ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

 ศิษย์'ธัมมชโย'ปกป้องเต็มตัวใครให้ร้ายระวังนรกถามหา 
    ผู้อ่าน 212 คน วันที่ 04 พฤษภาคม 2551 เวลา 13:35:07 น.  ส่งข่าว พิมพ์ข่าว -  ขนาดข้อความ  +
 
 http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=29696&catid=1 (http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=29696&catid=1)

ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปทุมธานี รายงานว่า ได้เดินทางเข้าติดต่อสอบถาม ที่วัดพระธรรมกาย ต.คลองสอง อ.คลองหลวง กรณี นายชาญวิทย์ จริยานุกูล ออกมากล่าวพาดพิงถึง   แผ่นเพลงซีดีโจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ซึ่งเป็นบทเพลงอันไพเราะ ที่แต่งขึ้นโดย พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดธรรมกาย   นั้น เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องต่างปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล รวมถึง    นายวิรศักดิ์ ฮาดดา หัวหน้ามูลนิธิธรรมกาย ซึ่งมีตำแหน่ง นายก อบต.คลองสาม  ก็ไม่ยอมรับโทรศัพท์มือถือของผู้สื่อข่าว

แหล่งข่าวจากลูกศิษย์ พระธัมมชโย รายหนึ่งที่มาร่วมปฏิบัติธรรมวันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม ซึ่งเป็นอาทิตย์ต้นเดือน กล่าวว่า ได้เดินตามหลวงพ่อธัมมชโย มากว่า 10 ปี   การที่จะมีลูกศิษย์จากกลุ่มคนวันเสาร์ ที่ไปออกแถลงการณ์ปกสีม่วงก็ถือว่า  เป็นเรื่องปกติ เพราะท่านมีลูกศิษย์มาจากทั่วทุกสารทิศนับแสน นับล้านคน ส่วนตัวแล้วท่านไม่มีการเมืองเกี่ยวข้อง ฉะนั้นอย่าว่าแต่การกล่าวให้ร้ายป้ายสีใคร หรือไปทำเหตุให้เกิดความเสื่อมเสียแตกแยกในสังคมนั้นยิ่งเป็นไปไม่ได้ แม้แต่คำพูดคำจายังไม่ใช้สำนวนการพูดคุยอย่างชาวบ้านทั่วไป ท่านพูดได้ไพเราะมาก พร่ำสอนให้ศิษยานุศิษย์ถือศิล 5 ในเบื้องต้นของเป้าหมายชีวิตไปตามลำดับ การนำไปสู่เป้าหมายมัคผลนิพพาน ดังนั้นใครที่กล่าวให้ร้ายท่านธัมมชโย  นรกจะถามหาโดยไม่รู้ตัว

****************************************

เป็นเหตุเป็นผลมากเลย

1. ลูกศิษย์วัดธรรมกาย พวกกลุ่มคนวันเสาร์ ที่ไปออกแถลงการณ์ปกสีม่วง ว่าเป็นคนเขียนขึ้นมาเอง

2. แผ่นเพลงซีดีโจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ซึ่งเป็นบทเพลงอันไพเราะ ที่แต่งขึ้นโดย พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดธรรมกาย (ระบาดหนักเปิดฟังในภาคอีสาน)

ชาญวิทย์ปูดธรรมกาย ร่วมขบวนการถล่มป๋า ทำซีดีเปิดฟังในอีสาน ปัดมีคนอยู่‘เบื้องหลัง’     
Saturday, 03 May 2008 
(http://thaiinsider.info/portal/images/stories/mop/chanwit_jriyanukun.jpg)

"ชาญวิทย์" ลาก "ธรรมกาย" ร่วมขบวนการถล่ม "เปรม" ระบุเป็นต้นตอซีดีด่า "ป๋า" ผลงานประพันธ์โดย "ธัมมชโย" เปิดฟังเกลื่อนอีสานมานานแล้ว ‘เทพไท’ย้ำอ้างชื่อ‘ชาญวิทย์’แค่เป็นจิ๊กซอว์เพื่อสาวถึงตัวการใหญ่เท่านั้น

นายชาญวิทย์ จริยานุกูล ที่เคลื่อนไหวกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไลเผด็จการ (นปก.) ซึ่งถูกนายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแฉว่าเป็นผู้เขียนหนังสือ “ก้อนกรวดในรองพระบาท” ได้ออกมาแถลงข่าวเปิดตัวเป็นครั้งแรก พร้อมกับตอบโต้ข้อกล่าวหาต่างๆ

ทั้งนี้ นายชาญวิทย์ได้ยกหนังสือและเอกสารต่างๆ ขึ้นมาประกอบการแถลงข่าว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนังสือที่โจมตีพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ โดยมีเอกสารและหนังสือ ดังนี้
1.หนังสือพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ "ก้อนกรวดในรองพระบาท"
2.หนังสือ “ตีเสมอจ้าว” โดย wisdom
3.หนังสือเปรมไม่ใช่ไฟฟ้า ป๋าก็แค่คน ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญที่อยู่เบื้องหลังรัฐประหาร 19 กันยายน พาชาติลงคลอง
4.สมุดปกม่วง คำแถลงการณ์กลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ เรื่องร้องเรียนให้พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ กราบถวายบังคมลาออกจากตำแหน่งประธานองคมนตรีและองคมนตรี 5.เปิดหน้ากากผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ ความจริงวิกฤตการเมือง
6.ซีดีเพลง  
7.ใบปลิวท่าน้ำนนท์


นายชาญวิทย์ชี้แจงว่า สำหรับหนังสือพล.อ.เปรม "ก้อนกรวดในรองพระบาท" ได้ถูกเผยแพร่โดยกลุ่มชาวเว็บซึ่งเรียกตัวเองว่า กลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ และหนังสือ "เปรมไม่ใช่ฟ้า ป๋าก็แค่คน ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญที่อยู่เบื้องหลังรัฐประหาร 19 กันยา พาชาติลงคลอง เป็นบทความของอาคม ซิดนีย์ (หลานชายของพล.อ.สันต์ จิตรปฏิมา รองผบ.ทบ.) จากเว็บออสเตรเลีย

สำหรับสมุดปกม่วง เป็นหนังสือที่กลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการได้ยื่นหลักฐานสำคัญต่อกองทัพ บก เรื่องขอให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เลิกปกป้องพล.อ.เปรม โดยได้ยื่นหนังสือต่อ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ

ซัดทอด "ธรรมกาย" ถล่มเปรม

นอกจากนี้ หนังสือเปิดหน้ากากผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ ความจริงวิกฤตการเมือง เขียนโดย “วิจัย ใจภักดี” และยังมีซีดีเพลงที่นายเทพไทได้กล่าวอ้าวถึง ซึ่งเป็นผลงานประพันธ์ของท่านธัมมชโย เ จ้ า อ า ว า ส วั ด ธ ร ร ม ก า ย    ถือเป็นแผ่นซีดีที่มีการเผยแพร่และเปิดในพื้นที่ภาคอีสานมานานแล้ว และสุดท้ายใบปลิวท่าน้ำนนทบุรี  เป็นงานเอกสารที่ตนศึกษาทางโหราศาสตร์และตนจัดทำขึ้นมา ขณะนี้กำลังถูกดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของพระมหากษัตริย์ ซึ่งตนได้ใช้เงินจำนวน 3 แสนบาท ประกันตัวออกมาสู้คดีในชั้นศาล และมีการถามว่าเงินจำนวนนั้นมาจากไหน หรือมีใครหนุนหลังอยู่หรือไม่ ขอชี้แจงว่าเป็นเงินส่วนตัวจำนวน 1 แสน 5 หมื่นบาท และเงินน้องชายที่เหลือ

นายชาญวิทย์ บอกอีกว่า รู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างยิ่งก็คือการกระทำของนายชวน หลีกภัย นายเทพไท เสนพงศ์ ที่ออกมาปกป้องพล.อ.เปรม ผู้เป็นหัวหน้าของระบอบอำมาตยาธิปไตย ที่ทำลายประชาธิปไตย และการที่ได้มีการโยงใยมากมายว่าตนเกี่ยวข้องกับคุณจาตุรนต์ ฉายแสง ซึ่งจริงๆ แล้วรู้จักกันอยู่ แต่ไม่เคยร่วมงานทางการเมืองกันจริงๆ 

นายชาญวิทย์ กล่าวถึงการที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ พูดเรื่องขบวนการสาธารณรัฐ กระบวนการ “ล้มปืน-ล้มทุน-ล้มเจ้า” โดยเขาเรียกร้องให้พล.อ.ชวลิต จัดการตามแนวทางท้าวมาลีวราช คือการปฏิบัติตนเป็นโซ่ข้อกลางเพื่อการนำแนวคิดที่ขัดแย้งของบุคคลต่างๆ ในแนวทางการแก้รัฐธรรมนูญทั้งผู้ที่เห็นด้วย สนับสนุน และผู้ที่คัดค้านมาทำให้เกิดการสนทนาร่วมที่มีเป้าหมาย ผลิตผลรัฐธรรมนูญกติกาแห่งสังคมสัญญาที่ทุกฝ่ายเห็นชอบ ยอมรับ และตกลง ด้วยรูปการณ์นี้แนวทางประชาธิปไตยก็สามารถพัฒนาต่อไปได้

ทั้งนี้ การแถลงข่าวของนายชาญวิทย์หลายตอนพาดพิงๆ ไปยังสถาบัน และหมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพหลายครั้ง  ซึ่งเขายืนยันว่าทุกอย่างที่พูดเป็นเรื่องที่ถูกต้อง  

นายชาญวิทย์ มีภูมิลำเนาที่ต.ควนขนุน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง อายุ 54 ปี และครองตัวเป็นโสด จบ ม.ปลายจากโรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา โรงเรียนเดียวกับพล.อ.เปรม จบระดับอุดมศึกษาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นักศึกษาคณะเทคนิคการแพทย์ รหัส 167606 ปี 2516 ก่อนเข้าป่า ที่ผ่านมานายชาญวิทย์ประกอบอาชีพขายไอศกรีม ขายโปสเตอร์ ช่างตัดในโรงพิมพ์ ทำงานออฟฟิศ และทำนา

‘เทพไท’ย้ำอ้างชื่อ‘ชาญวิทย์’แค่เป็นจิ๊กซอว์เพื่อสาวถึงตัวการใหญ่เท่านั้น

ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายชาญวิทย์ จริยานุกูล ที่ถูกระบุว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับใบปลิวโจมตี พรรคประชาธิปัตย์และพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ออกมาแถลงว่า ไม่ได้เป็นผู้เขียนใบปลิวดังกล่าวว่า ตนมีเจตนาต้องการให้นายชาญวิทย์ เป็นเพียงจิ๊กซอว์ตัวหนึ่งที่จะสาวไปถึงขบวนการนี้ ไม่ได้หมายความว่า นายชาญวิทย์จะเป็นตัวการใหญ่ เพราะดูศักยภาพและสติปัญญาแล้วคงจะไม่มีความสามารถที่จะทำได้  เพียงแต่เรามีกระแสข่าวเรื่องนี้ และมีการจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคนที่มีชื่อน่าจะเป็นชื่อชาญวิทย์ ไม่ได้เหมาว่า นายชาญวิทย์เป็นคนทำ หรือนายชาญวิทย์เกี่ยวข้องกับนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ส่วนที่นายจาตุรนต์ อ้างว่านายชาญวิทย์ ก็เป็นรุ่นน้องนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นรุ่นพี่ของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม.แ ละรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หากจะอ้างอย่างนั้น ตนก็ต้องอ้างเลยไปถึงว่านายชาญวิทย์เป็นรุ่นพี่ของนายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชนด้วย
               
นายเทพไท กล่าวต่อว่า ตนไม่ได้ต้องการว่าอะไรนายชาญวิทย์ เพียงแต่ต้องการให้เห็นว่าขบวนการเหล่านี้มีจริง และตนได้แจ้งเบาะแส ขณะนี้มีการแจ้งเบาะแสเข้ามาเรื่อยๆ เช่นขณะนี้มีผู้หวังดีแจ้งมาว่า มีแหล่งทำใบปลิว และสมุดปกสีม่วง อยู่แถวถนนเอกชัย เขตบางบอน เป็นตึกแถว 2 ห้อง แต่หลักฐานยังไม่ประจักษ์ชัดเชื่อมโยงถึงขบวนการผลิต จึงได้รวบรวมไว้เป็นข้อมูลหลักฐานเพื่อส่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะได้ นำไปเป็นจิ๊กซอว์ เพื่อสาวไปถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลัง อย่างไรก็ตามตนยังได้รับใบปลิวโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ และเชื่อมโยงไปถึงพล.อ.เปรม แสดงว่าขบวนการนี้ยังไม่หยุด เพียงแต่อาจจะไม่ทำเป็นใบปลิว เปลี่ยนมาเป็นจดหมายลูกโซ่ส่งไปยังสถานที่ต่างๆ
 

