพันธมิตรจะเคลื่อนขบวนไปกดดันที่รัฐสภา อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้ปรับแผนให้มีความรัดกุมมากกว่าครั้งที่ผ่านมา โดยจะตรวจสกัดอาวุธ หรืออุจจาระ ที่แอบซ่อนเข้ามาเพื่อขว้างปาใส่กลุ่มผู้ชุมนุม

(http://www.komchadluek.net/2008/05/26/images/thumbFilename2_10948029low.jpg)

อันธพาลตบหน้าหญิงที่เข้าร่วมชุมนุม  

 เมื่อเวลา 18.40 น. เกิดเหตุการณ์การทำร้ายร่างกายกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาร่วมฟังการปราศรัยของกลุ่มพันธมิตร โดย น.ส.ระรินทิพย์ ฐิตานุวงศ์ อายุประมาณ 50 ปี กล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า ขณะที่ตนกำลังจะเดินกลับบ้าน เมื่อผ่านมายังบริเวณป้อมตำรวจด้านตรงข้ามกับโรงเรียนสตรีวิทยา ได้ถูกชายวัยกลางคนคนหนึ่งเข้ามาทำร้ายร่างกายด้วยการตบหน้าโดยไม่รู้สาเหตุ หลังจากที่ตบหน้าตนแล้ว หลานสาวตนที่เดินมาด้วยก็พยายามเข้ามาช่วย แต่ก็ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนกว่า 10 คนเตรียมจะเข้ามารุมทำร้าย ซึ่งไม่ทราบว่าการกระทำดังกล่าวของพวกเขาทำได้อย่างไร

 น.ส.ระรินทิพย์กล่าวว่า ที่มาวันนี้ก็มาเพียงลงชื่อสนับสนุนการถอดถอน ส.ส.-ส.ว.ที่ร่วมลงญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ ในช่วงที่เกิดเหตุก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่น้อยกว่า 5 นายที่เห็นเหตุการณ์แต่ไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือแต่อย่างใด โดยระหว่างที่เกิดเหตุหลานสาวตนได้ตะโกนให้ตำรวจเข้ามาห้ามปราม แต่ตำรวจก็ไม่สนใจ และเมื่อจะแจ้งความทางตำรวจก็ทำท่าเฉยๆ ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ ตนไม่ขอแจ้งความ เพราะขนาดเห็นตนถูกทำร้ายต่อหน้าต่อตา แต่กลับไม่ช่วย หากไปแจ้งความก็คงไม่ได้ช่วยอะไร อย่างมากก็เสียค่าปรับ 500 บาท แต่ขอเรียกร้องไปยังกลุ่มคัดค้านว่า การชุมนุมทุกคนมีสิทธิเสรีภาพจะรักชอบใครก็ได้ แต่ไม่ควรมาทำร้ายแบบนี้ และขอให้หยุดการกระทำอันป่าเถื่อนนี้

ม็อบต้านระดมปาสิ่งของใส่พันธมิตร  

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่การปราศรัยบนเวทีของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ทยอยกันขึ้นปราศรัยนั้น กลุ่มคัดค้านได้สร้างความปั่นป่วนอย่างต่อเนื่อง โดยการขว้างปาสิ่งของใส่กลุ่มพันธมิตรเป็นระยะ จนถึงช่วงเวลาประมาณ 18.30 น. นายภูวดล ทรงประเสริฐ นักวิชาการ ขึ้นปราศรัยโจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาลอย่างรุนแรง มีผู้ชุมนุมเพิ่มขึ้นจำนวนมาก และมีการโห่ร้องแสดงความชอบใจกับคำปราศรัยอยู่เป็นระยะ ขณะที่ฝ่ายคัดค้านก็ระดมปาสิ่งของใส่หนักยิ่งขึ้น จนเกือบควบคุมสถานการณ์ไม่อยู่ นายสำราญ รอดเพชร พิธีกรบนเวทีต้องขึ้นมาแทรกเพื่อให้ฝ่ายพันธมิตรอยู่ในความสงบ อย่าตอบโต้ จากนั้นจึงให้นายภูวดลปราศรัยต่อ

พันธมิตรเคลื่อนพลกลางดึกไปทำเนียบ  

 เวลา 19.35 น. แกนนำพันธมิตรทั้งห้าคน ได้แก่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข พร้อมด้วยนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตร ได้ขึ้นเวทีเพื่ออ่านแถลงการณ์พันธมิตรฉบับที่ 10/2551 เรื่อง "การเคลื่อนไหวต่อเนื่องเพื่อกำจัดผู้ล้มล้างรัฐธรรมนูญ"  

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิภพเป็นตัวแทนอ่านแถลงการณ์ว่า ตามที่พันธมิตรได้นัดชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย บัดนี้การชุมนุมใหญ่ได้เกิดขึ้นแล้ว และพันธมิตรขอประกาศผลการดำเนินการและกำหนดเป้าหมายดังนี้ ประการแรก พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอแถลงผลการดำเนินการว่า การชุมนุมครั้งนี้มีประชาชนผู้รักชาติได้ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ เข้าร่วมชุมนุมจำนวนหลายหมื่นคน ด้วยความสงบ อหิงสา และปราศจากอาวุธ แม้ว่าจะถูกอันธพาลที่ถูกจ้างมาจากคนในฝ่ายรัฐบาลทำการยั่วยุ ขว้างปาสิ่งของ และทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ก็ตาม ประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมก็ยังคงมีจิตใจที่มุ่งมั่นแสดงพลังของประชาชนต่อไป เพื่อคัดค้านการทำงานของรัฐบาลที่ไร้ซึ่งความรับผิดชอบต่อวิกฤติการณ์ของสถาบันชาติ สถาบันศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ จงใจและตั้งใจล้มล้างรัฐธรรมนูญที่มาจากการลงประชามติ ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศกว่า 14 ล้าน 7 แสนเสียง เพียงเพื่อลบล้างความผิดของตัวเอง ตัดตอนกระบวนการยุติธรรมอย่างไร้จริยธรรม

 ประการที่สอง พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีมติที่จะเคลื่อนมวลชนในคืนนี้ (25 พ.ค.) เวลา 21.00 น. เพื่อเดินทางไปหน้าทำเนียบรัฐบาลและปักหลักพักค้างอย่างต่อเนื่อง เพื่อเรียกร้องและกดดันให้นายสมัคร สุนทรเวช ในฐานะนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชาชนและคณะรัฐมนตรี แสดงความรับผิดชอบต่อความมุ่งหมายที่จะล้มล้างรัฐธรรมนูญเพื่อฟอกความผิดของคนในระบอบทักษิณเพียงอย่างเดียว จนเกิดจากภัยคุกคามต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ล้มเหลวต่อการบริหารราชการแผ่นดิน จนเกิดภาวะวิกฤติเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพง จนประชาชนเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสไปทั่วประเทศ

 ประการที่สาม พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทั่วประเทศให้มารวมตัวกันเพิ่มมากขึ้น เพื่อไปยื่นหนังสือแจ้งความจำนงต่อประธานวุฒิสภาในการถอดถอนสมาชิกรัฐสภาที่ล้มล้างรัฐธรรมนูญในเช้าวันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม 2551 ในตอนเช้าเวลา 06.00 น. ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล หลังจากนั้นตัวแทนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะร่วมเดินทางไปพร้อมกันกับพี่น้องประชาชนไปที่หน้ารัฐสภาเวลา 07.00 น.

