ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: oho ที่ 22-04-2008, 20:16



หัวข้อ: ถ้ำลิเจียขุมทรัพย์ญี่ปุ่นของร.ต.ท.เชาวริน(พปช.) กับเรื่องหลอกค-วายของแก๊งเหลี่ยม
เริ่มหัวข้อโดย: oho ที่ 22-04-2008, 20:16
การันตีขุมทรัพย์ลิเจีย'มหึมา' 'เชาวริน'ฟุ้งแค่พันธบัตร กว่า5หมื่นล.ดอลล์  :slime_p:
http://www.chaliang.com/Board-Detail.asp?ID=02568

ข่าวใหญ่ระดับชาติ พวกเราว่าต่อไปจะเป็นยังไงกันฮับ

(http://travel.sanook.com/story_picture/b/01268_168.jpg)

การันตีขุมทรัพย์ลิเจีย'มหึมา'
'เชาวริน'ฟุ้งแค่พันธบัตร กว่า5หมื่นล.ดอลล์
อ้าง'ทักษิณ'ร่วมวง ขยับโรดโชว์ขายเศรษฐีฝรั่ง
"โกโบริน"ยืนยันมีทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาลภายในถ้ำ "ลิเจีย" จริง ฟุ้งเฉพาะแค่พันธบัตรอย่างเดียว 13 รายการ มูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว อ้างได้รับพระบรมราชานุญาต ให้เข้าเฝ้าฯวันที่ 17 เม.ย.นี้ พร้อมทั้งไม่สนใจกก.ที่อธิบดีป่าไม้ตั้งให้เปิดปากถ้ำระบุต้องเป็นระดับชาติแล้ว ขณะที่นายกฯเตรียมใช้ดาวเทียมถ่ายภาพพิสูจน์ความมีอยู่จริงของขุมทรัพย์ดังกล่าว ก่อนไอเดียกระฉูดขยับ "โรดโชว์" พันธบัตรในต่างประเทศกับฝรั่ง เศรษฐีเพิ่มมูลค่า
  :slime_p:


(http://travel.sanook.com/story_picture/b/01268_134.jpg)

ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ว.ราชบุรี ในฐานะหัวหน้าทีมขุดค้นสมบัติทหารญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่สองภายในถ้ำลิเจียหรือถ้ำสุวรรณคูหา ที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ยืนยันว่า เขามีหลักฐานที่แสดงความมีอยู่จริงของทรัพย์สินที่คณะสำรวจขุดหาสมบัติของเขาเชื่อว่าถูกฝังอยู่ในถ้ำลิเจีย อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี และเตรียมที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัว หากได้รับพระบรมราชานุญาต ในวันที่ 17 เมษายนนี้

ฟุ้งแค่พันธบัตรมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านดอลล์   :slime_p:

ร.ต.ท.เชาวรินกล่าวว่า หลักฐานที่เป็นทรัพย์ สินส่วนหนึ่งที่คณะของเขาค้นพบ และนำออกมาตรวจสอบแล้วนั้น ส่วนหนึ่งเป็นพันธบัตรที่ออกโดยธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา จำนวน 250 ใบ มูลค่าใบละ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พันธบัตรทองคำแท่งอีก 250 ใบ มูลค่าใบละ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และพันธบัตรที่เกี่ยวข้องอื่นๆ รวม 13 รายการ มูลค่าทั้งสิ้น 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

(http://travel.sanook.com/story_picture/b/01268_009.jpg)

"ผมจะนำของที่ขุดได้จริงๆ ไปถวาย ไม่ใช่นำเป็นภาพถ่ายหรือถ่ายเอกสารไปทูลเกล้าฯถวาย ขณะนี้ทราบจากผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือท่านหนึ่งว่าผมอาจต้องเข้าเฝ้าฯเพียงคนเดียว ซึ่งผมได้ขอความกรุณาผู้ใหญ่ท่านนั้นว่าจะขอเข้าเฝ้าฯในวันที่ 17 เมษายนนี้ ส่วนสถานที่และเวลาก็แล้วแต่สำนักพระราชวังจะกำหนดมา" ร.ต.ท.เชาวริน กล่าว

ก่อนหน้านี้ ร.ต.ท.เชาวริน ระบุว่า หลังจากเข้าเฝ้าฯแล้วในวันที่ 18 เม.ย.จะเปิดแถลงข่าวพร้อมทรัพย์สมบัติที่พบทั้งหมดมาแสดงที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย  

ร.ต.ท.เชาวริน ชี้แจงว่า สาเหตุที่เขาไม่ได้ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ดูทรัพย์สมบัติที่ขุดได้นอกจากภาพถ่ายนั้น เนื่องจากของที่ขุดได้มีมูลค่ามหาศาล เฉพาะพันธบัตรอย่างเดียวก็มีค่าถึง 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงเกรงในเรื่องความปลอดภัย จึงเก็บของทั้งหมดไว้ในเซฟเฮ้าส์ที่กรุงเทพมหานคร


"ทักษิณ"ไอเดียกระฉูด"โรดโชว์"พันธบัตร

ด้านบุคคลที่ใกล้ชิด ร.ต.ท.เชาวริน คนหนึ่งเปิดเผยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เห็นพันธบัตรดังกล่าวแล้วและได้ปรารภกับร.ต.ท.เชาวริน ว่า หากนำพันธบัตรจำนวนดังกล่าวไปขึ้นเงินกับธนาคารกลางสหรัฐทีเดียวทั้งหมด รัฐบาลสหรัฐเองก็คงลำบากเหมือนกัน นายกรัฐมนตรีจึงมีแนวคิดที่จะนำพันธ บัตรดังกล่าว ออกทำโรดโชว์เสนอขายให้กับนักลง ทุนและเศรษฐีนักสะสมของเก่าทั่วโลก ซึ่งคาดว่าน่าจะได้ราคาสูงกว่าการนำไปแลกเปลี่ยนกับธนาคารกลางสหรัฐในคราวเดียว

ต่อมา ร.ต.ท.เชาวริน ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า เขาได้รับแจ้งจากสำนักพระราชวังให้เตรียมตัวเข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อถวายรายงาน และหลักฐานสมบัติที่คณะของเขาขุดพบในถ้ำลิเจียในวันที่ 17 เมษายนนี้ หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวทรงรับทราบเรื่องนี้แล้ว

"ขณะนี้พระองค์ท่านทรงทราบเรื่องนี้แล้ว และขณะนี้ผมได้รับการติดต่อจากผู้ใหญ่ให้เตรียมตัวเข้าเฝ้าฯวันที่ 17 เมษายนนี้ ซึ่งผมไม่ได้สวมชุดข้าราชการมานานกว่า 4 ปีแล้ว และมานอนที่ถ้ำลิเจียนาน 3 เดือนกว่า จึงต้องกลับไปเตรียมชุดเข้าเฝ้าฯให้เรียบร้อย" ร.ต.ท.เชาวริน กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงการเดินทางไปตรวจเหตุการณ์ที่ถ้ำลิเจียของนายปลอดประสพ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ วันเดียวกัน (15 เม.ย.) ร.ต.ท.เชาวริน กล่าวว่า เขากับนายปลอดประสพ เป็นเพื่อนกัน ขณะนี้หมดเวลาที่จะทะเลาะกันแล้ว ต้องหันหน้าเข้าหากัน แต่ที่ผ่านมาอาจมีอุปสรรคบ้าง นั่นเป็นเพราะฟ้าดินลิขิต แต่ตอนนี้ฟ้าเปิดแล้ว ต้องหันหน้าเข้าหากัน

"ผมได้โทรศัพท์คุยกับท่านอธิบดีแล้ว และได้คุยกันเป็นระยะๆ หากท่านมีอะไรก็สามารถโทรหาผมได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว ส่วนการมาของอธิบดีครั้งนี้ ท่านไม่ได้ติดต่อผมเป็นพิเศษ เพราะผมเป็นแค่ประชาชนธรรมดาเท่านั้น" ร.ต.ท.เชาวริน กล่าว



(http://travel.sanook.com/story_picture/b/01268_029.jpg)

แฉญี่ปุ่นพยายามค้นหาสมบัติมานาน  

ร.ต.ท.เชาวริน ยังกล่าวถึงพันธบัตรทางการเงินและพันธบัตรทองคำมูลค่าราว 2.5 หมื่นล้านบาท ที่ออกโดยธนาคารกลางสหรัฐ  ที่อ้างว่าเป็นหลักฐานสมบัติส่วนหนึ่งที่ขุดพบในถ้ำลิเจียที่ปรากฏเป็นข่าวว่า เขาไม่มีความรู้เรื่องพันธบัตรมากนัก จึงได้นำเรื่องไปปรึกษากับเพื่อนที่เรียนปริญญาเอกด้วยกัน เพื่อขอความรู้ ซึ่งข่าวที่ปรากฏนั้นส่วนหนึ่งอาจหลุดออกมาจากนักศึกษาคนใดคนหนึ่งในคณะที่ได้รับทราบเรื่องนี้ ทั้งที่เขาไม่ต้องการให้มีการเผยแพร่ออกไปก่อน

ร.ต.ท.เชาวริน ยังได้กล่าวแสดงความขอบคุณนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ที่ให้เขาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในสมัยที่ยังเป็น ส.ส.ของพรรคชาติไทย ทำให้เขาได้มีโอกาสขุดหาสมบัติในครั้งนี้ พร้อมกันนี้เขายังได้กล่าวขอบคุณไปยังพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ที่ไม่อนุญาตให้นักธุรกิจชาวญี่ปุ่นกลุ่มหนึ่ง สร้างถนนสายทองผาภูมิ-สังขละบุรี หลังจากที่พล.อ.เปรม ทราบจุดประสงค์ของนักธุรกิจกลุ่มนี้ว่า ต้องการเข้ามาขุดหาสมบัติในจังหวัดกาญจนบุรี ในสมัยที่พล.อ.เปรม ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี สมัยนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดช่วงเช้าวันเดียวกัน (15 เม.ย.) ยังมีสื่อมวลชนทุกแขนง รวมทั้งผู้สื่อข่าวจากนิตยสารไทม์ของอังกฤษ ให้ความสนใจขอสัมภาษณ์พิเศษร.ต.ท.เชาวริน ไม่ขาดสาย จากนั้นได้เดินทางออกไปจากพื้นที่ ก่อนที่นายปลอดประสพ จะเดินทางมาถึงราว 13.00 น.

(http://travel.sanook.com/story_picture/b/01268_170.jpg)

ร.ต.ท.เชาวรินยังกล่าวถึงกรณีที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ จะเดินทางมาทำการเปิดปากถ้ำลิเจียด้วยตัวเองว่า ไม่จำเป็นที่อธิบดีกรมป่าไม้จะมาเปิดถ้ำ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องระดับชาติไปแล้ว เกรงว่าประชาชนจะมองว่าไม่ โปร่งใส เพราะขณะนี้ได้พบสมบัติแล้ว ตอนนี้คงจะต้องรอนายกฯ ตั้งคณะทำงานซึ่งประกอบด้วยหลายฝ่ายเพื่อให้เกิดความโปร่งใส เพราะประชาชนให้ความสนใจกับเรื่องนี้


"ปลอด"มุดถ้ำไฟเขียวเปิดหาสมบัติ

ต่อมาช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายปลอดประสพได้เดินทางไปสำรวจบริเวณปากถ้ำและภายในถ้ำลิเจีย โดยใช้เวลาเพียง 20 นาที จากนั้นจึงกลับขึ้นมา และให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า เขาได้ตัดสินใจลงนามในคำสั่งอนุมัติให้ดำเนินการเปิดปากถ้ำตามคำขอของ ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ หัวหน้าคณะสำรวจสมบัติถ้ำลิเจีย แล้ว

นายปลอดประสพกล่าวว่า การที่เขาเดินทางไปสำรวจการขุดหาสมบัติถ้ำลิเจีย ก็เพื่อให้กำลังใจ ร.ต.ท.เชาวริน ที่มีความตั้งใจที่จะสำรวจหาสมบัติ พร้อมกันนี้ เขาได้ลงนามในคำสั่งอนุมัติให้เปิดปากถ้ำแล้ว แต่ต้องให้อยู่ภายใต้การควบคุมของกรมป่าไม้ โดยป่าไม้จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งจะเริ่มดำเนินการได้เมื่อใด ขึ้นอยู่กับความพร้อมของอุปกรณ์ แต่ทั้งนี้ห้ามให้ใช้วิธีระเบิดปากถ้ำเด็ดขาด เพราะอันตราย และผิดหลักการสำรวจ

นายปลอดประสพกล่าวว่า การเปิดปากถ้ำนี้ กรมป่าไม้จะดำเนินการไปเรื่อยๆ หากถ้ำนั้นไม่ได้ถูกปิดโดยธรรมชาติ แต่หากขุดไปแล้วพบว่า หินที่ปิดปากถ้ำเป็นหินที่ปิดเองตามธรรมชาติ หรือเป็นหน้าผา ก็จะหยุดดำเนินการทันที และจะต้องนำหินที่ขุดออกไปก่อนหน้านี้กลับมากลบไว้ที่เดิม คาดว่าจะใช้งบประมาณดำเนินการครั้งนี้ประมาณ 5 แสนบาท แต่หากเกินก็สามารถของบประมาณเพิ่มเติมได้

"จะถ่ายสำเนาคำสั่งนี้ ให้กับ ร.ต.ท.เชาวริน ด้วย ซึ่งคิดว่าหากขุดไปแล้ว ไม่เจออะไร อย่างน้อยก็มีสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่" อธิบดีกรมป่าไม้กล่าว

นายประสาน เขียนนิลศิริ ป่าไม้จังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า การเปิดปากถ้ำคงต้องจ้างรถบรรทุก และเครื่องจักร รวมทั้งแรงงานในพื้นที่ โดยจะให้เอกชน หรือผู้ที่เสนอราคาต่ำที่สุดเป็นผู้ดำเนินการ เพื่อความประหยัด แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าจะเป็นผลสำเร็จเมื่อไร


(http://travel.sanook.com/story_picture/b/01268_139.jpg)

นักวิชาการขัดคอระวังทำลายประวัติศาสตร์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีอดีตอาจารย์ประจำคณะโบราณคดี ม.ศิลปากร คนหนึ่งที่ในวันนี้ได้เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์บริเวณปากถ้ำ กล่าวถึงฟอสซิลที่คณะของร.ต.ท.เชาวรินนำออกมาจากถ้ำว่า ฟอสซิลทั้งหมดจากการดูด้วยสายตา พบว่าบางส่วนมีเศษกระดูกติดอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งไม่มั่นใจว่าจะเป็นกระดูกของมนุษย์หรือสัตว์ และบางส่วนเป็นหินอาจจะเป็นไปได้ที่จะเป็นเครื่องมือหินกะเทาะในยุคโลหะเหมือนกับที่เคยพบในถ้ำหินปูนโงบะ อ.สังขละบุรี

อดีตอาจารย์โบราณคดีคนนี้ยังสันนิษฐานอีกว่า น่าจะเป็นไปได้ว่าหินเหล่านี้จะเป็นคนละรุ่นกับสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง โดยภายในถ้ำดังกล่าวอาจมีกลุ่มคนโบราณเข้ามาอาศัยอยู่ และการเคลื่อนย้ายฟอสซิลออกมาโดยไม่มีการบันทึกสถานที่ที่หยิบออกมา จะทำให้เกิดความเสียหายและยากในการสืบค้น


นายกฯขอใช้ดาวเทียมพรรคพวกพิสูจน์  

ด้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการสำรวจหาขุมทรัพย์ที่ถ้ำลิเจีย จ.กาญจนบุรี ว่า ขณะนี้ได้ประสานขอใช้ดาวเทียมที่เรียกว่า "รีโมท เซนท์ซิ่ง" เพื่อทำการสำรวจ ซึ่งระบบดาวเทียมดังกล่าวเป็นดาวเทียมที่ใช้สำรวจแหล่งน้ำมัน แหล่งแร่ใต้พื้นดิน เป็นดาวเทียมคนละประเภทกับดาวเทียมสื่อสารทั่วไป โดยสามารถถ่ายภาพลงลึกไปใต้ดินประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งจะทำให้พอมองเห็นว่าบริเวณดังกล่าวมีอะไรอยู่บ้าง หากพิจารณาว่าเหมาะสมก็จะขุดขึ้นมา

"ดาวเทียมที่นำมาใช้เป็นของพรรคพวก ซึ่งไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไร และดาวเทียมจะหมุนรอบผ่านมายังประเทศไทย 15 วันต่อครั้ง ขณะนี้ผมและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้จัดทำพิกัดที่ชัดเจน เพื่อส่งไปยังนครซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐ ในวันจันทร์ที่ 17 เม.ย.นี้ เพื่อทำซอฟต์แวร์ MAP" นายกรัฐมนตรีกล่าว

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาเขาเคยให้ดาวเทียมสำรวจแผนที่แหล่งลำธาร แหล่งน้ำ ก็เห็นได้ชัด และครั้งนี้ก็อาจทำให้เห็นว่าภายในถ้ำมีอะไรบ้าง หรือแม้จะไม่มีอะไรในนั้น ถ้าสามารถเชื่อมโยงกันได้หลายถ้ำ ก็อาจพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดีได้

(http://travel.sanook.com/story_picture/b/01268_182.jpg)

โพลล์เชื่อมีขุมทรัพย์จริง-ให้นำมากู้ชาติ

ขณะเดียวกันผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนของเอแบคโพลล์ระบุว่า ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่าข่าวการขุดพบมหาสมบัติภายในถ้ำลิเจีย จ.กาญจน บุรี เป็นความจริง พร้อมทั้งสนับสนุนให้นำมาแก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศ ขณะเดียวกันคัดค้านการอ้างสิทธิของต่างชาติเกี่ยวกับสมบัติดังกล่าว

จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในเขตกทม.จำนวน 1,237 ตัวอย่าง ในหัวข้อ "ประชาชนคิดอย่างไรต่อข่าวการขุดมหาสมบัติที่ถ้ำลิเจีย" พบว่า ร้อยละ 64.2 เชื่อว่าข่าวดังกล่าวเป็นความจริง และไม่เชื่อร้อยละ 35.8

ทั้งนี้กลุ่มตัวอย่างแสดงความเป็นห่วงการโจร กรรม หากขุดพบสมบัติดังกล่าวจริงถึง ร้อยละ 71.2 ดังนั้นร้อยละ 69.8 เรียกร้องให้มีการอารักขาสมบัติดังกล่าวอย่างเข้มงวด ขณะที่บอกว่าไม่จำเป็นมีเพียงร้อยละ 12 เท่านั้น

กลุ่มตัวอย่างยังระบุแนวทางการใช้ประโยชน์ จากสมบัติดังกล่าวหากมีการขุดพบจริงว่า ใช้ฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศร้อยละ 74.7 เก็บเป็นเงินคง คลังของประเทศร้อยละ 58.1 และใช้หนี้ต่างประเทศ ร้อยละ 52.4

กระนั้นเมื่อถามว่าเห็นด้วยหรือไม่ หากมีการนำสมบัติดังกล่าวมาแก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศ โดยร้อยละ 90.3 ขานรับแนวคิดดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 90.1 ยืนยันว่า ไม่ยินยอมให้ต่างชาติมาอ้างสิทธิในสมบัติดังกล่าว



 :slime_p: :slime_bigsmile: :slime_p:


หัวข้อ: Re: ถ้ำลิเจียขุมทรัพย์ญี่ปุ่นของร.ต.ท.เชาวริน(พปช.) กับเรื่องหลอกค-วายของแก๊งเหลี่ยม
เริ่มหัวข้อโดย: oho ที่ 22-04-2008, 20:27
ย้อนรอยขุดขุมทรัพย์ถ้ำลิเจีย....
จาก ผู้จัดการ 18 กันยายน 2546

 
              เรื่องของการขุดทองเริ่มต้นขึ้นในปี 2538 ซึ่งในช่วงนั้น ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ
ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ  
แต่ความคิดที่จะมาขุดขุมทรัพย์ใน อำเภอสังขละบุรี
จังหวัดกาญจนบุรีนั้น ไม่ได้มาจากความคิดของเขาเป็นหลัก แต่เริ่มจากมีคณะบุคคลอันประกอบด้วย
นายสงวน อ่อนสมบัติ นายสำลี อินทรชัย หลวงพ่ออภิสิทธิ์ ธัมมวโร และนายไพโรจน์ สถาวรวงศ์
เข้าถวายฎีกาเพื่อขออนุญาตทำการขุดค้นสมบัติตกค้างสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ซุกซ่อนอยู่
ในบริเวณเขาลิเจีย โดยอ้างว่ามีทองคำ อัญมณีมูลค่ารวมกันหลายหมื่นล้านบาท ซึ่งตัว ร.ต.ท. เชาวริน
ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2539


 
              เมื่อได้รับมอบหมายหน้าที่ดังกล่าว ความคิดของ ร.ต.ท.เชาวริน จากการให้สัมภาษณ์ในเวลานั้น
คือ ถ้าการค้นหาข้อเท็จจริงนี้เป็นเรื่องทางโบราณคดีก็น่าจะมีประโยชน์อย่างมาก แต่นั่นก็คือความคิดของเขา
ในขณะที่กระแสประชาชนยังคงไม่ปักใจเชื่อ ได้แต่รอลุ้นและฟังข่าวการขุดทองกันทั้งประเทศ
ในครั้งแรกสิ่งที่ประสบความสำเร็จ คือ ด้านโบราณคดี แต่ก็ไม่พบทองอย่างที่รอลุ้นกัน
       
       จนกระทั่งในช่วงปลายปี 2540 ประเทศไทยประสบวิกฤตทางเศรษฐกิจต้องกู้เงินจากไอเอ็มเอฟ
ประกอบกับ นายสงวน อ่อนสมบัติ ได้เข้าพบนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เพื่อขอให้ค้นหาสมบัติ
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 กันอีกครั้ง ซึ่งก็ปรากฏเป็นข่าวขึ้นมาในหน้าหนังสือพิมพ์ ร.ต.ท. เชาวริน จึงมีความคิด
รับใช้บ้านเมืองอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่ารัฐบาลไม่ให้ความสนใจกับความพยายามของอดีต รมช.ศึกษาฯ ผู้นี้

แม้แต่นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยเองก็ตามที ล่วงเลยรัฐบาลหลายต่อหลายชุด
จวบจนมาถึงรัฐบาลทักษิณ

 
              ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2544 ท่ามกลางอากาศร้อน 42 องศาเซลเซียส ข่าวฮือฮา
ก็ออกมาดับร้อนทันที เมื่อมีการประกาศพบพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ออกโดยธนาคารกลางพร้อมเอกสารประกอบ
 (เหมือนจริง) ยืนยันที่มาในปีพ.ศ.2477 มูลค่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย ร.ต.ท.เชาวริน นำมาแสดง
ให้ดูที่หน้าถ้ำลิเจีย

       
       แม้แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังให้ความสนใจข่าวการค้นพบครั้งนี้
ถึงกับควบรถไปยังถ้ำลิเจีย เมื่อวันที่ 13 เมษายน พอดิบพอดี พร้อมให้อำนวยความสะดวกในกิจกรรมนี้
       
       มิเพียงเท่านี้ นายกรัฐมนตรียังติดต่อไปยังสหรัฐเพื่อขอใช้ดาวเทียมที่เรียกว่า "รีโมท เซนท์ซิ่ง"
ที่เขาใช้สำรวจแหล่งน้ำมัน แหล่งแร่ใต้พื้นดิน มาฉายภาพลงลึกไปใต้ดินประมาณ 1 กิโลเมตร
เพื่อตรวจสอบอีกชั้นหนึ่ง
       
       แต่ไม่กี่วันต่อมา ก็ปรากฏข้อมูลว่า พันธบัตรที่พบเป็นของปลอม ไม่สามารถนำไปใช้ได้  
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีคำสั่งยุติการระเบิดถ้ำ โกโบรินกลายเป็นตัวตลก แต่เขาก็ยังไม่เลิกล้มความตั้งใจ
จึงขอเดินหน้าโครงการต่อ โดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่เจรจากับนายปลอดประสพ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้
ว่าเพื่อป้องกันการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ จึงห้ามใช้เครื่องจักรในการขุดถ้ำ แต่ให้เข้าไปสำรวจ
ด้วยการเจาะให้คนเข้าไปได้แล้วถ่ายรูปออกมา หากมีของจริงดังกล่าว จึงค่อยมาปรึกษาอีกครั้ง
ว่าจะทำอย่างไรต่อไป


 
              นับจากนั้นตลอดเวลา 2 ปีกว่า ร.ต.ท.เชาวริน และทีมงาน ดำเนินการเจาะถ้ำเรื่อยมา
กระทั่งเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2546
จากการปฏิรูประบบราชการ กรมป่าไม้ถูกโยนงานอุทยาน
ไปขึ้นกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธ์พืช สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
และ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ มีคำสั่งให้ยุติการขุดเจาะถ้ำลิเจีย สร้างความไม่พอใจให้แก่
ส.ว. คนดังแห่งเมืองราชบุรี เป็นอย่างมาก
       
       หลังจากทำเรื่องอุทธรณ์ให้ทบทวนคำสั่ง แต่ไม่เป็นผล เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (16 ก.ย.)
ร.ต.ท.เชาวริน จึงไปยื่นฟ้องอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ต่อศาลปกครอง เพื่อขอขุดสมบัติ “ถ้ำลิเจีย”
ต่อภาค 2 พร้อมทั้งออกหนังสือ “คนบ้าของแผ่นดิน” โดยเจ้าตัวให้เหตุผลว่า ต้องการให้ประชาชน
ทราบข้อมูลที่แท้จริงทั้งหมด
       
       เหตุการณ์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไร ขุดขุมทรัพย์ถ้ำลิเจีย ภาค 2 จะเกิดขึ้นหรือไม่
คำตอบคงต้องขึ้นอยู่กับคำพิพากษาของศาลปกครอง...  

       
       * * * * * * * * * * * * * * 



 :slime_bigsmile: :slime_p: :slime_bigsmile: :slime_p:


หัวข้อ: เชิญ ดาวโหลด Screen Saver ตอน ถ้ำลิเจีย
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหินฮะ๛ ที่ 22-04-2008, 20:50

สมัยนั้น อาแม๊ว ให้ศูนย์ SAT SANFRAN
 ตรวจหา ถ้ำลิเจีย
สนุก มั่กๆเร๊ยยฮะ ฮะ... เอิ๊กๆๆๆ  
 :slime_v: เชิญ ดาวโหลด    :slime_v:
 Screen Saver 
2001 
 :slime_fighto: ตอน ถ้ำลิเจีย ด๊ายที่นี่ฮะ  :slime_fighto:


http://www.stonekid.com/downloads/Screensaver.zip (http://www.stonekid.com/downloads/stonekid-Screensaver.zip)



(http://www.stonekid.com/downloads/lijia.jpg)



หัวข้อ: Re: ถ้ำลิเจียขุมทรัพย์ญี่ปุ่นของร.ต.ท.เชาวริน(พปช.) กับเรื่องหลอกค-วายของแก๊งเหล
เริ่มหัวข้อโดย: สมชายสายชม ที่ 22-04-2008, 21:16
ปี ๒๕๔๑ "โกโบรินทร์" หลอกนายกฯชวนว่า "พบขุมทองในถ้ำลิเจีย" !!!

ขอให้นายชวนไปพิสูจน์ดูด้วยกัน  แต่นายชวนไม่สนใจ (ไม่หลงเชื่อ ไม่ถูกหลอก)   :slime_bigsmile:

...


หัวข้อ: Re: ถ้ำลิเจียขุมทรัพย์ญี่ปุ่นของร.ต.ท.เชาวริน(พปช.) กับเรื่องหลอกค-วายของแก๊งเหล
เริ่มหัวข้อโดย: gunner Dear GTO ที่ 22-04-2008, 21:21
ฮ้า...อะไรนะ  ถ้ำลิเดีย  เหรอ :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ถ้ำลิเจียขุมทรัพย์ญี่ปุ่นของร.ต.ท.เชาวริน(พปช.) กับเรื่องหลอกค-วายของแก๊งเหลี่ยม
เริ่มหัวข้อโดย: Kittinunn ที่ 22-04-2008, 21:22
ฮ้า...อะไรนะ  ถ้ำลิเดีย  เหรอ :slime_bigsmile:
กะละเล่นมุขนี้  :slime_bigsmile: :slime_p: :slime_cool: :slime_smile2: :slime_whistle: :slime_v:


หัวข้อ: Re: ถ้ำลิเจียขุมทรัพย์ญี่ปุ่นของร.ต.ท.เชาวริน(พปช.) กับเรื่องหลอกค-วายของแก๊งเหลี่ยม
เริ่มหัวข้อโดย: northstar ที่ 23-04-2008, 02:02
ผมว่าจุดประสงค์จริงๆของพวกมันไม่ได้อยู่ที่สมบัติหรอกครับ... มันปล่อยข่าวก็เพื่อที่ให้ชาวบ้านตาดำๆที่หลงเชื่อและเกิดความโลภ... เมื่อเชื่อกันมากๆก็อาจจะมีการลักลอกเข้าไปขุด... เมื่อเข้าไปขุดกันมากเข้า... หรือไม่ก็รอให้มีใครคนหนึ่งเริ่มก่อน... จากนั้นก็อาจมีการสวมรอยเข้าไปทำลายอุทยานนั้น  หลังจากนั้นอุทยานแห่งชาติเขาแหลมก็จะเกิดความเสียหาย เมื่อเกิดความเสียหายมากๆ... อุทยานแห่งชาติเขาแหลมก็จะถูกเปลี่ยนแปลงให้เป็นที่ดินธรรมดาที่รัฐสามารถนำไปใช้ทำอะไรก็ได้ ถึงตอนนั้นใครหละครับที่จะมีปัญญา
ไปซื้อเขาแหลมได้.... ก็เห็นจะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะมีปัญญา...  ไอ้พวกเอี้ยนี้แผนสูงจริงๆ


หัวข้อ: Re: ถ้ำลิเจียขุมทรัพย์ญี่ปุ่นของร.ต.ท.เชาวริน(พปช.) กับเรื่องหลอกค-วายของแก๊งเหล
เริ่มหัวข้อโดย: popsies ที่ 23-04-2008, 05:18
ฮ้า...อะไรนะ  ถ้ำลิเดีย  เหรอ :slime_bigsmile:

น่าค้นหามากครับ  สมาชิกใหม่นะครับ   มาดีมาร้ายดูกันเองครับ


หัวข้อ: Re: ถ้ำลิเจียขุมทรัพย์ญี่ปุ่นของร.ต.ท.เชาวริน(พปช.) กับเรื่องหลอกค-วายของแก๊งเหล
เริ่มหัวข้อโดย: gunner Dear GTO ที่ 23-04-2008, 13:15
น่าค้นหามากครับ  สมาชิกใหม่นะครับ   มาดีมาร้ายดูกันเองครับ

หงึ...ไม่เข้าใจอ่ะครับ  มีอะไำรเข้าใจผิด  ก็อธิบายได้ครับ  :slime_doubt: :slime_sentimental:


หัวข้อ: Re: ถ้ำลิเจียขุมทรัพย์ญี่ปุ่นของร.ต.ท.เชาวริน(พปช.) กับเรื่องหลอกค-วายของแก๊งเหล
เริ่มหัวข้อโดย: An.mkII ที่ 23-04-2008, 14:11
อีกหนึ่งข่าว  ฮาเเตก ใน ประเทศสาระขัณฑ์  ที่ควรเซฟเอาไว้ให้ลูกให้หลานเราอ่าน... :slime_v:


หัวข้อ: Re: ถ้ำลิเจียขุมทรัพย์ญี่ปุ่นของร.ต.ท.เชาวริน(พปช.) กับเรื่องหลอกค-วายของแก๊งเหล
เริ่มหัวข้อโดย: login not found ที่ 23-04-2008, 15:51
ตอแห-ลตั้งแต่คนขุดยันคนสนับสนุน

เห็นว่าได้พัธบัตรใบละร้อยล้าน ฮาแทบตกเก้าอี้
เห็นว่าจะเอาดาวเทียมส่อง ฮากว่าเดิมอีก ไม่รู้แล้วโชว์โง่ไปทั่วโลก ไม่รู้จักอับจักอายจริงๆ


หัวข้อ: Re: ถ้ำลิเจียขุมทรัพย์ญี่ปุ่นของร.ต.ท.เชาวริน(พปช.) กับเรื่องหลอกค-วายของแก๊งเหล
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJia ที่ 23-04-2008, 16:46
จำได้ว่า เซีย ไทยรัฐ เขียนการ์ตูนล้อชวนทำนองว่า "แข่งเรือแข่งพาย แข่งได้ แข่งบุญวาสนา แข่งไม่ได้"


หัวข้อ: Re: ถ้ำลิเจียขุมทรัพย์ญี่ปุ่นของร.ต.ท.เชาวริน(พปช.) กับเรื่องหลอกค-วายของแก๊งเหลี่ยม
เริ่มหัวข้อโดย: ปรมาจารย์เจได ที่ 23-04-2008, 17:05
เห็นเชาวรินทร์ เคยบอกว่า ในภ้ำ น่าจะมีทองกี่เมตริกตันนะ จำไม่ได้
สุดท้ายเจอแต่แบ๊งค์กาโม่


หัวข้อ: Re: ถ้ำลิเจียขุมทรัพย์ญี่ปุ่นของร.ต.ท.เชาวริน(พปช.) กับเรื่องหลอกค-วายของแก๊งเหล
เริ่มหัวข้อโดย: popsies ที่ 23-04-2008, 18:19
หงึ...ไม่เข้าใจอ่ะครับ  มีอะไำรเข้าใจผิด  ก็อธิบายได้ครับ  :slime_doubt: :slime_sentimental:

หมายถึงถ้ำลิเดียครับ  น่าค้นหา 


หัวข้อ: Re: ถ้ำลิเจียขุมทรัพย์ญี่ปุ่นของร.ต.ท.เชาวริน(พปช.) กับเรื่องหลอกค-วายของแก๊งเหลี่ยม
เริ่มหัวข้อโดย: หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ ที่ 24-04-2008, 00:15
เห็นเชาวรินทร์ เคยบอกว่า ในภ้ำ น่าจะมีทองกี่เมตริกตันนะ จำไม่ได้
สุดท้ายเจอแต่แบ๊งค์กาโม่

เอาดาวเทียมจากเมกาส่องดูมั้ยเผื่อจะเจอ