***********************************************************

อยากรู้เหมือนกันว่า คดีที่ดินที่กำลังจะอ่านฎีกาอยู่แล้ว อยู่ๆ อัยการถอนฟ้องนั้น  เอาผิดกับอัยการที่ถอนฟ้องว่ากระทำการโดยมิชอบได้หรือไม่  :slime_cool:

คาใจจริงๆ เรื่องนี้

คนหนึ่งอยากเป็นประธานาธิบดี อีกคนอยากเป็นประมุขฝ่ายพุทธ
มันช่างเหมาะเจาะลงตัวอะไรกันเช่นนี้

 :slime_smile:

เมื่อสังคมอ่อนแอทางปัญญา...มารก็ย่อมมีพลัง :slime_worship:

น้ำลดตอผุด
ถ้าถือโอกาสถอนรอบนี้ซะให้หมดก็คงดี
กลัวแต่ชักช้ายืดยาด น้ำขึ้นก็เงียบ

ผลุบๆโผ่ลๆ ไม่จบไม่สิ้นซํกที

เป็นพระแต่ไปโจมตีคนอื่นก็ผิดแล้ว

ยิ่งร่วมมือกับพวกลิ่วล้อสร้างความวุ่นวาย ขับไล่คนดีของบ้านเมือง
......

จะบำเพ็ญไปเพื่ออะไร  :?:

ไอ้เเว่น.. ไม่ใช่ พระ...

ธรรมโกย.. ไม่ใช่  วัด...

อาตมาชอบแล้ว...นะจ๊ะ
รักนะ... จุ๊บ จุ๊บ...
 :slime_bigsmile:

ไม่อยากลามปามเรื่องความเชื่อของใครหรอกนะ แต่ไอ้นิกายจานบินนี่เชื่อไปได้ไง เอาสมองส่วนไหนคิดน้า กรรม :slime_worship:

แม่ยายของผู้นำฝ่ายสาธารณรัฐ สังกัดวัดนี้ค่ะ  :slime_bigsmile:

ลัทธิจานบินดูดทรัพย์นี่โดนลากไส้มาหลายที แต่ยังไม่ยอมตาย

นักการเมืองบางคนชอบเข้าไปฝังตัว หวังฐานเสียงจากสาวกลัทธิจานบิน

ตัวเจ้าลัทธิเอง ก็มักใหญ่ใฝ่สูงไม่หยุดซะที

เอ้า บริจาค ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ นะจ๊ะ

ไอ้สมีนะจ๊ะ

หลอกลวงคนไม่พอ อ้างหลวงพ่อสดไม่พอ

เลวเสียจริง

ข่าวเรื่องธรรมกายหนุนทักษิณมีมานานแล้ว

แต่ยังไม่มีการพิสูจน์ เพิ่งจะมีคราวนี้ที่เริ่มต่อจิ๊กซอว์

เห็นตัว "ไอ้โม่ง" ชัดขึ้น

http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y4661041/Y4661041.html
http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y5779543/Y5779543.html

ไหนๆก็พูดเรื่องธรรมกาย ผมขอฝากกระทู้แนะนำห้องศาสนาทั้ง 2 กระทู้หน่อยนะครับ มีขอแนะนำหน่อยนะครับ กระทู้แรกระวังตาบอดก่อนอ่านหมด เพราะเป็นกระทู้อมตะนิรันดร์กาล คิดว่าไม่ใช่แค่ห้องศาสนา แต่น่าจะเป็น 1 ในกระทู้ที่เก่าแก่ที่สุดในพันทิพที่ยังอยู่

ลูก'ป๋าเปรม'ปูดมีขบวนการล้มสถาบันแจกใบปลิวที่'อังกฤษ' ลูกศิษย์ยัน'พระธัมมชโย'ไม่เกี่ยว
     
วันที่ 04 พฤษภาคม 2551 - เวลา 20:40:12 น.
   
     

พล.อ.พงษ์เทพ  'องอาจ' จี้รบ.ตรวจสอบคำแถลงการณ์'ชาญวิทย์'ผู้ถูกกล่าวหาโจมตี 'ป๋า' พาดพิงถึง'พระธัมมชโย'เจ้าอาวาสวัดธรรมกาย



พล.อ.พงษ์เทพ เทศประทีป อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี คนใกล้ชิด พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ


 กล่าวถึงกรณีกองทัพไม่สบายใจที่วิกฤตการเมืองขณะนี้มีการก้าวล่วงสถาบันเบื้องสูงว่า ไม่อยากวิจารณ์

แต่ผู้ที่เป็นฝ่ายบริหารต้องใช้ดุลพินิจดำเนินการเรื่องนี้ สำหรับหน่วยงานด้านความมั่นคงคงมีมาตรการอยู่

 น่าจะเป็นมาตรการภายในที่ฝ่ายบริหารต้องดูแล ขบวนการเหล่านี้ทำมานานตั้งแต่ปี 2475 เป็นต้นมา เป็นพวกที่ไปรับอะไรของใครมา

ต้องยอมรับว่าการเปลี่ยนแปลงมีได้ตามความเหมาะสม ต้องดูความเป็นไทย คนไทยต้องการอะไร เพราะประเทศไทยมีประเพณีธรรมเนียมดีงามที่สืบต่อกันมา



'พวกที่เรียนต่างประเทศก็ไปรับเอาอะไรของใครมา แต่ไม่ใช่ทุกคน บางคนคิดเชิงสร้างสรรค์ อนุรักษ์เทิดทูนสถาบัน เพราะถือเป็นหลักชัยของบ้านเมือง

 เพราะในวิถีของเรา ผู้นำไม่ได้พิสูจน์ให้เห็นชัดเจนว่าเป็นผู้ที่เสียสละอย่างแท้จริง ยกตัวอย่างเวลาผมเดินทางไปต่างประเทศ ในประเทศที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหรือสถาบันเคยเสด็จไป

 พระองค์ท่านจะนำสิ่งดีๆ มาแล้วมาทำในบ้านเมืองเรา สร้างสิ่งดีให้กับประชาชนเป็นหลัก ไม่ได้ทำให้กับส่วนตัว

แต่ตรงกันข้ามกับฝ่ายการเมืองบางส่วน อยากให้ฝ่ายการเมืองเร่งพิสูจน์ตรงนี้ เพราะยังไม่มีอะไรที่ทำให้เห็นว่าเขาทำให้ประชาชน' พล.อ.พงษ์เทพกล่าว