"สนธิ"ชี้สงครามสุดท้าย"ไม่ชนะไม่จบ"  

 นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรขึ้นเวทีเวลา 20.45 น. ระบุว่า สถาบันกษัตริย์เป็นสิ่งที่อยู่คู่สังคมไทยมานานแล้ว ไม่ใช่เป็นเพียงสัญลักษณ์ วัฒนธรรม แต่เป็นจิตวิญญาณของคนไทยทุกคน เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสว่าเราจะปกครองแผ่นดินโดยธรรม พสกนิกรก็ต้องเอา "ธรรม" นำหน้า เข้าใจหิริโอตตัปปะ รู้ว่าอะไรควรไม่ควร คุณธรรมคืออะไร เมื่อไรที่เราเอาธรรมนำหน้า ปัญหาก็จะไม่มี แต่ปัญหาขณะนี้เกิดจากคนไม่ยึดถือธรรม แต่ยึดถือเงินเป็นตัวตั้ง คิดว่ามีเงินแล้วปกครองประเทศได้ เป็นเหตุให้ชาติบ้านเมืองล่มสลาย

 นายสนธิกล่าวว่า การต่อสู้ในวันนี้ ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะการแก้รัฐธรรมนูญเป็นแค่วิธีการอย่างหนึ่งที่ต้องการทำให้คนบางคนพ้นผิด แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่การล้มล้างระบอบประชาธิปไตย เพื่อสถาปนาให้เป็นสาธารณรัฐ เห็นได้จากการพยายามขายภาพด้วยการแบ่งพื้นที่ของประเทศไทยเป็นส่วนๆ ทำให้ตัวเองได้ผลประโยชน์ ขณะที่ประชาชนต้องแบกรับภาระ

 "ทั้งหมดนี้มีผลกระทบต่อชาติบ้านเมือง ทำให้เราต้องออกมาสู้ ครั้งนี้ถือว่าเป็นสงครามครั้งสุดท้าย หากไม่ชนะ ก็จะไม่จบ การแก้รัฐธรรมนูญเป็นเพียงส่วนหนึ่ง แม้วันนี้จะถอนออกไป เขาก็ยังสามารถสูบเลือดสูบเนื้อเราได้ตลอด เพราะการแก้รัฐธรรมนูญต้องการให้คนบางคนพ้นผิดเท่านั้น โดยมีวิธีการต่างๆ นานา เพราะเขามีอำนาจ พรรคการเมืองบางพรรคแม้จะถูกยุบไป ก็ไม่มีความหมาย เพราะวิธีการและแนวโน้มเหมือนกันหมด คือทำทุกทางให้เข้ามามีอำนาจอีกครั้ง เป็นอย่างนี้เรื่อยไป ทำทุกอย่างเพียงเพื่อให้ตัวเองและกลุ่มร่ำรวยขึ้น" นายสนธิกล่าวและว่า นายจักรภพ เพ็ญแข เป็นเพียงหมากเกมตัวหนึ่งเท่านั้น เมื่อภัยมาใกล้ตัว ก็จำเป็นต้องเขี่ยนายจักรภพออก

 จากนั้นเวลา 21.00 น. กลุ่มพันธมิตรตั้งแถวเพื่อเตรียมความพร้อมในการเคลื่อนไปยังทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีหัวขบวนนำโดยกองทัพธรรมจากสันติอโศกกว่า 100 คน ถือป้ายกองทัพธรรม ธงชาติไทย และธงสีเหลืองเขียนข้อความว่า  "อหิงสา" ตามด้วยแกนนำพันธมิตร โดยใช้เส้นทางถนนราชดำเนินกลางไปยังถนนราชดำเนินนอก และไปสิ้นสุดที่หน้าทำเนียบ ก่อนจะเคลื่อนขบวนนายสนธิได้จุดธูปไหว้พระสยามเทวาธิราช เพื่อเอาฤกษ์เอาชัยก่อนเคลื่อนขบวน

"ยุทธิยง" โดนหินปาหน้าแตกเลือดโชก  

 อย่างไรก็ตาม เมื่อขบวนเคลื่อนไปถึงเชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ก็ต้องหยุดการเคลื่อนขบวน เนื่องจากตำรวจหน่วยปราบจราจลพร้อมโล่และแผงเหล็กกั้นตั้งแถวหน้ากระดานกว่า 100 นาย สกัดกั้นไม่ให้กลุ่มพันธมิตรมุ่งหน้าไปยังทำเนียบได้ ซึ่งแกนนำกลุ่มพันธมิตรได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่ควบคุมสั่งการ เพื่อให้เปิดแนวกั้น กระทั่งตำรวจตัดสินใจเปิดทางให้ แต่ขอให้ผู้ชุมนุมเดินไปอย่างสงบ อย่าทำลายทรัพย์สินราชการ

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการเคลื่อนขบวนนั้น กลุ่มต่อต้านได้ปาขวดน้ำ ก้อนหินใส่กลุ่มพันธมิตรโดยตลอด จนมีผู้บาดเจ็บ คือนายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที ซึ่งทำหน้าที่พิธีกรบนเวทีพันธมิตร ถูกก้อนหินขนาดใหญ่ปาเข้าที่โหนกแก้มจนแตก เลือดไหลอาบแก้ม ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล  

ตร.สกัด-ยิงแก๊สน้ำตาสลายการปะทะ  

 กระทั่งเวลา 22.19 น. กลุ่มพันธมิตรได้เคลื่อนขบวนมาถึงบริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ แต่ขบวนต้องหยุดชะงักลงไม่สามารถเคลื่อนต่อไปได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจราจล พร้อมด้วยรถบรรทุกผู้ต้องขังของเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 6 คัน จอดขวางสะพานมัฆวานฯ ทั้ง 3 เส้นทาง เมื่อขบวนมาถึง พล.ต.จำลอง ก็ได้พยายามประกาศในเชิงขอร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดทางให้ขบวนได้ผ่านไป แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยินยอมเปิดทางให้

 ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงได้ขึ้นประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงบนหลังคารถโดยขอร้องว่า สาเหตุที่ตำรวจต้องสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนผ่านไปยังบริเวณทำเนียบได้ เนื่องจากในวันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม เป็นวันทำงาน หากปล่อยให้ขบวนผ่านไปอาจจะส่งผลกระทบต่อปัญหาจราจรได้ โดยแกนนำพันธมิตรได้เจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงใช้เวลาประมาณ 20 นาที

จากนั้น แกนนำพันธมิตรจึงได้ตัดสินใจที่จะปักหลักตั้งเวทีที่บริเวณเชิงสะพานมัฆวานฯ ฝั่งด้านหน้าองค์การสหประชาชาติ

 พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.1 กล่าวว่า ถนนราชดำเนินเป็นเส้นเลือดใหญ่ของ กทม. จึงไม่อยากให้มีการชุมนุมที่ยืดเยื้อ และขอให้ผู้ชุมนุมโปรดรักษาทรัพย์สินของทางราชการ เพราะการชุมนุมไม่ก่อให้เกิดความสงบ และก่อให้เกิดความวุ่นวาย

 มีรายงานแจ้งจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีแผนจะสลายการชุมนุม หากกลุ่มพันธมิตรพยายามกดดันและผ่านไปยังแยกสวนมิสกวัน โดยมีการเตรียมชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อยิงแก๊สน้ำตาสลายฝูงชน ที่เดินทางมุ่งหน้าไปยังทำเนียบรัฐบาล

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์การปะทะของสองฝ่ายก็เพิ่มดีกรีร้อนแรงขึ้น โดยมีการขว้างปาขวดน้ำ ก้อนหินใส่กันตลอดเวลา จนตำรวจต้องตัดสินใจใช้แก๊สน้ำตายิงใส่กลุ่มพันธมิตรที่มีจำนวนมากกว่า จนสร้างความไม่พอใจให้แก่กลุ่มพันธมิตร และหันมาตะโกนต่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ

กลุ่มต้านสั่งระดมจยย.-เด็กแว้น  

 มีรายงานข่าวจากศูนย์วิทยุอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัย ระบุว่า พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มจักรยานยนต์ ถูกว่าจ้างมาจากกลุ่มอิทธิพลในพื้นที่บางเขน ส่งให้มาก่อกวนการชุมนุมของพันธมิตร โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังจับตาดูความเคลื่อนไหว พร้อมทั้งเตรียมแก๊สน้ำตา กระสุนยาง เพื่อสลายการชุมนุม หากเกิดการปะทะกันของทั้งสองฝ่าย

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 22.55 น.ที่บริเวณท้ายขบวนซึ่งอยู่ช่วงแยก จปร. ได้เกิดการปะทะกัน โดยพบว่ากลุ่มม็อบป่วนพยายามก่อกวนขว้างปาก้อนหินตลอดเวลา ทำให้ล่าสุดแนว รปภ.ของพันธมิตรได้รับบาดเจ็บ 2 คน คือ นายอนุรักษ์ ศิริ โดนมีดจากม็อบป่วน ได้รับบาดเจ็บที่มือซ้าย อีกคนคือนายจักรรินทร์ คันทิด ถูกก้อนหินขว้างหัวแตกเหนือคิ้วซ้าย ทั้งสองได้ถูกนำตัวส่งวชิรพยาบาลเป็นการด่วนแล้ว

อนาถรุมกระทืบหญิงชราที่ร่วมชุมนุม

 เมื่อเวลา 22.30 น. เกิดเหตุจลาจลที่บริเวณหน้ากระทรวงคมนาคม เนื่องจากกลุ่มต่อต้านพันธมิตร ซึ่งถือมีดและไม้บุกมาทำร้ายและกระทืบผู้ชุมนุม ซึ่งเป็นหญิงชราและอยู่ท้ายขบวนของฝ่ายพันธมิตร โดยฝ่ายพันธมิตรที่อยู่กลางขบวนก็ได้เข้ามาช่วยเหลือและเกิดการปะทะกัน ทำให้ฝ่ายกลุ่มต้านสลบไป 5 คน จากนั้นต่างฝ่ายต่างถอยไปตั้งหลัก ขณะที่ตำรวจซึ่งยืนห่างจากเหตุการณ์ประมาณ 5 เมตรได้แต่ยืนดู อย่างไรก็ตาม การปะทะกันเกิดขึ้นเป็นระยะๆ ส่วนหนึ่งเกิดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีการวางแนวป้องกันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 ต่อมาเวลา 23.30 น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.1 สั่งการให้นำรถขนาดใหญ่ทั้งรถดับเพลิง รถควบคุมผู้ต้องหาของ บช.น. และรถประชาสัมพันธ์ของ บช.น. จำนวนหลายคันมาปิดกั้นถนนบริเวณหน้าองค์การสหประชาชาติ เพื่อไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมผ่านไป

 พล.ต.ต.อำนวยได้พูดผ่านเครื่องขยายเสียงจากรถประชาสัมพันธ์ บช.น.ให้กลุ่มผู้ชุมนุมยุติการใช้ความรุนแรง พร้อมทั้งขอร้องให้ทั้งสองฝ่ายหันหน้าเข้าหากันและขอให้รักสามัคคีกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้ความคุ้มครองทั้งสองฝ่าย

ผบ.ตร.รุดตรวจยันไม่ให้ม็อบเข้าทำเนียบ  

 ด้าน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เดินทางมาตรวจแนวสกัดกั้นบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยยืนยันว่าจะไม่ยอมให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยผ่านสะพานมัฆวานฯ ไปยังทำเนียบรัฐบาล ซึ่งอนุญาตให้กลุ่มพันธมิตรปักหลักค้างคืนที่บริเวณสะพานมัฆวานฯ ได้ โดยขอร้องว่าอย่ากีดขวางการจราจร ขณะที่กลุ่มพันธมิตรได้ตั้งเวทีปราศรัยเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีแกนนำสลับกันขึ้นปราศรัยเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดทางให้กลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาล

 ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการเปิดเพลง "รักกันไว้เถิด" สลับกับการพูดผ่านเครื่องขยายเสียงให้กลุ่มพันธมิตรเลิกชุมนุมปิดถนน และขอให้แสดงออกตามกระบวนการกฎหมาย และขอร้องให้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตร ซึ่งเป็นอาจารย์สอนหนังสือของนายตำรวจหลายคน ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย

 ผูสื่อข่าวรายงานว่า หลังจากผ่านเหตุการณ์รุนแรงมาแล้ว เวทีของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็ได้ติดตั้งเสร็จเรียบร้อยและเริ่มมีการขึ้นปราศรัยอีกครั้ง ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยมีการจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น

ตร.ปิดประตูทำเนียบกันถูกบุก  

 มีรายงานว่าหลังจากกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรผ่านจุดสกัดกั้นสะพานผ่านฟ้าลีลาศมาได้ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาการณ์อยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล ต้องตั้งรั้วปิดทางเข้าออกทั้ง 4 ด้าน เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าไปในทำเนียบรัฐบาล

 ทั้งนี้ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. ซึ่งอำนวยการสั่งการดูแลความสงบเรียบร้อยอย่างใกล้ชิด สั่งการให้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 อีกจำนวน 200 นาย และนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจราจลที่เตรียมการณ์ไว้ ณ ที่ตั้ง จำนวน 150 นาย ไปประจำการในพื้นที่โดยรอบบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อตรึงกำลังดูแลความสงบเรียบร้อย

สนธิขึ้นเวทีปลุกผู้ชุมนุมรอบดึก  

 เวลา 24.20 น. หลังกลุ่มพันธมิตรตั้งเวทีเพื่อปราศรัยที่หน้าองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น ) ปรากฏว่าบรรดาแกนนำและผู้ปราศรัยในกลุ่มพันธมิตรได้สลับสับเปลี่ยนขึ้นเวทีปราศรัย อาทิ นายวีระ สมความคิด และนายสนธิ ลิ้มทองกุล โดยนายสนธิขึ้นเวทีอีกครั้งเรียกร้องกลุ่มผู้ชุมนุมให้ช่วยกระจายข่าว และขอร้องให้คนรู้จักและญาติมิตรมาร่วมกันชุมนุมเรียกร้องและแสดงการคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลที่กำลังดำเนินการอยู่

 นายสนธิกล่าวว่า หากในระยะอันใกล้นี้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไร ขอให้ประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมช่วยจดจำชื่อ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.1 และ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิศรี รอง ผบ.ตร. บุคคลสองคนนี้จำเป็นที่จะต้องไล่ออกจากตำแหน่ง เพราะแสดงตนเป็นปฏิปักษ์กับประชาชนอย่างชัดเจน การที่กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรได้รับบาดเจ็บเลือดตกยางออก เพราะเกิดจากตำรวจปล่อยปละละเลยและสนับสนุนให้กลุ่มพันธมิตรได้รับบาดเจ็บ

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรยังคงดำเนินต่อไป โดยมีการปราศรัยอย่างต่อเนื่อง ส่วนจำนวนผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมและฟังการปราศรัยเหลือประมาณ 2,000 คน บางส่วนทยอยเดินทางกลับเป็นระยะๆ ขณะที่กิจกรรมบนเวที ทางแกนนำยืนยันว่าจะมีการดำเนินไปอย่างต่อเนื่องจนถึงช่วงเช้า

 ขณะที่ พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) กล่าวว่า กอ.รมน.ได้ตั้งวอร์รูมรับรายงานสถานการณ์การชุมนุมจากหน่วยงานต่างๆ หากมีเหตุไม่สงบขึ้น โดยมีกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เป็นผู้รับผิดชอบหลัก และทุกข้อมูลก็จะรายงานมายัง กอ.รมน.ส่วนกลาง ก่อนที่จะรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ

พันธมิตรฯเคลื่อนขบวน 7 โมงยื่นหนังสือประธานวุฒิฯ  

บรรยากาศการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประธาธิปไตย ที่เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมยังคงปักหลักอย่างเหนียวแน่นบริเวณถนนราชดำเนิน ประมาณ 5,000 คน ขณะที่บนเวทียังคงมีการปราศรัยของระดับแกนนำพันธมิตรฯ และองค์กรแนวร่วมอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ แกนนำพันธมิตรฯ ยืนยันว่ายังคงกำหนดการที่จะยื่นหนังสือต่อประธานวุฒิสภา เพื่อถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.ที่ลงชื่อในญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ในตอนเช้าวันจันทร์ตามที่ระบุไว้ในแถลงการณ์ฉบับที่ 10/2551 โดยจะเคลื่อนขบวนในเวลา 07.00 น. พร้อมกับผู้ร่วมชุมนุมทั้งหมด ซึ่งประชาชนที่ยังไม่ได้เข้าร่วมชุมนุมสามารถเข้าไปสมทบได้ในเวลาดัง

ประกาศสู้จนกว่าชนะ  

พล.ต.จำลอง กล่าวปราศรัยบนเวทีให้ประชาชนสู้จนถึงที่สุดเพราะเหตุการณ์ครั้งนี้จะเป็นข่าวโด่งดังทั่วโลก ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาขับไล่ใช้ปืนยิง ยิงแก๊สน้ำตา หรือใช้น้ำฉีด ก็ต้องสู้ให้ถึงที่สุดยอมเสี่ยงเล็กเพื่อช่วยชาติบ้านเมืองไม่มีสถานการณ์ใดสุกงอมมากเท่าสถานการณ์ช่วงนี้แล้ว อยู่สู้ร่วมกันหากตำรวจเข้ามาทำอะไรให้อยู่นิ่งๆ ทุกคนต้องสู้อยู่ตรงนี้จนกว่าจะชนะ  

นายสนธิ  กล่าวว่า เรื่องของชาติบ้านเมืองต้องสู้จะไม่หยุด โดยจะต้องพิสูจน์ว่าประชาชนธรรมดามีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตย์ ด้วยความจริงใจ ด้วยการกระทำที่แท้จริง ไม่ใช่รักชาติด้วยคำพูด เมื่อพี่น้องประชาชนมาร่วมกันชุมนุมแล้วอย่าไปกลัว หากเจ้าหน้าที่ตำรวจมาใช้กำลังให้นั่งเฉยๆ และหากจะมาจับแกนนำทั้ง 5 คนก็พร้อมให้จับทุกคน อยากจะดูว่าจับแล้วอะไรจะเกิดขึ้น

จะได้ประกาศให้ทั่วโลกรู้ว่ารัฐบาลชุดนี้ใช้ความรุนแรงในการปราบปรามการชุมนุมอย่างสงบ

 นายสุใสสุริยะใส กล่าวถึงการปรับแผนไปหน้ารัฐสภาว่ามีการประเมินสถานการณ์ใหม่โดยมอบหมายให้ตัวแทน 10 คนไปยื่นหนังสือที่รัฐสภา ส่วนพี่น้องก็ยังชุมนุมอยู่เชิงสะพานมัฆวานฯ เช่นเดิมไม่ต้องเคลื่นขบวนไปไหน นอกจากนี้จะให้มีการตั้งเต้นท์บริเวณให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อปักหลักชุมนุมต่อไปจนกว่าได้รับชัยชนะ

กลุ่มต้านปักหลักท้องสนามหลวง  

 ส่วนที่ท้องสนามหลวง มีการจัดเวทีสภาสนามหลวงต่อต้านพันธมิตร เผด็จการ และความไม่เป็นธรรม นำโดยกลุ่มฅนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ กลุ่ม นปก. โดยเปิดเวทีปราศรัยโจมตีกลุ่มพันธมิตรเช่นกัน และพบว่ามี "รัตนพล ส.วรพิน" อดีตนักมวยชื่อดัง เดินทางมาให้กำลังใจด้วย

 นายสุชาติ นาคบางไทร แกนนำกลุ่มฅนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ ปราศรัยต่อต้านกลุ่มพันธมิตรที่ท้องสนามหลวง โดยได้โจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ พร้อมทั้งกล่าวอีกว่าได้ข่าวมาว่า ทหารเตรียมก่อการปฏิวัติในคืนนี้ (26 พ.ค.) ด้วย

ล่าสุดมีรายงานว่า กลุ่มต้านจำนวนหลายร้อยคนได้รวมตัวกันปักหลักที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ถนนราชดำเนิน โดยหลายคนถือไม้และแท่งเหล็กเป็นอาวุธซุ่มรออยู่ และมีรถแท็กซี่มาจอดอยู่บริเวณดังกล่าวประมาณ 100 คัน

เวลา 24.30 น. มีกลุ่มต่อต้านพันธมิตรรวมกลุ่มกันราว 100 คน ตั้งแถวที่บริเวณ สน.นางเลิ้ง บริเวณฝั่งตรงข้ามกระทรวงเกษตรฯ ขณะที่ท้ายขบวนของกลุ่มพันธมิตรมีชายฉกรรจ์ประมาณ 200 คน ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่บริเวณกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยได้มีการตั้งแผงเหล็ก และลุกฮือขึ้นยืนประจัญหน้า กับกลุ่มต่อต้านพันธมิตร พร้อมส่งเสียงตะโกนท้าทายตอบโต้กันอีกครั้ง

มหาปชช.ขู่ชุมนุมใหญ่ขับไล่พันธมิตร

 นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทราปราการ พรรคพลังประชาชน ในฐานะแกนนำกลุ่มมหาประชาชนเพื่อพิทักษ์ประชาธิปไตย ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ตนและทีมงานของกลุ่มมหาประชาชนได้เตรียมประจำการอยู่ที่วอร์รูม ซึ่งจะใช้รถตู้ที่มีอุปกรณ์บันทึกเทป คอมพิวเตอร์ออนไลน์ คอยสังเกตการณ์รอบๆ ท้องสนามหลวง เพื่อสังเกตการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร โดยยืนยันว่า กลุ่มมหาประชาชนจะไม่มีการนัดชุมนุมและเคลื่อนพลปะทะกับกลุ่มพันธมิตรอย่างแน่นอน เพราะจะกลายเป็นการสร้างความชอบธรรมให้กลุ่มพันธมิตร โดยกลุ่มมหาประชาชนจะประกาศการใช้มาตรการ 3 ขั้น คือ

 1.ใช้หลักกฎหมายจัดการกับแกนนำของกลุ่มพันธมิตร เช่น จะจับตาดูว่าหาก นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตร ออกมาปรากฏตัวขึ้นปราศรัย หรือมีส่วนเกี่ยวข้อง ทางทีมงานของกลุ่มมหาชนก็จะบันทึกเทปเสียงนายสนธิ เพื่อใช้ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ยกเลิกการปล่อยตัวชั่วคราว 2.กลุ่มจะขอมติจากประชาชนทั่วประเทศผ่านทางไปรษณียบัตร ในการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งกับกลุ่มพันธมิตร เช่น การประณาม ประจาน ต่อต้านโดยสงบ อย่างไรก็ตาม หากกลุ่มพันธมิตรปิดถนน สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนเมื่อใด กลุ่มก็จะนำมาตรการที่สาม โดยจะใช้มติของประชาชนที่ต่อต้านกลุ่มพันธมิตรมาใช้เป็นความชอบธรรมในการดำเนินการกับกลุ่มพันธมิตรขั้นเด็ดขาด คือ จะนัดชุมนุมใหญ่ที่ท้องสนามหลวงเพื่อขับไล่กลุ่มพันธมิตรทันที

ตร.สั่งกทม.ถอดหินตัวหนอนรอบม็อบ  

 พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวถึงการรับมือและดูแลความสงบเรียบร้อยการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร ว่า ได้ประสานกับกรุงเทพมหานครให้ถอดหินตัวหนอนบนทางเท้า บริเวณที่มีการชุมนุมออกทั้งหมด เพื่อป้องกันกลุ่มผู้ไม่หวังดีนำมาขว้างปาใส่กัน นอกจากนี้ ตำรวจจะเข้มงวดการตรวจตราอาวุธ โดยห้ามนำของมีคม หรือหนังสติ๊กเข้ามาในบริเวณที่ชุมนุมโดยเด็ดขาด

 ส่วนที่กลุ่มพันธมิตรจะเคลื่อนขบวนนั้น พล.ต.ท.อัศวินกล่าวว่า ที่ผ่านมา ได้พูดคุยกับตัวแทนกลุ่มพันธมิตร ว่าหากมีความจำเป็นจะเคลื่อนขบวน ก็ไม่อยากให้ทำความเดือดร้อน เพราะวันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม เป็นวันเปิดทำการ เด็กนักเรียนก็จะเปิดเทอม อย่างไรก็ตาม ในเรื่องการตัดสินใจต่างๆ ตนได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ รอง ผบช.น. เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ซึ่งจะรับผิดชอบสั่งการต่างๆ แทนตน

 ด้าน พล.ต.ต.วิบูลย์ ลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์การชุมนุมด้วยตัวเอง พร้อมระบุว่า ตำรวจจะประเมินสถานการณ์เป็นรายชั่วโมง  เวลา 17.30 น. พล.ต.ต.อำนวย รุ่งมโน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 กล่าวถึงการควบคุมสถานการณ์การชุมนุมว่า ตำรวจได้เตรียมกำลังป้องกัน มาควบคุมสถานการณ์ และป้องกันการเผชิญหน้ากว่า 450 คน ซึ่งยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แต่เกรงว่าในช่วงเวลา 20.00 น.จะควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ เพราะในขณะนี้มีผู้ชุมนุมดื่มสุรา จึงเกรงว่าจะเกิดการปะทะกันเนื่องจากเมาสุรา

ผบ.ทบ.สั่งหน่วยข่าวจับตาการชุมนุม  

 แหล่งข่าวด้านความมั่นคงเปิดเผยว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก สั่งการให้หน่วยข่าวทางทหารติดตามสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร ที่ปักหลักชุมนุมประท้วงคัดค้านการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญอยู่ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพราะเกรงว่าสถานการณ์จะบานปลาย เนื่องจากมีกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาลในแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญมาต่อต้าน และปะทะกันอยู่ตลอดเวลา

 แหล่งข่าวด้านความมั่นคงกล่าวอีกว่า เบื้องต้นการดูแลรักษาความปลอดภัยเป็นหน้าที่ของตำรวจ ส่วนทหารจะอยู่ในหน่วยที่ตั้ง อีกทั้ง พล.อ.อนุพงษ์ก็ไม่ได้สั่งให้มีการเตรียมกำลัง หรือแผนรองรับหากเกิดเหตุการณ์วุ่นวาย แม้แต่แผนปฐพี 149 ที่เคยใช้ในช่วงการปฏิวัติเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2551 พล.อ.อนุพงษ์ก็ไม่ได้สั่งการให้นำออกมาใช้ในการชุมนุมประท้วงในครั้งนี้ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ด้านการข่าว ทั้งศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) ตำรวจนครบาล และหน่วยข่าวสังกัดกองทัพบก ก็ได้ติดตามการเคลื่อนไหวของทั้งสองกลุ่มตลอดเวลา

"เหลิม" ปัดตั้งวอร์รูมสั่งการม็อบต้าน

 เวลา 22.50 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวการตั้งวอร์รูมว่า ไม่ได้มีการตั้งวอร์รูมเพื่อสั่งการใดๆ เพราะไม่มีหน้าที่ตรงนี้ ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าตนสั่งตั้งวอร์รูมเพื่อบัญชาการดูแลความปลอดภัยในการชุมนุมครั้งนี้ ขอยืนยันว่าไม่จริง เพราะตอนนี้อยู่บ้าน ไม่ได้ไปไหน และยังไม่ได้สรุปสถานการณ์ จึงไม่รู้ว่าเหตุการณ์เป็นไปอย่างไร แต่ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลการชุมนุมอย่างเต็มที่

"ระพี สาคริก"ชี้สังคมไทยมีหนอนบ่อนไส้  

 ด้าน ศ.ระพี สาคริก ปูชนียบุคคลของสังคมไทย วัย 86 ปี ได้เขียนจดหมายถึงนายสนธิ และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทุกคน มีใจความดังต่อไปนี้

 "ผมขอเรียนว่า คอยให้กำลังใจแก่คุณและทุกคนในการกอบกู้อิสรภาพ ของแผ่นดินไทย ซึ่งขณะนี้กำลังตกอยู่ในสภาพพิบัติ ซึ่งยิ่งกว่าวิกฤติ ผมอายุเกือบ 90 ปีแล้ว แม้นอนป่วยอยู่ในโรงพยาบาลก็รู้สึกเป็นห่วงบ้านเมืองอย่างมาก ศึกทางเศรษฐกิจมันหนักยิ่งกว่าศึกที่ใช้อาวุธ ไม่เพียงต้องการคนที่กล้าหาญจากคมดาบและปืน หากต้องการคนที่กล้าหาญในด้านจริยธรรม ขณะนี้สังคมไทยกำลังมีหนอนบ่อนไส้ ซึ่งหนอนประเภทนี้จนในที่สุดมันก็ไปไม่รอด พอข้าศึกได้ประโยชน์แล้ว ในที่สุดเขาก็ไม่คบกับมัน แบบพระยาจักรีกับพม่า ผมขอเป็นกำลังใจให้คุณนะครับ"

"สมัคร" ป้อง "แม้ว" เปล่าขายชาติ  

 นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "สนทนาประสาสมัคร" ว่า เรื่องการทำนาที่ จ.สุพรรณบุรี ทำไมเป็นไปได้ขนาดนี้ แต่ตอนนี้เข้าใจกันดี มีอดีตหัวหน้าพรรค (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) พานักธุรกิจซาอุฯ ไปดูการทำนา เพราะที่ จ.สุพรรณบุรี มีโรงเรียนสอนการทำนา นักธุรกิจเขาต้องการขายข้าวในตะวันออกกลาง แต่ข่าวไปไกลถึงขนาดซื้อที่ดินไปปลูกข้าว หาว่าขายชาติกันเลย เขาก็ยืนยันว่าไม่ใช่ เจตนาเขาแค่นั้น ไม่อยากพูดมาก เดี๋ยวหาว่าเป็นทนายเขาอีก

 "มันร้ายกาจถึงขนาดอดีตนายกฯ ขายชาติ เคราะห์ดีที่หัวหน้าพรรค (นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย) ออกมาพูดว่าท่านเข้าใจ" นายสมัครกล่าว

ชี้บ้านเมืองมีขื่อแป ให้ศาลชี้ขาด"จักรภพ"

 ส่วนกรณีของ นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ถูกกล่าวหาว่าพาดพิงสถาบัน กรณีไปบรรยายที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2550 ซึ่งมีการระบุว่า ประชาชนทั้งประเทศไล่นายจักรภพ ทำไมนายกฯ ยังปกป้องนั้น นายสมัครกล่าวว่า จะให้ทำอย่างไร บ้านเมืองมีขื่อมีแป ไม่ใช่จะมีคนไล่ทั้งบ้านทั้งเมือง มีแค่คนกลุ่มนี้

 "ก็อยากจะถามว่าคุณเป็นศาลหรือ ทำไมถึงได้ขนาดนี้ ทำไมเขาฉีกรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ไปมุดหัวอยู่ที่ไหน พอเขายื่นแก้รัฐธรรมนูญ ยังไม่ทันอะไรก็ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ทำยังกับประกาศคณะปฏิวัติ ผมเป็นหัวหน้ารัฐบาล ก็ต้องให้ความเป็นธรรมนายจักรภพ ผมเป็นนักการเมืองเป็นพรรคการเมือง ไม่ใช่ศาล เอาอะไรมาวัดว่าทั้งบ้านทั้งเมืองไล่นายจักรภพ ผมบอกแล้วถ้ามาผมยื่นวันนี้ ผมปลด มายื่นอีกกล่าวหาอีก ผมปลด มายื่น 35 วัน คณะรัฐมนตรีก็หมดเลย เอาหลักเกณฑ์หลักการอะไรมาครับ มีขั้นตอนมีกระบวนการยุติธรรมต้องดำเนินการอยู่ ผมก็ให้ความเป็นธรรม เพราะผมอ่านเอกสาร ผมอ่านทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษที่ถอดมา ผมอ่านแล้วเรื่องพรรคนี้ถามผมบอก ไม่ให้ตำรวจเขาดูสิว่าเป็นอย่างไร ต้องอย่างนี้สิครับ บ้านเมืองถึงจะอยู่ได้ ไม่ใช่ว่าพรรคการเมืองเก่าแก่ยื่นมาปั๊บ ต้องกลัวเกรง ไม่ล่ะครับ ผมไม่กลัวล่ะครับ ผมไม่เกรงด้วยถ้าทำแบบนี้" นายสมัครกล่าว

โวยขบวนการสื่อ 18 อรหันต์จ้องล้ม

 นายสมัครอ่านจดหมายจากประชาชนทางบ้านที่เขียนมาถึงนายกฯ ว่า พวกนักข่าวที่ชอบให้ร้ายคนอื่นควรจะมีบทลงโทษมากกว่านี้ โดยเฉพาะคนที่สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติ ควรมีโทษให้หนัก โดยนายสมัครกล่าวว่า "จะนักข่าวไม่นักข่าวไม่ทราบหรอกครับ ประกอบหลายคนครับ ไปโทษนักข่าว นักข่าวก็เอาข่าวไป คนที่เขาทำข่าวเขาก็มีรีไรท์เตอร์ มีหัวหน้าข่าว ยังมีคอลัมนิสต์ มีเจ้าของหนังสือพิมพ์อีก และยังมีขบวนการที่เรียกว่า ขบวนการ 18 อรหันต์ ถ้าเผื่อใครไม่ชอบรัฐบาล ต้องการจะทำลายล้างรัฐบาล 18 อรหันต์จะออกมาจัดการ

 ไอ้หัวโจก 18 อรหันต์ก็มีชื่อออกอยู่ครับ รายการที่ผมโดนเข้าไปนี่ ที่ผมโดนชิมไป บ่นไป ก็แบบนี้ครับ ยังไม่พอครับ กินไป บ่นไป ทาง กกต.ก็รับพิจารณาว่าพอฟังความ ยังจะพยายามอีกครับ มีคนพยายามจะหาเหตุหาโน่นหาอะไรต่ออะไรอีก คือจะเอาออกให้ได้ครับ เจตนา 18 อรหันต์นี่ล่ะครับ เป็นคนช่วยจัดการ ขบวนการนี้ยังอยู่ครับ เพียงแต่แก่ไปหน่อยเท่านั้นเอง เห็นหน้าทางโทรทัศน์หน้าตาแก่ขึ้น"

"ณัฐวุฒิ"ยัน"จักรภพ"แสดงท่าทีจันทร์นี้

 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะอดีตแกนนำ นปก. กล่าวถึงกรณีนายจักรภพจะแถลงข่าววันที่ 26 พฤษภาคม ว่า นายจักรภพจะแถลงถึงเนื้อหาที่มีการแปลความหมายจากภาษาอังกฤษ ภายหลังมีการกล่าวหาพาดพิงก้าวล่วงสถาบัน เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจที่นายจักรภพมีต่อสถาบัน พร้อมกันนี้จะประกาศท่าทีทางการเมืองในอนาคตต่อกรณีดังกล่าว ซึ่งการตัดสินใจขึ้นอยู่กับนายจักรภพที่เป็นคนแถลง

 เมื่อถามว่า มีข่าวว่านายจักรภพจะตัดสินใจลาออก หรือเว้นวรรคทางการเมืองเพื่อรอให้มีผลตัดสิน นายณัฐวุฒิกล่าวว่า นายจักรภพต้องการให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม พิสูจน์ตามข้อกฎหมาย และเบื้องต้นเท่าที่หารือกัน นายจักรภพไม่มีแนวคิดจะลาออกจากตำแหน่ง

เผย"จักรภพ"ต่อรองขอดูกระแสสังคม  

 แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา นายสมัครได้ส่งนายธีรพล นพรัมภา เลขาฯ นายกรัฐมนตรี ไปพูดคุยกับนายจักรภพอีกครั้ง เพื่อขอให้นายจักรภพพิจารณาตัวเอง ซึ่งทราบมาว่านายสมัครได้ประเมินแล้วว่า เรื่องนี้มีความหมิ่นเหม่ต่อสถาบันค่อนข้างสูง โดยนายจักรภพได้ต่อรองขอสู้อีกครั้ง ผลเป็นอย่างไรก็ขอจะทำตามกระแสสังคม ซึ่งสอดคล้องกับที่นายสมัครได้กล่าวในรายการสนทนาประสาสมัครเมื่อเช้าที่ผ่านมา

ปชป.ตั้ง"สุเทพ"ปธ.คณะทำงานแก้รธน.  

 นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์แถลงข่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ยกระดับการต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ให้เป็นเรื่องหลัก เทียบเท่ากับการคว่ำบาตรการเลือกตั้ง พ.ศ.2549 และต่อสู้คดียุบพรรค โดยพรรคมีมติตั้งคณะทำงานยุทธศาสตร์เพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน และตั้งคณะทำงานศึกษาข้อมูลร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ให้นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.สัดส่วน เป็นประธาน และ ส.ส.ของพรรคทั้ง 164 คน ผนึกกำลังต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ



 

กุไม่สนหรอก ใครดีใครเลว
รู้แต่ว่า เย็นนี้ ถ้ามึงแน่จริง ไปเจอกัน ท้ายๆ ขบวนพันธมิตรนะ
ใครทำกุก่อน กุจะตีหัวแม่งให้สมองกระจายเลย

ไม่ต้องกลับไปรงไปเรียนมันแล้ว วิดสวะจุฬาน่ะ
ถ้าสมองมึงมีแค่นี้ เอามาให้กุทุบเล่นดีกว่า

 :slime_bigsmile:

แบบนี้ อหิงสาไม่ไหวแล้วครับ เมื่อวานก็ไปมาเหมือนกัน ม๊อบถ่***นปก.ยั่วยุตลอด กวักมือเรียกงี้ ด่าอย่างหยาบ ๆ คาย ๆ อย่างนี้ ขว้างก้อนหินงี้ ถ้ามันจะนองเลือดก็เอาเลยครับ แต่ไปกระทืบพวกตัวใหญ่เลยดีกว่า ไอ้ที่มาป่วนเมื่อวานแค่ลูกกระจ๊อกกระทืบพวกมันไปก็ไม่ได้อะไร กระทืบพวกแกนนำนปก.เลยดีกว่า รวมไปถึงนายใหญ่หน้าเหลี่ยมด้วย ชักจะทนไม่ไหวแล้ว!

ฝ่ายม้อบกุ๊ย พยายามดึงพันธมิตรลงไปตีด้วย

แต่ฝ่ายเราไม่เล่นด้วย ไม่มีไรหรอก

ตำรวจเฉยเพราะนายสั่งมาแบบนั้น

เค้าพยายามจะดิสเครดิตพันธมิตร หากตีกันก็จะได้ใช้กำลังสลาย

ฝ่านเรารู้เกม เลยไม่รุนแรงเท่าที่ใจอยากทำ

ประชาชนฝ่ายเราที่ไปร่วมควรอยู่ห่างๆ ให้ รปภ. ฝ่ายเราจัดการดีกว่า

กลุ่มนี้ฝีมือเชื่อขนมกินได้ คนไปชุมนุมอย่าตกใจหรือไปมีอารมณ์ จะเข้าแผนเค้า

การปักหลักเชิงสะพานคือไม่อยากเป็นฝ่ายผิด ทำลายของหลวง เหมือน นปก. วันที่บุกบ้านป๋า

ซึ่งแค่นั้นก็เป็นเหตุให้ตำรวจใช้กำลังสลายได้แล้ว

หากเราจะฝ่าก็ทำได้ แต่มันเข้าข่ายทำร้ายเจ้าหน้าที่ ทำลายของหลวง

แกนนำรู้เกม ก็เลยยันกันอยู่แค่นั้น

คืนนี้หากเจอก่อกวน คงได้รับการตอบโต้ แบบสมน้ำสมเนื้อ

เกมเพิ่งเริ่มครับ...สุดท้ายอาจต้องไปใช้ลานพระรูป

ตั้งเวทีเป็นสองเวที...ค่อยๆ บีบเป็นคีมเข้ามา

รอผู้คนมาเพิ่มก่อนนะครับ ใจเย็นๆ เกมนี้ยืดเยื้อ ยาวนาน

ฝากบอกพวกเราที่ไปร่วม ใจเย็นๆ เข้าไว่...อย่าไปใช้กำลังจะเข้าแผนยั่วยุของเค้า

เหมือนตอน 6 ตุลานั่นแหละ สุดท้ายตำรวจก็เข้าสลาย...

ฟังบนเวทีดีที่สุดครับ

ก็เพราะที่ผ่านมา มันได้ใจไงครับ ลุงแคน
ไม่มีการตอบโต้ มันเลยเลือกวิธีการ เลือกเป้าหมายได้แบบมันมือ
เมื่อวานมันคงรับรู้แล้วว่า คนอื่นก็มีมือมี Teen เหมือนกัน
เย็นนี้ถ้ายังทำตัวเหมือนหมา....กัดแล้ววิ่งหนีอีก
รับรอง...โดนตามกระทืบถึงบ้านมันแน่

 :slime_bigsmile:

ผมเห็นพี่หนวดฝ่ายเรา 2 คน ถือไม้ตรงสี่แยกแล้วมั่นใจครับ

คือเค้าจะตอบโต้คนที่เห็นจังๆ แบบว่ามีภาพ มีวิดิโอชัดเจน

จะได้ใช้ยันหลักฐานกัน คนที่โดนฝ่ายเราเล่น เป็นยังไง มายังไง ถึงโดน

จะว่าไป คนพวกนั้นไม่กล้าแจ้งความหรอกครับ กลัวหลักฐานจากฝ่ายพวกเรา

แต่ฝ่ายเราเสียอีก นำคนเจ็บมาเล่าเรื่องราวให้สาธารณชนได้ฟังแบบไม่เคอะเขิน

คุณยุทธยงค์ ก็ออกอากาศตอนนี้ ได้ใจเยอะเลยครับ

ประชาชนอ่านข่าวที่ไม่ใช่ผู้จัดการ ก็คงพอตัดสินใจด้ ใครรังแกใคร

ฟรีทีวี ไม่ค่อยมีข่าว

แต่คนอ่านหนังสือพิมพ์น่ะ พวกพันธมิตรเยอะมาก เพราะติดตามข่าวสารเป็นประจำ

เมื่อคืนนี้หากใครอ่านหนังสือพิมพ์หลายๆ ฉบับ พวกพันธมิตรได้ใจประชาชนเยอะเลย

เย็นนี้อาจมามากผิดจากที่เราคิด

อ้อ...บนเวทีบอกว่า ยอดบริจาคเมื่อคืน 2 ล้านกว่าครับ

คืนนี้ผมจะไปชุมนุมอีก จะรอดูว่ามีอันธพาลมาก่อกวนอีกหรือเปล่า

ตอนนี้หวังพึ่งตำรวจก็ไม่ได้แล้วด้วย คงต้องพึ่งตัวเอง

ใครมาทำเรา เราก็ต้องตอบโต้กลับอย่างแน่นอน ใครเสือ-กให้มาก่อกวน เราก็อยากอยู่กันอย่างสงบแท้ๆ


นอนอยู่บ้านดีๆไม่ชอบ เสือ-กเข้ามาให้กระทืบเอง ช่วยไม่ได้

 :slime_mad:

ดีครับ
หาฟุตเหล็กหนาๆ ติดกระเป๋าไว้ซักอัน
เจาะกระบาลเลือดพุ่งดีแท้
หรือจะเป็นพวกสเปรย์พริกไทย...เครื่องชอร์ตไฟซักแสนโวลท์ก็ดีครับ

 :slime_bigsmile:

อยากจะบอกว่า เมื่อวานเย็นตอนที่แวะเอาน้ำไปให้
ขับผ่านพวก นปก.
ได้ยินแต่การยั่วยุ ออกจากลำโพงฟาก นปก.ตลอด ไม่มีหยุด

ตำรวจก็ยืนเป็นแผงกั้นเฉย ๆ ไม่มีการไปบอกให้หยุดยั่วยุ

แถมพวก นปก. ยังพยายามเดินข้ามมาแถวอนุสาวรีย์ตลอด
อย่างนี้ใครยั่วยุใครกันแน่

คนเค้าชุมนุมกันอยู่ดี ๆ ดันมาคอยยั่วยุ หาเรื่อง

คนเรามีสิทธิแสดงความคิดต่างได้
ไม่ใช่มายั่วยุให้เิกิดปัญหา
ถ้า นปก. ไม่มาป่วนยั่วยุ จะเกิดปัญหาหรือไม่
ไหนบอกจะชุมนุมอยู่แถว สนามหลวงไง แล้วเจือก เดินมาหาเรื่องทำไม

ศาสตราจารย์ ดร. ภูวดล เพื่อนซี้ มานพ อุดมเดช

เด็กอักษรศาสตร์ จุฬาฯ แต่จิตใจเกินร้อย

แม้จะอยู่ในคณะสาวสวยมากมาย

สมัยเรียนโดนเด็กวิศวะดูถูก แกท้าต่อยตัวตัวมาแล้ว

ประวัติการต่อสู้ สู้กันมารุ่น ๆ เดินขบวนขับไล่จอมพลถนอม และ เลขาธิการจุฬาฯ

ก่อน ธีรยุทธ์ 1 ปี

5 5 5 เชิญมันปล่อยสัตว์ไปเถิด ยังไงเราก็สู้ไม่ถอยอยู่แล้ว ถ้ามันแน่จริง ก็จ้างไอ้เสื้อแดงมาตีเราอีกดิ :slime_v:

555 อ่านที่มาตอบกันแล้ว คนอื่นเค้าก็รู้แล้วว่าเหตุการณ์เป็นไง
คนน้อยไล่ตีคนมากแน่ๆ 555

น่าสงสารจัง...ท่าทางจะอ่านหนังสือไม่ออก

ฝ่ายต้านฝ่าตร.ประชิดพันธมิตร

เวลา 16.00 น. กลุ่มต่อต้านพันธมิตร อันประกอบด้วย กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.), กลุ่มฅนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ, กลุ่มมหาประชาชนเพื่อพิทักษ์ประชาธิปไตย ภายใต้การนำของนายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน รวมแล้วประมาณ 100 คน ได้เคลื่อนขบวนจากสนามหลวงไปตามถนนราชดำเนินกลาง เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสกัดกั้นกลุ่มก่อกวนดังกล่าวให้หยุดอยู่แค่บริเวณสี่แยกคอกวัว แต่ในที่สุดก็ไม่สามารถควบคุมได้ จนต้องปล่อยให้เข้ามาตั้งเวทีย่อยบนรถ 6 ล้อที่หน้าบริษัท เบนซ์ธนบุรี ใกล้กับจุดชุมนุมพันธมิตร
ต่อมา กลุ่มธรรมาธิปไตยฯได้ทำพิธีเผาหุ่น 5 แกนนำพันธมิตร นำผ้าพันคอ 'กู้ชาติ' ของกลุ่มพันธมิตรมาเผาไฟ พร้อมตั้งเวทีปราศรัยโจมตีอย่างต่อเนื่อง

ปา'ขวดน้ำ-ถุงฉี่' ปะทะเจ็บ2

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีคนของกลุ่มต่อต้านพันธมิตรพยายามฝ่าแนวกั้นของตำรวจเข้ามายั่วยุกลุ่มพันธมิตร มีการขว้างปาขวดน้ำและถุงใส่ปัสสาวะเข้าใส่ผู้มาร่วมชุมนุมกับพันธมิตร จนเกิดการขว้างปาขวดน้ำใส่กัน และตะลุมบอนเล็กน้อย มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย ทราบชื่อเพียงรายเดียวคือ นายวีรยุทธ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา อายุ 48 ปี ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะกกหูด้านซ้าย ตำรวจเข้ามาระงับเหตุ และนำตัวนายวีรยุทธออกมาส่งให้เจ้าหน้าที่พยาบาลรับตัวไปดูแล
เป็นที่น่าสังเกตว่า แม้กลุ่มคนดังกล่าวพยายามยั่วยุฝ่ายพันธมิตร แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เข้าไปสลายกลุ่มก่อกวนดังกล่าวแต่อย่างใด อ้างว่ายังไม่ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา  

โอ้ สำนักข่าวหัวเหี่ยว

มีแต่ข่าวด้านตัวเอง

เย็นแล้ว ไม่ไปกับเค้าเหรอ

เผื่อจะได้ข่าวสดๆ ด้วยตัวเอง

ไม่ต้องตัดแปะ :slime_bigsmile:

วันที่ 26 พฤษภาคม 2551 เวลา 16:55:48 น.

ที่ห้องแถลงข่าวรัฐสภา เมื่อเวลา 13.30 น. แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาชนต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ประกอบด้วย นายจรัล ดิษฐาอภิชัย น.พ.เหวง โตจิราการ นายชินวัฒน์ หาบุญพาด และนายสุชาติ นาคบางไทร ร่วมกันแถลงข่าวปฎิเสธว่า นปช.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นในระหว่างการชุมนุมของ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา

เมื่อผู้สื่อข่าวได้ซักถามนายจรัล ว่า เหตุใดจึงปฎิเสธความรับผิดชอบในเมื่อนายสุชาติ ซึ่งมาแถลงข่าวด้วยกันก็เป็นหนึ่งในผู้ปราศรัยบนเวทีต่อต้านพันธมิตรฯ นายจรัล กล่าวว่า เป็นการกระทำส่วนบุคคลไม่ใช่ในนาม นปช.เพราะ นปช.ไม่มีมติให้เคลื่อนไหว จากนั้น นายจรัล ได้มอบหมายให้นายสุชาติ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์เป็นผู้ชี้แจง

นายสุชาติ ระบุว่า ความจริงพวกตนเป็นกลุ่มผู้รักประชาธิปไตย คัดค้านเผด็จการ ไม่อยากไปชุมนุมใกล้พันธมิตรฯ แต่เมื่อพันธมิตรฯจะเดินขบวนไปทำเนียบรัฐบาล จึงมีมติเคลื่อนด้วย ผู้สื่อข่าวถามว่า การตั้งใจที่จะเดินขบวนประกบพันธมิตรฯส่อเจตนาว่าต้องการมีเรื่องใช่หรือไม่ นายสุชาติ ตอบว่า  เราไม่อยากมีเรื่อง เพราะตำรวจกั้นพวกเรากับพันธมิตรฯไว้ แต่คนของพันธมิตรวิ่งมาตีพวกเราก่อน และมีการไล่ตีประชาชนที่รอรถเมล์อยู่บริเวณนั้นด้วย

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า ในฐานะที่เป็นแกนนำทราบหรือไม่ว่าในกลุ่มต่อต้านนั้นมีการพกพาอาวุธหลายชนิด ทั้งมีด และไม้หน้าสาม เพื่อโจมตีกลุ่มพันธมิตรฯ นายสุชาติ ได้ย้อนถามผู้สื่อข่าวด้วยความไม่พอใจว่า ตนไม่เห็นอาวุธใดๆ เลย ถ้ามีจริงให้เอาภาพถ่ายมายืนยัน ก่อนจะถามกลับว่า คุณเห็นอะไรที่พันธมิตรฯ บ้างหรือไม่ ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ตอบว่า ได้ทำข่าวการชุมนุมของกลุ่ม นปช.จึงเห็นความเคลื่อนไหวตลอด และช่วงหนึ่งมวลชนของ นปช.เองได้มาขอร้องให้ตนช่วยถือไม้ไปตีพันธมิตรฯ ด้วย ซึ่งนายสุชาติ โต้ทันทีว่าแสดงว่าคุณก็ใช้ความรุนแรง แต่ผู้สื่อข่าวบอกกลับไปว่ากลุ่มของ นปช.มาขอให้ถือ แต่ตนไม่ได้ถือ 

............

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=32961&catid=1

พันธุ์เดียวกับไอ้ลูกหมาเก่ง
กล้าทำไม่กล้ารับ :slime_slapped:

ตำรวจทำไมมันบัดซบอย่างงี้ :slime_mad:

สุชาติก็บอกแล้ว
ก็เห็นมีแต่ว่าคนอื่น
พวกตัวเองนั่งพับเพียบรอ
แล้วก็ร้องแร่ว่าชนกลุ่มน้อยข่มเหง
5555

ทราบมาว่าคืนนี้อาจจะมีการปะทะหนักๆอีก และอาจจะมีการเข้ามาเคลียร์แกนนำพันธมิตร
ช่วยเตือนเพื่อนพ้องที่ชุมนุมกันให้ระวังด้วยนะคับ โดยเฉพาะคนแก่และผู้หญิงให้อยู่วงในๆด้วยนาคับ..

 



ตรรกะบือชัดๆ ใครคิดว่าเมคเซนส์ต้องกินหญ้าแน่นอน :slime_sleeping:

ถูกต้อง
อย่าไปเป็นเครื่องมือป้องกันตัวให้คนอื่นครับ เจ็บฟรี
 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:

จะยื่นหนังสือถอดถอน   สส.  สว.
ก็ไม่ไปยื่นเองตรงๆ ต้องเอาคนมาเป็นกำบัง เฮอะ 

ได้ข่าวว่า เด็กกุ๊ยขอขึ้นค่าตัว

500 ไม่คุ้มเจ็บ คืนนี้อาจมาในราคาหัวละพัน

แต่ไม่แน่ อาจไม่คุ้มเงินพันอีกนั่นแหละ

ระวังโดนฝากรักกลับไปเลียแผล อิ อิ

 :slime_inlove: :slime_inlove:

พวกนักกินเมืองหน้าด้านพูดดีๆด้วยไม่ได้หรอก
มันกลัวที่สุดคือ พลังของพี่น้องอย่างกลุ่มพันธมิตรนี่แหละคับ..
เขาจึงไม่ได้ใช้คนกำบังแต่ใช้พลังบริสุทธิ์กดดันและกำจัดมารสารเลว  :slime_bigsmile:

เพิ่งรู้นะนี่ว่าม๊อบถ่ อยของจ๊ะมาด้วยใจ ฮิฮิ
คืนนี้สงสัยเปลี่ยนชุด เมื่อคืนเจ็บไปหลายคน เพราะไม่คิดว่าพันธมิตรจะเอาจริง  

ปกติผมไม่ค่อยได้เข้ามาติดตามอะไรที่นี่นักถ้าไม่มีเหตุสำคัญ

ก็เพิ่งรู้ว่า มีคนบางกลุ่มว่างมากขนาดไล่ตอบไล่โต้ทุกกระทู้ เอาดีใส่ตัว ชั่วใส่คนอื่น

โอเค..ถือคติ เล่นกับหมา หมาเลียตูด.

พอดีกว่า.. :slime_v:

 :slime_smile2: :slime_smile2: :slime_smile2: