ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: พิเภกอินเตอร์ ที่ 07-05-2008, 21:56



หัวข้อ: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: พิเภกอินเตอร์ ที่ 07-05-2008, 21:56
.

ข้าวราคาดีทำสถิติในรอบ พันปี
ขอชมเชยในฝีมือ และสามารถ

รัฐบาลดี เทวดาฟ้าดินท่านเป็นใจ
บันดาลให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล

ท่านมาถูกทาง อย่าหลงคำคนชั่วใจดำ
ยุแยงให้แข็งข้อ ล่อให้ชังรัฐบาล...

.


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: Aha555 ที่ 07-05-2008, 22:08
(http://www.bangkokbiznews.com/2008/05/07/thumb/255156_10863055lowthumbnewbkk.jpg)
http://www.bangkokbiznews.com/2008/05/07/thumb/255156_10863055lowthumbnewbkk.jpg


ชาวนากาฬสินธุ์กว่า 100 คน 
ได้รับความเดือดร้อนจากราคาข้าวตกต่ำประท้วงปิดถนน
เส้นทางการจราจรสายหลัก อำเภอยางตลาด-กาฬสินธุ์ เรียกร้องนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ เข้ามาแก้ปัญหา พร้อมทั้งเทข้าวเปลือกลงพื้นถนน เพื่อประจานโรงสีที่กดราคาข้าว


http://www.bangkokbiznews.com/ (http://www.bangkokbiznews.com/)
**************************************************
 :slime_bigsmile: :slime_smile2: :slime_v:


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: Aha555 ที่ 07-05-2008, 22:10
ชาวนาเชียงรายฮือจี้รัฐจัดการพ่อค้าคนกลาง-ประกันราคา/จวกรัฐตอแหลทำราคาร่วง
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9510000053288 (http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9510000053288)
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 7 พฤษภาคม 2551 19:16 น.
 
 (http://pics.manager.co.th/Images/551000005820203.JPEG)
 
  เชียงราย - ชาวนาเมืองพ่อขุน ฮือประท้วง หลังถูกพ่อค้าคนกลางรวมหัวกันกดราคาข้าวเปลือกข้าวเหนียวนาปรัง  โดยใช้ข้ออ้างสารพัดทั้งความชื้นสูง มีสิ่งเจือปน จนเหลือตันละ 6,200 บาท บุกยื่นหนังสือถึงรองผู้ว่าราชการจังหวัด และทุกหน่วยงานให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหา เรียกร้องให้ประกันรับซื้อข้าวเหนียวและข้าวเจ้า ตันละ 8,000-15,000 บาท จวก ครม.ตอแหล ด้านรองผู้ว่าฯ สั่งให้หน่วยราชการ ไปดูแลไม่ให้พ่อค้าเอาเปรียบทันที และเสนอเรื่องให้ส่วนกลางด่วน แต่ผู้ชุมนุมฯยังรอผลการประชุมหน้าศาลากลางต่อไป
       
       
       วันนี้ (7 พ.ค.) กลุ่มชาวนา ใน อ.เวียงชัย จ.เชียงราย ราว 300 คน นำโดยนายบัญญัติ ทองดีนอก และ นายสวิง จับใจนาย เกษตรกรในพื้นที่ ได้เดินทางมาประท้วงหน้าศาลากลางจังหวัด เรื่องราคาข้าวเหนียวนาปรังตกต่ำ
  โดยถือป้ายมีข้อความเช่น “พ่อค้ากดราคาสูบเลือกชาวนา” “ครม.ตอแหล” “ใครกดราคาข้าว” เป็นต้น พร้อมเปิดเครื่องขยายเสียงปราศรัยนานราว 30 นาที
       
       จากนั้น นายชนะ นาคสุริยะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย, นายบุญสม ศรีสุริยะชัย ปลัดจังหวัดเชียงราย, นางวนิดา ทิพยศักดิ์ หัวหน้าสำนักงานการค้าภายในจังหวัดเชียงราย, ผู้แทนพาณิชย์จังหวัด, นายบุญล้อม ดีเสริมยศ ปลัดฝ่ายความมั่นคงอำเภอเวียงชัย, เกษตรจังหวัด จึงเชิญตัวแทนเข้าหารือ ณ ห้องประชุมเล็ก ศาลากลางจังหวัด
       
       กลุ่มชาวนายื่นข้อเสนอรวม 6 ข้อ ให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาราคาข้าวเปลือกนาปรังถูกกดราคาจากพ่อค้าคนกลางอย่างหนัก คือ ให้รัฐบาลประกันราคาข้าวให้กับชาวนา ข้าวเปลือก ข้าวเหนียวตันละ 8,000-10,000 บาท ข้าวเจ้า ตันละ 11,000-15,000 บาท เพื่อให้ชาวนาลืมตาอ้าปากได้ เนื่องจากขณะนี้ในจังหวัดเชียงราย พ่อค้าคนกลางซึ่งเป็นเจ้าของโรงสีในพื้นที่ กดราคารับซื้อข้าวเปลือกที่จะเกี่ยวในช่วงนาปรังอย่างหนัก ตั้งราคาซื้อข้าวเปลือกมีความชื้นต่ำสุดราวตันละ 6,000-6,200 บาท นอกจากนี้ ราคาปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ก็แพงขึ้นทุกวัน โดยปุ๋ยขยับจากถุงละ 600 บาท เป็นถุงละ 1,100 บาท แถมราคาน้ำมันก็แพงลิตรละกว่า 35 บาท
       
       ตัวแทนกลุ่มชาวนา ชี้ว่า ภาครัฐไม่ได้ลงมาดูแลอย่างจริงจัง โดยปล่อยให้พ่อค้าคนกลางรวมหัวกดราคาข้าวจากชาวนา  โดยชาวนาจำนวนมากเริ่มพบว่าพ่อค้าเริ่มมีกลอุบายมากมาย เช่น อ้างว่าข้าวเปลือกมีความชื้นสูง มีสิ่งปลอมปนมาก บางครั้งข้าวจากที่เดียวกันบรรทุกรถคนละคันราคายังไม่เหมือนกัน เปลี่ยนราคาลงไปทุกวัน ทั้งที่ข่าวออกมาจากสื่อมวลชนว่า ราคาข้าวที่รัฐบาลส่งขายต่างประเทศ พุ่งไปถึงตันละ 17,000 บาท แต่ชาวนายังยากจนเหมือนเดิม บางคนทำนาทั้งปีหักลบกลบหนี้ไม่มีกำไรแถมบางคนมีหนี้ สวนกระแสข่าวที่ว่าชาวนาจะร่ำรวยจาการขายข้าว อยากให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
       
       พร้อมกันนั้น ยังตั้งข้อสังเกตว่า การที่กระทรวงพาณิชย์ออกข่าวว่าจะขายข้าวราคาถูกนั้น อาจเป็นผลทางจิตวิทยาให้พ่อค้าข้าวไม่ยอมซื้อข้าวจากชาวนาในราคาสูงเช่นเดิมเพราะเชื่อว่าจะมีข้าวราคาถูกออกมาสู่ท้องตลาด นอกจากนี้อยากให้
ส.ส.ในพื้นที่ จ.เชียงราย ซึ่งหลายคนมีธุรกิจโรงสี  มาช่วยชาวนาด้วย ไม่ใช้เลือกตั้งแล้วหายหน้าไป
       
       ด้าน นายชนะ นาคสุริยะ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รับว่า จะรับข้อเสนอของผู้ประท้วงไปหารือในบ่ายวันเดียวกันกับทุกฝ่ายแล้วเสนอส่วนกลางทันที เบื้องต้นยังได้มอบหมายให้กรมการค้าภายใน และพาณิชย์จังหวัด ออกตรวจสอบการรับซื้อข้าวว่าพ่อค้าเอาเปรียบชาวในเรื่องความชื้น หรือตราชั่งหรือไม่ และให้เกษตรจังหวัดเข้าไปดูแลเรื่องปุ๋ยและยาฆ่าแมลงราคาแพง
       
       ขณะที่ นางวนิดา ทิพยศักดิ์ หัวหน้าสำนักงานการค้าภายใน กล่าวว่า การรับซื้อข้าวของพ่อค้าทางราชการอาจไปควบคุมยากเพราะถือว่าเป็นการค้าเสรี และราคาข้าวที่รับซื้อกันทราบว่า ข้าวเปลือก ข้าวเหนียวนาปรัง ราคารับซื้อราว 6,500-6,700 บาทต่อตัน และหากทอนเป็นข้าวสารจะมีราคากว่า 9,000-9,500 บาทต่อตัน ส่วนข้าวเปลือกจ้าว ราคารับซื้อ สูงกว่า ราว 9,000-10,000 บาทต่อตัน หากทอนเป็นข้าวสาร ราคาจะสูงราว 13,000-13,500 บาทต่อตัน อย่างไรก็ตามจะเร่งเข้าไปแก้ไขปัญหา
       
       ทั้งนี้ ล่าสุด กลุ่มผู้ชุมนุมยังรวมตัวหน้าศาลากลางต่อไป เพื่อรอการประชุมแก้ไขปัญหาของจังหวัดเชียงรายกับทุกหน่วยงานและตัวแทนผู้ชุมนุมจะเข้าประชุมด้วย
       
       อนึ่ง ก่อนหน้านี้ กลุ่มชาวนาใน อ.เมืองเชียงราย ได้ยื่นข้อเสนอลักษณะเดียวกันกับนายสามารถ แห้วมีชัย ส.ส.เชียงราย เขต 1 พรรคปลังประชาชน เมื่อวันที่ 5 พ.ค.2551 มาแล้ว
       
       ส่วน นายศิริ ไชยสถิตวาณิชย์ นายกสมาคมโรงสีเชียงราย ยืนยันว่า ราคาข้าวเปลือกนาปรังรับซื้อได้ในราคาราว 6,500 บาท

*****************************************
 :slime_bigsmile: :slime_smile2: :slime_v:


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: พิเภกอินเตอร์ ที่ 07-05-2008, 22:15
ไม่รู้จริงอย่าโชว์โง่แถวนี้
ก๊อปข้อมูลสื่อโสมมมา นึกว่าแน่
เรื่องราวเป็นมาอย่างไร ไม่รู้แจ้ง

อยากรู้ให้ถามมาดีดี อย่าอวดรู้
เป็นเรื่องน่าอาย ที่ขายความโง่
ขอสั่งสอนด้วยหวังดี ทีหลังอย่า...


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: พิเภกอินเตอร์ ที่ 07-05-2008, 22:17
"

ขนมาน้อยไปหน่อย พวกบ่างทั้งหลาย
หลักฐานที่ยกมา เฮอะ น่าอาย ให้ขนมาอีก
ยิ่งโชว์โง่มากเท่าใด ตายไวเท่านั้น...พวกโง่


"


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: Aha555 ที่ 07-05-2008, 22:22
ชาวนาสะอื้น'ยาฆ่าหญ้า'ขึ้นราคาขวดละเกือบพันบาท บริษัทใหญ่กวาดซื้อเรียบ
 
วันที่ 01 พฤษภาคม 2551 - เวลา 11:08:26 น. 
 

   
ยาฆ่าหญ้าขึ้นราคากันยกใหญ่ หลัง'มอนซานโต้'กว้านซื้อสารไกลโฟเซตลอตใหญ่จากจีน ทำยาฆ่าหญ้าขาดตลาด ราคาพุ่งพรวด 3 เท่าตัว


นายสมพงษ์ จินานนท์ นายกสมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงผลกระทบจากภาวะต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้บริษัทผู้ค้าสารเคมีการเกษตร "จำเป็น" ต้องปรับราคาจำหน่ายสินค้าให้สอดคล้องกับภาวะต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ยกตัวอย่าง สารกำจัดเชื้อรา มีการปรับราคาจำหน่ายเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 70-80% ส่วนสารกำจัดแมลงมีการปรับราคาขึ้นบ้าง แต่อยู่ในเกณฑ์ที่เกษตรกรยอมรับได้

แต่ที่เป็นห่วงที่สุดก็คือ กลุ่มสารเคมีกำจัดวัชพืชประเภท "สารไกลโฟเซต (glyphosate)" ขณะนี้พบว่ามีการปรับราคาเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 120% แล้ว  ... จากเดิมที่ซื้อขายในอัตราเพียง 100 กว่าบาท/ลิตร   ปัจจุบันราคาซื้อขายอยู่ที่อัตราไม่ต่ำกว่าลิตรละ 600-800 บาท/ลิตร

สาเหตุสำคัญที่ทำให้สารเคมีกำจัดวัชพืช (ยาฆ่าหญ้า) ปรับราคาเพิ่มขึ้นก็คือ บริษัทมอนซานโต้ซึ่งเป็นผู้นำตลาดสารเคมีการเกษตรของโลกได้กว้านซื้อสารเคมีกำจัดวัชพืชประเภทสารไกลโฟเซตลอตใหญ่จากประเทศจีน ทำให้สินค้าขาดตลาดและมีราคาแพงมาก ส่งผลให้ผู้ค้าสารเคมีของไทยต้องหยุดนำเข้าสารไกลโฟเซตนานถึง 3 เดือนจนถึงปัจจุบัน สินค้าสารไกลโฟเซตที่มีจำหน่ายในประเทศเป็นสินค้าลอตเก่าในสต๊อกทั้งหมด หากผู้ค้าสารเคมีนำเข้าสินค้าลอตใหม่คาดว่าเกษตรกรอาจจะต้องควักเงินซื้อยาฆ่าหญ้าในราคาแพงขึ้นกว่าลิตรละ 900 บาทอย่างแน่นอน   

อย่างไรก็ตาม สมาคมแนะนำให้เกษตรกรปรับตัวโดยการหันไปใช้ยาฆ่าหญ้าประเภทสาร paraquat ที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกันแต่มีราคาต่ำกว่าแทน และนำระบบบริหารจัดการที่เหมาะสมมาใช้ในแปลงเพาะปลูกเพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการผลิต เช่น ใช้สารเคมีการเกษตรเท่าที่จำเป็น หรือเลือกใช้พันธุ์ข้าวที่ต้านทานกับปัญหาวัชพืช เป็นต้น

 
http://matichon.co.th/prachachat/news_detail.php?id=1000&catid=2 (http://matichon.co.th/prachachat/news_detail.php?id=1000&catid=2)


****************************************************

คอยดูหาเสียงคราวหน้า  ...พวกเหรื้ยแก๊งใอ้เหลี่ยม อ้างข้าวยุคใอ้หมักขายได้ราคาแพง ชาวนาร่ำรวย

ก๊าก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (เข้าสู่ยุคทุนสามานย์แก๊งเหรื้ยเหลี่ยม)

หลอกได้แต่รากหญ้ารากโง่เด้อ!!....สิบอกให้ เอิ๊ก เอิ๊ก


 :slime_bigsmile: :slime_smile2: :slime_v:


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: Aha555 ที่ 07-05-2008, 22:24
อิอิ+ ..คนตั้งกระทู้โชว์ควายนี่หว่า!!
 :slime_bigsmile: :slime_smile2: :slime_v:


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 07-05-2008, 22:27
เชื่อได้ เดี๋ยวก็มีจังหวัดอื่นๆออกมาประท้วงอีก

เชื่อไอ้เหลี่ยม อีเพ็ญ ไอ้หมัก ก็แบบนี้แหละ

สุดท้ายถ้าไม่เหลืออะไรเป็นของคนไทยเลย

จะสำนึกได้ทีหลัง ก็สายเกินไปแล้ว


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: พิเภกอินเตอร์ ที่ 07-05-2008, 22:27
"


ยอดเยี่ยมมมมม
แต่ยังมีอีก มีดีกว่านั้นอีก
อยากให้พวกหน้าโง่
โชว์ความงั่งออกมากกว่านี้
แล้วคอยตอบ...

"


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: Aha555 ที่ 07-05-2008, 22:32
ฝันร้ายของชาวนา / หัวโขน หัวคน
วิทยา ตัณฑสุทธิ์2/5/2551
 
ฝันร้ายของชาวนา
http://www.siamrath.co.th/UIFont/Articledetail.aspx?nid=745&acid=745 (http://www.siamrath.co.th/UIFont/Articledetail.aspx?nid=745&acid=745)

                ชาวนาจากสุพรรณบุรีคุยให้ฟังว่า ตอนนี้ขายข้าวนาหว่านน้ำตมได้เกวียนละหมื่นกว่าบาท เป็นราคาสูงสุดที่เคยได้ในชีวิต   แต่ชาวนาก็ยังแบกทุกข์หนักเหมือนเดิม และดูเหมือนจะแย่ยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ เนื่องจากค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการลงทุนเพิ่มสูงลิ่ว

                ชาวนาผู้นี้ฝากบอกไปยัง รมต.และผู้รับผิดชอบด้านการเกษตรในภาครัฐให้ทราบว่าอย่าเอาแต่พูดชาวนาไทยรวยแล้วเพราะมันไม่จริง เงินที่ได้จากการขายข้าวช่วงนี้คำนวณแล้วไม่พอกับค่าลงทุน ซึ่งทุกอย่างต้องจ้างแรงงานดังนี้

                1. ค่ารถไถปรับดินพรวนดิน ตบแต่งขอบคันนาเก็บกักน้ำ รวมทั้งค่ารถหว่านเมล็ดพันธุ์ ซึ่งแต่ก่อนใช้แรงคนเดินสาดไปตามท้องนา แต่ตอนนี้ต้องพึ่งรถหว่านเพื่อทุ่นแรงและความรวดเร็วจึงจะทันกิน

                2. ค่าปุ๋ยซึ่งขึ้นราคาทุกตัว ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยไนเตรด ปุ๋ยฟอสเฟต ปุ๋ยโปแตซ ทุกตัวขึ้นราคาเป็นสองเท่า เดิมเคยซื้อกระสอบละ (50 กก.) ราคา 400 บาท ตอนนี้เป็น 800 บาท และบางตัวเดิมซื้อกระสอบละ 500 บาท ขึ้นเป็น 1,000 บาท แถมยังขาดแคลน ชาวนาบางคนก็โชคร้ายเจอปุ๋ยปลอมปน ไม่รู้จะหันไปพึ่งใคร

                3. ค่ายาฆ่าหญ้า ยาปราบศัตรูพืชซึ่งจำเป็นต้องใช้และใช้หลายตัว เนื่องจากยาเหล่านี้มีคุณสมบัติเฉพาะด้าน ต้องซื้อมาปราบศัตรูพืชให้ตรงกับชนิดของมัน มิฉะนั้น จะโดนแมลงทำลายข้าวเสียหาย ก็ขึ้นราคาไปด้วย โดยร้านค้าอ้างว่าค่าขนส่งสูง เนื่องจากน้ำมันแพง

                4. ชาวนาไม่มียุ้งฉางเก็บข้าว เมื่อข้าวในนาแก่จัดต้องจ้างรถมาไถเก็บเกี่ยว  แล้วหาที่ผึ่งข้าวไล่ความชื้น ซึ่งมีกว่า 20% ให้เหลือไม่เกิน 14% มิฉะนั้น จะโดนพ่อค้าข้าวกดราคาด้วยข้ออ้าง ข้าวคุณภาพต่ำ ต้องขายในราคาขาดทุน

                5. ชาวนาบางคนพอมีฐานะ ขนข้าวไปขายที่โรงสีเอง แต่ก็โดนโรงสีตั้งเงื่อนไขต่างๆ นานา เช่น ข้าวคุณภาพดีเกรดเอ แต่โรงสีบอกว่าคุณภาพต่ำ และกดราคารับซื้อ โดยไม่ฟังเสียง ชาวนาจำต้องยอมขายเพราะตกอยู่ในสภาพหามผีถึงป่าช้า

                6. สิ่งที่ชาวนาทุกข์หนักที่สุด ก็คือ แม้จะเป็นคนปลูกข้าวแต่ต้องไปซื้อข้าวสารจากร้านค้ามากินในราคาแพงเหมือนชาวบ้านทั่วไป  กินไปหัวอกกลัดหนองไป เพราะขายข้าวเปลือกราคาถูก แต่ซื้อข้าวสารราคาแพง

                บทสรุปของชาวนาจากสุพรรณบุรีผู้นี้ ก็คือ ใครจะดีใจที่ข้าวไทยมีมากมายเหลือเฟือ แถมขายได้ราคาสูงเป็นประวัติการณ์ ก็ดีใจไป ชาวนาไม่ดีใจด้วย เพราะคนร่ำรวย ก็คือ พ่อค้าคนกลางกับโรงสี ตลอดจนร้ายขายข้าวสาร พ่อค้าปุ๋ยเคมี พ่อค้าขายยาปราบหญ้าขายยาฆ่าแมลง ซึ่งกอบโกยกำไรกันทั่วหน้า ส่วนชาวนาก็ยากจนต้องตรากตรำทำงานหนักเหมือนเดิม รายได้เพิ่มเท่าไหร่ก็ไล่ไม่ทันค่าลงทุน และค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นไม่หยุดยั้ง

                ผมนั่งฟังกระดูกสันหลังของชาติระบายความทุกข์แล้วก็นึกไม่ออกว่าใครจะช่วยชาวนาได้

                ปัญหาของชาวนาไทยมีมากมาย และรัฐบาลทุกชุดตลอดจนกลไกภาครัฐได้ปล่อยปละละเลยจนปัญหาทับถมกองใหญ่เป็นภูเขา แม้แต่เรื่องน้ำซึ่งเปรียบเหมือนเส้นเลือดใหญ่ของประเทศที่ทำการเกษตร จนบัดนี้ก็ยังไม่สามารถบริหาร-จัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะจนถึงขณะนี้ มีพื้นที่อยู่ในระบบชลประทานมีน้ำพอเพียงแก่การเพาะปลูกตลอดปีเพียง 26 ล้านไร่ จากพื้นที่ทำการเกษตรทั้งหมด 130 ล้านไร่

                ไม่มีรัฐบาลชุดไหนประกันราคาพืชผลเกษตร (แม้แต่สหรัฐน กับญี่ปุ่น ซึ่งเกษตรกรรวยกว่าคนอาชีพอี่น รัฐบาลของเขาก็ยังประกันราคาและรับซื้อผลิตผลทั้งหมด)

                ยุ้งฉาง (ไซโล) ก็ไม่มี ตลาดกลางในแหล่งผลิตใหญ่ ซึ่งชาวนาและพ่อค้าจะไปซื้อ-ขายข้าวโดยเสนอราคาแข่งกัน และทำให้ชาวนามีอำนาจต่อรองสูงขึ้น ก็ไม่มี

                แย่นะครับชีวิตชาวนาไทย]


****************************************************************

อย่างงี้ต้องให้ทักซวยหัวคินช่วย ช่วย ช่วย ช่วยไปพูดกับนายทุน(พวกเดียว ๆ กัน)
"ทุนสามานย์ดีกว่าศักดินาล้าหลัง"
 นายทุน รวย รวย รวย รวยอย่างเดียว..ช่วยไม่ได้
อิอิ+

 :slime_bigsmile: :slime_smile2: :slime_v:


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: พิเภกอินเตอร์ ที่ 07-05-2008, 22:38
"



หมดยัง ???
เสียดายขนมาน้อยไปหน่อย
เผาทั้งที่เผาแค่นี้ ไม่คุ้ม...


.


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: พิเภกอินเตอร์ ที่ 07-05-2008, 22:41
พยานต่ำกว่า ๕๐๐ ไม่ตอบ
ปล่อยให้โง่ต่อไป
ครบ ๕๐๐ เมื่อไหร่ ไปตามมา...


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 07-05-2008, 22:44
อย่ามาอ้างจำนวนคนเลยท่านเภก ไร้สาระ

ตอบได้ก็ตอบ ตอบไม่ได้ก็บอกว่าตอบไม่ได้

ทักษิณกับสมัครไม่ใช่พระเจ้า ก็คนธรรมดานี่แหละ

มีชั่ว มีผิดพลาดได้

แต่คุณเภกและพวกลิ่วล้อไม่ยอมรับเองต่างหาก :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: (ลุง)ถึก สไลเดอร์ ที่ 07-05-2008, 22:45
ข้าวขึ้นราคา แล้วมาประท้วงกันทำHaไรก็ไม่รู้นะเภก......เอิ้กกกก
น่าจะร้องเพลง "เย็นลงตั้งวงเฮฮา ประสาเราชาวนา
ครองฟ้าประเทศไทย"

 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: 1ktip ที่ 07-05-2008, 23:31
จะโหนกระแสราคาข้าวขึ้น ต้องเล่นอาทิตย์ก่อนนะเภก  :slime_smile:


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: THEHERO ที่ 08-05-2008, 00:33
 :slime_slapped: :slime_slapped: :slime_slapped:

กระทู้นี้เภกทนมิได้  โดนไปหลายดอก


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: IQ Zer0 ที่ 08-05-2008, 02:50
เพิ่งเข้ามาอ่านนะครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วย



หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: justy ที่ 08-05-2008, 03:01

ความจริงอะไรๆก็เห็นอยู่ เภกพูดจริงหรือหลับตาพูดก็เห็นอยู่ พูดเหมือนเด็ก เพ้อเจ้อเหมือนคนบ้า อีกหน่อยคงเสียสติ

คนที่มาตอบก็ไม่รู้จะมาตอบทำอะไร (อิฉันด้วย)   :evil:  :mozilla_sealed:


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: พิเภกอินเตอร์ ที่ 08-05-2008, 06:04
เอาอีก ขนมาอีก
ยังตามติดไม่วาง
มีพยานแค่ร้อย

วันนี้เกี่ยวเบ็ดได้ห้า
เย็นนี้ฌาปนกิจ
ขอเชิญผู้สุจริต
ร่วมฌาปนกิจพวก อิอิ...



ปล.เย็นไว้โยม ขอเพิ่มอีกนิด...อิอิ


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: พิเภกอินเตอร์ ที่ 08-05-2008, 07:25
ยังไม่เพิ่ม
ยังเท่าเดิม
ขอเสียงอีก...


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: พิเภกอินเตอร์ ที่ 08-05-2008, 08:53
เงียบนานไป
ชักรู้ตัวกันแล้วซิ
จำไว้ให้ดี
ทีหลังอย่า กร๊ากกกก


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: phutorn connection ที่ 08-05-2008, 09:27
เข้ามาช่วยเพิ่มจำนวน เผื่อจะได้เห็นคำตอบของคุณพิเภกอินเตอร์ไวๆ อยากรู้ข้อเท็จจริงน่ะค่ะ ขอเป็นข้อเท็จจริงนะคะ ไม่เอาคำวิจารณ์ส่วนตัว เพราะตอนนี้อยากรู้แนวโน้มว่าเป็นอย่างไร

ปล. ช่วยลดขนาดตัวอักษรได้มั้ยคะ เพราะมันก็แค่คำพูดธรรมดาไม่ได้มีสาระอะไรมาก ใช้ขนาดปกติอ่านง่ายๆจะดีกว่า เลื่อนอ่านได้ใจความเยอะๆ อย่างนี้อ่านได้น้อยนะคะ สร้างความรำคาญด้วย ขอบคุณล่วงหน้าเลยถ้าจะแก้ให้ค่ะ

ปล.2 ตั้งเป้าไว้ตั้ง 500 ไม่น่าจะถึงนะคะ แล้วมันจะไม่ทันสถานการณ์ตอนนี้ที่อยู่ๆราคาข้าวก็หล่นตุ๊บลงมา ยังไงก็ขอความรู้ของคุณพิเภกอินเตอร์มาวิเคราะห์ความเป็นไปได้


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: Şiłąncē Mőbiuş ที่ 08-05-2008, 10:18
อยากจะบอกว่าคนตั้งกระทู้ ไร้สาระว่ะ  :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: ScaRECroW ที่ 08-05-2008, 10:34
เภก กระทู้ข้อมูลน้อย ไม่แหลมคม เขาไม่ให้ตังค์นะ เขาให้คะแนน แล้วคะแนนเอาไปแลกได้แค่สบู่อย่างเดียวนะ


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: login not found ที่ 08-05-2008, 10:37
ไส้เดือนเจอน้ำร้อนลวก ดิ้นเข้าไปๆ เอาตัวหนังสือใหญ่ๆกว่านี้อีก

 :slime_smile2: :slime_smile2:

ไม่มีปัญญาตอบก็โวยวายให้มันเว่อร์ๆเข้าไว้
ตามประสาพวกโง่+ถ่อ-ยนั่นแหละ

 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: Cherub Rock ที่ 08-05-2008, 10:44
พวกชอบเสียงดัง พิมพ์ตัวใหญ่นี่เค้าว่าเป็นพวกจู๋เล็ก
ท่าจะจริงดูจากม็อบนกเขาหน้า มธ. :lol:


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: NA-KORN ที่ 08-05-2008, 10:52
ไอ้ยักษ์บ้ามันจะเอาปัญญาที่ไหนมาตอบ


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: Grimmy ที่ 08-05-2008, 11:04
 :slime_bigsmile: เรื่องน้ำตาลขึ้นราคาก็เชื่อ "ไอ้หน้าหมู ปาก***" ไม่ได้เหมียนกัน



หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: (ลุง)ถึก สไลเดอร์ ที่ 08-05-2008, 11:35
เรื่องน้ำตาล เป็นเรื่องที่"เตะอ้อย เข้าปาก หมู"โดยตรง......เอิ้กกกก
 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: see - u ที่ 08-05-2008, 11:56
*   ลด  font  ตัวหนังสือ .... ลงสักหน่อยก็ดีนะ เภก
     ขนาดมันใหญ่เกินไป  ............  ไม่ได้ชวนให้อ่าน ดูแล้ว รำคาญตา มากกว่า    :slime_smile:



หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: login not found ที่ 08-05-2008, 11:59
*   ลด  font  ตัวหนังสือ .... ลงสักหน่อยก็ดีนะ เภก
     ขนาดมันใหญ่เกินไป  ............  ไม่ได้ชวนให้อ่าน ดูแล้ว รำคาญตา มากกว่า    :slime_smile:



โชว์ไส้เดือน ไม่ได้มีไว้อ่านครับ
มีไว้ราดน้ำร้อนซ้ำอย่างเดียว

 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: เอกราช ที่ 08-05-2008, 12:00
ขึ้นราคาน้ำตาล
นักการเมืองตัวไหน
ได้ผลประโยชน์
ขอให้มันและพวกของมัน
จงพบกับความหายนะในเร็ววัน

ไอ่หรือEหน้าไหน
ที่บอกว่าชาวไร่จะได้ประโยชน์
ขอให้มันบรรลัยเช่นกัน
เขาปิดฤดูหีบอ้อยแล้ว
โคตรแม่ง!  ไอ่นรกทั้งหลาย
พูดมาได้ไง
ขึ้นราคาน้ำตาลเพื่อชาวไร่อ้อย

ถ้าแม่งไปขึ้นราคาน้ำตาล
ช่วงเดือน พฤศจิกายน
หรือเดือนธันวาคม
โดยประกาศให้ทราบล่วงหน้าในช่วงนี้
จะโมทนาด้วย

ไอ่เอี่ย.....เอ้ย
มาขึ้นราคาน้ำตาลทรายตอนนี้
มีแต่ชาวไร่ บ้าน พ่ อ
บ้าน แ ม่ ของ มึง นะ ที่ได้ประโยชน์


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: อังศนา ที่ 08-05-2008, 12:26
เภกกกก.. อย่าตะโกนได้ป่าว  แสบตาอะ :slime_hmm:
(มันน่าจำกัดขนาดฟ้อนท์เสียจริงๆ ให้ตายสิ)

(http://i30.photobucket.com/albums/c329/Seaspica/pink_flowers.gif)


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: Limmy ที่ 08-05-2008, 13:44
ปลายอาทิตย์หน้าจะมีชาวนาจากหลายภาค เข้ามาชุมนุมในกรุงเทพ ว่าด้วยเรื่องปัญหาพ่อค้าคนกลางกดราคารับซื้อ อ้างคุณภาพ+ความชื้น

ตอนนี้กำลังมีการล๊อบบี้กันอย่างหนัก ไม่ให้เข้ามา สั่งการไปยังท้องที่ ให้ตรึงไว้ให้ได้

ถ้าเข้ามาจริง ๆ เชิญน้าเภกไปต้อนรับขับสู้ด้วยนะครับ

ส่วนผมคงไปให้ข้อมูล ว่าตัวปั่นกระแสเรื่องนี้จริง ๆ ได้แก่ "เจ๊มิ่ง หนูผี"

เผื่อชาวนา เค้าจะได้เอาจอบเสียม ไปเยี่ยมเจ๊มิ่งมั่ง 555  :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: วิหค อัสนี ที่ 08-05-2008, 14:11
เภกกกก.. อย่าตะโกนได้ป่าว  แสบตาอะ :slime_hmm:
(มันน่าจำกัดขนาดฟ้อนท์เสียจริงๆ ให้ตายสิ)

(http://i30.photobucket.com/albums/c329/Seaspica/pink_flowers.gif)



ขอเสนอ Webmaster ให้พิจารณาเรื่องนี้ด้วยอีกคนครับ  :slime_hmm:


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: พิเภกอินเตอร์ ที่ 08-05-2008, 16:12
.


ว้า เพิ่งเข้ามาแค่ สามร้อยกว่า
ไม่คุ้มค่าอาหารกบ
ขอรับประกันด้วยเกียรติของ ยักษ์
มาครบ 500 เมื่อไหร่ ยินดีมาตอบ
ตอบทุกคำถามเสียด้วย
กระทั่งคำถามโง่โง่เรื่องน้ำตาล
โชว์พาวหลังปิดหีบ กร๊ากกก
โง่เป็นควายยังอยากแสดงว่ารู้ดี
จำไว้ให้ดี ครบ 500 เมื่อใด มาทันที

.

ปล.
ตัวเล็กใหญ่ไม่มีกำหนดในรัฐธรรมนูญ
การที่ พิเภก เขามาให้อาหารกบในนี้
ไม่เห็นผู้ใดพอมีปัญญา ต่อกร
เห็นเพียงความสามหาวหยาบคาย
หาผู้รู้จริงไม่มี มีแต่พวกพองขน กร๊ากกก
[/size]


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: eAT ที่ 08-05-2008, 16:31
มีเกียรติกับเค้าด้วยหรือ เภก 800
ไหนบอกว่าจะเลิกเล่นเน็ต ถ้ามาเกิน 800
คราวมาอีกล่ะ นับตัวเลข 1 - 10 เป็นหรือเปล่า?

--------------------------
ต้นตอ "ข้าวราคาตก"

คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่ 12

โดย ทวี มีเงิน

http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01col02080551&day=2008-05-08&sectionid=0116

ยังไม่ทันไร ราคาข้าวในประเทศที่พุ่งทะยานจนรั้งไม่อยู่ก็ตกวูบอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย รับกับข้าวนาปรังของชาวนาที่เริ่มทยอยสู่ตลาด ฝันจะได้ราคาดีๆ ต้องฝันสลาย นี่คือทุกข์ของชาวนาไทยที่มีโอกาสเห็นๆ แต่ไม่เคยคว้าได้จริงๆ สักที

ตอนที่ข้าวราคาแพงใครๆ ก็คิดว่าชาวนารวย แต่ความเป็นจริงข้าวนาปีตกไปอยู่ในมือพ่อค้าท้องถิ่น โรงสี ตั้งแต่ก่อนราคาจะพุ่งสูงขึ้น ชาวนาจึงได้แค่เศษๆ นิดๆ หน่อยๆ แต่ก็ดีกว่าปีก่อนๆ ที่มีแต่เข้าเนื้อ

หวังจะแก้ตัวคว้าโอกาสทองตอนข้าวนาปรังนี่แหละ แต่เอาเข้าจริงๆ พอผลผลิตออกสู่ตลาด ต้องเจอกับราคาข้าวในประเทศตกต่ำ บางพื้นที่ตกลงถึง 5,000 บาทต่อตัน จนมีคนออกมาโวย ออกมาประท้วงกันวุ่นวาย นี่แหละ "วิกฤตในโอกาส"

อะไรเป็นต้นเหตุให้ข้าวราคาตกแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

ถ้าว่าตามหลักเศรษฐศาสตร์ก็บอกว่า เป็นไปตามหลัก "ดีมานด์-ซัพพลาย" เมื่อความต้องการข้าวน้อยลง แต่สินค้าออกมามาก ราคาก็ตก นักวิเคราะห์บางรายก็ฟันธงว่า เป็นเพราะฟิลิปปินส์ยกเลิกประมูลข้าวจึงส่งผลให้ราคาตก บางคนก็บอกว่า ราคาข้าวในตลาดโลกสูง จนผู้ซื้อสู้ราคาไม่ไหว

แต่ที่ไม่มีใครพูดถึงและไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง เพื่อสรุปบทเรียน นั่นคือ เป็นผลมาจาก "จิตวิทยา" อันเนื่องมาจากกลยุทธ์ "พีอาร์โพลิซี" เพื่อสร้างคะแนนนิยมจากผู้บริโภคที่เป็นคนจนในเมืองล้วนๆ

หลังจาก "นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์" รัฐมนตรีพาณิชย์ เคยใช้กลยุทธ์เดียวกันด้วยการประกาศให้ชาวนาเก็บข้าวในสต๊อคไว้ขายเพราะราคาข้าวกำลังจะถึงตันละ 3 หมื่นบาท ไม่ถึงสัปดาห์ก็บอกให้ชาวนาขายข้าว ทั้งๆ ที่ข้าวอยู่ในมือพ่อค้า โรงสีหมดแล้ว หรือประกาศว่าจะตั้ง "โอเรค" จะรวมตัวกลุ่มผู้ผลิตข้าวเพื่อกำหนดราคาข้าวในตลาดโลกเหมือนอย่างโอเปคกำหนดราคาน้ำมัน แล้วก็เงียบหายไปกับสายลม

ทั้งหลายทั้งปวงที่ออกมาตีปี๊บดังลั่น ก็เพื่อให้ดูว่ารัฐบาลเป็นห่วงเป็นใยชาวนา แต่ข้อเท็จจริงคนที่ได้ประโยชน์คือพ่อค้าและโรงสี

ครั้นราคาข้าวสูงขึ้น คนในเมืองโวยวายว่าเดือดร้อน รัฐบาลก็มีมติให้นำข้าว 2.1 ล้านตัน ที่สำรองไว้ออกมาทำข้าวถุงบรรเทาทุกข์

ในเชิงการบริหารรัฐบาลจะต้องดูแลชาวนาให้ได้มีโอกาสลืมตาอ้าปาก ขณะเดียวกันต้องไม่ทิ้งคนจนในเมืองที่เดือดร้อนจากราคาข้าวแพง การที่รัฐบาลทำข้าวถุงเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเป็นเรื่องที่ถูกต้อง

แต่ที่รัฐบาลประกาศว่า จะนำข้าวในสต๊อค 2.1 ล้านตันมาทำข้าวถุง อาจจะถูกในเชิงยุทธศาสตร์ แต่พลาดในยุทธวิธี ความที่มุ่งหวังคะแนนเสียงกับคนในเมืองจนลืมผลกระทบที่จะตกกับข้าวนาปรัง

ทันทีจากรัฐบาลประกาศว่า จะทำข้าวถุงแก้ปัญหาขาดแคลนและราคาแพง พ่อค้าท้องถิ่น โรงสีข้าว ก็ไม่ยอมรับซื้อข้าวตามปกติและยังกระพือข่าวว่ารัฐบาลนำสต๊อค 2.1 ล้านตันมาทุ่มตลาด จึงกดราคารับซื้อข้าวจากชาวนาที่กำลังทยอยสู่ตลาด พลอยทำให้ตลาดเกิดวิตกจริตไปด้วย ทุกอย่างต้องชะงักงัน พ่อค้าได้ทีฉวยโอกาสกดราคารับซื้อ ชาวนาก็จำใจขายเพราะอยู่ในภาวะผีถึงป่าช้า

นี่คือ ผลของการแก้ปัญหาแบบการเมือง นี่คือผลกระทบทางจิตวิทยาที่คาดไม่ถึง

เรื่องนี้จะไม่เกิดถ้ารัฐบาลมอบหมายให้องค์การคลังสินค้า "อคส." ค่อยๆ ทยอยทำข้าวถุงออกไปวางตามโมเดิร์นเทรดแบบเงียบๆ ไม่ให้ขาดหายไปจากชั้นวางเหมือนที่ผ่านมา ไม่ต้องตีปี๊บให้ใหญ่โตเพื่อหวังผลทางการเมือง ราคาข้าวนาปรังก็ไม่ได้รับผลกระทบมากมายเช่นนี้

เพราะข้าวที่มาทำข้าวถุงแค่ 500 ตัน จิ๊บจ๊อยหากเทียบกับสต๊อค 2.1 ล้านตัน ย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดแต่อย่างใด

เรื่องที่เกิดขึ้นมันสะท้อนให้เห็นว่าการแก้ปัญหาของรัฐบาลจะมองเป็นจุดๆ ไม่เข้าใจภาพใหญ่ทั้งระบบ การแก้ปัญหาเฉพาะจุด เมื่อแก้ตรงโน้นก็กระทบตรงนี้ เหมือนลิงแก้แห

ยิ่งมุ่งหวังผลการเมืองมากเกินไป ความเสียหายย่อมตามมาอย่างที่เห็น


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: พิเภกอินเตอร์ ที่ 08-05-2008, 16:45
.

กร๊ากกกกกกกก
อันสุดท้ายยิ่งโง่หนักไปใหญ่
แหม่อยากเจอตัวเป็นเป็นหน้าตาอย่างไร
พ่อค้าได้กำไร ว่าไปโน่น
อาศัยคาดเดาต่างต่างนานา
ข้อเท็จจริงหาสนใจไม่
นี่เองหรือ คือ อาหารกบ เวนกำแท้แท้...

.


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: Şiłąncē Mőbiuş ที่ 08-05-2008, 16:46
เอาเxี้ย มาทำงานก็งี้แหล่ะ โทษใครได้

โทษตัวเองไปล่ะกัน  :slime_dizzy:


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: พิเภกอินเตอร์ ที่ 08-05-2008, 22:29
"

ใกล้ครบห้าร้อยแร๊ะเร่งมือกันหน่อย...


.


หัวข้อ: Re: ข้าวขึ้นราคา อย่าหลงวาจา"อ้ายหัวหมูฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: RiDKuN ที่ 08-05-2008, 22:41
ขอล็อกกระทู้ก่อนถึง 500 นะเภก เพื่อไม่ให้เป็นบรรทัดฐานว่าเป็นการกระทำที่เหมาะสม
ส่วนเภกจะไปโพสต่อที่กระทู้อื่นก็ไม่ว่ากัน