เมื่อถามว่า การเมืองเวลานี้พยายามดึงสถาบันมายุ่งเกี่ยว พล.อ.พงษ์เทพกล่าวว่า


ไม่เฉพาะแค่นี้ มีหลายอย่าง ต้องไปดูข้อมูลของหน่วยงานด้านการข่าว


 อย่างต่างประเทศในอังกฤษมีขบวนการมากมาย เช่น ไปเดินแจกข้อความตามร้านอาหาร เป็นเรื่องการทำลายสถาบันทั้งนั้น คงคิดว่าตามไม่ติด จับไม่ได้คาหนังคาเขา ทำอะไรไม่ได้ แต่รู้แก่ใจว่าทำอะไรอยู่



'เราเลือกนักการเมืองกันมาเองแล้วมาบอกว่าเขาไม่ดีได้อย่างไร เมื่อเลือกมาแล้วต้องให้โอกาส เราจะไปใช้วิธีแบบอื่นก็ดูไม่ดี

นักวิชาการ รวมถึงข้าราชการประจำมีบทบาทสูงที่จะให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่คิดถึงตำแหน่งหน้าที่มากนัก แต่ข้าราชการกลัวถูกย้ายถูกปลดกัน ประคองตัวกันจนลืมหลักการก็มีบ้าง ทั้งที่คนมาถึงการบริหารงานระดับสูงแล้วไม่ต้องไปกลัวอะไร หากกลัวก็ไม่ต้องเป็น' พล.อ.พงษ์เทพกล่าว




เช้าวันเดียวกัน ก่อนนายสมัครจะเข้าห้องบันทึกรายการ 'สนทนาประสาสมัคร' ที่สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ได้มีชายคนหนึ่งสวมเสื้อสีเหลือง อ้างตัวเป็นกลุ่มพี่น้องข้าราชการ ประชาชน ผู้รักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์


เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายสมัครผ่านเลขานุการส่วนตัว เรียกร้องให้นายกฯ นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายเผชิญ ขำโพธิ์ รักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์


รับผิดชอบกรณีปล่อยให้เอ็นบีทีเผยแพร่สารคดีการล่มสลายของกษัตริย์เนปาล ปล่อยให้ผู้มาออกรายการสวมเสื้อที่มีข้อความว่า 'ไม่ยืน-ไม่ใช่อาชญากร คิดต่าง-ไม่ใช่อาชญากรรม' ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มไม่รักในหลวง ออกอากาศโดยไม่มีการทักท้วงใดๆ



ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมว่า ขอให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองตรวจสอบคำแถลงของนายชาญวิทย์ จริยานุกูล

 ผู้ถูกกล่าวหาอยู่เบื้องหลังเอกสารโจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี รวมถึงเอกสารที่มาประกอบการแถลงข่าว เนื่องจากมีหลายตอนหมิ่นเหม่จาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง พูดคล้ายกับรัฐมนตรีคนหนึ่งให้ร้ายประธานองคมนตรี นอกจากนี้พรรคจะพิจารณาดูว่าคำแถลงดังกล่าวเข้าข่ายหมิ่นประมาทหรือไม่ หากเข้าข่ายก็จะใช้ขั้นตอนทางกฎหมายเพื่อปกป้องชื่อเสียงของพรรคต่อไป



ผู้สื่อข่าวสอบถามเจ้าหน้าที่วัดพระธรรมกาย และผู้เกี่ยวข้อง กรณีนายชาญวิทย์กล่าวพาดพิงถึงพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เป็นผู้แต่งเพลงในซีดีมีเนื้อหาโจมตี พล.อ.เปรม


ปรากฏว่าทุกคนต่างปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล




แหล่งข่าวจากลูกศิษย์พระธัมมชโยรายหนึ่ง ซึ่งมาร่วมปฏิบัติธรรม กล่าวว่า




พระธัมมชโยไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ฉะนั้นอย่าว่าแต่การกล่าวให้ร้ายป้ายสีใคร หรือไปทำเหตุให้เกิดความเสื่อมเสียแตกแยกในสังคมเลย

 แม้แต่คำพูดคำจายังไพเราะมากไม่ใช้สำนวนการพูดคุยอย่างชาวบ้านทั่วไป ดังนั้นใครกล่าวให้ร้ายพระธัมมชโย นรกจะถามหาโดยไม่รู้ตัว




น.ต.ฐิติ นาครทรรพ อดีตเลขาธิการพรรคสามัคคีธรรม นายทหารผู้เคยประสานนักการเมืองมาสนับสนุน พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตประธานคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (รสช.) เป็นนายกรัฐมนตรี จนส่งผลให้เกิดเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535


กล่าวถึงกรณี พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมือง โดยดึงชาติและสถาบันมาเป็นเครื่องมือทางการเมืองว่า ทหารเหมือนกับประชาชนทั่วไปที่ห่วงใยประเทศชาติ เมื่อมีคนออกมาโจมตีชาติและสถาบันก็ยิ่งทำให้เป็นห่วงมากขึ้น เปรียบเหมือนคนออกมาด่าทอพ่อแม่โดยไม่มีเหตุผล ก็ต้องออกมาปกป้องอยู่แล้ว



น.ต.ฐิติกล่าวต่อไปว่า การปล่อยปละละเลยให้คนออกมาโจมตีสถาบันอย่างต่อเนื่องเหมือนกับพ่อแม่ถูกลบหลู่ ไม่มีทหารคนไหนไม่สบายใจ


 แต่เหตุในลักษณะนี้ไม่อาจทำให้ทหารอ้างเหตุออกมาปฏิวัติได้ แต่ถ้าประเทศชาติแตกความสามัคคี เกิดการปะทะกันรุนแรงถึงขั้นนองเลือด ทหารต้องออกมารักษาความสงบให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง แต่เหตุการณ์ช่วงนี้บอกได้เลยว่าทหารคงไม่ออกมาและไม่มีทหารคนใดต้องการให้ม ีการปฏิวัติเกิดขึ้น สถานการณ์ขณะนี้ควรมีผู้หลักผู้ใหญ่ออกมาช่วยประคองเพื่อให้เกิดการปรองดองในสังคม

 ความจริงการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีทางออกมากมายที่จะไม่ทำให้เกิดกระแสต่อต้าน เช่น แก้ไขมาตรา 237 และ 309 แต่ควรเขียนบทเฉพาะกาลให้มีผลบังคับใช้ใน 2-3 ปีข้างหน้า เป็นต้น



ผู้สื่อถามว่า นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชนระบุว่า ได้รับรู้แผนการปฏิวัติของทหารอีก มีการวางแผนจับรัฐมนตรีบางคนขึ้นเฮลิคอปเตอร์ น.ต.ฐิติกล่าวว่า

เป็นแผนของนายสมัครที่สร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการปฏิวัติ น่าจะเป็นการแต่งเรื่องขึ้นมาปรามทหารกลุ่มที่มีความพยายามให้เกิดอาการปอดเเหกไม่กล้าก่อการมากกว่า

ส่วนที่นายสมัครรับรู้ข้อมูลว่ามีทหารกลุ่มหนึ่งมีความพยายามอยู่ อาจเป็นเพราะมีพี่ชายเป็นนายพล มีเพื่อนฝูงจำนวนมากเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ทำให้มีข้อมูลทางด้านการทหารพอสมควร แต่ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง


http://www.matichon.co.th/news_title.php?id=1966


แล้วไอ้เเว่นที่ไม่ใช่ พระ แต่ยังทำตัวเป็น พระ และก็ยังมีคนเรียกว่า พระ..



"นรก"จะถามหารึไม่...!!!???

*   อยากรู้แค่อย่างเดียวว่า ..............

     ทำออกมามากมายขนาดนั้นใคร   คือ  สปอนเซอร์  ที่ออก  ทุน ... ให้

     อย่าพูดว่า   เอาเงินส่วนตัวเป็นหลักล้าน   .....  เพื่อที่จะมา   ทำหนังสือแจกฟรี  นะ 

     บอกตรง ๆ ว่า ....  ไม่เชื่อ

     ส่วนกรณี  CD เพลง .... ไม่รู้เนื้อหาเขียนว่าอะไรมั่ง  แต่ถ้าเนื้อหาของเพลงเป็นลักษณะโจมตี ( จริง ๆ )

     ทำไมไม่เอาผิดหล่ะ  ???  เพราะ  รู้ชื่อคนแต่ง  แล้วนี่   ( ถึงจะเป็นพระก็เหอะ  )

พอรอดคุกมาได้ ก็เลยหันมาเชียร์แม้วแบบสุดลิ่มทิ่มประตูเลยนะจ๊ะ
จะด่าว่าเป็นพระHereก็ไม่ได้ เพราะมันไม่ใช่พระ....เอิ้กกกกกก
 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:

พระที่ไหนละเพ่

มันเป็น สมี

ตอนนั้นวันวิสาขะบูชา มันเอาผู้ประกาศข่าวช่อง 7คนนึง ที่เป็นลูกศิษฐิ์อะนะ มาใส่ชุดคลีโอพัตตรา ถือผ้าไตร

ดูแล้วทุเรศลูกตาชิบเป๋ง

เมื่อซักปีที่แล้ว มันหาตังค์สร้างวิหารบ้าไรไม่รุ โมดุนละ 5ล้าน

มีตั้งเป็น 2ร้อย 3ร้อยโมดุนเลยมั้ง

ที่สำคัฯมันชอบเอาพวกที่ทุ่มๆใส่เงินเป็นล้านๆมาออก เพื่อโฆษณาว่า คนศรัทธาแล้วได้ดี

ลัทธิซาตาน ชิบหาย

ศรัทธาหรือสัตว์ทา FAITH OR FAKE  

***...คนหัว***อย่างมึงไม่เคยอาย กาย...ธรรมกาย มันกัดกินใจให้งมงาย
ทำ..ศาสนาแห่งธรรม ต้องพินาศ ลวง..ประชาชน ด้วยอิทธิพลอิทธิฤทธิ์ยูเอฟโอ

ทำที่ทางซะใหญ่โต โชว์ว่าคนนั้นเลื่อมใสกู
มันแต่งหน้า ทาปากสีชมพู
ทำใบหูยานๆไว้ ลอกเลียนพระที่ปล่อยวางแล้ว
น่าศรัทธา ธรรมะแค่กาย-ใจเป็นเงิน

เปลี่ยนธรรมะให้เป็นอัตตา เปลี่ยนศาสนาให้เป็นความโลภ
เปลี่ยนความดีให้เป็นความโฉด อาณาจักรธrrมBshโย
ศรัทธาหรือสัตว์ทาที่มี มึงเป็นพระกลับมายํายี
ศาสนาเก่าแก่พันปี พระพุทธองค์ทรงถอนใจ

*****************************************

มอบแก่ท่านผู้เป็นเจ้าสำนักลัทธิซาตาน และลูกศิษฎ์ของอาจารยืไม่ใหญ่ทุกท่าน 5555555555 :slime_evil: :slime_evil:

http://music.mercigod.com/play.php?songid=7398 (http://music.mercigod.com/play.php?songid=7398)

ถ้าพวกนี้ยึดครองได้ทั้งอาณาจักร และศาสนจักร
มันจะเกิดอะไรขึ้นบนแผ่นดินแม่ของพวกเราครับ

 :slime_fighto:

หลังจากตะลอนขึ้นศาลสงฆ์และศาลอาญามาตั้งแต่ปี 2542นั้น ธัมมชโยก็ให้
เหล่ากัลยาณมิตรวัดพระธรรมกายออกมาส่งเสียง "ขอความเป็นธรรม" เป็น
ระยะๆ อ้างว่าทำคุณงามความดีเพื่อประเทศชาติศาสนามามากมาย ควรจะ
นิรโทษกรรมท่านธัมมชโยเสีย แต่กระพรวนบนคอแมวนั้น นอกจากจะหาหนู
ใจกล้านำไปผูกได้ยากแล้ว หนูตัวที่จะนำกระพรวนออกก็ยิ่งหาได้ยากกว่า
ดังนั้นคดีดัง "ธรรมกาย" เมื่อเข้าสู่ศาลอาญาแล้ว ตามหลักก็จำเป็นต้อง
ดำเนินการไปจนสิ้นสุดกระบวนการ ซึ่งประมาณว่า คดีนี้จะสิ้นสุดใน
ประมาณปลายปี 2549 แต่จะออกลูกผีหรือลูกคนก็ไม่มีใครทายใจศาลอาญา
ได้

การที่คดีอาญาของพระธัมมชโยจะเดินไปสุดทางนั้น แปลได้ 2 ความหมาย
คือ 1.ถ้ารอด ก็เท่ากับว่าธัมมชโยเสมอตัว แต่ที่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลมานานถึง 7
ปีนั้น ก็นับว่าเป็นเคราะห์กรรมมหันต์ และ 2.ถ้าศาลพิพากษาว่าธัมมชโยผิด
ก็หมายถึงว่าต้องติดคุก ซึ่งพระที่ต้องคดีอาญาถึงติดคุกนั้นตามกฎหมายไม่
สามารถจะเอาเข้าคุกทั้งผ้า เหลืองได้ ต้องเปลื้องผ้าเหลืองออกเสียก่อน
หมายถึงว่า พระธัมมชโยต้องสึกสถานเดียว !

แต่ปัญหามันมิได้มีเพียงเท่านั้น เพราะท่านธัมมชโยนั้นเป็นถึงระดับ
ปรมาจารย์ เป็นผู้ก่อตั้งวัดจนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก วัดพระธรรมกายตั้งแต่เกิด
จนโตขึ้นมาได้ทุกวันนี้นั้นก็เพราะท่านธัมมชโย การจับพระธัมมชโยสึกจึงเป็น
การทำลายวัดพระธรรมกายจนถึงรากถึงโคน เพราะถ้าไม่มีพระธัมมชโย
รับรองว่ากัลยาณมิตรคุมกันไม่ติดแน่ แต่ในฐานะที่วัดพระธรรมกายนั้น
ใหญ่โตรโหฐาน มีสาวกนับแสน การจะจับเจ้าสำนักสึกจึงมิใช่เรื่องง่าย รับรอง
ว่าจลาจลแน่ แต่เหนือนิติศาสตร์ก็ยังมีรัฐศาสตร์ ซึ่งตรงนี้อัยการสูงสุดได้
นำมาทำเป็นลูกกุญแจดอกที่สอง สำรองไว้ไขความสำหรับการไว้ชีวิต
พระธัมมชโยและคณะวัดพระธรรมกายในครั้งนี้

ความเก่งกาจระดับซูเปอร์เซียนของทีมกฎหมายวัดพระธรรมกายนั้น ต้องขอ
ยกนิ้วให้ว่า "ยอดเยี่ยมระดับโลก" ขอโฆษณาไว้ ณ ที่นี้เลยว่า ถ้าใครไหน
ต้องคดีอะไร ไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ก็ขอให้ไปติดต่อท่านธัมมชโยเพื่อขอให้ทีม
ทนายมาช่วยว่าความให้ เพราะไม่น่าเชื่อว่า เรื่องใหญ่ระดับประเทศนั้น
ทนายความทีมนี้สามารถปลดชนวนระเบิดปรมาณูลูกใหญ่ ขนาดสามารถ
ทำลายอาณาจักรธรรมกายหลายหมื่นล้าน ให้หมดฤทธิ์ลงได้อย่างง่าย โดย
ใช้กุญแจดอกที่ชื่อว่า "สมานฉันท์" ผ่านมือนักปลดชนวนคดีทางการเมืองชื่อ
ก้องโลก "ทักษิณ ชินวัตร"

ทีมกฎหมายวัดพระธรรมกาย ใช้ตรรกวิทยาที่ว่า ในเมื่อไม่มีหนูตัวไหนเป็นใจ
อยากไปปลดกระพรวนบนคอแมวออก ก็เห็นจำเป็นต้องใช้หนูตัวเดิมที่เอา
กระพรวนผูกคอแมวไว้นั่นแหละ ซึ่งในการฟ้องร้องต่อศาลอาญานั้นเป็น
อำนาจหน้าที่ของอัยการสูงสุด อัยการสูงสุดจึง ถูกกำหนดให้เป็นหนูตัวที่ต้อง
ไปดึงเอากระพรวนบนคอแมวคือศาลอาญาออกมา เพราะผู้ผูกย่อมรู้ทางแก้
และสมการนี้แหละที่ทำให้วงการนักกฎหมายไทยต้องตะลึงเป็นคำรบสอง
รองมาจากคดีซุกหุ้นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งผ่านมาด้วยวาทะว่า
"บกพร่องโดยสุจริต" นั่นเอง

ลำดับเหตุการณ์ระทึกใจในการ "ปลดชะนวนระเบิดวัดพระธรรมกาย" นั้นมี
ดังนี้

1. วันที่ 18 กรกฎาคม 2549 กระทรวงมหาดไทยได้กำหนดจัดงาน “รวมใจทุก
ศาสนา พัฒนาท้องถิ่นไทย ถวายองค์ราชา ครองราชย์ 60 ปี” ที่วัด
พระธรรมกาย จ.ปทุมธานี มีการเชิญ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
หัวหน้าพรรคไทยรักไทย ไปเป็นองค์ปาฐก

2. วันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ.2549 ศาลอาญารัชดา โดยนายสุนพ กีรติยุติ ผู้
พิพากษาอาวุโส และองค์คณะ ออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำสั่งอนุญาตให้ "ถอน
ฟ้อง" คดีที่พระราชภาวนาวิสุทธิ์ หรือ พระไชยบูลย์ ธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาส
วัดพระธรรมกาย และลูกน้องคนสนิท ตกเป็นจำเลยในข้อหายักยอกทรัพย์
เงินบริจาควัดมูลค่าเกือบ 1,000 ล้านบาท

โดยศาลอ้างเหตุผลว่า

1. เพราะว่าจำเลยได้คืนทรัพย์สนที่ฉ้อโกงมาจากวัดพระธรรมกาย จำนวน
1,000 ล้านบาท คืนให้แก่วัดหมดแล้ว 2. ถ้าหากดำเนินคดีนี้ให้สิ้นสุด อาจจะ
เกิดความแตกแยกระหว่างพุทธศาสนิกชน ที่สังคมตั้งคำถามก็คือว่า การที่
อัยการออกหน้าดึงเรื่องกลับมาจากศาลในครั้งนี้ ถ้าไม่มีคนที่ชื่อ "ทักษิณ ชิน
วัตร" ส่งสัญญาณให้แล้ว ลำพังอัยการจะกล้าหาญกระทำการเองหรือ หรือ
ถ้าคิดจะทำ ทำไมไม่ทำตั้งแต่ก่อนหน้านี้ ปล่อยให้คดีค้างคาศาลมานานถึง 7
ปีได้อย่างไร และทำไม พอทักษิณกลับจากวัดพระธรรมกายได้ เพียง 35 วัน
ศาลก็ออกนั่งบัลลังก์สั่งถอนคดีตามคำขอของอัยการ ?????

ปิดท้ายรายการด้วย นายถวิล สมัครรัฐกิจ ผู้อำนวยการสำนักงาน
พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ออกมาประกาศว่า "เมื่อศาลสั่งจำหน่าย
คดีอาญาแล้ว คดีทางสงฆ์ก็ถือว่าสิ้นสุดไปด้วย" แปลว่า สำเร็จ พระธัมมชโย
พ้นบ่วงกรรมแล้ว บริสุทธิ์ผุดผ่องเป็นยองใย โดยไม่ต้องผ่านศาลไหนให้ตัดสิน
ทั้งสิ้น ใช้ระบบ "ลอบบี้" หรือวิ่งเต้นมันจนวินาทีสุดท้ายนี่แหละ ตำราจีบของ
แม๊กอินทอชเขาว่า "ตื๊อเท่านั้นที่จะครองโลก" และมันก็เป็นทฤษฎีที่ยังเวิร์คอยู่
ใครไม่เชื่อก็ดูเอาเองเถิด

เรื่องนี้ในแวดวงพุทธศาสนิกชนคนไทยที่สนใจเรื่องหวยเรื่องเบอร์มากกว่า
เรื่องพระธรรมวินัย ก็คงไม่มีใครคิดว่า "มันสลักสำคัญอะไร" เรื่องหลวงพี่
น้ำฝนศิษย์หลวงพ่อพูลวัดไผ่ล้อม โดนห้ามให้หวยนั้นยังใหญ่กว่าเสียอีก เรื่อง
สำคัญระดับ "นักปราชญ์ทะเลาะกัน" นี้ จึงมีเพียงนักปราชญ์ไม่กี่คนเท่านั้นที่
สนใจให้ความสำคัญ เชื่อไหมว่าถ้าปี้ส่างไม่นำเรื่องนี้มาฉายซ้ำ หลายคนดู
เหมือนจะลืมเลือนไปแล้ว ที่ต้องบันทึกร่วมไว้ในหน้าเดียวกันก็คือว่า ผลงาน
การหลุดคดีนี้ของพระธัมมชโยนั้น นักปราชญ์ทางศาสนาเขาจัดให้เป็นผลงาน
"โบว์ดำ" ชิ้นสุดท้ายของรัฐบาลทักษิณก่อนจะสิ้นอำนาจด้วย

http://forum.serithai.net/index.php?topic=14979.msg196995


 :slime_surrender:

แค่อัตตากับอนัตตาก็แยกแยะไม่ได้แล้ว เรื่องพรรณอย่างนี้มันส่อให้เห็นความเสื่อมของสภาพสังคม ไม่เว้นแม้แต่วงการสงฆ์ :slime_hmm:

ไอ้สมีนี่ก็ดีไปอย่างนะ หรอกไอ้พวกรวยๆแต่ไร้สมองให้หมดตัวกันเป็นแถวๆ

ถวิลเอ๋ย
อย่าอยู่ทำให้พุทธศาสนามัวหมองมากไปกว่านี้อีกเลย
นายรู้ไหมว่าในทางพุทธศาสนา "แค่ผิดก็ผิดแล้ว"

 :slime_evil:

อ๋อ...
ประมุขลัทธิลูกแก้วนี่เอง ที่แต่ง
แล้วมีรองประมุข ที่อ้างว่า เป็นแม่ชีปัดระเบิดด้วยใช่มั้ยคะ...
เหอเหอเหอ...
 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:

จากจิ๊กซอว์ชิ้นต่างๆ ทำให้เชื่อได้ว่า ทักษิณน่าจะมีส่วนช่วยเหลืือให้เจ้าอาวาส หลุดคดี

ผ่านการถอนฟ้องจากอัยการสูงสุด



ถ้า ทักษิณ เป็นพระภิกษุ ก็ต้องเรียกว่ามีส่วนสนับสนุนให้ทำกรรมขั้น อนันตริยกรรม

ทำให้สงฆ์แตกแยก อันเป็นกรรมขั้นหนักที่สุด


สุดท้ายก็ กรรมใครกรรมมัน

รอดูต่อไปก็แล้วกัน

ไม่นับทำประชาชนแตกแยก

แถมทำสโมสร-แฟนบอลแตกแยก

บาปหนา.. บาปหนา :slime_worship:

ผมมีเก่าแก่กว่านี้ แต่ว่าฮาร์ดดิสเสีย เลยไม่มีเหลือ
แต่ว่าพิมพ์เก็บเอาไว้ด้วย

ที่แน่ๆ ยังมีคนเอากระทู้เก่าๆ ไปพิมพ์รวมเล่มด้วย
เสียดายที่ไม่ได้ซื้อเก็บไว้ ตอนนั้นยังคุยอยู่ใน
ห้องสมุดอยู่เลย ไม่มีห้องศาสนา

 :slime_sentimental:

=============================================

เคยพูดเรื่อง ธรรมกาย  ทักษิณ   มือถือไปแล้วนะครับ จะเล่าให้ฟังใหม่

---------------------------------------------------------------------------------

เอาเรื่องที่ทุกคนทราบก่อนนะครับ (fact)
   1 dtac และ ais ได้มีการเปลี่ยนมือผู้ถือหุ้นใหญ่ในเวลาใกล้เคียงกัน
   2 dtac ขายให้ telecom-norway และ ais ขายให้ สิงค์เทล
   3 ผู้ถือหุ้นใหญ่ ดีแทคตอนนั้นคือ ตระกูล เบญจรงคกุล    ais คือ ชินวัตร

   ถ้าหลายท่าจำได้ตอนเปลี่ยนกฎหมายอัตราการถือหุ้น บริษัทโทรคมนาคมในไทย
ไม่กี่วันก็มีการขาย ทั้งคู่ ซ้ำยังเป็นข้อแก้ตัวของลิ่วล้อว่า dtac ก็ไม่ใช่ของไทย

แต่ถ้ามองไปว่า ทั้งสองมาร่วมด้วยช่วยกันได้อย่างไร  อันนี้มุมมองเดียวง่ายๆ คือมองจุดร่วมของกันและกันครับ

ทั้งคู่ ศิษย์ ธรรมกายครับ  สำหรับทางเบญรงคกุล หลักฐานหาดูได้จาก google ครับ

ส่วนของทางชินวัตร เวปนี้ก็มีภาพ ทักษิณ ถือพานรูปเพชร ของธรรมกายแหละครับใช่เลย

วิจัย ใจภักดี และ นำชัย ประสานชัย ผู้เขียนหนังสือ "เปิดหน้ากากผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ ความจริงวิกฤติการเมือง "

ใช้นามแฝง DJ ต้น7777 ตอบกระทู้ในเว็บบอร์ดการเมืองแห่งหนึ่ง

ก็คือนาย 2 คนนี้ คนใดคนหนึ่ง

ใกล้แล้วครับ วิสาขบูชาที่จะถึงนี้ รวมพลนักเรียนทั่วประเทศ  โครงการ vstar บ้าบออะไรก็ไม่รู้ ให้เด็กนักเรียนทำความดีเพื่อหวังแลกกับ สติกเกอร์

 :slime_surrender:เฮ้อ มาร ครองเมือง สงสารคนไทยจัง

วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา วัดของเรา

เมื่อผมอ่านทุก  ความคิดเห็นของพวกคุณทุกคนผมก็รู้ได้ทันทีว่า  ไม่มีใครได้เคยเข้าวัดนี้เลยใช่มั้ยครับ  หรือเข้าก็ไม่เกิน 2  ครั้ง  เพราะความรู้ที่พวกคุณสาด  มาในกระทู้แห่งนี้  ช่างไม่มีความคิดเสียเลย  ทำไม่ถึงพูดแบบนั้น  ก็เพราะว่าผมเอง  เด็กต่างจังหวัดคนหนึ่ง เข้าวัดมา 3 ปี กว่าๆ  ยังรู้เป้าหมายในชีวิตมากกว่าพวกคุณที่ตอบมาในกระทู้เสียอีก  คุณฟังแค่ความข้างเดียว  คุณไม่เคยลองไปสัมผัส  ลองไปพิสูจ  แล้วคุณไปตัดสินได้อย่างไรว่าไม่ดี  แล้วท่อยค่ำที่ว่าหลวงพ่อแบบนั้น  ให้รู้เอาไว้เถิดว่า  สิ่งทีมันทรมาณยิ่งกว่าคำว่านคร  กำลังรอคุณยินยันการเป็นสมาชิกอยู่  ในวันที่คุณ  หมดลมหายใจ  ไปวัดวันอาทิตย์แล้ว  ขออโหสิกรรมกับหลวงพ่อซะ 
พระที่วัด  อยากบอกให้รู้นะครับ  ปฏิบัติดี-ชอบมากกว่าที่ไหนๆ  มีความคิด  พร้อมด้วยคุณสมบัติมากมายน่าเคารพกราบไหว้  เป็นที่สุด  เพราะผมสัมผัสมาแล้ว  และยังแน่ใจด้วยว่าม่าไหว้กว่าไอ้พวกที่โพสมาในกระทู้นี้เสียอีก  ทั้งการศึกษาทางโลก และความจริงของชีวิต  เพราะพวกท่านไม่เคยรู้อะไรเลย  ฟังแต่ข่าว  ไม่เคยใช้ความคิดเเละพิสูจเลย  วัดนี้เป็นวัดที่ดีมากกกก  ผมท้าเลย  ลองเข้าไปนั่งปฏิบัติธรรม  สัก  1  อาทิตย์  ชีวิตที่มืดมนของพวกคุณ  จะเปลี่ยนไปด้วยแสงเเห่งธรรมทันที  ทางมาแห่งบุญรอคุณอยู่  บุญแค่ไหนแล้วที่ได้เกิดมาแล้วได้ยินชื่อวัดพระธรรมกาย  ขอให้ลองไปพิสูจน์ครับ  แล้วอย่าลืมไปขออโหสิกรรมกับหลวงพ่อหละ  เพราะวาจาที่แต่ละคนพูดออกมาในกระทู้นั้น  ผมไม่อยากจะประเมิณวิบากกรรมที่จะตามมาเลย   เตือนแล้วนะ





ถ้าไม่รู้จริงก๊อย่าพูด

จาก  ลูกพระธัมฯ หลานคุณยาย หลานหลวงปู่

อ่านแค่กระทู้ก็รู้แล้วว่าเค้ามีเป้าหมายในชีวิตแค่ไหนยังไง :slime_agreed: :slime_bigsmile:

เคยเปิดดู DMC แล้วก็ต้องปิด วัดน่ะเข้าบ่อยเลย พอแยกแยะออกว่าอะไรเป็นอะไร ท่านที่ไม่เคยเปิดดูก็ลองเปิดนะครับ
ความเห็นส่วนตัวผมเข้าวัดใกล้บ้านดีกว่า สบายใจกว่าเยอะ

555555555

ผมเข้าวัดนี้มานานมากเเล้ว  ตั้งแต่สมัย เอารูปไปฉายบนท้องฟ้านะ คิดว่านานมั้ยละ

ผมไม่รู้นะว่าคุณคิดอย่างไร กับการขายโมดุน โมดุนละ5ล้าน การขายจานดาวเทียม



แต่ปัจจุบันผมรู้สัจจะธรรมแล้วว่า การใช้วิธีแบบคุณนะ(หลวงพ่อสดประยุกต์) การเพ่งลูกแก้ว

คือการเข้าสมาธิ แต่คุณยังติดอยู่แค่รูป เป็นนิมิต

การเข้าสมาธิ ที่แท้คือสานอานาปานสติ แบบหลวงปู่มั่น

อีกแบบหนึ่งคือการฝึกของ หลวงปู่พุทธอิสระ ซึ่งก็เป็นอานาปานสติ

หรือการฝึกให้รู้ตัวเสมอ เช่นแนวทางของท่าน ติช นัท ฮันห์

อ่านได้ใน The miracle of being awake

แต่ถ้าคุณอยู่กับพระขายของ ก็เตรียมซื้อศาลไว้ละกัน ไว้เป็นภุมเทวา  :slime_bigsmile:

พระบ้าอะไรพูดจ๊ะจ๋า คำสอนก็งั้นๆ ผมไม่กลัวบาปหรอกในการด่าคนๆ นี้ ถ้าผมด่าคนดี ด่าพ่อแม่สิถึงจะตกนรก นี่ผมด่ามารผ้าเหลือง พระที่รวยที่สุดในโลกมั๊ง กรรมมีจริงถึงตามไม่ทันชาตินี้ แต่โลกหลังความตาย ธรรมะชะโด ไม่ลอดแน่

อยากด่าไอ้วัดนี้อีกเรื่องนึง
ไอ้กราฟฟิกประกอบคำบรรยายเทวดาห่าเหว วิมานนรกนั่น ห่วยสิ้นดี
ไอ้เพลงประกอบคำสอนที่มันเอามาเปิดทางทีวี เปิดกรอกหูคนเข้าวัดนั่นก็มั่วสิ้นดี
สั่งสอนสั่วๆ พูดแค่ส่วนเดียว ไม่ถูกหลักไม่ถูกเรื่องเอาซะเลย ตัวอย่างประกอบในเพลงก็ห่วย
ชวนคนเขวหลงประเด็น หลงจากหลักธรรมที่ของพระพุทธเจ้า

มัวแต่หลงอยู่กับแสงจากลูกแก้ว ไม่รู้จักมองแสงจากพระธรรมบ้าง

 :slime_hitted:

ตั่งศาสนาใหม่เหอะ วัดนี้

ไม่ใช่ พุทธเเล้ว

เห็นด้วยกับคุณแอ่นแอ๊น
คิดว่า ควรมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีอัยการถอนฟ้องนี้ เพื่อ สร้างความกระจ่างให้กับสังคม ที่ยังค้างคาใจในกรณีนี้มาก
หรือ จะมีช่องทางอื่นไหน ใครรู้ช่วยบอกที (ที่ประชาชนสามารถร่วมกันตรวจสอบได้)

ลูกศิษย์ มาแล้วนะจ๊ะ  :slime_bigsmile: